บท
ตั้งค่า

บทที่ 4 อิงฟ้า 1.2

กลับมาตอนนี้ฉันนั่งปล่อยเวลามาถึงตอนเย็นแผลที่ขมับเริ่มปวดตุบ ๆ จนต้องรีบกินยาเพราะเกรงว่าจะเป็นหนัก ก่อนจะเดินออกไปสำรวจภายในบ้าน สถานที่ที่ตัวเองต้องอยู่อาศัยนับจากนี้

อันที่จริงแม่เลี้ยงให้ฉันมาอยู่ห้องใกล้ ๆ พ่อเลี้ยงจะได้เรียกใช้งานได้สะดวก

ถ้าเกิดว่าพ่อเลี้ยงยอมอะนะ

ตอนนี้ไม่มีใครอยู่ในบ้านเพราะแม่เลี้ยงบอกว่าพ่อเลี้ยงไม่ต้องการให้ใครเข้ามาวุ่นวาย ส่วนคนรับใช้คนอื่นจะมาตามเวลาเท่านั้น จะมีก็แต่น้าไทที่อยู่รับใช้พ่อเลี้ยงอยู่บนห้องและเป็นคนเดียวที่อยู่กับพ่อเลี้ยงตลอดเวลา

เคล้งง!

"ไอ้ไท ไอ้ไท!"

เสียงน่ากลัวหลอนประสาทที่ดังออกมาในห้องนอน มันเป็นเสียงของพ่อเลี้ยงที่เรียกหาน้าไทฉันรีบเดินไปยังห้องของพ่อเลี้ยงไม่สนใจว่าจะเกิดอะไรหากพ่อเลี้ยงเห็นหน้าฉันอีกครั้ง

ก๊อก ๆ

"พ่อเลี้ยง หนูชื่ออิงฟ้านะคะ ที่พ่อเลี้ยงทำหนูหัวแตกแม่เลี้ยงบอกว่าน้าไทต้องรีบเข้าไปในไร่เห็นว่ามีปัญหาตอนนี้ยังไม่กลับมาเลย พ่อเลี้ยงต้องการอะไรคะ ให้หนูเข้าไปได้ไหม"

ฉันตะโกนถามอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ อยู่หลังประตูใบหน้าแนบชิดคอยฟังคนที่อยู่ด้านในว่าจะพูดอะไร จะตอบกลับมาไหมแต่ความเงียบยังคงปกคลุมโดยรอบไม่มีเสียงตอบกลับมาจากเจ้าของห้อง นานนับสิบนาทีก็ยังไม่มีเสียงตอบรับใด ๆ

"ถ้าพ่อเลี้ยงต้องการอะไรบอกหนูนะคะหนูจะรออยู่ตรงนี้" ฉันตะโกนข้ามประตูอีกครั้ง หลังประตูยังคงเงียบสนิทเหมือนไม่มีสิ่งมีชีวิต ฉันทรุดตัวนั่งลงบนเก้าอี้ตรงหน้าประตูรอคำสั่งรับจากคนด้านใน

ตอนนี้เวลาผ่านไปนานนับชั่วโมงฉันก็ยังนั่งอยู่อย่างนั้น ตอนนี้ภายในบ้านเริ่มมีไฟติดขึ้นรายทางแสดงว่ามีเดินคนเข้ามา คงไม่พ้นคงเป็นป้าประนอมแม่นมของพ่อเลี้ยง

" ตายแล้วหนูอิงทำไมมานั่งอยู่ตรงนี้ละคะ" ป้านอมที่เห็นฉันนั่งหน้าประตูก็ถามขึ้นด้วยความแปลกใจ

"คือหนูได้ยินเสียงของตกด้านในแล้วได้ยินเสียงพ่อเลี้ยงเรียกน้าไทแต่หนูเห็นน้าไทออกไปที่ไร่ตั้งนานแล้วยังไม่กลับ ได้ยินว่าที่ไร่มีปัญหาก็เลยมาบอกพ่อเลี้ยงค่ะ เผื่อพ่อเลี้ยงต้องการอะไรแต่ว่าพ่อเลี้ยงเงียบมากเลยค่ะ หนูนั่งมาเป็นชั่วโมงแล้วก็ไม่ได้ยินเสียงอะไรเลยค่ะ พ่อเลี้ยงจะเป็นอะไรไหมคะ" ฉันถามด้วยความเป็นห่วงแต่ก็ไม่กล้าเข้าไปสุ่มสี่สุ่มห้าเพราะแผลที่หัวยังตอดตุบ ๆ อยู่เลย เกรงว่าเข้าไปแล้วพ่อเลี้ยงจะหาอะไรมาขว้างไล่ฉันออกมาอีก

"โถ..ไม่มีอะไรหรอกค่ะพ่อเลี้ยงแกคงนอนพักผ่อนตามปกตินั่นแหละแล้วนี่หนูอิงทานข้าวหรือยังคะ"

"ยังเลยค่ะ" มือบางลูบหน้าท้องแผ่วเบา พอป้านอมทักปุ๊ปก็เริ่มหิวขึ้นมาทันที

"ตายแล้ว..ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวป้าเอาอาหารไปให้พ่อเลี้ยงก่อนนะ แล้วจะพาหนูไปทานข้าว"

"ให้หนูเข้าไปด้วยได้ไหมคะ"

"ไม่กลัวพ่อเลี้ยงเหรอคะ" แม่นมถามฉันด้วยรอยยิ้มอบอุ่น

"กลัวสิคะแต่ว่าหนูอยากไปช่วย" ฉันตอบส่งรอยยิ้มแหย อันที่จริงกลัวมากเลยค่ะป้า

"ถ้าอย่างนั้นก็ถือถาดผลไม้ตามมานะคะอันนี้แม่เลี้ยงปอกเตรียมไว้ให้พ่อเลี้ยงเธอเป็นคนชอบทานมากเลยนะคะและยิ่งผลไม้ทุกชนิดที่อยู่ในสวนเราเนี่ย พ่อเลี้ยงก็เป็นคนจัดหามาปลูกเองทั้งนั้น ลองผิดลองถูกอยู่นานกว่าจะออกมาดีขนาดนี้ สายใจเอาถาดผลไม้มาให้หนูอิง" ฉันมองผลไม้ในจานที่แม่เลี้ยงปอก มันถูกจัดวางอย่างสวยงามดูน่าทานจนน้ำลายแตกฟอง ก่อนจะเงยหน้ามองพี่สายใจทำท่ายึกยักหน้าตาก็ดูจะไม่ค่อยสบายใจนัก

"จะดีเหรอป้าพ่อเลี้ยงจะไม่เขวี้ยงถาดใส่หนูอิงใช่ไหม" พี่สายใจพูดพร้อมกับทำสีหน้าหวาด ทำเอาฉันใจกลัวตามไปด้วย

"เออน่า...ลองดูก่อน" แม่นมบอกกับพี่สายใจพลางพยักหน้าให้ ส่งยิ้มเป็นกำลังใจ

"เอาล่ะพร้อมจะรับศึกอีกครั้งไหมคะ”

“พร้อมค่ะ”

“ หนูอิงต้องอดทนนะคะเพราะหนูเลือกที่จะทำมันแล้ว"

"ค่ะ หนูจะลองสู้ดูสักตั้งอย่างน้อยตอนนี้หน้าผากหนูก็ยังมีที่ว่าง พ่อเลี้ยงคงไม่ใจร้ายปามาโดนแผลเก่าหนูหรอกนะคะ" ฉันพูดด้วยน้ำเสียงสดใสให้ดูตลก หยอกเย้าคนแก่เพื่อไม่ให้แลดูเครียดเกินไป แต่มันคงจะเป็นตลกฝืดน่าดูเพราะทั้งแม่นมและพี่สายใจพากันทำหน้าหนักใจอย่างเห็นได้ชัดพาฉันใจห่อเหี่ยวหมดกำลังใจเลยทีเดียว

"อะ...เอาละนะพร้อมนะ! อิหญิง..สู้เค้านะลูก" อย่างน้อยแม่นมก็ยังมีอารมณ์ขันปลุกกำลังใจฉันอีกครั้ง

ฮึบ!!

"พร้อมค่ะ"

ก๊อกๆ

"พ่อเลี้ยง ป้าเอาอาหารมาส่งค่ะ ขออนุญาตเข้าไปนะคะ"

แอดด~~

ฟิ้วว~~~

"กรี๊ดดด"

"ว้ายยย!"

ทันทีที่แม่นมก้าวไปในห้องพ่อเลี้ยงฉันที่เดินก้าวตามไปห่าง ก็ได้ยินเสียงอะไรสักอย่างลอยหวือผ่านหน้าไป ฉันตกใจร้องเสียงหลงออกมาย่อตัวลงนั่งอัตโนมัติ พร้อมกับส่งเสียงร้องออกมาส่วนแม่นมที่ตกใจเสียงฉันก็เผลอร้องออกมาเหมือนกัน

"โถ่ พ่อเลี้ยงป้าตกใจหมด" แม่นมพอเห็นว่าเป็นอะไรก็ถอนหายใจออกมาอย่างแรง

หึ!!

ถ้าฉันไม่ได้หูฝาด เมื่อกี้ฉันได้ยินเสียงหัวเราะของคนที่ขว้างหมอนมาที่ฉันใช่ไหมนะ ฉันนั่งตัวสั่นกอดถาดผลไม้แน่นเพราะกลัวมันจะร่วง

ไม่ใช่อะไร มันเสียดายต่างหากถ้าร่วงหมด ก็มันน่ากินซะขนาดนั้น กลายเป็นว่าฉันนั่งกอดมันเหมือนของรักก็ไม่ปาน

"หนูอิง ลุกลูก...เดินมาเอาถาดผมไม้มาให้ป้า" เสียงแม่นมดึงสติให้ฉันเงยหน้ามองไปที่เตียง ตอนนี้พ่อเลี้ยงนั่งทานอาหารอยู่บนเตียงโดยที่แม่นมยืนดูแลอยู่ข้างๆ ไม่ได้มองมาที่ฉันด้วยซ้ำ

ฟู่วว!!

ฉันผ่อนลมหายใจออกมาอย่างโล่งอก อย่างน้อยฉันก็สามารถหลบหมอนใบนั้นได้ ฉันนี่ก็เก่งนะเนี่ยะ มาวันเดียวหูตาไวกว่าเดิมเยอะเลย สงสัยต้องไปหัดเพิ่มอีกหน่อย

"เดี๋ยวเอาถาดนี่ไปส่งให้พี่สายใจนะ" ฉันรับถาดเปล่ามาถือก่อนจะส่งถาดผลไม้ให้แม่นม สายตาระวังภัยมองไปที่พ่อเลี้ยงตลอดเวลา เผื่อว่าพ่อเลี้ยงจะอยากออกกำลังกายมืออีก สายตามองไปรอบๆ พ่อเลี้ยงแล้วก็ไม่มีอะไรที่สามารถยกมาปาได้ คงเพราะเมื่อกลางวันพ่อเลี้ยงเล่นปามันออกมาหมดแล้ว ก็คงมีแต่หมอนนี่แหละ ที่มันเกือบบินปะทะหน้าฉันเมื่อกี้ แต่ยังดีนะหลบทัน

แหม่! ทักทายกันเก่งจัง หึ! ฉันเผลอทำหน้ายู่ออกมาโดยไม่รู้ว่ามันอยู่ในสายตาพ่อเลี้ยงมาโดยตลอด

ฉันเดินเอาถาดไปส่งให้พี่สายใจที่ยืนแอบอยู่ตรงประตู มองมาที่ฉันด้วยรอยยิ้ม สายตาเป็นประกาย ฉันรู้นะว่าพี่สายใจแอบขำเพราะน้ำตาพี่สายมันไหลออกมาจากหางตา ขนาดเช็ดแล้วยังไม่หมด

"พี่สายใจแอบขำอิงเหรอคะ" ฉันกระซิบถามเบาๆ ด้วยรอยยิ้มเขินๆ

"คิกคิก พี่ขอขำนิดหนึ่งนะ เมื่อก่อนพี่ก็โดนอย่างนี้แหละ แถมหลบไม่เคยทันพอเห็นน้องอิงหลบทัน นี่พี่ช็อกเลยนะคะ แต่ก็อดขำไม่ได้ ท่าน้องอิงที่หลบเมื่อตะกี้สกิลขั้นเทพมากเลยค่ะ" พี่สายใจยังคงกระซิบตอบกลับพร้อมส่งเสียงหัวเราะเบาๆ อีกทั้งยังยกนิ้วโป้งให้อีก

"พี่สายใจอะ เมื่อกี้หนูกลัวมากเลยนะคะ ขายังสั่นอยู่เลยอันที่จริงฉี่ไม่ราดก็บุญแล้ว"

"เอาน่า เดี๋ยวก็ชิน น้องอิงเก่งมากเลยที่ทนได้ตั้งหนึ่งวัน ถ้าเป็นคนอื่นวิ่งแนบออกจากบ้านไม่ทันแล้ว" นี่คือเรื่องจริงเพราะฉันเห็นฤทธิ์เดชพ่อเลี้ยงกับตา

"ก็หนูบอกว่าจะดูแลพ่อเลี้ยง ก็ต้องทำให้ได้สิคะ เชื่อมือไอ้อิงคนนี้ได้เลยค่ะ" ฉันยิ้มอย่างหมายมั่นตามความตั้งใจยังคงเดิม

"พี่เอาใจช่วยค่ะ เอาล่ะเรายืนคุยกันนานแล้ว เดี๋ยวพี่ไปก่อนนะคะ อ่อ...พ่อเลี้ยงชอบน้ำส้มคั้นสดนะ ในตู้เย็นน่าจะยังมีอยู่พี่เพิ่งเอามาใส่ไว้ อย่าลืมเอาให้พ่อเลี้ยงทาน"

"โอเคค่ะ" ฉันตอบรับแล้ววิ่งลงไปเทน้ำส้มมาแก้วหนึ่ง หวังว่ามันจะไม่ถูกสาดกลับมานะ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel