บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 3

“(พรุ่งนี้กูจะลงไปหานะ)” เสียงของรินพูดขึ้นในวีดีโอคลอ

เพียงจ้องหน้าเพื่อนที่ไม่ได้เจอกันมาหลายเดือนด้วยความคิดถึง เขานอนคุยกับรินมาได้เกือบสามชั่วโมงแล้ว ส่วนมากก็จะคุยเรื่องธุรกิจและเรื่องของพิงกับรพ ซึ่งเพียงเองก็ไม่ได้บอกกับรินว่ารพได้ไปก่อเรื่องอะไรไว้ เพราะกลัวรินจะรีบบินกลับมาที่นี่จนไม่เป็นอันทำงาน

“เออ แล้วนี่มึงได้บอกป๊ารึยัง” เพียงถามด้วยความสงสัย

“(บอกแล้ว บอกก่อนมึงอีก)” รินแกล้งแบะปากแล้วลอยหน้าลอยตา จนเพียงเริ่มรู้สึกหมั่นไส้

“หน้าตาก็เป็นส้นตีนอยู่แล้ว ยังเสือกกวนตีนอีกนะมึง” เพียงแกล้งด่ารินกลับไปขำๆ

“(ส้นตีนพ่อง! ปากหมาไม่เปลี่ยนเลยนะมึง)” รินถลึงตาใส่เพียงดุดุ

“เรื่องของกูครับ” เพียงยักคิ้วใส่รินอย่างกวนๆ

“(สัสนี่ เออแล้วนี่ตารพกับตาพิงเป็นไงบ้างวะ กูถามไปตั้งแต่ตอนแรกก็อ้ำอึ้งอยู่นั่นแหละ แถมไม่ยอมให้ลูกมาคุยกับกูด้วย)” รินหน้าบึ้งนิดๆอย่างงอนๆ

“ก็ลูกทำการบ้านอยู่ มึงจะให้กูเรียกลูกมาคุยกับมึงทำไมละ” เพียงพูดแก้ตัวออกไป ถึงแม้ในใจจะไม่อยากโกหกก็ตาม เพราะถ้าให้รินเห็นใบหน้าของเด็กทั้งสอง รินจะต้องรู้แน่ว่ามีปัญหาเกิดขึ้น เพราะรอยแดงๆและรอยช้ำยังอยู่ตามใบหน้าของพิง ถึงแม้ว่ามันจะไม่ได้มากมายอะไรนัก แต่นี่คือรอยใหม่ มันอาจจะทำให้คนชอบสังเกตุอย่างรินรับรู้ได้

“(ก็กูคิดถึงไอสองแสบนี่หว่า)”

“พรุ่งนี้มึงก็มาเจอแล้วไม่ใช่รึไง อย่าเล่นใหญ่ไปหน่อยเลยหน่า” เพียงส่ายหน้าไปมาเล็กน้อย

“(ชิ! เออๆๆงั้นเดี๋ยวกูเข้าไปประชุมก่อน วันนี้กูต้องเรียกผู้ถือหุ้นมาคุยเรื่องผลกำไรของบริษัท อาจจะไม่ได้โทรไปหามึงตอนเย็นนะ)” รินพูดบอก เพราะเป็นเรื่องปกติที่รินจะโทรหาเขาอีกครั้งในตอนเย็น เพื่อที่จะขอคุยกับรพและพิง

“เออๆๆมึงไปทำงานเถอะ กูเองก็จะลงไปหาป๊าข้างล่างละ” เพียงพูดจบ ทางรินก็กดวางสายไป

เพียงถอนหายใจออกมานิดๆ การเป็นพ่อแม่ของคนๆนึงมันทำให้ความห้าวและความใจร้อนของเขามันหายไปเยอะมากพอสมควร แต่ก็ไม่ได้หายไปทั้งหมด เพียงแค่เขาไม่อยากแสดงด้านร้ายๆของตัวเองให้รพกับพิงได้รู้ เพราะกลัวลูกจะเอาไปเป็นแบบอย่าง

ก๊อกๆๆ

เสียงเคาะประตูดังขึ้นทำให้เพียงหันไปมองนิดๆ แล้วเจอเข้ากับรพกับพิงที่เดินเข้ามา โดยที่รพเป็นคนเปิดประตูให้พิงเดินเข้ามาก่อน

“ม๊าครับ พิงอยากทานขนม” พิงเดินเข้าไปอ้อนเพียงบนที่นอน ส่วนรพก็นั่งอยู่ที่ปลายเตียง ไม่ได้เข้ามากอดเพียงเหมือนพิง

“พิงก็ลงไปบอกให้ป๊าทำให้สิครับ พิงก็รู้ว่าม๊าทำกับข้าวแล้วก็ขนมไม่เป็นอ่ะ” เพียงลูบหัวเล็กด้วยความเอ็นดู

“น้องโดนป๊าไล่ให้ออกมาน่ะสิม๊า พอเข้าไปถึงนะ ป๊าก็เอาแต่บอกว่ายังไม่ว่างให้ออกไปก่อน เพราะป๊ากำลังประชุมอยู่ แถมป๊ายังตะคอกใส่พิงด้วยนะม๊า” รพพูดด้วยสีหน้าบึ้งๆเหมือนกำลังงอนผู้เป็นพ่ออยู่ เพียงที่ได้ยินแบบนั้นก็ขมวดคิ้วแล้วหันไปมองหน้าของรพกับพิงสลับกันไปมา

“ป๊ากล้าพูดแบบนั้นกับพวกเราเลยหรอ!?” เพียงถามด้วยความไม่พอใจ รพกับพิงพร้อมใจกันพยักหน้าทันที

“ตอนนี้ป๊าอยู่ข้างล่างใช่มั้ย”

“ใช่ครับ/ใช่ม๊า” พิงกับรพพูดออกมาพร้อมกัน

“งั้น..พวกเราลงไปข้างล่างกันสักหน่อยมั้ย..จะได้กินขนมอย่างที่เราอยากกินกัน..” เพียงเลิกคิ้วถามสองแสบที่กำลังมองมา

รพกับพิงหันหน้ามองกันยิ้มๆ แต่เป็นรอยยิ้มที่เจ้าเล่ห์เหมือนกับผู้เป็นแม่ไม่มีผิด

“ไปครับ/ไปๆ”

เพียงยกยิ้มมุมปากแล้วเดินนำเด็กทั้งสองคนลงไปข้างล่างทันที

เมื่อลงไปถึง เพียงก็เคาะประตูและเปิดเข้าไปโดยไม่รอให้คนในห้องอนุญาต ภาพที่เขาเห็นตรงหน้าก็คือภาพที่คิงกำลังนั่งเซ็นเอกสารบางอย่างอยู่ เมื่อคิงได้ยินเสียงเปิดประตูก็เงยหน้ามองด้วยความสงสัย

“หนู..พิง รพ มาหาป๊ามีอะไรรึเปล่า”

“ป๊าว่างอยู่รึเปล่าครับ?” เพียงถามคิงเสียงนิ่ง

“ป๊ายังมีงานที่ต้องเคลียร์อีกนิดหน่อยน่ะ นี่อย่าบอกนะ..ว่าเจ้าสองแสบวิ่งขึ้นไปฟ้องหนูเรื่องที่ป๊าไม่ยอมทำขนมให้กินอ่ะ ใช่มั้ย” คิงหันไปมองพิงกับรพอย่างดุดุ รพยืนมองคิงนิ่งๆโดยไม่ได้พูดอะไรออกไป ส่วนพิงก็เอาแต่อมยิ้มโดยไม่พูดอะไรออกไปเช่นกัน

“ลูกไม่ได้มาฟ้อง แต่แค่มาระบายเฉยๆว่าป๊าอ่ะขึ้นเสียงใส่แล้วก็ไล่ให้ลูกออกจากห้องไป” เพียงจ้องหน้าร่างสูงดุดุ

“ป๊าไม่ได้ขึ้นเสียงใส่เลยนะ”

“ป๊าขึ้นครับม๊า เสียงดังใส่พิงมากด้วย” รพพูดขึ้นพร้อมกับยกยิ้มมุมปากนิดๆโดยที่เพียงไม่เห็นเพราะยืนอยู่ตรงหน้า

คิงขมวดคิ้วมองเจ้าเด็กตัวแสบที่หาเรื่องให้เขา

“รพ..อย่าเป็นเด็กที่โกหกนะ”

“ป๊านั่นแหละหยุดดุลูกสักที ก็รู้ว่ายุ่งแต่พูดดีดีมันจะตายรึไงห๊ะ!? ปากอมอะไรอยู่ ถึงพูดดีดีไม่ได้น่ะ!” เพียงถลึงตาใส่คิงด้วยความโมโห

คิงรีบลุกขึ้นแล้วเดินเข้าไปหาเพียงอย่างรวดเร็วพร้อมกับจับมือเรียวเอาไว้

“ป๊าไม่ได้ตั้งใจ ตอนนั้นป๊ากำลังคุยเรื่องซีเรียสอยู่ ก็เลยเผลอพูดรุนแรงใส่ลูกนิดหน่อย แต่ไม่ได้ตะคอกอะไรนะ”

“ไม่นิดนะป๊า ป๊าเสียงดังสุดๆเลยแหละ” รพพูดแทรกขึ้น พร้อมกับอมยิ้มมองพ่อตัวเองที่พยายามแก้ตัวอยู่ คิงได้แต่มองหน้ารพด้วยความหมั่นเขี้ยว เพราะเจ้าเด็กแสบของเขากำลังจะหาเรื่องให้เขางานเข้ามากกว่าเดิม

“อย่ามองลูกแบบนั้นนะป๊า! นี่ขนาดต่อหน้ายังกล้ามองแบบนี้อีกหรอห๊ะ! อยากนอนนอกห้องมั้ย หื้ม!?” เพียงตีไปที่ไหล่แกร่งด้วยความโมโห

เพียะ!

รพกับพิงหันไปยิ้มให้กันนิดๆ

“ก็ลูก..”

“อย่ามาโทษลูกเลยนะ ทำผิดแล้วก็ต้องยอมรับสิ” เพียงมองคิงดุดุพร้อมกับชี้หน้าไม่ให้คิงพูดต่อ

“ที่มาเนี้ยก็ไม่ได้จะให้มาหยุดทำงานแล้วไปทำขนม แต่ที่เพียงมาก็เพราะเพียงต้องมาคุยกับป๊า ที่พูดกับลูกไม่ดี” เพียงกอดอกแล้วจ้องหน้าคิงนิ่งๆ

“อ่าวม๊า/ม๊าครับ!!” รพกับพิงมองแม่ตัวเองด้วยความตกใจ

เพียงหันไปมองเด็กทั้งสองคนนิดๆ

“พิงกับรพเองก็ผิดด้วยไม่ใช่รึไง ที่เข้าไปหาป๊าแล้วพูดเอาแต่ใจแบบนั้นน่ะห๊ะ แล้วที่ขึ้นไปหาม๊าข้างบนก็เพราะจะให้ม๊าลงมาบอกให้ป๊าทำขนมให้กินไม่ใช่หรอ แต่ป๊ายังทำงานไม่เสร็จ เพราะฉะนั้นก็จงอดทนรอไปซะ เข้าใจมั้ย?” เพียงเลิกคิ้วใส่เด็กทั้งสอง

พิงแบะปากตัวเองนิดๆ เพราะไม่ได้ดั่งใจ ส่วนรพเองก็โอบไหล่ของพิงเอาไว้เพราะรู้ว่าน้องอยากกินขนมมากแค่ไหน

“เดี๋ยวป๊าไปทำให้ก็ได้ งานไม่ได้สำคัญมากเท่าไหร่” คิงพูดเสียงอ่อน เพราะเห็นใบหน้าของลูกแล้วก็อดที่จะสงสารไม่ได้

พิงกับรพมองหน้ากันด้วยความดีใจเมื่อได้ยิน พิงรีบวิ่งเข้าไปกอดคิงทันที คิงเองก็กอดตอบพิงกลับไปเช่นกัน ส่วนรพนั้นก็ยืนกอดอกมองน้องชายเข้าไปอ้อนพ่อตัวเองยิ้มๆ

“ไม่เข้าไปกอดป๊าด้วยรึไง” เพียงแกล้งหันไปถามลูกชายคนโต รพส่ายหน้าเป็นพัลวัน

“ไม่เอาหรอก เดี๋ยวไม่เท่ห์” รพยักคิ้วใส่แม่ตัวเองอย่างกวนๆ เพียงแกล้งแบะปากนิดๆ

“จ้าาา พ่อคนเท่ห์คนคูล ตัวสูงกว่าตอไม้แค่เนี้ย ทำมาเป็นพูดนะ” เพียงหยิบแก้มขาวของลูกตัวเองด้วยความหมั่นเขี้ยว

ข้อแตกต่างระหว่างพิงกับรพที่ชัดเจนเลยนั่นก็คือส่วนสูงและนิสัยที่ไม่เหมือนกันเลยแม้แต่นิดเดียว รพจะสูงแค่ร้อยหกสิบห้า ส่วนพิงนั้นจะสูงร้องหกสิบสอง ซึ่งพิงจะตัวหนากว่ารพเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ทำให้พิงดูเหมือนเป็นพี่มากกว่า ส่วนนิสัยของทั้งคู่ก็จะมีจุดแตกต่างกันมากพอสมควร พิงจะเป็นเด็กที่นิ่งๆ เวลาใครแกล้งก็จะไม่ค่อยอยากตอบโต้สักเท่าไหร่ ถึงแม้ว่าพิงจะเรียนการต่อสู้มา แต่ด้วยความที่ผู้เป็นแม่ไม่อยากให้เขามีปัญหากับคนอื่น มันเลยทำให้เขายอมทุกคนที่เข้ามาแกล้งเขาโดยตลอด ส่วนรพนั้นไม่ใช่ รายนี้จะไม่ชอบอะไรที่มันไม่ถูกต้อง แล้วยิ่งถ้าคนที่โดนรังแกคือคนในครอบครัวด้วยแล้วละก็..รพจะดูน่ากลัวมากกว่าเดิม ถึงแม้ว่าตัวของรพจะไม่ได้สูงมาก แต่เรื่องพละกำลังของรพไม่ได้ด้อยไปกว่าใครเลย เพราะด้วยความที่รพฝึกฝนตัวเองอย่างหนักตั้งแต่เด็ก ทำให้กำลังของเขาเหมือนกับผู้ใหญ่ตัวโตๆ

“ม๊า!! อย่ามาว่ารพแบบนี้นะ รพก็ได้ส่วนสูงมาจากม๊านั่นแหละ” รพแกล้งแบะปากใส่แม่ตัวเองยิ้มๆ พลางลอยหน้าลอยตาแกล้งผู้เป็นแม่

“นี่! เดี๋ยวจะโดนนะเจ้าเด็กนี่นิ่!” เพียงถลึงตาและทำท่าจะทุบไปที่ไหล่ของรพ แต่ก็ไม่ได้ทุบลงมาเพราะกลัวลูกจะเจ็บ เลยได้แต่ค้างท่านั้นเอาไว้แบบนั้น

“หึหึหึ ไม่ว่าม๊าหน่ารพ ส่วนสูงของม๊าน่ารักจะตาย” คิงพูดยิ้มๆ เพียงหันไปมองคนรักตาขวางทันที

“ไม่ต้องเลยนะ อย่าคิดว่าไม่รู้ ว่าป๊านั่นแหละที่เป็นคนสอนลูกให้พูดแบบนี้อ่ะ” เพียงชี้หน้าคิงดุดุ

รพกับพิงหันมองหน้ากันยิ้มๆ พร้อมกับมองพ่อกับแม่ตัวเองที่กำลังง้องอนกันอยู่ด้วยความรู้สึกใจพองโต

“ป๊าเปล่าสักหน่อย” คิงเดินเข้าไปโอบเอวบางยิ้มๆ

“ลูกอยู่!” เพียงตีไปที่แขนของคิงนิดๆ

“ไม่เป็นไรม๊า เดี๋ยวพิงกับรพแกล้งปิดตาเอง ไปรพ ปิดตาเร็ว” พิงเขย่าแขนของรพเบาๆแล้วยกมือปิดตาให้กับพี่ชายตัวเอง

เพียงหน้าแดงกล่ำด้วยความเขิน ยิ่งเขาเห็นท่าทางและสายตาที่ล้อเลียนของลูกชายทั้งสอง มันก็ยิ่งทำให้เขารู้สึกเขินมากขึ้นกว่าเดิม

“ปล่อยเพียงก่อนป๊า เพียงจะคุยอะไรกับลูกสักหน่อย” เพียงพูดบอก เมื่อนึกอะไรขึ้นมาได้ คิงค่อยๆปล่อยเอวบางอย่างนึกเสียดาย

“มีอะไรหรอครับม๊า?” รพหันไปมองแม่ตัวเองด้วยความสงสัย

“พรุ่งนี้แม่ใหญ่จะมาหานะ” เพียงพูดบอกยิ้มๆ

“ห๊ะ!จริงหรอครับ”

“จริงหรอครับม๊า!!”

รพกับพิงยิ้มกว้างด้วยความดีใจเมื่อได้ยิน

“อย่าพึ่งดีใจไปนะเด็ก ลืมไปรึเปล่าว่าพวกเราก่อวีรกรรมอะไรเอาไว้ หื้มม?” เพียงกอดอกมองเด็กทั้งสองยิ้มๆ

พิงหน้าหม่นลงเล็กน้อย ส่วนรพก็ทำหน้านิ่งเป็นปกติ แต่เพียงเองก็รู้ว่าทั้งคู่กำลังรู้สึกกลัวและกังวลอยู่

“ถ้าแม่ใหญ่ถาม ก็ต้องตอบความจริงออกไปนะรู้มั้ย และห้ามโกหกแม่ใหญ่เด็ดขาด ถ้าไม่อยากให้แม่ใหญ่กับม๊าต้องโกรธเราสองคน” เพียงพูดบอก พร้อมกับชี้หน้าเด็กทั้งสองคนเพื่อให้จำในสิ่งที่เขาสอน

“ครับ/ครับม๊า”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel