4.มามี้คนใหม่
4.มามี้คนใหม่
-เช้าวันใหม่-
อาทิตย์กำลังจะออกไปทำงาน ขณะที่เขากำลังแต่งตัวอยู่ เขาก็อดคิดไม่ได้ว่า ยัยพี่เลี้ยงคนนี้จะเข้ากับลูกชายของเขาได้หรือเปล่า แต่ภาพที่เห็นเมื่อคืนเกินคาด น่าจะเข้ากันได้ดีมากเลยล่ะ ภาพที่เห็นทำให้อาทิตย์รู้สึกหมดห่วง และก็ภาวนาให้ยัยพี่เลี้ยงคนนี้ อยู่เป็นพี่เลี้ยงให้กับน้องเกียร์ไปนานๆ
มิราตื่นขึ้นมาบนเตียงของน้องเกียร์ในตอนเช้า เธอรู้สึกงงว่าทำไมเธอถึงขึ้นมานอนกับน้องเกียร์ได้ แต่ก็ต้องสลัดความสงสัยทิ้งไป แล้วรีบลงจากเตียง วิ่งกลับเข้าห้องของตัวเองไป เพื่อทำธุระส่วนตัวให้เสร็จแล้ววิ่งกลับมาที่ห้องน้องเกียร์อีกครั้ง แต่เธอก็เห็นว่าน้องเกียร์ยังหลับไม่ยอมตื่นเธอจึงต้องปลุกอีกตามเคย
"น้องเกียร์ ตื่นได้แล้วค่ะ" เด็กน้อยก็แค่บิดตัวเล็กน้อยแล้วนอนต่อ เหมือนเมื่อวานเลย น้องเกียร์เป็นเด็กขี้เซา แต่ไม่งอแง
"น้องเกียร์คะ วันนี้ใครอยากเล่นวิ่งไล่จับ ตัวต่อ แล้วก็ฟังนิทาน รีบตื่นเลยค่ะ" ถึงมิราจะไม่เคยมีลูก แต่เธอก็มีน้อง ทำให้เธอรู้ว่าควรจะทำยังไงกับเด็กที่ไม่ยอมตื่นแบบนี้ดี และแล้วมันก็ได้ผล น้องเกียร์ค่อยๆ ลืมตาแต่ยังไม่ยอมลุก เขาทำท่างัวเงียเหมือนยังไม่อยากตื่น
"ไม่ตื่นไม่เป็นไร มิราเล่นคนเดียวก็ได้" เธอแกล้งพูด ดูซิว่าน้องเกียร์จะยอมลุกแต่โดยดีไหม
"เกียร์เล่นด้วย ตื่นแล้วก็ได้ครับ" แต่น้องเกียร์ก็ยอมตื่นขึ้นมา เพราะของเล่นกับเด็กเป็นของคู่กัน และเด็กวัยอย่างน้องเกียร์ก็ต้องเลือกการเล่นมากกว่าการนอนอยู่แล้ว
"น่ารักมาก มาค่ะมิราอาบน้ำให้" มิราจัดการอาบน้ำล้างหน้าและแปรงฟันให้น้องเกียร์ ช่วยและสอนเขาไปในตัว ตามหน้าที่ของเธอ อยู่ๆ มิราก็คิดถึงลิลินขึ้นมา ไม่รู้ว่าลิลินจะเป็นยังไงบ้าง แต่ก็ฝากป้าข้างบ้านให้ช่วยดูแลแล้วแหละ แล้วเธอก็บอกน้องสาวของเธอแล้วว่ามีอะไรก็มาหาที่บ้านนี้ได้ เพราะบ้านที่มิราทำงานอยู่เป็นทางผ่านเวลาลิลินต้องออกไปโรงเรียนพอดี
"เสร็จแล้วค่ะ น้องเกียร์ของมิราหล่อที่สุดเลยค่ะ ไหนบอกมิราสิว่าน้องเกียร์อายุกี่ขวบแล้วคะ" มิรากำลังคิดว่า อายุน้องเกียร์น่าจะเข้าโรงเรียนได้แล้ว แต่ทำไมยังอยู่บ้านอยู่เลย เพราะดูจากคำพูดของน้องเกียร์แล้วแกเป็นเด็กฉลาดพูด ฉลาดคิด ถ้าได้เข้าโรงเรียนตั้งแต่เล็กๆ จะดีมากเลย
"เกียร์อายุสามขวบครับ" มิราเกิดอาการสงสัย ว่าคุณอาทิตย์ทำไมไม่พาน้องเกียร์เข้าโรงเรียน หรือว่าทำแต่งานแล้วลืมใส่ใจลูกเรื่องนี้
"ปกติเด็กสามขวบต้องไปโรงเรียนแล้วนี่คะ น้องเกียร์อยากไปไหมคะ"
"เกียร์ไม่อยากไป เพื่อนล้อเกียร์ว่าเกียร์เป็นเด็กไม่มีแม่" คำพูดของเด็กชายตัวน้อย ทำให้มิรารู้สึกสงสารมากขึ้นไปอีก เธอดึงน้องเกียร์เข้ามากอดและปลอบ ลูบหัวเบาๆ อย่างเอ็นดู เธอไม่คิดว่าจะได้ยินคำพูดแบบนี้ออกจากปากเด็ก ที่จริงเธอไม่น่าถามเลย ดูแกน่าเศร้าลงไปทันตาเห็น
"ใครบอกคะ เด็กทุกคนเกิดมาต้องมีแม่นะคะ" เธอกำลังอธิบายให้น้องเกียร์เข้าใจ ถึงแม่ของแกจะไม่ได้มีโอกาสอยู่ดูแล แต่น้องเกียร์ก็ยังมีพ่อ
"แต่เกียร์ไม่มีนี่ครับ มิราเป็นมามี้ให้เกียร์สิครับ" น้องเกียร์เป็นเด็กฉลาดพูดถ้าใครได้สัมผัสจะรู้ว่าเขาน่ารักมากขนาดไหน แต่การที่น้องเกียร์เกิดมาแล้วไม่มีแม่เหมือนคนอื่นๆ ไปโรงเรียนก็ถูกเพื่อนล้อ ว่าเป็นลูกไม่มีแม่ น้องเกียร์ไปเรียนได้ไม่กี่วันแกก็ร้องไห้งอแง ทำให้คนเป็นพ่อ ไม่รู้จะทำอย่างไรกับเรื่องนี้ดี เพราะเขาไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้มาก่อน จึงทำให้คุณอาทิตย์ยอมให้น้องเกียร์อยู่บ้านไปก่อน เพราะเห็นว่ายังเล็กอยู่ แต่เขาก็ไม่ได้นิ่งดูดาย กำลังคิดหาวิธีจัดการกับเรื่องนี้อยู่ ด้วยความที่สงสารลูกเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว
"แฮ้ม!!" เสียงอาทิตย์ดังขึ้นที่หน้าประตูห้อง ไม่รู้ว่าเขามาแอบยืนอยู่ตั้งแต่เมื่อไหร่ แล้วเขาจะว่าอะไรเธอหรือเปล่าที่ไปพูดกับลูกชายของเขาแบบนั้น
"นะมิราเป็นมามี้ให้เกียร์นะ ถ้าเกียร์มีมามี้เหมือนคนอื่นเขา เกียร์จะยอมไปโรงเรียน" เด็กน้อยอยากให้ มิรามาเป็นมามี้ให้ เพื่อที่จะได้ไปโรงเรียนแล้วไม่ถูกเพื่อนล้อว่าไม่มีแม่
"เออ..." เธออึกอักไม่กล้าตอบตกลง เพราะเธอก็แค่พี่เลี้ยงจะให้เธอมาเป็นมามี้ได้ยังไง เธอมองไปที่คุณอาทิตย์ เห็นเขาพยักหน้าให้ แสดงว่าเขาอนุญาต เขาคงอยากให้ลูกชายของเขาไปโรงเรียนก็ได้มั้ง
"ก็ได้ค่ะ แต่น้องเกียร์จะต้องยอมไปโรงเรียนนะคะ" เธอคิดว่าผู้เป็นพ่อ ต้องอยากให้ลูกไปโรงเรียนอย่างแน่นอน ไม่งั้นคงไม่ยอมให้เรียกพี่เลี้ยงอย่างเธอว่ามามี้หรอก
"ครับ เย้ๆ เกียร์มีมามี้แล้ว" เด็กชายวัยสามขวบ ทำท่าดีใจจนออกนอกหน้า กระโดดดีใจที่ตัวเองกำลังจะได้มีมามี้เหมือนคนอื่นเขาแล้ว
"งั้นพรุ่งนี้น้องเกียร์ก็คงไปโรงเรียนได้แล้วใช่มั้ยครับ" อาทิตย์เดินมาพูดกับลูกชาย เพราะก่อนหน้านี้เขาได้เอาลูกชายไปฝากที่โรงเรียนแล้ว ได้เรียนอยู่สองวัน วันที่สามน้องเกียร์ร้องไห้ไม่ยอมไป ทำยังไงก็ไม่ยอมไป ถึงเขาจะรู้สาเหตุแต่ก็ไม่รู้จะแก้ไขยังไงได้ ก็เลยให้หยุดเรียนไปก่อน แต่วันนี้ยัยพี่เลี้ยงคนนี้ มีอะไรดีถึงทำให้ลูกชายของเขาเรียกแม่ได้ ขนาดแฟนของเขา น้องเกียร์ยังไม่ยอมเรียกเลย แล้วก็ไม่เข้าหาด้วย
"ครับ ให้มามี้ไปส่งเกียร์ที่โรงเรียนด้วยนะครับ เกียร์จะเอามามี้ไปอวดเพื่อน" มิราไม่กล้าแม้แต่จะมองหน้าคุณอาทิตย์ ไม่รู้เขาจะไม่พอใจหรือเปล่า ที่ลูกชายของเขามาเรียกเธอแบบนี้ ที่เขาอนุญาตให้เรียกได้ อาจจะแค่อยากให้ลูกชายได้ไปโรงเรียนเท่านั้น
"วันนี้ผมกลับดึก ฝากดูแลน้องเกียร์ด้วยนะครับ แล้วก็ขอบคุณมากที่เข้ากันได้ ผมจะได้ไม่ต้องคอยหาพี่เลี้ยงให้แกบ่อยๆ" ที่เขาพูดแบบนี้แสดงว่าก่อนหน้าเรา คงต้องมีหลายคนแล้วแน่ๆ อะไรทำให้ทุกคนลาออก น้องเกียร์ก็ออกจะน่ารัก...และสายตาของมิราที่กำลังสงสัยเรื่องนี้อยู่มันออกมาทางสีหน้าและแววตาจึงทำให้ คุณอาทิตย์รู้ทันทีว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ในใจ
"อยากรู้ใช่มั้ยว่าเยอะขนาดไหน เอาเป็นว่านับไม่ถ้วนก็แล้วกัน" นี่หน้าตาเราอยากรู้ขนาดนั้นเลยเหรอถึงได้รู้ว่าเราคิดอะไรอยู่
-หนึ่งอาทิตย์ผ่านไป-
ตอนนี้น้องเกียร์เปลี่ยนสรรพนามเรียกมิราใหม่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ตอนแรกคนในบ้านก็งงกันเป็นแถว แต่มิราเธอกลัวว่าทุกคนจะเข้าใจเธอผิด เธอจึงอธิบายให้ทุกคนฟัง ทำให้ทุกคนในบ้านเข้าใจและก็เห็นด้วยกันเป็นแถว วันทั้งวันมิราก็ยังคงดูแลน้องเกียร์เหมือนเดิม พาไปส่งที่โรงเรียน รับกลับ สอนการบ้าน เล่นกัน กินขนม ดูการ์ตูน เล่านิทาน อะไรที่ทำแล้วเด็กชอบ เธอก็ยินดีเพราะเธอถูกจ้างมาเพื่อให้ดูแลคุณหนูตัวน้อยคนนี้อยู่แล้ว
และวันนี้อาทิตย์มีนัดดินเนอร์กับแฟนสาวของเขา และวันนี้เขาจะเซอร์ไพรส์ของเธอแต่งงานด้วย ตกดึกหลังจากที่มิราเอาน้องเกียร์เข้าห้องนอนเรียบร้อยแล้ว อาทิตย์ก็กลับมา เธอได้ยินเสียงของหล่น แล้วเหมือนจะแตกด้วย จึงโผล่หน้าออกไปดู เห็นคุณอาทิตย์เมามา ในมือมีถุงใส่เหล้าอีกสองขวด เดินเซไปเซมาแต่เธอก็ไม่กล้าออกไป เธอรีบปิดประตูเข้าห้องของตัวเองทันที
"เขาเป็นอะไรทำไมถึงเมาขนาดนี้นะ" ลึกๆ แล้วเธอรู้สึกเป็นห่วงเขาขึ้นมา เหมือนจะไม่มีสติด้วย อีกอย่างเขาก็เป็นเจ้านาย เธอควรจะเข้าไปดูเขาหน่อยหรือเปล่านะ แต่อีกใจก็บอกกับเธอว่า...นี่มันไม่ใช่หน้าที่ของเธอสักหน่อย หน้าที่ของเธอคือดูแลลูกชายให้เขา เธอจึงรอฟังเสียงอยู่หน้าห้อง จนได้ยินเสียงปิดประตู อย่างน้อยเขาก็เข้าห้องได้แล้ว เธอจึงไปนอนบ้าง
เช้ามิราตื่นแต่เช้า รีบปลุกน้องเกียร์อาบน้ำแต่งตัวเพราะวันนี้เด็กชายตัวน้อยของเธอจะต้องไปโรงเรียน น้องเกียร์ไปโรงเรียนทุกวัน ตั้งแต่วันที่มิรายอมมาเป็นมามี้ให้ แกไม่งอแงที่จะไปโรงเรียน แถมกลับมายังเอาการบ้านมาให้มิราช่วยสอนทุกวัน แล้ววันนี้ก็คงเป็นเหมือนทุกๆ วันที่ผ่านมา
"คุณหนูของยายอุ่นจะไปโรงเรียนแล้ว มาทานข้าวเช้าก่อนนะคะ" ป้าอุ่น แม่บ้านคนเก่าคนแก่ของบ้านหลังนี้เอ่ยขึ้น
"ครับยายอุ่น เกียร์จะเอามามี้ไปอวดเพื่อนๆ ทุกวันเลยครับ" หลังจากที่เพื่อนๆ เด็กอนุบาลด้วยกันรู้ว่าน้องเกียร์มีแม่เหมือนกับคนอื่นๆ แล้ว เด็กพวกนั้นก็เลิกล้อ ส่วนน้องเกียร์ก็ยอมไปโรงเรียนทุกวันตามที่เขาได้สัญญาเอาไว้
"โอ้โหดีค่ะ เอามามี้ไปอวดเพื่อนแล้วอยากลืมตั้งใจเรียนด้วยนะคะ"
"ครับ" เมื่อมิราไปส่งน้องเกียร์ แล้วกลับมาถึงบ้านแล้ว ก็ยังเห็นรถของคุณอาทิตย์จอดอยู่ แสดงว่าวันนี้เขาไม่ได้ไปทำงาน
"ป้าคะ วันนี้คุณอาทิตย์ไม่ได้ไปทำงานเหรอคะ" เธอถามอย่างเป็นห่วงเพราะเมื่อคืนเธอเห็นเขาเมากลับมา
"ป้าก็ไม่ทราบเหมือนกันค่ะ ไม่เห็นลงมาเลยไม่รู้จะไม่สบายหรือเปล่า มิราไปดูคุณอาทิตย์ให้ป้าหน่อยสิ"
“ป้าคะ คุณอาทิตย์ปกติเขาดื่มบ่อยหรือคะ เมื่อคืนหนูเห็นเขาเมาหนักกลับมาด้วยค่ะ” เธอพูดไปตามที่เห็น ถ้าจะเมากลับมาแบบนี้ทุกวัน คนที่น่าสงสารที่สุดก็คือน้องเกียร์ แม่ก็ไม่มีกับเขายังจะมีพ่อแบบนี้อีก...มิราคิดในใจ
“ไม่นะ คุณอาทิตย์ไม่ได้ดื่มเหล้ามาหลายปีแล้วนะ ป้าว่าคุณอาทิตย์ต้องเครียดเรื่องอะไรสักอย่างมาแน่ๆ ขึ้นไปดูให้ป้าหน่อยนะ”
"ค่ะ" อ้าวแล้วเขาเป็นอะไร มีเรื่องอะไรที่ทำให้เขาต้องดื่มหนักขนาดนี้ด้วย ไปก็ไป ยังไงวันนี้เธอก็ไม่มีอะไรทำอยู่แล้ว เพราะน้องเกียร์ไปโรงเรียน กว่าจะเข้าโรงเรียนได้ อวดทั้งเพื่อนอวดทั้งคุณครู มิราคิดถึงน้องเกียร์ตอนเธอไปส่งที่หน้าโรงเรียนก็แอบยิ้มให้กับความน่ารักของเด็กคนนี้