บทที่ 3
เย็นวันนั้นที่บ้านบนดอย.. บ้านหลังนี้พ่อเลี้ยงปุรเชษฐ์ซื้อไว้ให้กับลูกสาว นั่นก็คือแพทย์หญิงเปรมวดีภรรยาคุณหมอกฤษณะ ด้วยความที่สามียังทำงานอยู่โรงพยาบาล รวมถึงมีคลินิกเป็นของตัวเองด้วย ทั้งสองขึ้นมาอยู่บ้านบนดอยไม่ได้ พ่อเลี้ยงภูตะวันที่เป็นพี่ชายเลยรับหน้าที่ดูแลที่นี่ให้ (เรื่องราวของเปรมวดีและคุณหมอกฤษณะ อยู่ในเรื่องยั่วรักคุณหมอคีตะนะคะ ใครอยากรู้ตำนานขาหยั่งตามไปอ่านได้ที่ตอนของคุณหมอกฤษณะได้เลยค่ะ)
"พ่อเลี้ยงมาทำไมที่นี่ครับ" ถึงแม้ภูตะวันจะรับหน้าที่ดูแลบ้านหลังนี้ให้ แต่เขาก็ไม่ได้ขึ้นมาด้วยตัวเอง ปล่อยให้ลูกน้องคอยตรวจตราดูความเรียบร้อย
"อีกไม่นานเราอาจจะได้ใช้ที่นี่"
"อย่าบอกนะครับว่า.." ไม่มีใครรู้ใจพ่อเลี้ยงภูตะวันได้เท่ากับเวทมนต์อีกแล้ว
"ไม่ต้องให้ใครมาทำความสะอาดที่นี่แล้วนะ และคนดูแลที่นี่ก็ให้ลงจากดอยไปได้แล้ว"
"ครับ"
"มึงจะไม่ถามกูหน่อยเหรอว่าทำไม"
"ไม่หรอกครับผมเคยดูละครแนวนี้มาแล้ว"
"ไอ้เวทมึงอย่ามากวนตีนกูนะ"
"แล้วพ่อเลี้ยงไม่ถามเหรอครับว่าตอนจบละครที่ผมดูมันเป็นยังไง"
"นานเท่าไรแล้ววะ"
"อะไรคือนานเท่าไรแล้วครับ"
"นานเท่าไรแล้วมึงไม่ได้ถูกกูกระทืบ"
"อุ๊ย.. ไม่เล่นแล้วก็ได้ครับ เดี๋ยววันนี้ผมจะให้แม่บ้านกับคนดูแลที่นี่กลับลงไปแล้วกันครับ"
"และเรื่องนี้ก็อย่าให้รู้ถึงหูพ่อกูแล้วกัน" ตอนนี้พ่อเลี้ยงปุรเชษฐ์วางมือจากเรื่องพวกนี้หมดแล้ว ด้วยอายุที่มากขึ้นเลยอยากใช้ชีวิตบั้นปลายอยู่กับภรรยาซึ่งเป็นแม่ของภูตะวัน
"วางใจได้เลยครับพ่อเลี้ยง"
เช้าวันต่อมาที่บ่อน..
"ยังไม่ถึง 24 ชั่วโมงเลย"
"ถ้าถึง 24 ชั่วโมงนั่นคือลมหายใจของเสี่ยไม่มีแล้วนะครับ"
"มึงให้กูคุยกับพ่อก่อนได้ไหม" เรื่องที่เพชรกล้าอยากคุยกับพ่อก็คือเรื่องเงิน เพราะถ้าได้เงินก้อนนี้มาคืนให้พ่อเลี้ยงภูตะวันทุกอย่างก็คงจบ
"เจ้านายผมคงใจดีกับเสี่ยมากเกินไปแล้วมั้ง แต่ผมไม่ใจดีขนาดนั้นนะครับเสี่ย"
"ไอ้ขี้ข้า!"
ตุ๊บ!
"โอ๊ย มึง!"
"ถ้ายังปากไม่ดีอยู่อีกสาบานได้เลยว่าจะไม่ใช่ตีน แต่จะเป็นไอ้นี่" เวทมนต์ล้วงปืนออกมาจากเอวที่เหน็บไว้
"ก็ได้ แต่กูต้องใช้โทรศัพท์ พวกมึงเอาโทรศัพท์กูมาสิ"
"เอาโทรศัพท์ให้มัน ถ้ามันตุกติกยิงทิ้งได้เลย" เวทมนต์สั่งให้ลูกน้องที่ยึดโทรศัพท์ของเพชรกล้าไว้ส่งมาคืนเจ้าของ
"พวกมึงทำอะไรกับโทรศัพท์กู" มาเลื่อนดูโทรศัพท์ เบอร์โทรถูกลบออกเกือบหมดเหลือแค่เบอร์โทรจากต่างประเทศเท่านั้น และ Application ที่อยู่ในเครื่องนี้ก็ถูกลบออกไปจนหมดด้วย
"จะโทรหรือจะกินไอ้นี่" ปืนในมือถูกเหนี่ยวไกรอไว้พร้อมยิงได้ทุกเมื่อถ้าอีกฝ่ายไม่ทำตามคำสั่ง
ครั้งหนึ่งเพชรกล้าเคยมีปากเสียงกับน้องสาว ด้วยเรื่องที่ว่าพ่อรักน้องมากกว่า จนคนเป็นน้องสาวตัดสินใจไปเรียนต่อต่างประเทศ ปล่อยให้พี่ชายอยู่ให้พ่อรักให้พอใจ
>>{"ฮัลโหลพี่เพชร?"} นานเท่าไรแล้วไม่รู้ที่ไม่ได้คุยกับพี่ชาย ตอนไปถึงที่นั่นเธอคิดถึงบ้านมากและคิดถึงเรื่องที่เคยทะเลาะกับพี่ชาย เธอก็ได้โทรมาปรับความเข้าใจกับพี่ ถึงแม้พี่ชายจะไม่ค่อยพูดด้วยแต่เธอก็ดีใจที่พี่ยอมรับสายจากต่างประเทศ
{"จะกลับมาเมื่อไร"}
>>{"คิดถึงฉันแล้วใช่ไหมล่ะ"}
{"อืม"}
>>{"คงเป็นเดือนหน้า อยากอยู่เที่ยวที่นี่ก่อน"}
จังหวะนี้เวทมนต์ส่งสัญญาณบอกเพชรกล้าให้เร่งการเดินทางของน้องสาว
{"กลับมาเร็วกว่านั้นได้ไหม"}
>>{"ใครเป็นอะไรเหรอพี่"} เธอเริ่มใจไม่ดี แต่ตอนโทรหาพ่อพ่อก็ไม่เห็นว่าอะไรนี่ แถมกำลังเตรียมตัวหาเสียงอีก
{"ไม่ต้องบอกใครนะว่าพี่โทรมา แม้แต่พ่อก็ห้ามบอก"}
>>{"พ่อเป็นอะไร"}
{"พี่อยากให้เรามาดูเอง มาได้เร็วเท่าไรยิ่งดี ถ้ามาถึงแล้วให้โทรหาพี่เบอร์นี้ ห้ามโทรไปหาพ่อเด็ดขาด"}
เย็นวันนั้นที่บ้านบนดอย.. บ้านหลังนี้พ่อเลี้ยงปุรเชษฐ์ซื้อไว้ให้กับลูกสาว นั่นก็คือแพทย์หญิงเปรมวดีภรรยาคุณหมอกฤษณะ ด้วยความที่สามียังทำงานอยู่โรงพยาบาล รวมถึงมีคลินิกเป็นของตัวเองด้วย ทั้งสองขึ้นมาอยู่บ้านบนดอยไม่ได้ พ่อเลี้ยงภูตะวันที่เป็นพี่ชายเลยรับหน้าที่ดูแลที่นี่ให้ (เรื่องราวของเปรมวดีและคุณหมอกฤษณะ อยู่ในเรื่องยั่วรักคุณหมอคีตะนะคะ ใครอยากรู้ตำนานขาหยั่งตามไปอ่านได้ที่ตอนของคุณหมอกฤษณะได้เลยค่ะ)
"พ่อเลี้ยงมาทำไมที่นี่ครับ" ถึงแม้ภูตะวันจะรับหน้าที่ดูแลบ้านหลังนี้ให้ แต่เขาก็ไม่ได้ขึ้นมาด้วยตัวเอง ปล่อยให้ลูกน้องคอยตรวจตราดูความเรียบร้อย
"อีกไม่นานเราอาจจะได้ใช้ที่นี่"
"อย่าบอกนะครับว่า.." ไม่มีใครรู้ใจพ่อเลี้ยงภูตะวันได้เท่ากับเวทมนต์อีกแล้ว
"ไม่ต้องให้ใครมาทำความสะอาดที่นี่แล้วนะ และคนดูแลที่นี่ก็ให้ลงจากดอยไปได้แล้ว"
"ครับ"
"มึงจะไม่ถามกูหน่อยเหรอว่าทำไม"
"ไม่หรอกครับผมเคยดูละครแนวนี้มาแล้ว"
"ไอ้เวทมึงอย่ามากวนตีนกูนะ"
"แล้วพ่อเลี้ยงไม่ถามเหรอครับว่าตอนจบละครที่ผมดูมันเป็นยังไง"
"นานเท่าไรแล้ววะ"
"อะไรคือนานเท่าไรแล้วครับ"
"นานเท่าไรแล้วมึงไม่ได้ถูกกูกระทืบ"
"อุ๊ย.. ไม่เล่นแล้วก็ได้ครับ เดี๋ยววันนี้ผมจะให้แม่บ้านกับคนดูแลที่นี่กลับลงไปแล้วกันครับ"
"และเรื่องนี้ก็อย่าให้รู้ถึงหูพ่อกูแล้วกัน" ตอนนี้พ่อเลี้ยงปุรเชษฐ์วางมือจากเรื่องพวกนี้หมดแล้ว ด้วยอายุที่มากขึ้นเลยอยากใช้ชีวิตบั้นปลายอยู่กับภรรยาซึ่งเป็นแม่ของภูตะวัน
"วางใจได้เลยครับพ่อเลี้ยง"
เช้าวันต่อมาที่บ่อน..
"ยังไม่ถึง 24 ชั่วโมงเลย"
"ถ้าถึง 24 ชั่วโมงนั่นคือลมหายใจของเสี่ยไม่มีแล้วนะครับ"
"มึงให้กูคุยกับพ่อก่อนได้ไหม" เรื่องที่เพชรกล้าอยากคุยกับพ่อก็คือเรื่องเงิน เพราะถ้าได้เงินก้อนนี้มาคืนให้พ่อเลี้ยงภูตะวันทุกอย่างก็คงจบ
"เจ้านายผมคงใจดีกับเสี่ยมากเกินไปแล้วมั้ง แต่ผมไม่ใจดีขนาดนั้นนะครับเสี่ย"
"ไอ้ขี้ข้า!"
ตุ๊บ!
"โอ๊ย มึง!"
"ถ้ายังปากไม่ดีอยู่อีกสาบานได้เลยว่าจะไม่ใช่ตีน แต่จะเป็นไอ้นี่" เวทมนต์ล้วงปืนออกมาจากเอวที่เหน็บไว้
"ก็ได้ แต่กูต้องใช้โทรศัพท์ พวกมึงเอาโทรศัพท์กูมาสิ"
"เอาโทรศัพท์ให้มัน ถ้ามันตุกติกยิงทิ้งได้เลย" เวทมนต์สั่งให้ลูกน้องที่ยึดโทรศัพท์ของเพชรกล้าไว้ส่งมาคืนเจ้าของ
"พวกมึงทำอะไรกับโทรศัพท์กู" มาเลื่อนดูโทรศัพท์ เบอร์โทรถูกลบออกเกือบหมดเหลือแค่เบอร์โทรจากต่างประเทศเท่านั้น และ Application ที่อยู่ในเครื่องนี้ก็ถูกลบออกไปจนหมดด้วย
"จะโทรหรือจะกินไอ้นี่" ปืนในมือถูกเหนี่ยวไกรอไว้พร้อมยิงได้ทุกเมื่อถ้าอีกฝ่ายไม่ทำตามคำสั่ง
ครั้งหนึ่งเพชรกล้าเคยมีปากเสียงกับน้องสาว ด้วยเรื่องที่ว่าพ่อรักน้องมากกว่า จนคนเป็นน้องสาวตัดสินใจไปเรียนต่อต่างประเทศ ปล่อยให้พี่ชายอยู่ให้พ่อรักให้พอใจ
>>{"ฮัลโหลพี่เพชร?"} นานเท่าไรแล้วไม่รู้ที่ไม่ได้คุยกับพี่ชาย ตอนไปถึงที่นั่นเธอคิดถึงบ้านมากและคิดถึงเรื่องที่เคยทะเลาะกับพี่ชาย เธอก็ได้โทรมาปรับความเข้าใจกับพี่ ถึงแม้พี่ชายจะไม่ค่อยพูดด้วยแต่เธอก็ดีใจที่พี่ยอมรับสายจากต่างประเทศ
{"จะกลับมาเมื่อไร"}
>>{"คิดถึงฉันแล้วใช่ไหมล่ะ"}
{"อืม"}
>>{"คงเป็นเดือนหน้า อยากอยู่เที่ยวที่นี่ก่อน"}
จังหวะนี้เวทมนต์ส่งสัญญาณบอกเพชรกล้าให้เร่งการเดินทางของน้องสาว
{"กลับมาเร็วกว่านั้นได้ไหม"}
>>{"ใครเป็นอะไรเหรอพี่"} เธอเริ่มใจไม่ดี แต่ตอนโทรหาพ่อพ่อก็ไม่เห็นว่าอะไรนี่ แถมกำลังเตรียมตัวหาเสียงอีก
{"ไม่ต้องบอกใครนะว่าพี่โทรมา แม้แต่พ่อก็ห้ามบอก"}
>>{"พ่อเป็นอะไร"}
{"พี่อยากให้เรามาดูเอง มาได้เร็วเท่าไรยิ่งดี ถ้ามาถึงแล้วให้โทรหาพี่เบอร์นี้ ห้ามโทรไปหาพ่อเด็ดขาด"}