2 คำสัญญา
ขณะที่เดินจับมือกันมนสิชาก็หันหน้าไปมองอลันเป็นระยะๆ ความรู้สึกของเธอตอนนี้คือไม่อยากจากชายหนุ่มคนนี้ไปเลยสักนิด แต่ความจำเป็นมันก็ทำให้เธอต้องเลือกทำตรงกันข้ามกับสิ่งที่ตนเองต้อง
เพราะก่อนหน้านี้สองสัปดาห์ยายของเธอมีอาการอืดแน่นท้อง น้าสายหยุดคนที่เธอจ้างให้มาช่วยดูแลจึงพายายไปที่คลินิกจากนั้นหมอก็ให้ยาลดกรด ยาช่วยย่อยและยาเคลือบกระเพาะมาทาน แต่ทานจนหมดอาการก็ยังไม่ดีขึ้น
หญิงสาวจึงบอกให้น้าสายหยุดพาไปที่โรงพยาบาลเอกชนและให้ตรวจร่างกายอย่างละเอียดซึ่งผลการตรวจก็พบว่าท่านมีอาการของโรคเส้นเลือดหัวใจตีบและต้องทำการฉีดสีเพื่อดูว่ามีเส้นเลือดเส้นไหนบ้างที่ตีบเพื่อจะทำการรักษา แต่ที่น่าหนักใจมากไปกว่าไม่ใช่อาการของโรค แต่เพราะคุณยายของเธอยังไม่ยอมไปรักษาตามนัดที่โรงพยาบาลเอกชน
แต่ท่านจะรอไปตรวจที่โรงพยาบาลของรัฐบาลซึ่งท่านสามารถรักษาได้ฟรีเพราะใช้สิทธิ์เบิกของข้าราชการบำนาญ แต่คิวที่โรงพยาบาลรัฐบาลนั้นค่อนข้างจะยาวเพราะต้องทำตามความเร่งด่วนซึ่งมีคนอีกมากที่อาการแย่กว่าคุณยายของเธอ
เรื่องนี้มนสิชาก็ร้อนใจเป็นอย่างมากหญิงสาวใช้เวลาตัดสินใจเพียง 1 ชั่วโมงก็ยื่นใบลาออกกับหัวหน้าเพราะถ้าเกิดอะไรขึ้นกับยายเธอคงจะเสียใจมากถ้าไม่รีบกลับไปดูแลท่านในขณะที่ทุกอย่างมันยังไม่แย่
“แกรนด์มาของมอลลี่อาการเป็นยังไงบ้าง” อลันถามขึ้นเมื่อเห็นว่าวันนี้แฟนสาวของเขานั้นเงียบผิดปกติ
“วันนี้มอลลี่คุยกับคุณยายท่านบอกว่าอาการปกติหลังจากหมอให้ยาขับปัสสาวะมาแล้วก็เหมือนว่าเท้าที่บวมอยู่จะหายไปอาการอืดท้องก็ไม่ค่อยมีแล้ว”
“ถ้าอาการของยายดีแล้วทำไมมอลลี่ยังจะต้องกลับด้วยล่ะผมไม่อยากให้มอลลี่กลับเลย”
“มอลลี่ต้องกลับสิคะอลัน ยายต้องฉีดสีดูว่ามีเส้นเลือดที่ไหนอุดตันหรือตีบลงบ้างเพื่อจะได้รักษาได้ทันเวลา”
“แต่การฉีดสีมันไม่อันตรายนะ”
“ไม่อันตรายแต่ที่หนักใจก็คือยายไม่ยอมไปโรงพยาบาลที่มอลลี่บอกไงละ” เธอไม่รู้ว่าจะอธิบายยังไงให้กับแฟนหนุ่มเข้าใจถึงสิทธิ์การรักษาของคุณยาย
“ถ้าคุณยายรักษาหายแล้วมอลลี่จะกลับมาทำงานที่นี่อีกไหม” เขาถามอย่างมีความหวัง
“เรื่องนั้นก็ไม่รู้เหมือนกัน” หญิงสาวให้คำตอบกับเขาไม่ได้ แม้อยากจะกลับมาแต่เธอก็ไม่อยากทิ้งให้ยายไว้กับคนอื่น
“ถ้าคุณต้องกลับไปอยู่เมืองไทยถาวรแล้วผมล่ะ คุณจะทิ้งผมเหรอ”
“มอลลี่ไม่ได้ทิ้งคุณนะคะ อลันเพียงแต่ช่วงนี้มอลลี่ต้องกลับไปดูแลยายส่วนเรื่องของอนาคตก็อาจจะกลับมาทำงานที่นี่อีกหรือเปล่าก็ยังไม่แน่เลยค่ะ”
“เรื่องนั้นเราค่อยคุยกันอีกทีดีไหม ผมเกิดที่นี่โตที่นี่ถ้าผมต้องไปอยู่เมืองไทยผมก็ไม่รู้จะทำงานอะไร” แม้จะรักหญิงสาวมากแต่อลันก็ยังไม่กล้าจะทิ้งทุกอย่างที่นี่เพื่อตามเธอไปอยู่ที่ประเทศไทย
“มอลลี่เข้าใจ”
“ผมรักคุณนะมอลลี่ ไม่อยากให้คุณจากไปเลย”
“มอลลี่ก็รักคุณอลัน มอลลี่สัญญาจะโทรหาคุณให้ได้บ่อยที่สุด” แม้เวลาจะต่างกันถึง 12 ชั่วโมงแต่มนสิชาคิดว่าเรื่องนี้ไม่ใช่ปัญหาเลย
“เป็นไปได้ไหมถ้ามอลลี่จะพาแกรนด์มาย้ายมาอยู่ด้วยกัน”
“มอลลี่จะพยายามคุยกับคุณยายอีกครั้งนะ” เธอก็อยากให้คุณยายย้ายมาอยู่ที่นี่ แต่พูดไปหลายครั้งท่านก็ไม่ยอม มนสิชาได้แต่หวังว่าการที่ยายป่วยในครั้งนี้ท่านจะยอมใจอ่อนย้ายมาอยู่ที่นี่กับเธอ เหตุผลหนึ่งที่มนสิชาอยากให้ยายย้ายมาอยู่ที่นี่ก็เพราะที่นี่เธอสามารถหาเงินได้มากกว่าที่เมืองไทย ถ้ากลับไปอยู่ที่บ้านหญิงสาวก็ยังไม่รู้เลยว่าตัวเองจะทำงานอะไรถึงจะได้เงินมากเท่าที่นี่
“อีกไม่กี่ชั่วโมงเราก็จะจากกันแล้วนะมอลลี่” อลันมองไปยังตึกข้างหน้าซึ่งเป็นอพาร์ทเม้นท์ของมนสิชา เขากับเธอคบกันมาเกือบจะสองปีแต่ทั้งสองก็ยังไม่เคยมีอะไรเกินเลยไปมากกว่าการจูบด้วยเหตุผลที่ว่าหญิงสาวยังไม่พร้อม
เรื่องนี้ทั้งสองเคยทะเลาะกันอย่างหนักถึงขั้นเลิกกันไปเกือบเดือนแต่อลันก็กลับมาง้อเธอและเมื่อได้ฟังเหตุผลของหญิงสาวเขาก็เข้าใจดี และรอคอยให้ถึงวันที่เหมาะสมซึ่งอลันไม่มีทางรู้เลยว่าวันนั้นมันจะมาถึงไหม ในเมื่ออีกไม่กี่ชั่วโมงมนสิชาก็จะต้องกลับไปเมืองไทยแล้ว
“ขึ้นไปดื่มกาแฟก่อนไหมคะ” หญิงสาวถามหลังจากที่เดินมาถึงหน้าอพาร์ทเม้นท์
“ได้สิ ผมอยากอยู่คุยกับมอลลี่จนถึงตอนเช้า แล้วเราจะได้ไปสนามบินพร้อมกัน” น้อยครั้งมากที่มนสิชาจะชวนเข้าขึ้นไปบนห้องแบบนี้ และเมื่อคิดว่าอีกนานกว่าจะได้เจอกันอีกอลันก็ไม่อยากปล่อยโอกาสนี้ให้หลุดลอยไป
“พรุ่งนี้ไม่ไปทำงานเหรอคะ”
“ไปสิครับ แต่ผมบอกหัวหน้าไว้แล้วว่าอาจจะเข้าสายหน่อย”
“ขอบคุณนะคะอลัน” ไม่มีคำพูดใดที่เธอจะพูดกับเขาในเวลานี้เพราะความรู้สึกมันอัดแน่นจนไม่รู้จะพูดอะไรออกมานอกจากขอบคุณที่เขาเข้าใจถึงความจำเป็นของเธอ
อพาร์ทเม้นท์ที่มนสิชาพักอยู่นั้นบริษัทจ่ายค่าเช่าให้ ของใช้จำเป็นเธอเก็บลงกระเป๋าแล้ว แต่มีบางอย่างที่เก็บใส่กล่องและขอฝากไว้ที่นี่ก่อนเพราะหญิงสาวยังไม่แน่ใจว่าตนเองจะอยู่ที่เมืองไทยตลอดหรือจะกลับมาที่นี่อีก ถ้าหากเป็นอย่างแรกเธอก็จะให้คนที่นี่ส่งของทั้งหมดตามไปอีกที
มนสิชาเดินนำชายหนุ่มเข้ามาในห้องที่เก็บกวาดไว้อย่างเรียบร้อย
“อลันคะ มอลลี่ขอโทษที่ชวนคุณมาดื่มกาแฟแต่ไม่มีกาแฟให้ดื่ม มอลลี่ลืมนึกไปว่าเก็บของลงกล่องหมดแล้ว”
“ไม่เป็นไร” เขาไม่ได้อยากขึ้นมาดื่มกาแฟตั้งแต่เรก เขาแค่อยากขึ้นมาทำอะไรบางอย่างเพื่อให้เธอกลับมาหาตนเองอีก