บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 4

เช้าวันต่อมา

รพและพิงมายืนรอหน้าบ้านเพื่อดักเจอริน แม่ใหญ่ของพวกเขา

“แม่ใหญ่ใกล้จะมาถึงรึยังครับม๊า” รพหันไปถามเพียงด้วยความสงสัย

“ใกล้แล้ว” เพียงหันไปตอบรพยิ้มๆ เขาจับมือลูกทั้งสองไว้ทั้งซ้ายและขวา ส่วนคิงก็เข้าไปรอยู่ในบ้าน

ตอนแรกเขาก็จะให้เจ้าสองแสบรอในบ้านนั่นแหละ แต่เพราะเด็กน้อยทั้งคู่อยากจะออกมารอแม่ใหญ่ของพวกเขา เพียงก็เลยจำใจต้องพาเด็กทั้งสองออกมา และตัวเขาก็ออกมารอเป็นเพื่อนสองแสบด้วย

“นั่นรถแม่ใหญ่รึเปล่าครับม๊า” พิงชี้ไปยังด้านนอกที่มีรถคันนึงกำลังจะขับเข้ามาในนี้ เพียงที่เห็นแบบนั้นก็อมยิ้มออกมาทันที

“ใช่แล้ว นั่นคือรถแม่ใหญ่กับแด๊ดดี้แพร”

“อย่าทำเป็นตื่นเต้นไปหน่อยเลยหน่าพิง” รพทำหน้าขรึมแล้วพูดใส่น้องชายออกไป

“หื้มม” เพียงขมวดคิ้วแล้วหันไปมองใบหน้าของรพทันที เขาหยิกแก้มเจ้าลูกชายตัวแสบด้วยความหมั่นเขี้ยว เพราะคนที่บอกว่า อย่าตื่นเต้นไปหน่อยเลย คือคนที่ตื่นเช้ามากทั้งที่ปกติเป็นคนตื่นสาย แถมยังแต่งตัวดูดีกว่าทุกๆวันอีกด้วย เท่านั้นยังไม่พอ รพยังปลุกให้พิงรีบลงมาข้างล่างตั้งแต่แสงจากอาทิตย์ยังไม่สาดส่อง

“กล้าพูดนะเราอ่ะ ใครกันน้าาาา ที่แอบลงมารอแม่ใหญ่ตั้งแต่ไก่ยังไม่โห่น่ะ” เพียงแกล้งลอยหน้าลอยตาแซวลูกชายจอมขี้เก๊กของตัวเอง

“ม๊าอ่ะ!!” รพหน้าบึ้งทันทีเมื่อแม่สุดที่รักส่งสายตาล้อเลียนเขา

“หึหึหึ รีบวิ่งเข้าไปตามป๊าออกมาเร็ว แม่ใหญ่เลี้ยวรถเข้ามาในบ้านแล้ว” เพียงรีบบอกเด็กๆทั้งสอง

รพกับพิงรีบวิ่งเข้าไปในบ้านทันที เพียงได้แต่มองตามไปยิ้มๆและหันไปมองรถของเพื่อนสนิทที่กำลังเข้ามาจอดใกล้ๆที่เขายืนอยู่

เมื่อรถของรินจอดสนิท ประตูรถก็ถูกเปิดออก ก่อนที่จะมีคนมาเปิดให้รินเสียอีก

“ไอเพียงงงงง!!” รินรีบวิ่งเข้ามาหาเพียงพร้อมกับกอดรัดด้วยความคิดถึง

เพียงเองก็กอดรินกลับไปเช่นกัน พร้อมกับหันไปมองแพรที่เดินลงตามมายิ้มๆ เสื้อของแพรและรินจะเป็นแบบเดียวกันคือเสื้อสูทสีขาว พร้อมกับกางเกงสีขาวสะอาด

“ลูกล่ะ!” รินผละออกจากเพียงแล้วถามขึ้นทันที

“วิ่งไปตามพ่อมึงอยู่ข้างใน” เพียงพูดบอก

“ให้เพียงช่วยมั้ยครับคุณแพร” เพียงหันไปถามแพรที่ถือกระเป๋าของรินกับของตัวเองอยู่ แถมมืออีกข้างยังถือของฝากอีก

“ไม่เป็นไรค่ะ แค่นี้เอง” แพรยิ้มตอบกลับไปเช่นกัน เพียงจึงพยักหน้ารับรู้

“เร็วๆสิป๊า! แม่ใหญ่กับแด๊ดมาแล้วนะ”

“ป๊าอย่าเดินช้าสิครับ เดี๋ยวแม่ใหญ่รอพิงกับรพนาน”

เสียงเด็กทั้งสองดังเจื้อยแจ้ว จนทำให้ผู้ใหญ่ทั้งสามที่ยืนอยู่ข้างนอกอดที่จะอมยิ้มไม่ได้

“ตารพ ตาพิง! มาหาแม่ใหญ่เร็วววว” รินตะโกนเรียกลูกชายทั้งสอง เมื่อเห็นรพกับพิงกำลังหันไปพูดกับคิง

“แม่ใหญ่!/แม่ใหญ่ครับ!!” รพกับพิงรีบวิ่งเข้าไปกอดรินทันที

คิงส่ายหน้าไปมายิ้มๆ เมื่อส่วนสูงของทั้งสามดูท่าว่าจะใกล้เคียงกันเสียเหลือเกิน

“ไงเจ้าตัวแสบบ คิดถึงแม่ใหญ่กับแด๊ดมั้ย” รินหอมไปที่หัวของรพกับพิงด้วยความคิดถึง

“คิดถึงครับ!!” ทั้งสองตอบออกมาพร้อมกัน

“คิดถึงแด๊ดแล้วไม่เห็นมากอดแด๊ดเลย” แพรแกล้งพูดอย่างงอนๆ

รพกับพิงรีบผละออกจากริน แล้วรีบวิ่งเข้าไปกอดรินทันที

“คิดถึงแด๊ดครับบ”

“ใช่ๆ รพก็คิดถึงแด๊ดเหมือนกัน”

แพรกอดเด็กทั้งสองด้วยความรัก

“เดี๋ยวรพช่วยถือนะ” รพรีบหยิบของออกจากมือของแพรทันที พิงเองก็ช่วยด้วยเช่นกัน

“อยากช่วยแด๊ดถือเพราะจะเอาของฝากใช่มั้ย” แพรหรี่ตามองเด็กๆอย่างรู้ทัน

“อะไรอ่ะแด๊ด รพกับพิงเปล่าคิดแบบนั้นสักหน่อย แด๊ดมั่วแล้ว” รพแกล้งทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้

“ปะพิง เอาของเข้าไปเก็บกัน” รพหันไปบอกน้องชาย พิงพยักหน้าแล้วเดินไปพร้อมกับรพ ทิ้งให้แพรได้แต่ส่ายหน้าไปมาให้กับความแสบของเด็กทั้งสองคน

“พ่อคะ” รินหันไปกอดพ่อตัวเองเมื่อเห็น คิงเองก็กอดรินกลับไปเช่นกัน

“เหนื่อยรึเปล่า เข้าไปนั่งในบ้านก่อนดีกว่า” คิงพูดพร้อมกับเดินกอดรินเข้าไปข้างใน

เพียงกับแพรหันมองหน้ากันยิ้มๆแล้วเดินตามสองพ่อลูกเข้าไปด้วยเช่นกัน

เมื่อเช้ามาในบ้านแพรและเพียงก็เอากับข้าวที่รินกับแพรซื้อมา เอาไปไว้ในครัวเพื่อทำอาหาร โดยมีเพียงเป็นแค่ลูกมือคอยช่วยแพรเท่านั้น

“คุณเพียงเป็นยังไงบ้างคะ” แพรถามในขณะที่ดูต้มจืดในหม้อไปด้วย

“ก็โอเคนะครับ อาจจะมีทะเลาะกับป๊าบ้างแต่ก็ไม่ได้รุนแรงอะไรมากมาย” เพียงหันไปตอบแพรยิ้มๆ

“ดีแล้วค่ะ นี่แพรกับรินก็ยังกลัวๆกันอยู่ หึหึหึ นึกว่าคุณเพียงจะตีคุณคิงจนเละซะแล้ว” แพรพูดแซวยิ้มๆ

“โธ่คุณแพรครับ ผมก็ไม่ได้ขนาดนั้นสักหน่อย” เพียงพูดอย่างกระเง้ากระงอน

“แพรเชื่อก็ได้ค่ะ ว่าคุณเพียง..ไม่ได้เป็นขนาดนั้น” แพรเลิกคิ้วใส่เพียงยิ้มๆ

“ถ้าคุณแพรจะพูดแล้วมองหน้าผมแบบนี้ คุณแพรไม่ต้องเชื่อผมก็ได้นะครับ” เพียงถอนหายใจออกมาหนักๆ แต่ริมฝีปากก็ยังมีรอยยิ้มติดอยู่

“ล้อเล่นค่ะล้อเล่น ไม่งอนนะคะ” แพรยิ้มจนตาหยี เพียงเองก็ยิ้มตอบกลับไปเช่นกัน เพราะไม่ได้โกรธอะไรจริงจังมากมาย

..

..

เพียงกับแพรช่วยกันยกกับข้าวออกมาที่โต๊ะอาหาร ซึ่งมีคิง ริน และเด็กๆทั้งสองนั่งอยู่ก่อนแล้ว รพกับพิงเมื่อเห็นม๊ากับแด๊ดของเขาเดินเข้ามาก็รีบวิ่งเข้ามาช่วย

“ระวังนะเด็กๆ” เพียงพูดบอกด้วยความเป็นห่วง

รินเองก็รีบเข้าไปช่วยเพียงกับแพรเช่นกัน ทำให้อาหารมากมายได้ถูกวางไว้จนเต็มโต๊ะ โดยมีคิงนั่งตรงหัวโต๊ะตามเดิม และรินนั่งทางด้ารซ้าย แพรก็นั่งข้างรินอีกที ส่วนเพียงก็นั่งข้างคิงทางด้านขวา ตามด้วยรพและพิงนั่งตามๆกัน

“ฝีมือของแด๊ดคนเดียวแน่เลย” รพพูดขึ้นยิ้มๆ แพรเองก็ยิ้มให้รถกลับไปเช่นกัน

“อ่าวๆเจ้าเด็กนี่ ม๊าก็เข้าไปช่วยแด๊ดเหมือนกันนะ ทำไมไม่เห็นชมม๊าบ้างละ” เพียงถามเจ้าลูกชายตัวแสบ

“ก็ม๊าทำไม่เป็นอ่ะ ที่เข้าไปข้างในก็แค่ไปช่วยแด๊ดเฉยๆเหอะ” รพแบะปากใส่เพียงนิดๆ เพียงมองรพด้วยความหมั่นเขี้ยว ก่อนที่จะเอื้อมมือไปดึงแก้มเจ้าลูกชายตัวดีอย่างแรง

“นี่แหน่ะเจ้าตัวแสบ!”

รพทำแก้มป่องเมื่อเพียงเอามือออกไปจากแก้มของเขาแล้ว

“ไอเพียง ลูกกูเจ็บนะมึง!” รินถลึงตาใส่เพียงดุดุ

“แม่ใหญ่!” รพรีบวิ่งเข้าไปกอดรินอย่างอ้อนๆ รินเองก็กอดตอบกลับรพไปเช่นกัน

เพียงกรอกตามองบนนิดๆ เพราะเมื่อไหร่ที่รินมาที่นี่ รพจะอ้อนรินมากเป็นพิเศษ

“เชิญครับคุณแม่คุณลูกทั้งสอง เดี๋ยวม๊าคนนี้จะนั่งกินข้าวกับลูกอีกคนนึงแทน” เพียงยักคิ้วใส่รพกับรินยิ้มๆและหันไปอ้าแขนให้พิงเข้ามากอดตัวเอง รพเบิกตากว้างแล้วรีบผละออกห่างจากรินทันที พร้อมกับวิ่งเข้าไปกอดเพียงแน่น พิงกับเพียงหันไปยิ้มขำให้กับท่าทางที่เหมือนเด็กๆของรพนิดๆ

“ม๊าค่อยกอดพิงทีหลังนะ กอดรพก่อนน” รพพูดเสียงอู้อี้เพราะเอาหน้าซุกไปที่อกของเพียง ทั้งหมดมองท่าทางของรพอย่างนึกเอ็นดู ไม่เว้นแม้กระทั่งตัวของพิงเองก็เอ็นดูพี่ชายเช่นกัน

“ทานข้าวได้แล้วน่าทั้งสองคน เพราหลังจากกินข้าวเสร็จ แม่ใหญ่มีเรื่องจะคุยด้วย” รินพูดขึ้นยิ้มๆ เพียงผละออกจากรพแล้วเงยหน้ามองรินทันที รินเองก็มองเพียงกลับไปด้วยรอยยิ้มปกติ

รพเขย่าแขนของเพียงนิดๆ ทำให้เพียงต้องก้มลงมามองใบหน้าของลูกชาย และมันก็ทำให้เขารู้ได้ทันทีว่าสายตาที่รพกำลังมองมานั้นมันหมายความว่าอะไร ถ้าไม่ใช่ว่ากำลังจะถามเขาว่ารินได้รู้เรื่องที่เขาไปมีปัญหามาหรือเปล่า เพียงระบายยิ้มอ่อนๆส่งไปให้เพื่อไม่ให้รพกังวล

รพค่อยๆผละออกห่างจากเพียงแล้วมานั่งกินข้าวดีดี สายตาของเขาลอบมองไปที่รินตลอดเวลา ซึ่งรินก็มองตอบกลับไปยิ้มๆเช่นกัน ท่าทีของรินที่ดูเฉยๆทำให้รพยิ่งรู้สึกกลัวมากขึ้นไปใหญ่

“จะโดนอะไรมั้ยวะกู” รพคิดในใจอย่างเครียดๆ

..

..

หลังจากกินข้าวเสร็จ ริน แพร เพียง รพ พิงและคิงก็พากันมานั่งที่ห้องนั่งเล่น เพราะรินบอกว่ามีเรื่องจะถาม

“มึงมีอะไรรึเปล่าวะ” เพียงถามขึ้น พร้อมกับกุมมือพิงกับรพที่นั่งข้างๆทั้งซ้ายและขวา

“กูอ่ะไม่มีอะไรกับมึง แต่กูมีกับรพและพิง” รอยยิ้มของรินทำให้รพกับพิงสะดุ้งนิดๆ

“ให้แพรคุยให้มั้ย” แพรหันไปพูดกับรินเสียงเบา เพราะเริ่มเห็นความกลัวของเด็กทั้งสอง

“ไม่เป็นไรแพร รินอยากคุยกับลูกด้วยตัวเอง” รินหันไปมองแพรนิ่งๆเพื่อบอกเป็นนัยๆว่าไม่ให้ยุ่งกับเรื่องนี้

“แต่มึง..” เพียงทำท่าจะพูดอะไรบางอย่าง แต่เขาก็ต้องเจอเข้ากับสายตาของรินที่มองมาดุดุ นั่นทำให้เพียงจำใจต้องเงียบลง

“รพ พิง..มีอะไรจะบอกกับแม่มั้ย” รินหันไปมองเด็กทั้งสอง

รพกับพิงหันไปสบตากันนิดๆ พิงพยักหน้าเพื่อให้รพพูดความจริงออกไป เพราะการที่แม่ใหญ่ของพวกเขาพูดเกริ่นออกมาขนาดนี้ แสดงว่าจะต้องรู้เรื่องทั้งหมดแล้ว

“คือเมื่อวันก่อน ผม..ผมมีปัญหากับเพื่อนที่โรงเรียนนิดหน่อยครับ” รพก้มหน้าลงนิดๆ

“รพ..แม่ใหญ่เคยบอกกับรพว่ายังไง เวลาพูดให้มองหน้าใช่มั้ย ไม่ว่าคนคนนั้นจะเป็นใครก็ตาม เราห้ามก้มหน้าหรือหลบสายตาของเขาเด็ดขาด ความเข้มแข็งที่มีมันหายไปไหนหมด ทำไมพอแม่กลับมาครั้งนี้รพถึงได้ดูอ่อนแอลงแบบนี้!” รินพูดเสียงดุ แล้วจ้องหน้ารพไม่วางตา

เพียงได้แต่ลอบถอนหายใจออกมานิดๆ ถึงเขาจะไม่อยากให้รินดุรพมากแค่ไหน แต่เขาก็เข้าใจว่ารินต้องการให้รพเป็นคนที่เข้มแข็งเพราะอีกไม่นาน รพจะต้องเป็นคนดูแลทุกคนที่อยู่ในครอบครัวและต้องรับช่วงต่อจากคิงเป็นคนต่อไป ส่วนพิงเองก็ต้องเข้ามาช่วยงานของรพอีกที

รพค่อยๆเงยหน้าขึ้นมองรินอย่างช้าๆ

“รพตอบแม่มา ทำไมรพถึงมีเรื่อง และมีเรื่องกับใครเพราะอะไร แล้วพิง..เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้หรือเปล่า” รินจ้องหน้ารพเพื่อต้องการคำตอบ

พิงเอื้อมมือไปจับมือของรพเอาไว้เพื่อให้กำลังใจ รพสูดลมหายใจเข้าลึกๆแล้วเริ่มเล่าเรื่องราวทุกอย่างให้กับแม่ใหญ่ของเขาได้ฟัง

หลังจากที่รินฟังจบ ก็เกิดความเงียบขึ้นมาทันที

“อันที่จริง แม่รู้เรื่องนี้ตั้งนานแล้ว” รินพูดขึ้น เพียงมองรินด้วยด้วยความตกใจ เพราะเขาเองก็ยังไม่เคยบอกรินเรื่องนี้เลย

“มึงรู้ได้ไงวะ” เพียงถามขึ้น

“มึงคิดว่าที่ไทยกูไม่มีสายเลยหรอไง” รินเลิกคิ้วใส่เพียงนิดๆ

“มึงก็น่าจะบอกกูก่อน”

“บอกทำไม ในเมื่อมึงเองก็พร้อมที่จะปิดบังเรื่องของลูกไม่ให้กูรู้อยู่แล้วนี่” รินจ้องหน้าเพียงด้วยความโมโหนิดๆ

“กูก็ไม่ได้อยากปิด แต่ที่กูต้องปิดก็เพราะลูกมันกลัว หรือมึงจะให้กูพูดกับมึงออกไปตรงๆแล้วมึงก็พาลรีบกลับมาที่นี่เพื่อมาด่ารพกับพิงงั้นหรอ” เพียงเองก็เริ่มพูดด้วยความโมโหเช่นกัน

“แต่นี่ก็ลูกกูด้วยนะมึง มึงก็ควรบอกกับกูก่อนปะวะ”

“มึงเองก็รู้อยู่แล้วนี่ กูก็ไม่จำเป็นต้องพูดอะไรแล้วมั้ง” เพียงจ้องหน้ารินกลับไปอย่างไม่ยอม

“นี่มึงคิดว่ามันเหมือนกันหรอวะ ไอการที่มึงบอกกับกูเองกับคนอื่นมาบอกกูอ่ะ มึงคิดได้ไงวะ!” รินลุกขึ้นแล้วจ้องหน้าเพียงด้วยความโกรธ เพียงเองก็ลุกขึ้นแล้วจ้องหน้ารินกลับไปเช่นกัน

“ก็กูบอกกับมึงอยู่ว่าลูกไม่อยากให้มึงรู้เพราะเขากลัวมึง แล้วมึงจะให้กูทำยังไง กูเองก็ดูแลรพกับพิงได้ปะวะ แล้วมึงไม่ต้องมาด่ากูเลยนะ ทีตอนมึงสั่งให้คนตามลูก กูก็ยังไม่รู้เลย มึงก็ไม่เคยบอกกูเหมือนกัน”

ความแรงของทั้งคู่เริ่มมากขึ้นเรื่อยๆ รพกับพิงหน้าเครียดทันที เพราะพวกเขาไม่เคยเห็นรินกับเพียงทะเลาะกันหนักขนาดนี้มาก่อนในชีวิต คิงกับแพรเองก็ไม่เคยเห็นเช่นกัน

“แล้วกูต้องมารู้จากคนอื่นเนี้ยนะ มึงคิดหน่อยดิไอเพียงว่ากูจะรู้สึกยังไงอ่ะ”

“ก็แล้วทำไมมึงไม่คิดบ้างวะว่ากูจะรู้สึกยังไง!”

ทั้งสองต่างจ้องหน้ากันเขม็ง ไม่มีใครยอมอ่อนให้ใครเลยแม้แต่คนเดียว

“พอกันได้แล้วทั้งสองคน! จะทะเลาะกันต่อหน้าลูกให้มันได้อะไรขึ้นมา เก็บอารมณ์ที่กำลังร้อนแบบนี้ไปเดี๋ยวนี้เลยนะ!” คิงพูดเสียงเข้มแล้วลุกขึ้นมายืนตรงกลางระหว่างรินกับเพียง

“โตๆกันแล้วนะริน เพียง เคยบอกเคยสอนคนอื่นเขาเอาไว้ว่ายังไง ทำไมคนที่พูดกลับเป็นคนที่ลืมมันเสียเองละ จำคำที่เคยสอนลูกกันได้บ้างมั้ย ห๊ะ! ปล่อยให้อารมณ์ดกรธมันครอบงำกันอยู่แบบนี้ แล้วจะเอาอะไรไปสอนคนอื่น” คิงมองหน้ารินกับเพียงสลับไปมา รพเดินเข้าไปจับมือของคิงเอาไว้ เพราะตอนนี้เหมือนคิงกำลังจะใจร้อนตามแม่ๆของพวกเขาแล้ว

“ป๊าครับ..อย่าดุแม่ใหญ่กับม๊าเลยนะครับ เรื่องนี้รพผิดเองครับ ถ้ารพไม่เป็นคนก่อเรื่อง ทั้งแม่ใหญ่ทั้งม๊าก็คงไม่ทะเลาะกันแบบนี้ คนที่ผิดจริงๆในเรื่องนี้..คือรพเองครับ” รพจ้องหน้าคิงอย่างเครียดๆ พิงรีบวิ่งเข้ามาจับมือของรพเอาไว้

“เรื่องนี้พิงก็ผิดด้วยนะป๊า ถ้าพิงสู้คนไม่อ่อนแอ รพก็คงไม่เข้ามาช่วยพิง”

คิงพยายามที่จะสูดลมหายใจเข้าลึกๆเพื่อให้ความรู้สึกมันเย็นลง

“เห็นรึยัง ว่าลูกเป็นยังไง” คิงมองหน้ารินและเพียงสลับกันไปมา

รินกับเพียงหันไปจ้องหน้ากันนิดๆ สิ่งที่เด็กทั้งสองได้ทำลงไปนั้น มันทำให้ผู้ใหญ่แบบพวกเขาเริ่มรู้สึกตัว ว่าสิ่งที่ทำลงไปมันงี่เง่ามากแค่ไหน

“กูขอโทษ”

“กูขอโทษ”

ทั้งรินและเพียงต่างก็พูดออกมาพร้อมกันด้วยความรู้สึกจริงๆ พิงกับรพหันไปมองหน้ากันแล้วยิ้มด้วยความดีใจ

“กูขอโทษที่มีอะไรแล้วไม่บอก” เพียงพูดบอก

“กูเองก็ต้องขอโทษมึงเหมือนกัน ที่ทำอะไรโดยที่ไม่บอกมึงอ่ะ” รินพูดเสียงอ่อย

“ถ้างั้น..มึงกับกู..ไม่โกรธกันแล้วเนอะ” เพียงถามรินยิ้มๆ รินพยักหน้าแล้วเดินเข้าไปกอดเพียงแน่น

พิงกับรพมองหน้ากันแล้ววิ่งเข้าไปกอดรินกับเพียงด้วยเหมือนกัน คิงกับแพรค่อยๆระบายยิ้มออกมาพร้อมกันเมื่อเห็นภาพที่อบอุ่นตรงหน้า..

#ตอนนี้อาจจะไม่มีอะไรมากนะคะ^^

**เรื่องนี้ส่วนมากอาจจะเป็นเรื่องของรุ่นลูกแล้วก็ของคู่รองนะคะ ส่วนคู่หลักก็มีเหมือนกันค่ะ ไม่ทิ้งแน่นอน

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel