3.เข้ากันได้
3.เข้ากันได้
"ติ้งต่อง ๆ ๆ" เสียงกดออดดังขึ้นหน้าบ้านอาทิตย์ยามเช้า อาทิตย์เป็นคนชอบออกกำลังกาย วิ่งเรียกเหงื่อยามเช้า ไม่ค่อยได้ใช้เครื่องออกกำลังกายที่ฟิตเนสสักเท่าไหร่ เพราะมีคุณแม่กับลูกชายให้ดูแล จึงไม่ค่อยมีเวลาไปที่นั่น แต่ก็มีซื้อไว้ใช้ที่บ้านบ้าง แต่เช้านี้เขามาวิ่งออกกำลังกายอยู่หน้าบ้าน ซึ่งมันก็เป็นเรื่องปกติสำหรับเขา เขาจึงเดินไปเปิดประตูให้ เพราะเขารู้ว่าใครมา ถ้าให้คนอื่นมาเปิด มีหวังต้องวิ่งกลับมาถามเขาอีกเป็นแน่ กว่าเธอจะได้เข้าบ้านต้องหลายเรื่องแน่ๆ
"มาแต่เช้าดีนี่" เขาทักเธอ แล้วก็ไม่ได้อะไรนัก
"สวัสดีค่ะ" มิราไม่ได้มีอะไรมามากนักมีแค่กระเป๋าเป้มาใบเดียว
"เข้ามาสิ" อาทิตย์พาเธอเข้ามาในบ้าน แล้วเรียกให้คนในบ้านมารวมตัวกันพร้อมหน้า
"ทุกคนครับ ผมมีสมาชิกใหม่มาแนะนำ เธอชื่อมิรา เธอจะมาดูแลน้องเกียร์ ทำความรู้จักกันไว้นะ" อาทิตย์บอกคนในบ้าน พร้อมกับแนะนำหญิงสาวให้ทุกคนรู้จัก
"สวัสดีทุกคนนะคะ" เธอยิ้มอย่างเป็นมิตรให้ทุกคนอย่างน่ารัก อาทิตย์มองรอยยิ้มนั้นของเธอ เธอดูน่ารักสดใส เขาภาวนาขอให้เธออยู่ได้นานๆ ก็แล้วกัน
"พี่เลี้ยงคนนี้น่ารักจังเลยนะป้า" เสียงปานเอ่ยชมเสียงดัง กับป้าอุ่นแม่ครัวของที่นี่ มิราที่ได้ยินชัดเต็มสองหูก็ยิ้มๆ ให้
"มิราตามผมมา" อาทิตย์เดินนำขึ้นไปชั้นบน เขาเปิดห้องที่อยู่ติดกับห้องนอนของน้องเกียร์ เขาให้เธออยู่ห้องนี้ ห้องตรงข้ามเป็นห้องของเขา ส่วนห้องคุณแม่ของเขาอยู่โซนตะวันออก ท่านต้องการความสงบ จึงแยกออกไป อาทิตย์ไม่เคยให้พี่เลี้ยงคนไหนได้ขึ้นมาอยู่ที่ชั้นบนเพราะต้องการความเป็นส่วนตัว แต่สำหรับมิราไม่รู้เขาคิดอะไรถึงให้เธอขึ้นมาอยู่ชั้นบน อาจจะเป็นเพราะช่วงนี้ลูกชายคนเก่งของเขาเริ่มโต จึงต้องดูแลมากเป็นพิเศษเพราะค่อนข้างดื้อด้วย อีกอย่าง ช่วงนี้เขาก็งานเยอะ แล้วก็กำลังจะขอแฟนแต่งงานด้วย อาจจะมีเวลาให้ลูกน้อยลง เขาจึงให้พี่เลี้ยงขึ้นมาอยู่ที่ห้องติดกับน้องเกียร์
"ห้องมิราเหรอคะ" เธอถามเพราะ ไม่คิดว่าจะได้มาอยู่ห้องที่ทั้งใหญ่ทั้งสวยขนาดนี้ ใหญ่กว่าห้องที่เธออยู่หลายเท่าเลย
"ครับ ปกติผมจะไม่ให้พี่เลี้ยงขึ้นมาอยู่ข้างบนหรอกนะ แต่เห็นว่าพักนี้น้องเกียร์แกซนมาก เลยอยากจะให้เธอดูแลเป็นพิเศษหน่อย" นี่คือเหตุผลของเขา
"ค่ะ" ห้องที่มิราได้พัก เป็นห้องขนาดใหญ่ แล้วชั้นบนก็มีหลายห้อง เลยแบ่งให้เธอพักห้องนึง
"ห้ามทำห้องสกปรก ต้องเก็บกวาดให้สะอาดอยู่เสมอเข้าใจมั้ย"
"เข้าใจค่ะ" เธอก้มหน้าตอบคำถาม เธอไม่กล้าทำห้องเขาเลอะหรอก มันดูดีมากจนเธอไม่กล้าที่จะนอนเลย แถมยังมีโซฟาตัวใหญ่อยู่ในห้องนี้ด้วย
"ห้องข้างๆ เป็นห้องน้องเกียร์” ลูกชายของเขาคงชื่อน้องเกียร์สินะ
“ไม่รู้ป่านนี้แกจะตื่นหรือยัง เธอเริ่มงานเลยแล้วกัน ปลุกแกอาบน้ำแล้วพาลงไปทานข้าว ผมจะออกไปทำงานกลับมาหวังว่าคุณจะยังอยู่" อาทิตย์พูดทิ้งท้ายไว้ให้มิราตงิดใจเล่นๆ แล้วเขาก็เข้าห้องอีกห้องไป น่าจะเป็นห้องของเขา มิราค่อยๆ เปิดเข้ามาอีกห้องหนึ่ง ที่คุณอาทิตย์บอกว่าเป็นห้องของน้องเกียร์
"อุ๊ย น่ารักจัง" มิราเห็นเด็กผู้ชายตัวน้อยนอนหลับอยู่บนที่นอน ในผ้าห่มผืนหนา ภายในห้องเปิดแอร์เย็นอากาศกำลังดี หน้าตาเด็กน้อยดูจิ้มลิ้มปากนิดจมูกหน่อย มิราเธอเป็นคนรักเด็กอยู่แล้ว ทำให้เธอตกหลุมรักเด็กคนนี้ได้โดยไม่ยาก งานนี้เลยไม่ใช่งานยากสำหรับเธอสักเท่าไหร่
"น้องเกียร์คะตื่นค่ะ ได้เวลาอาบน้ำแปรงฟันแล้วนะคะ" มิราจับตัวน้องเกียร์เขย่าเบาๆ แต่น้องเกียร์ก็แค่บิดตัวนิดหน่อยแล้วนอนต่อ
“น้องเกียร์คะตื่นนะคะ” เธอก็ปลุกอีก แต่น้องเกียร์ก็ไม่ยอมตื่น น้องเกียร์เป็นเด็กขี้เซา กว่าจะตื่นก็ต้องปลุกกันแบบนี้ทุกครั้งไป
"จะทำยังไงให้เด็กตื่นดีนะ..." มิรากำลังใช้ความคิดแล้วเธอก็คิดขึ้นมาได้
"น้องเกียร์ มิราเป็นพี่เลี้ยงคนใหม่ของน้องเกียร์นะคะ ถ้าน้องเกียร์เป็นเด็กดี เลี้ยงง่าย มิราจะเล่นด้วยทั้งวันเลย แล้วจะพาไปกินไอติมด้วย" พอมิราพูดจบเท่านั้นแหละ น้องเกียร์ก็ค่อยๆ ลืมตาตื่นขึ้นมามองหน้าพี่เลี้ยงคนใหม่ ที่จริงน้องเกียร์รู้สึกตัวแล้ว แต่แค่ไม่อยากตื่นเท่านั้น เขาก็เหมือนเด็กขี้เซาทั่วๆ ไป
"จริงนะ" เด็กชายตัวน้อยรีบถามทันที เพราะกลัวโดนหลอกเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา
"จริงแน่นอนค่ะ" มิราเธอให้สัญญา
"ห้ามโกหกเกียร์นะครับ" สงสัยเด็กคนนี้จะโดนหลอกบ่อยแน่ๆ ถ้าไม่อย่างนั้นเด็กไม่น่าถามคำถามแบบนี้
"มิราพูดคำไหนคำนั้นค่ะ" เด็กชายตัวน้อยค่อยๆ ลุกออกจากเตียงแล้วให้พี่เลี้ยงอาบน้ำให้อย่างว่าง่าย ทำให้มิราอดนึกสงสัยไม่ได้ว่า เด็กก็ดูน่ารักเลี้ยงง่ายแล้วทำไม คุณอาทิตย์ถึงให้เงินเดือนเธอตั้งสามเท่า หรือว่าอาจจะอยากให้เธอดูแลเด็กคนนี้ดีดี
"ไปทานอาหารเช้าก่อนนะคะ แล้วค่อยเล่นกัน" เมื่อมิราแต่งตัวให้น้องเกียร์เสร็จแล้ว ก็พากันไปทานอาหารเช้า มิราป้อนข้าวเช้าให้น้องเกียร์ แล้วพาไปวิ่งเล่นที่สนามหญ้าหน้าบ้าน จนแดดเริ่มร้อนเลยชวนกันเข้าบ้านกลัวว่าจะไม่สบาย
"แดดร้อนแล้วเข้าบ้านกันดีกว่าค่ะเดี๋ยวไม่สบาย"
"ไม่เอาเกียร์จะเล่นต่อ มิราบอกว่าจะเล่นกับเกียร์จะโกหกเหรอ" มิราเริ่มแน่ใจว่าเด็กคนนี้ต้องโดนหลอกบ่อยแน่ๆ และดูจากสายตา เหมือนต้องการอยากจะเล่นต่อ น่าสงสารจัง พ่อก็คงจะไม่ค่อยมีเวลาให้ ได้...ต่อไปนี้เธอจะดูแลเด็กคนนี้ให้แกมีความสุขเอง
"ไม่ได้โกหกค่ะ แต่เข้าไปเล่นในบ้านแทน แดดมันร้อนเดี๋ยวจะไม่สบายเอานะคะ" เธอให้เหตุผล แล้วจูงมือพากันเดินเข้าบ้านไป
วันทั้งวันมิราเริ่มเข้ากับน้องเกียร์ได้ ปกติน้องเกียร์จะแสดงอิทธิฤทธิ์จนพี่เลี้ยงเข้าออกเป็นว่าเล่น ก็คงเป็นเพราะไม่มีใครตามใจไง แต่มิราตามใจ มิราสัมผัสได้ว่าเด็กน้อยคนนี้แค่อยากให้มีคนเล่นด้วย อยากให้มีคนเอาใจ สนใจแก ก็เท่านั้น เด็กตัวแค่นี้แค่ตามใจหน่อยก็ไม่ได้มีอะไรมาก แล้วแม่น้องเกียร์ล่ะไปไหนนะ ทำไมทิ้งลูกให้พี่เลี้ยงดูแล พ่อก็ต้องทำงานคงไม่ค่อยมีเวลามาดูแลเท่าที่ควร
"น้องเกียร์คะหิวหรือยังคะ อยากกินขนมมั้ย" เป็นเด็กก็ต้องชอบกินขนม เธอคิดว่าแบบนั้นนะ
"ครับ"
"งั้นไปในครัวกันดีมั้ยคะ" มิราพาน้องเกียร์มาทานของว่างในครัวแล้วเจอกับป้าอุ่นแม่ครัวของที่นี่พอดี
"ป้าจ๊ะมิราขอถามอะไรหน่อยได้มั้ยคะ" เธอไม่แน่ใจว่าคำถามที่เธอจะถามมันจะผิดมั้ย
"หนูจะถามอะไรลูก" ป้าอุ่นแกดูใจดี แล้วแกก็น่าจะรู้ น่าจะอยู่ที่นี่มานาน
"แม่น้องเกียร์ไปไหนคะ" ในที่สุด เธอก็ตัดใจถามคำถามที่เธออยากรู้ทันที
"แม่คุณหนูเสียตั้งแต่คลอดแล้วล่ะ แกกำพร้าแม่ตั้งแต่เกิดแต่อย่าพูดไปนะคะ" เรื่องนี้ไม่ได้เป็นความลับอะไร แต่แค่ไม่อยากให้น้องเกียร์ได้ยินเฉยๆ เพราะมันอาจจะทำให้น้องเกียร์รู้สึกไม่ดี อีกอย่างอายุของแกก็สามารถเข้าโรงเรียนได้แล้ว แต่น้องเกียร์ไม่ยอมไป บอกว่าไม่มีแม่ไปส่งเหมือนเพื่อนคนอื่นๆ แล้วก็มีเพื่อนที่โรงเรียนล้อด้วย อาทิตย์เห็นว่าน้องเกียร์พึ่งจะสามขวบก็เลยปล่อยๆ ไปก่อน เพราะไม่อยากจะบังคับลูก
"น่าสงสารจังค่ะ"
"ใช่ คุณอาทิตย์ก็ทำแต่งาน อย่างว่าผู้ชายดูแลดีไม่เท่าผู้หญิงหรอก" มิรารู้สึกสงสารเด็กน้อยคนนี้จับใจ เพราะเธอก็กำพร้าพ่อแม่ตั้งแต่เด็กเหมือนกัน แต่เด็กคนนี้นี่สิแกไม่เคยเห็นหน้าแม่เลยด้วยซ้ำ เธอเดินกลับไปหาน้องเกียร์ ไปเป็นเพื่อนเล่น เพื่อนคุย เธอรู้สึกสงสารเด็กคนนี้มาก เธอเข้าใจเด็กที่ขาดแม่ ตลอดเวลาเธอพยายามเป็นแม่ให้กับน้องสาวของเธอด้วย เพราะตอนนั้นที่พ่อกับแม่เสียไปลิลินยังเล็กอยู่เลย ก็คงไม่ได้แตกต่างจากเด็กคนนี้ที่มีพ่อก็เหมือนไม่มี
"กินนมแล้วไปนอนกลางวันกันดีกว่านะคะ มิราจะเล่านิทานให้ฟัง อยากฟังมั้ยคะ" มิราเธอจำได้ว่าน้องสาวของเธอก็ชอบฟังนิทานก่อนนอนตอนเล็กๆ แล้วเธอก็คิดว่าน้องเกียร์ก็น่าจะชอบฟังเหมือนๆ กันและเมื่อเช้าที่เธอเข้าไปปลุกน้องเกียร์ที่ห้องนอน เธอก็เห็นว่ามีหนังสือนิทานวางอยู่ข้างเตียงด้วย
"เย้ๆ เกียร์อยากฟังนิทาน" มิราพาน้องเกียร์มานอนกลางวันตามที่เด็กทุกคนควรจะนอน เธอเล่านิทานให้เด็กน้อยฟังจนแกหลับไป ระหว่างที่น้องเกียร์หลับมิราก็ปัดกวาดเช็ดถู ห้องน้องเกียร์และห้องของเธอ อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย เธอเป็นคนสะอาดและเรียบร้อยอยู่แล้ว งานแบบนี้เธอทำได้สบายมาก ตกเย็นมิราก็อาบน้ำป้อนข้าว แล้วพากันขึ้นห้องนอน เล่านิทานให้น้องเกียร์ฟัง
วันนี้อาทิตย์กลับมืด เพราะมีงานด่วนเข้ามา ทำให้เขากลับมาถึงบ้านมืด เขายกนาฬิกาที่ข้อมือขึ้นมาดู ปรากฏว่าเป็นเวลาสองทุ่มกว่าแล้ว เขาแอบเข้าไปที่ห้องของลูกชายก่อนที่จะเดินเข้าห้องตัวเอง เห็นว่าห้องสะอาดสะอ้าน ข้าวของจัดเป็นระเบียบเรียบร้อย แล้วลูกชายของเขาก็ได้หลับไปแล้ว แล้วพี่เลี้ยงก็นั่งหลับอยู่ข้างเตียงมีหนังสือนิทานอยู่ที่มือของเธอเล่มหนึ่ง
อาทิตย์เดินเข้าไปแล้วหยิบหนังสือนิทานออกจากมือของเธอ แล้วจัดที่นอนให้มิราได้นอนด้วยได้ เขาอุ้มเธอขึ้นไปนอนข้างๆ กับน้องเกียร์ แล้วมองดูหน้าตาของเธอตอนหลับเขาแอบอมยิ้ม ในความน่ารักของเธอ ผู้หญิงอะไรหลับไม่รู้เรื่อง สงสัยจะเหนื่อยเพราะเลี้ยงลูกให้เขา เขาจ้องมองหน้าเธอขนาดหลับยังน่ารักเลย