บท
ตั้งค่า

[5/2]

[5/2]

@ The Willington N Penthouse Thonglor

17.00 น.

แกร่งง!!

“อ๊ะ อ้าว มาพอดีเลยค่ะ หนูเห็นว่ามีแป้งทำขนมในครัวด้วย เลยลองทำช็อคโก้บราวนี่ดูค่ะ มาเหนื่อยๆ ชิมหน่อยไหมคะ?”

คนตัวสูงเกิดประตูเข้ามาพอดีกับจังหวะที่หญิงสาวกำลังจะจัดจากขนมและเครื่องดื่มลงบนโต๊ะอาหาร

ภัทรกาฬวางกระเป๋าทำงานและ Blazer สีดำพาดไว้บนโซฟา ก่อนจะเดินมุ่งหน้ามาที่โต๊ะอาหารที่ติดกับริมหน้าต่างแบบกระจกบานใหญ่

สามารถมองเห็นวิวใจกลางกรุงได้เป็นอย่างดี ยิ่งถ้าเป็นบรรยากาศในยามค่ำคืนนั่งจิบไวน์กันตรงนี้ยิ่งจะเป็นช่วงเวลาที่โรแมนติกที่สุดเลยแหละ

“คืนนี้พี่ต้องไปร้านไอ้ณัฐมัน” ร่างสูงเดินมากอดร่างบางจากทางด้านหลัง เท้าคางลงซบไหล่บางก่อนจะยื่นจมูกโด่งเข้าคลอเคลียกับซอกคอ ราวกับคนต้องการชาร์ตแบตหลังจากเหนื่อยกับงานมา

“แล้ว?” ปิ่นหยกหันหน้ามามองอย่างไม่เข้าใจ

“หนูต้องไปด้วย”

“ทำไม?” ร้อยวันพันปีไม่เคยพาเธอออกไปเจอใคร

“ก็ไม่ทำไม”

“ทุกทีไม่เห็นอยากจะพาออกไปไหน” หรือเขาไม่กลัวใครเห็นแล้วหรอทุกครั้งเห็นกังวลเรื่องนี้

“งานนี้มีแค่เพื่อนสนิท”

“งานก่อนๆ ก็เห็นมีเพื่อนสนิท” ขนาดตอนสมัยมหาลัยเธอขอไปงานวันเกิดเพื่อนของเขาด้วยก็ยังไม่ได้เลย

“เอาเป็นว่าไป”

“จอมบงการ” จริงๆ ก็ไม่ได้หงุดหงิดอะไรเท่าไหร่ถ้าหากเขาจะให้เธอไปด้วย

แต่กลับดีใจเสียอีกที่จะได้ออกไปข้างนอกแล้วพบปะสังคมของเขามันทำให้เธอเผลอคิดไปบ้างว่าความสัมพันธ์ของเราอาจจะมีโอกาสได้พัฒนาขึ้นหรือเปล่า

“ไหน ดูซิทำอะไรกิน”

“ของโปรดพี่ไง”

@คลับ

20.00 น.

เสียงเพลงด้านในคลับกระหึ่มดังจนได้ยินถึงลานจอดรถ ที่แขกมาใหม่ทั้งสองกำลังลงมาจากข้างในรถพอดี คืนนี้ปิ่นหยกแต่งตัวด้วยเสื้อผ้ามิดชิดตามที่โดนคนตัวสูงออกคำสั่งเด็ดขาด มิดชิดแบบไหนน่ะหรอ

ทุกคนลองจินตนาการตาม เสื้อที่หญิงสาวใส่เป็นผ้าคอทตอนหนาแขนยาวสีม่วงทรงโอเว่อร์ไซส์ล่ามมาจนปิดก้มงามงอน ส่วนกางเกงเป็นกางเกงวอร์มแบบหนาสีเทาเหมือนจะไปออกกำลังกาย ตบท้ายด้วยรองเท้าผ้าใบสีขาว MLB los boston ที่หยิบติดมือมาด้วยจากคอนโด

ส่วนของเขาน่ะหรอก็เสื้อเชิ้ตสีขาวกับกางเกงสแล็คสีดำจากหลังเลิกงานนี่แหละ เพียงแต่ปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตลงอีก 2 เม็ด เผยให้เห็นแผงอกขาวแกร่งที่มีไรขนหนาแซมขึ้นทั่วบริเวณ “โคตรไม่ยุติธรรมเลย เหอะ!”

“อะไรนะ?” คนที่เดินอ้อมมาจากฝั่งคนขับกำลังเดินมาเพื่อจะเข้าไปในร้านพร้อมกันได้ยินเหมือนเสียงใครพูดอะไรสักอย่าง ไม่ชัดเจนจึงหันหน้าถาม

“ปะ ป่าว! เข้าไปข้างในกันเถอะ” มือบางไม่ลืมเอื้อมไปคว้าลำแขนแกร่งเข้ามาคล้องไว้พร้อมกับเดินเข้าร้านไปพร้อมกัน

(ด้านในผับ)

ในโซนวีไปพีขนาดกว้างที่ถูกจัดหลบเข้ามาด้านในห่างจากผู้คนให้มีความเป็นส่วนตัวสูง ชุดโซฟาสีแดงกำมะหยีที่ล้อมเป็นวงสามารถนั่งได้หลายที่นั่งถูกผู้ชายคนหนึ่งนั่งจองรอไว้ก่อนแล้ว

“อ้าววว สวัสดีค้าบท่านประธานคนใหม่ เห็นน้องมึงบอกว่าพี่ชายติดสาวที่ไหนอยู่นี่เลยมาไม่ได้”

“มันก็พูดไปเรื่อย” ร่างสูงที่เดินเข้ามาหาเพื่อนพร้อมคนตัวเล็กหน้าหมวยไร้เครื่องสำอาง เพราะเขาเป็นคนสั่งเธอไม่ให้แต่งหน้ามา

“เออ แล้วมึงกลับจากบอสตันก่อนได้ไงไม่รอกุด้วยวะ มาก่อนกูจะงอนมึงแล้วนะ”

“มึงอายุเท่าไหร่แล้ว กลับเองดิ”

เขากับบอมสนิทกันตั้งแต่เด็ก แต่ตอนสอบเข้า ป.ตรี กลับแยกกันคนละที่ เขาไปสอบเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่งย่านบางแสน ด้วยเห็นผลส่วนตัวว่าชอบทะเล และอยากลองอยู่ไกลบ้านบ้าง

ส่วนบอมสอบเข้าเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยอันดับต้นๆ ของประเทศในกรุงเทพฯ ใกล้บ้านนี้เอง แต่หลังเรียนจบทั้งสองก็ต้องไปเรียนต่อเพื่อธุรกิจของที่บ้านเหมือนกัน ดังนั้น ในช่วง ป.โท กับ ป.เอก ของทั้งสองคนจึงเป็นมหาวิทยาลัยเดียวกันในต่างประเทศ

“โห่ใจร้ายว่ะ เออแล้วนั่นใครวะไม่คิดจะแนะนำให้กูรู้จักบ้างหรือไง?”

ร่างสูงเด่นใบหน้าคมตามแบบชายใหญ่แท้ โฟกัสหันไปมองหญิงสาวหน้าหมวยด้านข้างที่มากับภัทรกาฬอย่างสนใจ

“เอ่อ.... สะ สวัสดีค่ะ” ปิ่นหยกคลายมือออกจากอ้อมแขนแกร่งก่อนจะเริ่มแนะนำตัว พลางคิดได้ว่าเมื่อกี้เราเกาะแขนเขาเดินเข้ามาคงจะดูไม่ดีเท่าไหร่นัก หากภัทรกาฬยังห่วงเรื่องระยะห่างความสัมพันธ์อยู่แบบนี้

“อะ ฮึ่ม! สวัสดีครับชื่อบอมครับ แล้ว......”

บอม หรือ ยศพล แนะนำตัวกับหญิงสาวหน้าหมวยที่แต่งตัวราวกับมัมมี่ แต่ดูๆแล้วก็ ....น่ารักดีนะ

“หยกค่ะ เป็น... เอ่อ เป็น” เป็นอะไรล่ะหยก คิดสิเป็นอะไรดี

“เป็นเลขาฯ คนใหม่ของกู” เหมือนจะมีเสียงสวรรค์มาช่วยปิ่นหยกได้ทัน

“ห๊ะ! ดะ เดี๋ยว พี่....” ทว่าคำพูดจากเสียงนั้นกลับไม่ใช่สวรรค์ มันคือนรกต่างหาก เขาบ้าอีกแล้วหรอ

“เป็นรุ่นน้องกุที่มหาลัย และบังเอิญมาสมัครงานที่บริษัทกู”

ภัทรกาฬอธิบายให้เพื่อนชายคนสนิทฟัง โดยที่ยังไม่หันมามองสีหน้าคนด้านข้างเลยว่าโอเคหรือไม่

“อ้าวหรอ แบบนี้นี่เอง เออว่าแต่เชิญมึงนั่งก่อนเถอะครับ กูเมื่อยแล้ว”

“ไอ้ณัฐล่ะ” พอนั่งลงเสร็จก็มองหาน้องชายตัวดีที่ชวนเขามาในวันนี้

ซึ่งการที่เขาพาปิ่นหยกมาด้วยก็เพื่อจะทำให้น้องชายของเขาหยุดเอาเรื่องของปิ่นหยกมาเป็นข้อต่อรองให้เขาไปพูดกับพ่อเรื่องงานให้ บอกเลยว่าเขาไม่กลัว

“รายนั้นน่ะหรอ เดี๋ยวก็มาหลังจากไปหาอะไรบันเทิงใจเสร็จก่อนอ่ะนะ ฮ่าๆๆๆ ทำไมมึงไม่เสือผู้หญิงแบบมันบ้างวะ เอ๊ะ! หรือเป็นเสือซ่อนเล็บอยู่?”

ร่างบางที่นั่งอยู่ข้างๆ แอบเงยหน้าขึ้นมองท่าทีของภัทรกาฬกับคำพูดของเพื่อนสนิทเขาเมื่อกี้ เสือซ่อนเล็บงั้นหรอ? แล้วจะซ่อนใครไว้อีกล่ะนอกจากเราแล้ว

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel