ตอนที่ 3
ป้าจันทร์มีงานหลายอย่างต้องทำ หล่อนบอกแล้วก็ก้าวออกไปจากห้องรับแขกเล็กๆ
ระหว่างนั่งรอให้พ่อผัวกลับมาจากสวนปาล์ม สายตาของดาหวันแลสำรวจเข้าไปยังห้องทำงานเล็กๆ ของเขาอย่างให้ความสนใจ
ห้องนั้นดูมีความคลาสสิคอยู่ไม่น้อย เพราะปลูกสร้างด้วยปูนเปลือยผสมไม้ เถาไม้เลื้อยสีเขียวพันขึ้นมาถึงขอบหน้าต่างช่วยสร้างความร่มรื่นทำให้ห้องทำงานเล็กๆ นั้นดูกลมกลืนไปกับป่ารายรอบ
เดาเอาจากสิ่งรอบตัว ทำให้หญิงสาวพอจะรู้ว่าพ่อสามีคนนี้คงชอบอ่านหนังสือไม่น้อย สังเกตจากชั้นวางหนังสือก็เห็นว่ามีหนังสือมากมายตั้งเรียงเอาไว้จนแทบไม่เหลือที่ว่าง และที่ผนังห้องก็มีแผนที่เก่าแผ่นใหญ่ประดับเอาไว้ บนโต๊ะทำงานมีลูกโลกกลมๆ ตั้งอยู่มุมซ้ายของโต๊ะ แล้วไหนจะกล้องส่องทางไกล เข็มทิศวางเอาไว้บนโต๊ะ ธนูและหน้าไม้ที่แขวนประดับเอาไว้หลังโต๊ะทำงานทำให้เดาได้ว่าพ่อสามีของหล่อนคงมีความชำนาญป่าอยู่ไม่น้อย... หรือเขาจะเป็นพราน? เพราะดูจากการแต่งตัวก็เห็นได้ชัดว่าพ่อผัวคนนี้เหมือนนายพรานไม่มีผิด
ดาหวันคิดว่าภายหลังเสร็จจากกินข้าวเย็นร่วมกัน หล่อนคงมีโอกาสพูดคุยทำความรู้จักกับเขามากขึ้น ดูเหมือนว่าเดชคงมีแง่มุมชีวิตอื่นที่น่าสนใจ ท่าทางคงไม่ใช่เกษตรกรสวนปาล์มธรรมดา
แรงดึงดูดบางอย่างทำให้ดาหวันลุกขึ้นจากโซฟาแล้วก้าวเข้ามาในห้องทำงานของพ่อผัว
หล่อนชำเลืองมองไปที่ผนังทางด้านซ้าย ใกล้ๆ กับหมวกสีน้ำตาลเข้มปีกกว้างแขวนเอาไว้ข้างเสา มีภาพถ่ายครอบครัวของเดชใส่กรอบไม้เอาไว้
ในรูปนั้นเดชยืนอยู่ข้างซ้าย ตรงกลางคือรูปของดนัยสามีของหล่อนซึ่งตอนนั้นยังเป็นหนุ่มรุ่นๆ และขวามือเป็นภาพผู้หญิงหน้าตาสวยหวานซึ่งเป็นภรรยาของเดช
จากรูปที่เห็น ทำให้ดาหวันรู้ว่าดนัยสามีของหล่อนนั้นมีผิวพรรณขาวและรูปร่างบอบบางติดไปทางมารดา ต่างจากบิดาที่ดูคมเข้มผิวคล้ำ เนื้อตัวของเดชสูงใหญ่กว่าดนัยหลายเท่านัก มัดกล้ามกำยำล่ำสันสะดุดตาของดาหวันตั้งแต่แรกเห็น ผู้ชายแบบนี้แหละสเปคของหล่อน
ในเวลาเดียวกันนั้น
ที่ระเบียงหลังห้องนอนของเดช ขณะป้าจันทร์กำลังเตรียมตั้งโต๊ะอาหารเล็กๆ เอาไว้ตามที่ผู้เป็นนายสั่ง จู่ๆ เสียงโทรศัพท์มือถือที่วางเอาไว้ใกล้ตัวก็แผดเสียงดังขึ้น ป้าจันทร์รีบคว้าโทรศัพท์ขึ้นมาแนบหูในทันทีที่เห็นว่าชื่อของผู้เป็นนายปรากฏหราอยู่บนหน้าจอ
“คะ... คุณเดช... มีอะไรคะ”
ป้าจันทร์กรอกเสียงใสขานรับคนโทรมา
“ป้าจันทร์ช่วยจัดโต๊ะให้ผมหน่อยสิ... เอาแบบมีบรรยากาศนะ”
เสียงทุ้มกังวานดังมาจากต้นสาย ตอนนั้นเดชยังอยู่ในสวนปาล์ม
“มีบรรยากาศ... เอ่อ... ยังไงคะ?”
ป้าจันทร์ถามงงๆ วันนี้คนเป็นนายมาแปลก
“ก็... เอ่อ... ป้าช่วยจัดโต๊ะแบบที่เค้าเรียกว่ามีบรรยากาศโรแมนติกอะไรทำนองนั้นน่ะ”
ไม่แปลกที่ผู้ชายดิบๆ เถื่อนๆ ใช้ชีวิตวันๆ อยู่กับป่ากับปืนอย่างเดชจะรู้สึกกระดาก ที่ต้องมาอธิบายถึงเรื่อง
โรแมนติกซึ่งชีวิตของเขาไม่คุ้นเคยเอาเสียเลย
“ว่าอะไรนะคะ นี่ป้าไม่ได้หูฝาดไปใช่ไหม... คริคริ คุณเดชอยากได้บรรยากาศแบบโรแมนติก”
ป้าจันทร์แทบไม่เชื่อหูตัวเอง วันๆ เดชคร่ำอยู่กับงานกลางสวนปาล์ม คงไม่แปลกหากชีวิตของผู้ชายคนนี้จะโหยหาความโรแมนติกบ้าง
“อืม... อย่างที่บอกนั่นแหละ”
“แล้วจะเอาแบบโรแมนติกมากน้อยแค่ไหนคะ”
ป้าจันทร์สงสัย
“ไม่รู้แหละ... ผมแค่อยากได้ความโรแมนติก แค่ไหน... ยังไงจัดตามใจป้าก็แล้วกัน”
“เอ่อ... ”
ความสงสัยบางอย่างทำให้ป้าจันทร์เกือบถามออกมาแล้วเชียว หากก็ชะงักคำพูดไว้ได้ทัน
“สงสัยอะไรหรือป้า”
คนเป็นนายกลับเป็นฝ่ายถามขึ้นมาเสียเอง
“สงสัยว่าคุณเดชกำลังคิดจะทำอะไร?”
ป้าจันทร์ถามในที่สุด
“อ๋อ... ผมจะสร้างบรรยายกาศน่ะ... คืนนี้ผมจะมอมเหล้าสะใภ้”
เดชพูดแล้วก็หัวเราะราวกับเป็นเรื่องตลก แต่ป้าจันทร์ถึงกับต้องยกมือขึ้นทาบอกด้วยความตกใจกับความคิดของผู้เป็นนาย หล่อนไม่ขำด้วยสักนิด... เพราะไม่รู้ว่าเขาพูดเล่นหรือคิดจะทำจริงๆ
“จัดการที่ผมสั่งให้เรียบร้อย”
“ได้ค่ะ... ป้าจัดให้”
ป้าจันทร์กำลังนึกถึงบรรยากาศในนิยายโรมานซ์ที่หล่อนชอบอ่านเป็นชีวิตจิตใจจนลุงชุ่มผู้เป็นสามีเคยเอ่ยแซวว่าสักวันจะต้มนิยายให้กินแทนข้าว
“เข้าใจนะ”
เดชย้ำกลับมาอีกครั้ง
“ค่ะๆ... เข้าใจค่ะคุณเดช”
ป้าจันทร์ตอบกลับ หลังจากผู้เป็นนายกดตัดสายหล่อนก็เริ่มลงมือเตรียมสถานที่ทันที เริ่มจากย้าย