ตอนที่ 5
“เอ่อ... ตาลไม่มั่นใจนักว่าจะทำได้”
หญิงสาวรู้สึกลังเลและสับสนใจ ทั้งที่ลึกๆ ในใจของหล่อนก็ยอมรับว่าแอบหลงรักพี่เขยคนนี้อยู่เงียบๆ มานานหลายปี
ระหว่างที่น้ำตาลกับป้านวลกำลังคุยกันอยู่ในครัว จู่ๆ เสียงแหวของจันทร์เจิดก็ดังลั่นขึ้นที่ประตูทางเข้าห้องครัว
“ป้านวล... คืนนี้ตั้งโต๊ะอาหารกลางสนามหญ้านะคะ คุณมาร์คจะจัดปาร์ตี้ต้อนรับการมาถึงของจันทร์ค่ะ”
ทั้งที่ตัวเองเป็นแขกของบ้าน แต่จันทร์เจิดกลับวางท่าทีเหมือนเป็นคุณนายคนใหม่
ป้านวลได้ยินคำสั่งของจันทร์เกิดก็จริง แต่หล่อนกลับตีรวนด้วยการหันไปถามผู้เป็นเจ้าของบ้านที่เดินตามหลังแฟนเก่าเข้ามาถึงในครัว
“แขกกี่คนคะคุณมาร์ค... ป้าจะได้จัดเตรียมอาหารและเครื่องดื่มได้ถูก”
“ก็มีผม... จันทร์ น้ำตาล แล้วก็ไอ้เมศกับไอ้นาวินเพื่อนผมอีกสองคน”
มาร์เซโล่ตอบ จันทร์เจิดรู้สึกเสียหน้าที่ป้านวลเลือกจะคุยกับเขาเหมือนไม่เห็นหัวหล่อน
“รอให้ฉันเข้ามาเป็นคุณนายคนใหม่ก่อนเถอะ... แกจะเป็นคนแรกที่โดนเฉดหัวออกไปจากบ้านหลังนี้”
หลังจากเจ้าของบ้านเดินลับออกไปจากครัว จันทร์เจิดก็แผ่รังสีมารออกมาด้วยการชี้หน้าป้านวล กราดเสียงใส่สตรีผู้อาวุโสกว่าด้วยความโกรธจัด กล้าแสดงความร้ายกาจออกมาอย่างเปิดเผยเหมือนนางร้ายในละครหลังข่าวยังไงยังงั้น กิริยาท่าทางยืนยันถึงความเป็นคนที่ขาดวุฒิภาวะทางอารมณ์อย่างเห็นได้ชัด
“ค่ะ... ป้าจะรอ และป้าคิดว่าวันนั้นคงยังไม่มาถึงง่ายๆ หรอกนะคะคุณจันทร์เจิดขา ป้าเชื่อว่าคุณมาร์คคงไม่หูหนวกตาบอดไปคว้าผู้หญิงร้ายกาจมาทำเมียหรอกนะคะ”
ป้านวลรู้ว่าเสี่ยงมากที่จะโดนเฉดหัวเป็นคนแรก ที่กล้าหาญตอบโต้ออกไปเช่นนั้น
“ฝากไว้ก่อนเถอะอีแก่... ไม่นานแกกับฉันได้เจอกันแน่”
จันทร์เจิดกำมือแน่น ก่อนจะพาลไปหาเรื่องน้ำตาลที่ยืนอยู่ข้างๆ ป้านวล
“แกด้วย... ชื่อนังน้ำตาลใช่ไหม ตอนนี้พี่สาวแกไม่อยู่แล้วนี่นา ยังจะมาเสนอหน้าอยู่ทำไม ถึงเวลาแล้วนะ... ที่แกควรจะออกไปจากบ้านหลังนี้เสียที”
จันทร์เจิดลอยหน้าลอยตา วางท่าราวกับว่าตัวเองเป็นเจ้าของบ้าน
“...”
น้ำตาลนิ่งเงียบ หล่อนเลือกที่จะไม่ตอบโต้กับคนพรรค์นี้ ท่าทางของจันทร์เจิดที่ได้เห็นกับตาทำให้น้ำตาลรู้ว่าหล่อนเป็นผู้หญิงร้ายกาจสุดๆ อย่างนี้นี่เองที่ทำให้ป้านวลเกลียดนักเกลียดหนา
ป้านวลยกมือขึ้นทาบอก รู้สึกโล่งใจที่จันทร์เจิดเดินออกไปจากครัวเสียได้ หล่อนวิ่งตามมาร์เซโล่ไปติดๆ เหมือนกลัวว่าเขาจะหาย
“ถ้านังผู้หญิงคนนี้เข้ามาเป็นคุณนายคนใหม่ของบ้านหลังนี้จริงๆ... มีหวังว่าป้าคงถูกเขี่ยกระเด็นออกจากบ้านก่อนใคร”
ป้านวลมองเห็นอนาคตของตัวเองรางๆ สิ่งที่เห็นทำให้น้ำตาลนิ่งอยู่ในอาการครุ่นคิด บางทีหล่อนควรทำอะไรสักอย่าง...
“สงสัยว่าคืนนี้นังจันทร์เจิดคงวางแผนเขมือบคุณมาร์คแน่ๆ”
ป้านวลรู้ทัน หล่อนกล่าวพลางเหลือบมองใบหน้าของน้ำตาล หญิงสาวยังไม่ทันได้เอ่ยอะไรป้านวลก็ชิงเอ่ยขึ้นมาเสียก่อน
“แต่ไม่ต้องห่วง... ”
ป้านวลหรี่ตาครุ่นคิด หล่อนมั่นใจว่าแผนการของตนนั้นลุ่มลึกกว่าของจันทร์เจิดอย่างแน่นอน ผู้หญิงร้ายกาจอย่างจันทร์เจิดต้องเจอแผนซ้อนแผน
“แล้วป้าจะทำยังไงคะ?”
น้ำตาลอดสงสัยไม่ได้... ป้านวลมีแผนอะไร
“ป้ามีวิธี”
ด้วยน้ำเสียงเชื่อมั่น ป้านวลตอบสั้นๆ คิดว่าหล่อนมีวีธีรับมือกับผู้หญิงร้ายกาจอย่างจันทร์เจิด
ตอนใกล้ค่ำของวันเดียวกันนั้น
งานเลี้ยงเล็กๆ ได้ถูกจัดขึ้นท่ามกลางสนามหญ้าใกล้กับสวนหย่อมของบ้านหลังใหญ่ เพื่อนสนิทของมาร์เซโล่ทั้งนาวินและราเมศเดินทางมาถึงในเวลาไล่เลี่ยกัน
ป้านวลพร้อมด้วยเด็กรับใช้ซึ่งเป็นหญิงสาวชาวพม่าสองคนเริ่มทยอยยกอาหารออกมาเสริฟจนเต็มโต๊ะไปหมด เครื่องดื่มซึ่งมีทั้งซอฟดริ้งค์และสุราดีกรีแรงหลายยี่ห้อถูกเสริฟให้กับแขกอย่างต่อเนื่อง
ป้านวลรู้ว่าคืนนี้จันทร์เจิดจ้องจะเผด็จสวาทมาร์เซโล่เพื่อให้ถ่านไฟเก่าคุกรุ่นขึ้นมาอีกครั้ง ป้านวลจึงมองหาจังหวะ เมื่อสบโอกาสก็ใส่ยานอนหลับลงในแก้วเหล้าของจันทร์เจิดหลายรอบ ทำให้หล่อนเมาหลับ สิ้นฤทธิ์เดชไปในที่สุด
“จันทร์... ดูท่าทางคุณคงไม่ไหวแล้วนะ”
มาร์เซโล่เอื้อมมือไปแตะแขนของแฟนเก่า เมื่อเห็นว่าจันทร์เจิดเมาจนหลับคาแก้ว
ครั้นเมื่อเขาทำท่าว่าจะลุกขึ้นจากโต๊ะเพื่อประคองหล่อน ป้านวลก็รีบเอ่ยขึ้นทันที