ตอนที่ 2
15ปีผ่านไป
“มึงจะไม่ยอมขอโทษพิงใช่มั้ย!”
“แล้วมึงจะทำไมกูอ่ะห๊ะ!”
“ได้!ไอเหี้ย!!”
ผัวะ! พลั่ก! ตุบ!
เสียงทะเลาะวิวาทของนักเรียนชายสองคนดังลั่นที่กลางสนาม มีเด็กนักเรียนจำนวนมากที่ยืนอยู่ทั้งคู่อยู่ห่างๆโดยไม่มีใครกล้าเข้าไปยุ่งเลยแม้แต่คนเดียว
“เหี้ยเอ้ยยยไอรพแม่งทะเลาะกับไอนิวอีกแล้ว!” เสียงของเดลพูดขึ้นเมื่อยืนดูเพื่อนสนิทต่อยกับคู่อริห้องข้างๆ
“ไม่เข้าไปห้ามหรอวะ” เดลหันถามพาสที่ยืนกอดอกมองทั้งคู่อยู่
“มึงว่ามึงห้ามไอเหี้ยรพได้หรอ ไอสัสนิวเล่นไปต่อยหน้าน้องชายไอรพขนาดนั้น มึงก็รู้ว่าไอรพมันทั้งหวงทั้งห่วงพิงขนาดไหน มดไม่ให้ไต่ไรไม่ให้ตอมเลยนะเว้ย ไม่มีทางที่จะเข้าไปห้ามไอรพได้แน่นอน ยิ่งไอนิวมันไม่ยอมขอโทษไอพิงอีก งานนี้กูบอกเลยว่าเชี้ยนิวเละแน่ๆ” พาสถอนหายใจออกมาดังเฮือก เมื่อนึกถึงอารมณ์ของเพื่อนสนิทที่กำลังฟิวขาด นิวชอบแกล้งพิงมาก แต่ครั้งนี้อาจจะแกล้งแรงไปหน่อย จนพิงเลือดออกที่จมูก พอรพรู้ว่านิวเป็นคนทำให้พิงเป็นแบบนี้ละก็ รพก็บุกเข้าไปที่ห้องของนิวแล้วลากคอนิวลงมาที่กลางสนามทันที โดยที่ไม่มีใครกล้าเข้าไปยุ่งกับเรื่องนี้เลยสักคน
“แล้วถ้าอาจารย์มาละมึง ไอรพมันจะไม่โดนหรอวะ” เดลขมวดคิ้วมองรพอย่างเป็นห่วง
“มึงคิดว่าอาจารย์กล้ากับไอรพหรอ มึงก็รู้ว่าพ่อมันเป็นใคร แล้วอีกอย่างนะเว้ย เรื่องนี้ไอรพมันไม่ผิด ก็ไอเหี้ยนิวเป็นคนก่อเรื่องเองนี่หว่า” พาสพูดอย่างฉุนๆ แล้วมองนิวที่โดนรพต่อยด้วยความสะใจ
ผัวะ! พลั่ก!
“กล้ามากนะมึงไอเหี้ยนิว! กูเคยเตือนมึงแล้วใช่มั้ยว่าอย่ามายุ่งกับไอรพน้องกู!!”
ผัวะ!
รพต่อยเข้าไปที่ใบหน้าของนิวอีกครั้ง จนนิวล้มลงที่พื้นอย่างหมดสภาพ รพยืนมองหน้านิวด้วยความเหนื่อยหอบ
“หยุดเดี๋ยวนี้นะนายรพ!!” เสียงอาจารย์ฝ่ายปกครองรีบวิ่งเข้ามาห้ามรพทันที
แต่พาสกับเดลก็รู้ได้ว่ามันไม่ทัน เพราะรพได้จัดการนิวจนเสร็จเรียบร้อยแล้ว
“ตายแล้ว! นายรพ นายทำอะไรนิวเนี้ย!” อาจารย์สาวยกมือปิดปากด้วยความตกใจ เมื่อเห็นใบหน้าของลูกศิษย์ที่เลือดออกจมูกกับปากนอนอยู่ที่พื้น
“จะให้ผมเข้าห้องปกครองหรือว่าจะยังไงดี จะได้อธิบายทีเดียว” รพยืนมองหน้าอาจารย์สาวนิ่งๆ แต่เต็มไปด้วยความโมโหไม่น้อย เพราะอารมณ์ยังค้างอยู่
เมื่ออาจารย์สาวเห็นท่าทางของรพแบบนั้นก็นิ่งเงียบไปทันที เธอไม่กล้ากับรพเท่าไหร่นัก เพราะรู้ดีว่าเด็กคนนี้ขึ้นชื่อเรื่องความดุและโหดมากแค่ไหน ยิ่งเธอรู้ว่ารพเป็นลูกของใคร มันก็ยิ่งทำให้เธอไม่อยากมีปากเสียงอะไรกับเด็กคนนี้
“ถะ..ถ้าอย่างนั้น อาจารย์ขอเชิญตัวนักเรียนไปที่ห้อง..” ยังไม่ทันที่เธอจะพูดจบ เด็กหนุ่มก็หันหลังเดินออกไปทันทีเพราะรู้ว่าต้องไปที่ไหน ซึ่งแน่นอนว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่รพต้องเดินเข้าห้องปกครองด้วยเรื่องแบบนี้ พาสกับเดลรีบเดินตามรพไปติดๆ
ห้องปกครอง
รพนั่งกอดอกอยู่ในห้องปกครองเพื่อรอให้พ่อกับแม่ของเขามาที่นี่ แต่รอได้ไม่นานเขาก็ได้ยินเสียงเหมือนคนกำลังวิ่งเข้ามาในห้อง
“ตารพ!!” เสียงของเพียงเรียกรพด้วยความตกใจ
“ม๊า!?” รพขมวดคิ้วนิดๆเมื่อเห็นเพียงวิ่งมาในห้องนี้คนเดียว
“ป๊าละม๊า” รพถามขึ้น
“ป๊ากำลังไปจอดรถ ม๊าเป็นห่วงรพก็เลยวิ่งเข้ามาก่อน” เพียงพูดขึ้น สายตาของเขาหันไปเห็นผู้อำนวยการกับอาจารย์ปกครองสามสี่คนที่นั่งกันอยู่
“สวัสดีครับ” เพียงยกมือไหว้นิดๆ
รพขมวดคิ้วแล้วมองผู้เป็นแม่ด้วยความไม่ชอบใจเท่าไหร่ เพราะเขาเองก็รู้ดีว่าอาจารย์และผอ.ที่นี่ไม่มีใครชอบแม่ของเขา เพราะแม่ของเขาเป็นผู้ชาย
“ไหว้ทำไมก็ไม่รู้..เสียมือ” รพพูดขึ้นลอยๆ
นั่นทำให้ทุกคนที่อยู่ที่นี่หรือแม้กระทั่งเพียงหันไปมองรพด้วยความตกใจ
“รพ ทำไมพูดแบบนั้นละ” เพียงพูดปรามลูกชายคนโตดุดุ รพถอนหายใจออกมานิดๆแต่ไม่ได้พูดอะไรออกไป
“พี่รพ!!” เสียงของพิงดังขึ้น รพและเพียงหันไปมองทันที
“ตายแล้วพิง!ทำไมหน้าพิงเป็นแบบนี้ล่ะ ใครทำ!!” เพียงรีบถลาเข้าไปหาพิงด้วยความตกใจ เมื่อเห็นเลือดติดอยู่ที่เสื้อของลูกชายคนเล็ก และจมูกที่มีรอยแดงติดอยู่
รพยิ่งเห็นรอยเลือดและรอยแดงที่จมูกของน้องชาย ก็เริ่มรู้สึกโมโหอีกครั้ง
“เอ่อ..คุณพ่อ..เอ้ย คุณแม่ของน้องรพใช่มั้ยคะ” อาจารย์สาวจีบปากจีบคอพูดคุยกับเพียง แต่สายตาของเธอมองเพียงตั้งแต่หัวจรดเท้า ซึ่งรพเองก็อ่านสายตาคู่นั้นของอาจารย์ตรงหน้าออก
“อยากตาบวมหรืออยากตาบอดดีละจารย์ ถึงได้กล้ามองแม่ผมแบบนี้อ่ะ” รพจ้องหน้าอาจารย์สาวนิ่งๆ แต่เต็มไปด้วยความดุดันอยู่ในแววตาคู่นั้น
“ตารพ” เพียงขมวดคิ้วมองรพนิ่งๆ พร้อมกับดึงแขนเพื่อให้รพใจเย็นลงมากกว่านี้ เขาหันไปมองทางอาจารย์สาวที่ทักเขาเมื่อสักครู่นี้นิ่งๆ
“ผมชื่อเพียงครับ”
“ฉันอรวัณค่ะ” เธอยิ้มกว้างพร้อมกับมองเพียงหัวจรดเท้า
“ชื่อเหมือนช้างเลยแฮะ” รพแกล้งพูดขึ้นลอยๆ พลางส่ายหน้าไปมานิดๆ
อาจารย์สาวหันไปมองหน้ารพอย่างไม่พอใจ แต่ยังไม่ทันที่จะพูดอะไร ประตูก็ถูกเปิดออกอีกครั้ง และการปรากฏตัวของคิง
“เกิดอะไรขึ้น” คิงถามขึ้น พลางเดินเข้าไปโอบไหล่ของพิงเอาไว้แล้วดูใบหน้าของลูกชายคนเล็กอย่างสำรวจ
“จะอะไรละป๊า ก็ไอเชี้ย..” รพชะงักไปทันที เมื่อเห็นแม่ตัวเองมองมาอย่างดุดุ
“ก็ไอนิวเพื่อนข้างห้อง มันมาแกล้งพิงอ่ะดิ แถมมันยังทำน้องเลือดออกอีก” รพหันไปฟ้องผู้เป็นพ่อทันที คิงขมวดคิ้วแล้วหันไปมองบรรดาอาจารย์ที่ยืนมองเหตุการณ์อยู่
“เป็นอาจารย์อยู่ในโรงเรียนแท้ๆ แต่กลับไม่มีใครคิดจะพูดหรืออธิบายอะไรหน่อยเลยงั้นหรอ” เสียงเข้มของคิงพูดขึ้น พร้อมกับจ้องไปที่ใบหน้าของแต่ละคน รวมไปถึงผู้อำนวยการในโรงเรียนนี้ด้วย ทั้งหมดหน้าซีดเผือกทันที เพราะคนตรงหน้าของพวกเขาตรงนี้ คือหุ้นส่วนของโรงเรียน
“ใครเป็นครูประจำชั้นของลูกผม” คิงถามต่อ
หญิงสาวที่ชื่ออรวัณค่อยๆเดินเข้าไปหาคิงอย่างช้าๆ
“ฉันเองค่ะ”
“จะจัดการเรื่องนี้ยังไงดีครับ” คิงถามเสียงเรียบนิ่ง
“คือ..”
พรึ่บ!
ประตูห้องครองถูกผลักออกมาอย่างแรง ด้วยฝีมือของพ่อและแม่ของนิว
“ใครทำลูกกู!!” ชายชราตะโกนถามด้วยความโมโห
“มึงใช่มั้ยไอเด็กเวร!” ชายคนเดิมทำท่าจะเดินเข้าไปหาเรื่องรพ แต่ยังไม่ทันที่จะเดินมาถึงตัวก็โดนเท้าของเพียงถีบไปที่หน้าท้องก่อน
พลั่ก!!
“คุยกันดีดีเถอะครับคุณพ่อ..” เพียงถลึงตามองอีกฝ่ายด้วยความโมโห แต่น้ำเสียงยังคงนิ่งเรียบเหมือนเดิม
“อึ่ก!” ชายชรากุมท้องตัวเองที่โดนถีบ
“ว๊าย!!” ภรรยาของชายตรงหน้าร้องกรี๊ดด้วยความตกใจ เมื่อเห็นสามีของเธอล้มลงไปที่พื้น
“ป่าเถื่อนที่สุด!” เธอหันไปต่อว่าเพียงด้วยความโกรธ และรีบลงไปประคองสามีให้ลุกขึ้น
“แล้วการที่จะเดินเข้ามาหาเรื่องเด็กตัวเล็กๆทั้งๆที่ตัวเองก็ตัวเท่าควายแบบนี้ บ้านคุณป้าเรียกการกระทำของสามีป้าว่าอะไรหรอครับ ฮีโร่งั้นหรอ!?” เพียงเอียงคอแล้วเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม แต่น้ำเสียงของเขาก็เต็มไปด้วยความไม่พอใจ
คิงอุ้มพิงเอาไว้ เพราะรู้ว่าลูกชายคนเล็กไม่ชอบการทะเลาะวิวาทเท่าไหร่
“กะ..กรี๊ด..”
“หยุดแหกปากแล้วมาคุยเรื่องนี้กันแบบจริงๆจังๆเถอะครับ เดี๋ยวกระจกจะร้าวก่อนจะคุยจบ” เพียงยกมือห้ามหญิงชราที่กำลังจะอ้าปากกรีดร้อง ทำให้เธอต้องค้างท่ากำหมัดเอาไว้แบบนั้น
เพียงหันไปมองหน้าอาจารย์ประจำชั้นของลูกชายตัวเองนิดๆ
“เด็กคนนั้นอยู่ไหนครับ” เพียงถามขึ้น นั่นทำให้อรวัณหันไปมองหน้ารพทันที ส่วนรพนั้นก็ใช้ลิ้นดันกระพุ้งแก้มของตัวเองนิดๆ
“เด็กคนนั้นอยู่ที่โรงพยาบาลค่ะ” อรวัณเหลือบสายตามองไปทางคิงเล็กน้อย
“ลูกชายของนาย ทำร้ายลูกของฉัน! จนเขาเกือบปางตายเลยนะ!” หญิงชราโวยวายด้วยความโมโห
เพียงหันไปมองหน้ารพนิดๆแล้วหันไปมองหญิงชราอีกครั้ง พร้อมกับทำในสิ่งที่ทุกคนไม่คาดถึง
พรึบ!
เพียงยกมือไหว้ผู้สูงอายุทั้งคู่ที่ยืนอยู่ตรงหน้า
“ผมขอโทษแทนรพด้วยนะครับ ทางเราจะชดเชยให้กับพวกคุณทุกอย่าง ค่ารักษาพยาบาลเดี๋ยวทางผมจะเป็นคนจัดการให้ แล้วอาจจะออกค่าเทอมของเทอมนี้ให้กับลูกของคุณด้วยครับ” เพียงพูดเสียงนิ่ง
“ม๊าครับ” รพขมวดคิ้วแล้วมองคนที่เป็นเหมือนแม่ตัวเองด้วยความไม่เข้าใจ
เพียงหันไปมองรพนิดๆแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา นั่นทำให้รพจำต้องเงียบลงอย่างเลี่ยงไม่ได้
“แต่ลูกฉันโดนทำร้ายหนักนะ จะชดใช้แค่นี้เองหรอ” หญิงชราเชิดหน้าแล้วถามกลับไป
“แล้วการที่ลูกของผมโดนลูกของคุณทำร้ายมาตลอด พวกคุณจะว่ายังไงครับ” เสียงทรงอำนาจของคิงพูดขึ้น เขาอุ้มพิงแล้วเดินเข้ามาตรงกลางระหว่างเพียงกับหญิงชรา
“คะ..คือ” หญิงชราอึกอัก
“ภรรยาของผมอุตส่าห์ยกมือขอโทษพวกคุณแล้ว ยังคิดจะเอาอะไรที่มันมากกว่านี้อีกหรอ!?” คิงจ้องหน้าทั้งคู่ด้วยความโมโห
“แล้วอีกอย่าง..ผมเองก็รู้มาว่า ครั้งนี้ลูกของคุณเป็นคนทำลูกของผมก่อนไม่ใช่หรอครับ แถมลูกของผมยังต้องเจ็บตัวอีก พวกคุณเคยมีใครคิดจะชดใช้บ้างมั้ยละ..ที่ผ่านมาที่ผมไม่เอาเรื่องก็เพราะเจ้าตัวเล็กเขาขอผมเอาไว้ แต่ครั้งนี้..ผมว่ามันมากเกินไปนะครับ ลองให้ผมเอาเรื่องบ้างมั้ย หื้ม!?” คิงมองใบหน้าของทั้งสองสลับกันไปมา
สองสามีภรรยารีบหลบสายตาของคิงที่มองมาทันที
“คุณอาจครับ” คิงหันไปมองผู้อำนวยการ ที่ยืนตัวสั่นอยู่ข้างๆ
“คะ..ครับๆคุณคิงครับ”
“รบกวนจัดการตามที่ภรรยาผมสั่งด้วยนะครับ ทั้งค่าเทอมแล้วก็ค่าอุปกรณ์ต่างๆ แล้วถ้ามันยังเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก และลูกของผมไม่ใช่คนเริ่มก่อนละก็..” คิงหันไปมองสองสามีภรรยาอีกครั้ง
“ผมจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด” คิงจ้องมองทั้งคู่ไม่วางตา
“ดะ..ได้ครับๆ” อาจรีบตกปากรับคำทันที
“จบเรื่องแล้วนะครับ” คิงมองไปที่ทั้งสองอีกครั้ง ก่อนจะหันไปมองเพียง
“พาลูกกลับเถอะ” คิงพูดกับเพียงเสียงนุ่ม ซึ่งน้ำเสียงแตกต่างจากพูดกับคนอื่นมากพอสมควร
เพียงสูดลมหายใจเข้าลึกๆแล้วเดินนำคิงออกไปทันที
..
..
เมื่อกลับมาถึงบ้าน เพียงก็เดินขึ้นไปข้างบนโดยไม่พูดหรือคุยอะไรกับใครเลยสักคำ
“ป๊า..ม๊าโกรธรพแน่เลยอ่ะ” รพเดินไปนั่งที่โซฟาแล้วเงยหน้ามองพ่อตัวเองอย่างเครียดๆ
คิงค่อยๆวางพิงลงที่โซฟาข้างๆอย่างเบามือ และเดินไปนั่งข้างรพที่นั่งอยู่ใกล้ๆพลางลูบหัวเล็กของรพเบาๆ
“ก็เราไปก่อเรื่องอะไรไว้ละ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกไม่ใช่หรอที่รพมีเรื่องมีราวแบบนี้”
“แต่เรื่องนี้รพไม่ผิดนะป๊า! มันมาแกล้งพิงก่อนอ่ะ รพก็ต้องมีหน้าที่ปกป้องน้องปะ” รพพยายามอธิบายให้สิ่งที่ตัวเองคิด
“รพ..เราฟังป๊านะ ถ้ารพทำไปเพราะอยากปกป้องน้องป๊าไม่ว่าอะไร แต่รพต้องดูในสิ่งที่รพทำด้วยว่ามันสมควรหรือเปล่า มันผิดหรือว่าถูกมั้ย การตอบโต้ความรุนแรงด้วยความรุนแรง มันไม่ใช่วิธีการแก้ปัญหาเสมอไปหรอกนะ หรือว่ารพอยากเห็นม๊าไปยกมือไหว้ขอโทษใครอีก” คิงเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม
“ไม่ป๊า รพไม่อยากให้มือสวยๆของม๊าต้องไปไหว้หรือขอความเมตตาจากใคร” รพพูดด้วยน้ำเสียงบึ้งตึง
“งั้นรพก็ต้องมีสติในการทำอะไรมากกว่านี้ บางอย่างถ้ามันพอที่จะระงับความโกรธได้ เราก็ต้องทำ ถึงแม้ว่ามันจะขัดกับสิ่งที่เรารู้สึกอยู่ก็ตาม” คิงพูดบอกพร้อมกับลูบหัวของรพเบาๆ
“แล้วถ้ามันมาว่าคนที่รพรัก มาทำร้ายคนที่รพรักละ แบบนี้รพไม่มีสิทธิ์ทำอะไรมันเลยหรอ” รพถามด้วยความไม่เข้าใจ
“ทำได้สิ เราทำได้ แต่..เราต้องฉลาดที่จะทำ การทำให้อีกฝ่ายเจ็บเหมือนที่มันทำให้เราหรือคนที่เรารักเจ็บมันมีหลายวิธีมากนะรพ บางครั้งมันก็ไม่จำเป็นที่จะต้องโต้ตอบกลับไปด้วยความรุนแรงด้วยซ้ำ”
“ยังไงอ่ะป๊า รพไม่เข้าใจ?” รพถามตอ่ด้วยความสงสัย คิงใช้นิ้วชี้แตะไปที่ขมับของรพแล้วขยับเคาะเบาๆ
“ใช้สมองของเราไงรพ รพเป็นคนฉลาด การที่เราจะทำให้อีกฝ่ายเจ็บใจได้โดยที่เราอาจจะไม่ต้องใช้แรงอะไรเลย มันก็มีเยอะ ถ้าถึงเวลานั้นรพอาจจะนึกออกเองก็ได้” คิงกระตุกยิ้มมุมปากนิดๆ
รพยิ้มกว้างเมื่อได้ฟัง
“แต่ป๊าครับ ม๊าบอกว่าเราไม่ควรใช้ความรุนแรงไม่ใช่หรอครับ” พิงถามคิงออกมาอย่างซื่อๆ คิงถอนหายใจออกมานิดๆแล้วมองลูกคนเล็กด้วยความเอ็นดู เพราะลูกคนนี้ของเขาจะอ่อนโยนและนุ่มนวลกว่าลูกคนแรกมาก
“ใช่ เราไม่ต้องใช้ความรุนแรงก็ได้ แต่ถ้าคนคนนั้นเขาทำให้เราหรือคนที่เรารักเจ็บมากๆ บางครั้ง คนพวกนี้ก็เหมาะสมกับความรุนแรงนะ แต่..เราก็ต้องดูเหตุและผลที่อีกฝ่ายต้องได้รับความรุนแรงที่เกิดจากเราด้วย ว่าสิ่งที่เขาทำมันเหมาะสมกับสิ่งที่เราจะทำร้ายเขามั้ย และถ้าเราทำลงไปแล้ว..เราหรือคนที่เรารักจะเดือดร้อนรึเปล่า จะทำอะไรก็ตาม เราต้องใช้สมองให้มากกว่าอารมณ์ของเราอยู่เสมอ จำคำป๊าเอาไว้” คิงมองลูกทั้งสองด้วยความอ่อนโยน
“แล้วแบบนี้ม๊าจะโกรธรพนานมั้ยอ่ะ” รพถามผู้เป็นพ่อเสียงเครียด
“ไม่นานหรอก และที่ม๊าเขาโกรธรพอ่ะ ก็เป็นเพราะรพเองที่ใจร้อนแล้วก็ไม่เชื่อฟังในสิ่งที่ม๊าสอนไม่ใช่หรอ”
“มันก็ใช่ แต่ตอนนั้นรพฟิวขาดนี่ แค่เห็นหน้าของพิงที่มีเลือดออกรพก็ทนไม่ไหวแล้ว” รพถอนหายใจออกมาหนักๆ
“พิงขอโทษนะพี่รพ” พิงก้มหน้าลงนิดๆด้วยความรู้สึกผิดเพราะเป็นสาเหตุให้พี่ชายต้องเดือดร้อนแล้วโดนม๊าโกรธแบบนี้ รพรีบเดินเข้าไปกอดพิงทันที
“ไม่ต้องขอโทษพี่หรอก พิงเองก็โดนมันแกล้งนี่ พี่ก็ต้องปกป้องพิงเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว”
“รู้สึกผิดกับสิ่งที่เราทำได้ แต่ไม่ต้องรู้สึกโทษตัวเองแล้วนะ สิ่งที่ทำลงไปในวันนี้ก็ให้มันเป็นบทเรียนให้เตือนสติ ว่าครั้งหน้าเราจะไม่พลาดแบบนี้อีก” คิงพูดบอก รพพยักหน้าแล้วกอดพิงอยู่แบบนั้น
“เดี๋ยวป๊าทำแผลให้น้องต่อ เราขึ้นไปง้อม๊าเถอะ ป่านนี้นอนร้องไห้ไปแล้วมั้ง” คิงอมยิ้มนิดๆ รพพยักหน้าแล้วผละออกจากพิงพร้อมกับวิ่งขึ้นไปบนห้องของเพียงทันที
เมื่อรพมายืนอยู่หน้าห้องของผู้เป็นแม่แล้ว ก็เคาะประตูสองถึงสามครั้ง ก่อนจะเปิดเข้าไป เมื่อเข้าไปข้างใน รพก็เห็นว่าแม่ของตัวเองกำลังนั่งเล่นโทรศัพท์อยู่
เพียงจ้องมองหน้าลูกชายคนโตของตัวเองนิดๆ สายตาของความรู้สึกผิดของรพทำให้เพียงเริ่มใจเย็นลงขึ้นมาบ้าง
“ม๊าครับ..รพอยากขอโทษ” รพก้มหน้าลงนิดๆแล้วเดินเข้าไปกอดเอวของผู้เป็นแม่แน่น
เพียงถอนหายใจออกมานิดๆแล้วกอดตอบกลับไป
“รู้มั้ยว่าสิ่งที่ทำอยู่มันไม่ถูกเลย” เพียงพูดขึ้น
“รู้แล้วครับ ป๊าบอกรพหมดแล้ว”
“งั้นถ้ารพบอกว่ารพรู้แล้ว งั้นต่อไปสัญญากับม๊าได้มั้ยว่ามันจะไม่มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีก” เพียงขมวดคิ้วแล้วพูดบอกรพด้วยความกังวลและเป็นห่วง
“รพจะพยายามนะครับม๊า รพเองก็ไม่อยากเห็นม๊าเสียใจแล้วก็ต้องยกมือไหว้ใครอีกแล้ว รพไม่ชอบเลย” รพพูดบอกออกมาตรงๆ
“ม๊าเองก็ไม่ชอบที่ต้องมีลูกเป็นอันธพาลหรอกนะรพ ไม่ใช่ว่าม๊าไม่เคยทะเลาะกับใคร แต่เพราว่าม๊าเคย ม๊าเลยไม่อยากให้รพต้องเจ็บตัวนี่ไง ม๊ารักรพกับพิงมากนะ แม่ใหญ่เองก็รักรพกับพิงมากเช่นกัน ถ้าแม่ใหญ่รู้เรื่องนี้ขึ้นมา..มันจะเกิดอะไรขึ้น รพรู้มั้ย” เพียงขมวดคิ้วแล้วพูดถึงรินเสียงเครียด
“ม๊าอย่าบอกแม่ใหญ่นะ รพขอ” รพหน้าเสียเมื่อพูดถึงแม่อีกคนนึงของเขากับน้องชาย
“ถ้ารพไม่อยากถูกย้ายไปเรียนที่อิตาลีกลางเทอมแบบนี้ ก็อย่าทำตัวมีปัญหาอีก แค่แม่ใหญ่ทำงานส่งเงินให้รพกับพิง แม่ใหญ่ก็เครียดมากพอแล้ว ม๊าเองก็เครียดมากนะรพ รพไม่สงสารม๊ากับแม่ใหญ่เลยหรอ” เพียงน้ำตาเอ่อคลอ แล้วพูดเสียงสั่น รพรีบโผลเข้ากอดเพียงทันที
“ม๊าอย่าร้องไห้นะครับ รพจะไม่ทำแบบนี้อีกแล้วครับม๊า รพจะใช้สติแล้วคิดก่อนทุกครั้งครับ รพจะไม่ใช้อารมณ์แบบวันนี้อีกแล้ว” รพพูดออกมาจากความรู้สึกจริงๆของตัวเอง เขารู้สึกไม่ชอบเลยที่ต้องเห็นน้ำตาของคนที่เขารักแบบนี้ แล้วยิ่งถ้าต้นเหตุมันคือเขา เขายิ่งรู้สึกไม่ดีเข้าไปใหญ่
“ม๊าจะไม่ร้อง แล้วม๊าก็จะไม่บอกแม่ใหญ่ด้วย แต่ถ้ามันเกิดเหตุการ์แบบนี้อีก แล้วรพยังใช้สติของรพไม่ได้ รพต้องไปอยู่ที่นั่นอย่างไม่มีข้อแม้เด็ดขาด รพตกลงมั้ย” เพียงดันรพให้มองมาที่แววตาของตัวเอง
“รพสัญญาครับ” รพพยักหน้าน้อยๆ
“คำสัญญาคือสิ่งที่สำคัญมาก ถ้ารพทำไม่ได้..คำสัญญาจะไม่มีความหมาย และม๊ากับแม่ใหญ่จะต้องเสียใจเพราะรพไปตลอดชีวิตนะ รพอยากเห็นแม่ใหญ่กับม๊าเสียใจเพราะรพมั้ย” เพียงลูบแก้มใสของลูกชายเบาๆแล้วถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
รพส่ายหน้าไปมาทันทีเมื่อได้ยิน
“ไม่เอาครับ รพไม่อยากให้แม่ใหญ่กับม๊าต้องเสียใจเพราะรพ”
“งั้นรพต้องทำตามสัญญาให้ได้นะ” เพียงพูดย้ำอีกครั้ง รพพยักหน้าแล้วโผลเข้ากอดเพียงทันที เพียงเองก็กอดตอบกลับไปเช่นกัน