บทที่ 5 พ่อเลี้ยงอย่าดุหนู 1.1
ฉันเข้ามาในห้องอีกครั้งก็ไม่เห็นแม่นมแล้ว สองเท้าก้าวถอยหลังอย่างอัตโนมัติในตอนที่พ่อเลี้ยงยังไม่เห็นฉันควรจะหนีก่อนดีกว่า ถ้าแม่นมไม่อยู่ฉันควรจะออกไปก่อน
ในตอนที่กำลังจะหมุนตัวก็พลันได้ยินเสียงตะคอกเจือด้วยความข่มขู่ดังอยู่ด้านหลังทำเอาขนลุกชันอย่างห้ามไม่ได้
"หยุด!!!."
กึก!!
เสียงที่ดังกึกก้องทำฉันหูอื้อ ขาสั้น ๆ สั่นจนจะยืนไม่ไหวไม่น่าหาเรื่องทะเล่อทะล่าเข้ามาเลย ซวยแล้วไอ้อิงเอ๊ย!
"คะ..พ่อเลี้ยง อย่าปาอะไรมานะ ตอนนี้หนูยังเจ็บแผลที่หัวอยู่เลยค่ะ" ฉันพูดออกไปด้วยน้ำเสียงติดสั่น ตอนนี้ก็ยังยืนหันหลังอยู่ไม่กล้าหันไปมองหน้าพ่อเลี้ยง คงไม่วายทำหน้ายักษ์อยู่แน่ๆ
"หันมา"
"นะ..หนู"
"ฉันบอกให้หันมา! อยากโดนดีรึไง!!"
พรึบ!
ฉันหันหน้าไปทางพ่อเลี้ยงทันทีเพราะเกรงว่าจะโดนดี อย่างที่ขู่จริงๆ
"เดินเข้ามา" น้ำเสียงกรรโชกอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อ ทำฉันกลัวมากขึ้นไปอีก
"เอ่อ.."
"ฉันบอกให้เดินมายังไงวะ!!" เฮือกก! เหมือนเสียงยมบาลกำลังเรียกหาในนรก ฉันสะดุ้งสุดตัวร่างกายเหมือนไร้เรี่ยวแรง
"ค่ะ พะ..พ่อเลี้ยง อย่าเพิ่งดุหนู" ฉันเดินประคองแก้วน้ำส้มอย่างระมัดระวัง ขาสั่นพั่บ ๆ ไม่มองคนตรงหน้า ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเขามองฉันด้วยสายตาแบบไหน แค่เพียงปรายมองนิดเดียวก็เสียวสันหลังวูบแล้ว เหมือนกำลังจะก้าวเข้าสู่ขุมนรกอย่างไรอย่างนั้น
'ไอ้อิงไหนบอกสู้ไงวะ ทำไมตอนนี้เหมือนคนกำลังใกล้ตาย'
ฉันมาหยุดตรงหน้าพ่อเลี้ยงก้มหน้าลงต่ำ น้ำส้มในมือสั่นไหวเล็กน้อยเพราะอาการสั่นที่ห้ามไม่อยู่ จนนึกว่าตนเองเป็นโรคพาร์กินสัน
เป็นบ้าอะไรสั่นอยู่ได้ไม่รู้จะกลัวอะไรนักหนา ฉันคิดตบตีกับตัวเองในใจ
"เอามา"
"คะ..ค๊ะ"
"น้ำส้มน่ะ เอามาอย่าให้ต้องพูดซ้ำ!" พ่อเลี้ยงพูดกัดฟันเหมือนกำลังสะกดอารมณ์และยื่นมือมารับน้ำส้มแต่เพราะฉันไม่ทันระวังพร้อมกับอาการร้อนรนทำให้แก้วน้ำส้มไปชนกับมือพ่อเลี้ยง ทำให้น้ำส้มหกรดบนตัวพ่อเลี้ยงจนเปียกแฉะไปหมด
เวร...ตายแล้วไอ้อิง ตายแน่ ๆ งานนี้
"พะ...พ่อเลี้ยง หนูขอโทษ อื้อ..อย่าตีหนูนะ" ฉันนั่งลงยกมือกุมหัวอัตโนมัติด้วยความกลัว
"ซุ่มซ่าม!!" เสียงดังคำรามออกมาจากคนตัวโตไม่ต้องบอกก็รู้ว่าโมโหแค่ไหน
"หนู ขะ..ขอโทษ" ฉันยกมือไหว้พ่อเลี้ยง ก้มหน้าน้ำตาจะหล่นมิหล่นแหล่
"ไปหาผ้ามาสิ จะให้ฉันอยู่แบบนี้ให้มดขึ้นตัวรึไงวะ!!" พ่อเลี้ยงตะคอกด้วยน้ำเสียงโกรธขึ้งทำให้ฉันได้สติ
"ค่ะ ๆ" ฉันรีบลุกไปหาผ้ามาซับน้ำส้ม ดีนะไม่ได้โดนที่นอน มีแต่พ่อเลี้ยงนี่แหละ ที่รับน้ำส้มไปเต็ม ๆ แทนที่จะได้กินดันได้อาบไปแทนเสียนี่
ฉันกลับมาพร้อมกับผ้าขนหนู แต่ตอนนี้ต้องอ้าปากค้างกับพ่อเลี้ยงในสภาพเปลือยครึ่งท่อนเผยให้เห็นกล้ามท้องเป็นลอนแน่นปึกอย่างคนออกกำลังกายหนัก
อื้อ..กล้ามพ่อเลี้ยงแน่นมากซิกแพคแน่นเรียงเป็นลูกเลย โอ๊ย!! ไอ้อิง ตายแน่โตมาเพิ่งเคยเจอผู้ชายแก้ผ้า กล้ามแน่นเปรี๊ยะขนาดนี้
"จะมองอีกนานไหมตกลงจะรอให้มดมันมากัดฉันจริง ๆ ใช่ไหมห๊ะ" เสียงยมทูตปลุกความเพ้อฝันของฉันกลับเข้าสู่ความเป็นจริง สายตาที่เผลอมองกล้ามเนื้อเป็นลอนเรียงตัวสวยรีบเบี่ยงออกอย่างเก้อเขิน
"กะ..ก็พ่อเลี้ยงถอดเสื้อทะ..ทำไมคะ"
"ก็เธอเล่นทำน้ำหกใส่ฉันขนาดนี้ เธอว่าฉันจะยังใส่นอนได้อีกรึไงวะ!" เขาตะคอกด้วยน้ำเสียงเกรี้ยวกราดแค่นี้ก็ทำเอาฉันสั่นไปทั้งตัวนี่ถ้าพ่อเลี้ยงเดินได้เหมือนคนปกติฉันคงคิดว่าตัวเองคงไม่รอดออกไปจากห้องนี้แน่ ๆ
"แม่ง!! อยากอาบน้ำชะมัด" เขาสบถออกมาด้วยเสียงอันดัง ทำฉันเผลอสะดุ้งอย่างห้ามไม่ได้
"ให้ นะ..หนู ช่วยไหมคะ"
"เห๊อะ!! ตัวเท่านี้จะมาช่วยอะไรได้ ออกไปตามไอ้ไทมา"
"ให้หนูช่วยก็ได้นะคะ กว่าน้าไทจะมาน่าจะอีกนาน" ฉันรีบไปเอารถเข็นวิวแชร์ที่อยู่ข้างเตียงหันมาทางพ่อเลี้ยงพร้อมเข้าไปประคองแต่เหมือนว่าจะกระตือรือร้นมากไปหน่อย เลยไม่ได้สังเกตสีหน้าของพ่อเลี้ยงว่าตอนนี้มันน่ากลัวมากขนาดไหน
"นี่เธออยากดูแลฉันขนาดนี้เชียวเหรอ" เขาถามเสียงทุ้มแฝงด้วยอารมณ์สะกดกลั้น
"คะ..คือ ถ้าพ่อเลี้ยงอนุญาตหนูจะดูแลพ่อเลี้ยงให้ดีที่สุดค่ะ"
"หึ!! ถ้าอย่างนั้นก็อย่าร้องไห้ขี้มูกโป่งวิ่งออกไปก่อนแล้วกัน ฉันจะคอยดูว่าคนอย่างเธอมันจะอดทนได้แค่ไหน สันดานคงไม่ต่างจากพี่สาวเท่าไร" พอได้ฟังคำที่คนตรงหน้าพูดก็ทำเอาฉันจุกแต่ฉันสนใจสิ่งที่พ่อเลี้ยงพูดก่อนหน้านั้นมากกว่าเมื่อกี้
"คะ.." ถ้าฉันคิดไม่ผิด พ่อเลี้ยงอนุญาตให้ฉันเป็นคนดูแลแล้วใช่ไหม
"ไปเอารถเข็นมาเหนียวตัวจะตายห่า..แม่ง!! " เสียงทุ้มต่ำเขาแฝงไปด้วยความรำคาญ
"ค่ะ ๆ" ฉันรีบเดินไปจับรถเข็น Wheelchair ไฟฟ้าที่รู้ราคาแล้วต้องอึ้ง เข็นมาอีกฝั่งมารอรับพ่อเลี้ยงทันที
"จับให้แน่นถ้าฉันตกลงไปฉันเอาเธอตายแน่ อย่าคิดว่าฉันพิการแล้วจะทำอะไรเธอไม่ได้" จ้า...รู้ซึ้งแบบตะโกนเลยค่ะพ่อ ก็แผลที่หัวยังเจ็บอยู่เลยนี่คะ ฉันได้แต่คิดในใจ
"ค่ะ เชื่อใจหนูได้เลยค่ะ" สองแขนฉันจับยืดที่จับแน่นทั้งสองข้าง ขาตั้งมั่นปลายเท้าจิกพื้นก่อนจะส่งเสียง ฮึบ!! ออกมาหลายครั้ง
"เธอหยุดทำเสียงประหลาดสักทีได้ไหมห๊ะ? มันน่ารำคาญ!!" เสียงทุ้มติดดุทำเอาฉันหุบปากแทบไม่ทัน เกิดอาการสั่นออกมาอีกระลอกอย่างห้ามไม่ได้
"ขอโทษค่ะ" น้ำเสียงติดสั่นเอ่ยกับคนตัวโต อาการหวาดกลัวกลับมาอีกครั้ง เมื่อกี้ฉันเผลอทำตัวน่ารำคาญจริง ๆ นั่นแหละ ก็แค่อยากจะให้กำลังใจเอง แต่ลืมไปว่าคนตรงหน้าไม่ใช่เด็ก ๆ
ตอนนี้พ่อเลี้ยงลงมานั่งที่รถเข็นเรียบร้อยแล้ว ฉันแทบจะไม่ได้ช่วยอะไรเลยเพราะพ่อเลี้ยงแข็งแรงมาก ๆ ใช้เพียงสองแขนพยุงร่างกายที่ใหญ่โตของตัวเองมานั่งบนรถได้อย่างสบาย ๆ ฉันไม่ได้ยินเสียงหอบเลยด้วยซ้ำ ถ้าฉันพยุงพ่อเลี้ยงมีหวังพากันกลิ้งอยู่บนพื้นแน่ ๆ จะเอาอะไรกับคนที่สูงแค่ 162 หนัก 49 อย่างฉัน ดีไม่ดีฉันล้มก่อนพ่อเลี้ยงอีก
ฉันตามพ่อเลี้ยงที่บังคับรถเข็นไฟฟ้าเข้ามาในห้องน้ำ สายตามองไปรอบ ๆ ในนี้ดูสะอาดและกว้างขวางมาก ๆ มีราวจับอยู่ข้าง ๆ ตลอดแนวผนังตรงกลางมีอ่างน้ำขนาดใหญ่ส่วนด้านข้างเป็นฝักบัวแบบเรนชาวเวอร์ ยังมีที่นั่งข้าง ๆ คงทำไว้สำหรับพ่อเลี้ยงนั่งอาบน้ำ
"จะมัวสำรวจอีกนานไหม นี่นึกว่ามาเที่ยวหรือไงห๊ะ"
"หนูแค่จะดู เอ่อ..หนูขอโทษค่ะ" ลืมไปเลยว่าตัวเองกำลังจะเข้ามาทำอะไร มัวแต่สำรวจเพลินไปหน่อย
พ่อเลี้ยงหมุนรถเข็นมาตรงข้างกับที่นั่งแล้วพ่อเลี้ยงยกตัวลงมานั่งตรงจุดที่นั่งอาบน้ำ ส่วนฉันเข็นรถไปวางอีกทาง ไม่ให้น้ำกระเด็นใส่
"รู้ใช่ไหมคนอาบน้ำต้องทำยังไง" พ่อเลี้ยงมองฉัน ที่กำลังกะพริบตาปริบๆ คิดตามที่พ่อเลี้ยงพูด
พลันสีหน้าก็ร้อนฉ่าเพราะคิดได้ว่าคนเราจะอาบน้ำก็ต้องเปลื้องผ้า เปลือยกายล่อนจ้อน
ฉันไม่รู้เลยว่าตอนนี้หน้าฉันมันแดงขนาดไหน แต่ก็เพราะตั้งใจแน่วแน่แล้ว ไม่อย่างนั้นคงไม่มายืนอยู่ตรงนี้ ฉันเดินมานั่งคุกเข่าตรงหน้าพ่อเลี้ยง มือบางขึ้นมาถอดกางเกงแพรพ่อเลี้ยงใส่ถอดออกอย่างยากลำบาก เพราะมันสั่นเกินจะควบคุม
และมันคงดูน่าสมเพชในสายตาพ่อเลี้ยง หลังจากเห็นท่าทางเงอะงะของฉันที่ถอดกางเกงไม่ได้สักที พ่อเลี้ยงก็เป็นคนจัดการถอดเองแล้วปากางเกงมาที่หัวฉันด้วยอารมณ์ขุ่นมัวเพราะความเชื่องช้าไม่ทันใจ ฉันหยิบกางเกงที่คลุมหัวออกมาวางข้าง ๆ ก่อนจะหันรีหันขวางเพราะไม่รู้จะต้องทำยังไงต่อ
"ถ้าคิดจะดูแลก็ตั้งใจทำถ้าทำไม่ได้ก็ออกไปรีบไปตามไอ้ไทมา ไม่ว่าตอนนี้มันกำลังจะทำห่าเหวอะไรอยู่ก็ตาม" พ่อเลี้ยงพูดออกมาด้วยน้ำเสียงไม่ค่อยพอใจนักเมื่อเห็นว่าฉันไม่ได้ดั่งใจ
“หนูทำได้ค่ะพ่อเลี้ยงยกก้นค่ะเดี๋ยวหนูถอดเอง” ฉันพูดออกไปโดยไม่อาย ไอ้ที่บอกว่าจะถอดให้เองตอนนี้ก็คือสิ่งเดียวที่เหลืออยู่ติดตัวพ่อเลี้ยงเพียงชิ้นเดียวนั่นเอง
“หึ! ดีนี่หน้าไม่อายดี”
เอ้า!! ว่ากันอีก..คนแก่นี่เอาใจยากจริงวุ้ย! ฉันคิดพลางดึงกางเกงในตัวเดียวที่ติดกายพ่อเลี้ยงรูดออกไม่สนใจความใหญ่โตตรงหน้า ถึงแม้มันจะยังหลับใหลอยู่ก็ตาม
ฉันเมินไม่สนใจไอ้ตัวดุ๊กดิ๊กที่อยู่ตรงหน้าคิดเสียว่าเจ้าหนอนน้อยของม้าที่เคยเห็นมาตั้งแต่ตอนที่เรียน ฉันลุกขึ้นเปิดฝักบัวที่อยู่ด้านบนทำการปรับระดับน้ำก่อนจะถามคนตัวโตที่นั่งอยู่
“พ่อเลี้ยงชอบน้ำอุ่น น้ำร้อนหรือน้ำเย็นคะ” ฉันถามพลางมองปุ่มเพื่อรอปรับตามที่คุณเขาบอก
“เธอคิดว่าไงล่ะ”
“ค่ะ” ฉันปรับระดับเป็นเย็นสุดก่อนจะนำมาจ่อที่ไหล่หนา วาดฝักบัวไปมาให้น้ำสาดไปทั่วร่างแกร่ง
ซ่าา!!!