ตอนที่ 4
โต๊ะกินข้าวออกมาตั้งที่ริมระเบียงหลังห้อง เลือกตรงมุมที่ใกล้กับพุ่มกุหลาบเลื้อย แลเห็นดอกกุหลาบสีชมพูสะพรั่งผลิบานเต็มต้น ส่งกลิ่นหอมกรุ่นกำจายไปทั่วบริเวณหลังห้องนอนของเดช
“ถ้าปักเทียนตรงนี้ด้วยละก็... ว้าว”
ป้าจันทร์หรี่ตาเล็งหามุมเหมาะ เพราะจดจำมาจากละครทีวี ตอนที่พระเอกกับนางเอกดินเนอร์กันมักจะต้องมีแสงเทียนเป็นส่วนประกอบที่ขาดไม่ได้
“สวยอ่ะ... ”
ป้าจันทร์พูดคนเดียว หลังจากเอาเทียนเล่มน้อยมาตั้งเรียงที่ขอบระเบียง เว้นระยะห่างราวๆ คืบเห็นจะได้ ตั้งเรียงรายเป็นแนวยาวเต็มราวระเบียง นึกวาดภาพตอนที่เทียนถูกจุดขึ้นทีละเล่มคงสวยงามเหมือนกำลังนั่งดินเนอร์ท่ามกลางหมู่ดาวระยิบระยับ แต่รอให้ผู้เป็นนายกลับมาถึงก่อนแล้วค่อยจุดเทียนจะดีกว่า
จากนั้นป้าจันทร์ก็หาผ้าคลุมโต๊ะลายดอกไม้สีหวานสดใสมาคลุมโต๊ะเล็กๆ เพียงเท่านั้นบรรยากาศก็ดูเปลี่ยนไปทันที เมื่อได้รายละเอียดเล็กๆ จากดอกไม้บนผืนผ้าช่วยลดเหลี่ยมมุมแข็งกระด้างของโต๊ะไม้
ในเวลาต่อมา
เมื่อเดชกลับมาถึงบ้าน ป้าจันทร์กำลังจุดเทียนอยู่พอดี แสงเทียนที่ส่องประกายเรืองไสวไปทั้งระเบียงหลังบ้านทำให้เดชรีบชะโงกหน้าเข้ามามอง
“โห... ”
เดชตกใจ ทอดสายตามองเปลวเทียนน้อยๆ วูบวับไปตามกระแสลมเอื่อยอ่อนที่พัดโชยมาจากราวป่า แม้เทียนดูเหมือนจะเยอะไปนิด แต่เดชก็ยอมรับว่าแสงนวลของมันทำให้บรรยากาศตอนใกล้ต่ำดูอบอุ่นขึ้นเยอะ
“โอเคมั้ยคะ”
ป้าจันทร์ถามด้วยความอยากรู้
“ก็โอนะ... ”
เดชพยักหน้าหงึกๆ
“ยังมีอีกค่ะ”
ป้าจันทร์เดินกลับเข้าไปในบ้าน ก่อนจะกลับมาพร้อมกับเหยือกใส่น้ำที่ถูกดัดแปลงเป็นแจกันแก้วสวยงาม เหนือแจกันมีดอกดาหลาและดอกข่าแดงจัดพุ่มเอาไว้สวยงามสะดุดตา
“ถ้าอยากได้ความโรแมนติกต้องมีดอกไม้ด้วยค่ะ”
ป้าจันทร์บอก
“เพิ่งรู้ว่าป้าชอบทำงานพวกนี้”
เดชถอยห่างออกมายืนกอดอก มองดูป้าจันทร์จัดโต๊ะด้วยสายตาแสดงความขอบใจที่เห็นว่าหล่อนตั้งใจทำให้เขา
“ขอบใจมากป้าจันทร์... ที่ช่วยจัดให้”
เดชกล่าวยิ้มๆ
“คุณเดชรีบไปอาบน้ำเถอะค่ะ ป้าจะเตรียมอาหารขึ้นโต๊ะรอเลยนะคะ เพราะว่าตอนนี้หนูดาหวันนั่งรออยู่ที่ห้องข้างล่างแล้วค่ะ... เดี๋ยวป้าจะลงไปตามเธอ”
ป้าจันทร์บอก
ในเวลาต่อมา
ดาหวันเดินเข้ามาในห้องนอนของเดช หล่อนรู้สึกแปลกใจที่เห็นว่าเขาสามารถจัดสถานที่เล็กๆ ริมระเบียงหลังห้องให้มีบรรยากาศโรแมนติกจนน่าอัศจรรย์ใจ
“เชิญนั่ง”
เดชผายมือเชื้อเชิญสะใภ้ แม้จะอยู่ในชุดผ้าถุงและเสื้อคอกระเช้าแบบสาวชาวบ้านซึ่งหล่อนไม่คุ้นเคยนักกับการแต่งกายแบบนี้ ทว่าในความรู้สึกของเดชนั้นดาหวันช่างดูงดงาม เซ็กซี่สะดุดตากว่าหญิงสาวทุกคนที่เขาเคยเห็น
“ขอบคุณค่ะ”
ร่างรัดรึงทรุดลงนั่งบนเก้าอี้ ขณะสายตาจับจ้องมองเรือนร่างกำยำของพ่อผัวสุดหล่อล่ำด้วยความลืมตัว
เดชอยู่ในชุดเสื้อกล้ามสีขาวสะอาด อวดมัดกล้ามกำยำสะดุดตา กางเกงผ้าฝ้ายขายาวหลวมๆ ช่างเข้ากับเสื้อกล้ามซึ่งดูสบายๆ
จากนั้นการรับประทานอาหารร่วมกันก็เริ่มขึ้น ป้าจันทร์เข้ามาช่วยทำหน้าที่ตักข้าวและดูแลเรื่องอาหารให้ครู่ใหญ่ๆ
ครั้นเมื่อเวลาล่วงเลยมาถึงตอนหัวค่ำ หลังจากป้าจันทร์จัดแจงเสริฟเครื่องดื่มจำพวกแอลกอฮอล์เอาไว้ให้เรียบร้อยก็ขอตัวไปดูแลเรื่องข้าวปลาอาหารของคนงานที่ท้ายสวนปาล์ม เพราะรู้ว่าเดชคงต้องการความเป็นส่วนตัว
“เมื่อก่อนพ่อเดชทำงานอะไรคะ”
ดาหวันเรียกเดชว่า ‘พ่อ’ เพราะให้เกียรติเขาในฐานะที่เดชเป็นบิดาของสามีหล่อน
“เมื่อก่อนฉันเคยเป็นทหาร จากนั้นก็ผันตัวมาเป็นบอดี้การ์ดสิบกว่านี้... ก่อนจะมาเป็นเกษตรกรทำสวนปาล์มอยู่กลางป่าเขาทุกวันนี้”
เป็นอย่างที่ดาหวันคิดเอาไว้ไม่มีผิด ว่าพ่อผัวคนนี้น่าจะมีแง่มุมชีวิตที่น่าสนใจ
ทุกวันนี้เดชเก็บตัวเงียบๆ ชอบใช้ชีวิตอยู่ในหุบเขา อดีตของเดชที่โชกโชนนักในเรื่องความแม่นปืนชนิดที่ว่าหาตัวจับยาก ทำให้เขาเคยเป็นบอดี้การ์ดค่าตัวแพงที่สุดคนหนึ่งของวงการ
เมื่อในอดีตเดชเคยเป็นหัวหน้าทีมอารักขาให้กับนักการเมืองระดับรัฐมนตรีมาแล้วหลายคน ใน