บทที่ 2 พี่สาวเน็ตไอดอลถูกลอบสังหาร
บทที่ 2 พี่สาวเน็ตไอดอลถูกลอบสังหาร
เช้าตรู่วันที่ 2 รถไฟที่มุ่งหน้าไปตงไห่ เนี่ยเฟิงหลับตาพักผ่อน ในหัวฝันถึงลักษณะของพี่ใหญ่ชิวมู่เฉิงในตอนนี้ เธอต้องสวยเทียมนางสวรรค์แน่ เธอจะจำได้ไหมว่าเราเป็นใคร ?
ทันใดนั้นก็มีเสียงผู้หญิงที่เพราะพริ้งจากที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ดังเข้ามา: “ฮัลโหล ทุกคน ฉันคือคังเมิ่ง ขอต้อนรับทุกท่านสู่สตูดิโอของฉัน ตอนนี้ฉันกำลังไลฟ์สดอยู่บนรถไฟจากเมืองเยี่ยนตูไปยังเมืองตงไห่...”
“คังเมิ่ง ? นี่เป็นชื่อของพี่เจ็ดของเราไม่ใช่เหรอ ? ”เนี่ยเฟิงอดที่จะมองตามเสียงไปไม่ได้
เสียงว่าสวยแล้วคนยิ่งสวยกว่า พี่สาวคนเล็กที่กำลังไลฟ์สดอยู่ในชุดเดรสสีขาวอ่อน คิ้วที่เรียวยาวในเฉดที่พอเหมาะ ขนตาดำสนิทที่หนางอน ปากบางชุ่มชื่นเหมือนดาราสาวที่นามว่าอินเถา ประกอบกับใบหน้ารูปไข่ที่ไม่มีจุดด่างดำเลยแม้แต่จุดเดียว เรียกได้ว่าเป็นผลงานชิ้นเอกที่สมบูรณ์แบบที่สุดของจิตรกร โดยเฉพาะดวงตาที่ชวนฝันดั่งสายน้ำในฤดูใบไม้ร่วง ดำขลับและใสแจ๋ว สะท้อนความไร้เดียงสาออกมาให้เห็นเป็นระลอก
เธอเป็นพี่เจ็ดของเราจริงด้วย เนี่ยเฟิงดีใจแทบคลั่ง ภาพในเยาวัยย์ลอยขึ้นมาในดวงตาชั่วขณะ เนี่ยเฟิงจำได้ว่าตอนเล่นซ่อนแอบ พี่เจ็ดชอบอยู่กลุ่มเดียวกับเขา ทั้งสองคนมักจะซ่อนอยู่ในพงหญ้าด้วยกัน พี่สาวทั้งหกที่เหลือหายังไงก็หาพวกเขาไม่เจอ ลูกอมที่ชนะมาได้ พี่เจ็ดเสียดายไม่ยอมทาน มักจะแอบสะสมเอามาให้ตัวเอง...
ขณะที่เนี่ยเฟิงกำลังจะเผยตัวกับคังเมิ่ง ก็ฉุกคิดขึ้นมาว่า: “คุณตาบอกไว้ว่าจิตใจผู้หญิงมักแปรเปลี่ยน เราอำพรางตัวตนไว้ชั่วคราวดีกว่า เริ่มทำความรู้จักกับเธอใหม่ ดูว่าเธอจะมีปฏิกิริยาอย่างไร”
ขณะที่เนี่ยเฟิงคิดจะไปทำความรู้จักกับคังเมิ่งใหม่ แต่นึกไม่ถึงอยู่ ๆ เขาก็รู้สึกถึงไอสังหารขึ้นมา
เนี่ยเฟิงขมวดคิ้วแล้วขมวดคิ้วอีก ค่อย ๆ มองไปยังทิศทางของไอสังหาร เห็นชายใส่แว่นนั่งในมุมทแยงตรงข้าม
แว่นตาที่ชายผู้นั้นสวมใส่ เลนส์แว่นสะท้อนแสง ภายในเผยให้เห็นดวงตาที่เฉียบคม กำลังกลอกตามองคังเมิ่งไปมา
คนผู้นี้ไม่เหมือนผู้ชายคนอื่นที่ชื่นชมความสวยงามของคังเมิ่ง แต่พกไอสังหารที่น่ากลัวอย่างหนึ่งเอาไว้
สายตาที่เขามองคังเมิ่งเหมือนมองดูคนตาย
น่าแปลก หรือว่าพี่เจ็ดของเขาล่วงเกินใครเข้า ?
เนี่ยเฟิงมองคนแม่นมาตลอด พออีกฝ่ายขยับตัว เข็มพิษเท่าขนวัวก็พุ่งมายังคังเมิ่งในพริบตา !
แต่คังเมิ่งยังคงจัดรายการอยู่ เธอไม่รู้เลยว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น !
ดวงตามองไปยังเข็มพิษที่พุ่งไปยังคังเมิ่ง นึกว่าจะช้าไปแต่ก็กลับรวดเร็วกว่าที่คิด เนี่ยเฟิงรีบกระโจนไปยังคังเมิ่งทันที!
“ว๊าย !”
คังเมิ่งร้องเสียงหลง ถูกเนี่ยเฟิงกอดไว้แน่นในอ้อมอก !
“นาย ! นายเป็นใคร ?”
คังเมิ่งสัมผัสถึงลมหายใจจากตัวของชายแปลกหน้า ตกใจจนหน้าถอดสี เธออยากจะหลุดพ้นจากอ้อมกอดของเนี่ยเฟิง แต่อ้อมแขนของเนี่ยเฟิงเหมือนคอนกรีตเสริมาเหล็กไม่ปาน ไม่สามารถสั่นคลอนได้ !
ชายสวมแว่นเห็นสถานการณ์ก็เกิดลนลาน เดิมทีคิดว่าภารกิจนี้จะสบาย แค่สังหารหญิงสาวที่ไม่มีอาวุธ นึกไม่ถึงว่าจะเจอเหตุการณ์ไม่คาดคิด !
“แส่จริง !”
ชายสวมแว่นโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ กระโดดตัวขึ้นมาอย่างคล่องแคล่ว มือจับที่หิ้งวางสัมภาระ โหนตัว ยกเท้าเตะมายังคังเมิ่ง !
คาดไม่ถึงว่าปลายรองเท้าของชายสวมแว่นจะเป็นคมดาบสองคม !
คังเมิ่งก็ได้หลุดพ้นจากอ้อมกอดเนี่ยในเวลา ใบหน้าส่องกับดาบสองคมเข้า จนตกใจใบหน้าซีดเผือด !
“กินหัวใจหมีดีเสือดาวมาจากไหน ถึงได้กล้ามาจู่โจมภรรยาของฉัน ?!”
เนี่ยเฟิงบันดาลโทสะ ไม่ว่าใคร กล้าแตะต้องคังเมิ่งก็ต้องตายสถานเดียว
เนี่ยเฟิงกอดคังเมิ่งไว้ในอ้อมอก มืออีกข้างก็คว้าข้อเท้าที่แข็งแกร่งของชายใส่แว่นเอาไว้ !
ชายใส่แว่นเป็นมือสังหารที่ได้รับการฝึกมาดี กำลังแค่นี้ถือว่าไม่เท่าไหร่สำหรับเขา แต่ชายใส่แว่นนึกไม่ถึงว่ากำลังของเนี่ยเฟิงไม่ได้มีแค่นี้ !
“ย๊าก !” เสียงดังเปราะ เนี่ยเฟิงใช้เพียงมือเดียวหักขาของชายใส่แว่นหัก
ชายสวมแว่นร้องครวญขึ้นมา รีบถอยหลังไปหลายก้าวทันที
หมอนี่เป็นใครกัน ถึงได้มีฝีมือดีเช่นนี้ ?
เวลานี้ชายสวมแว่นคิดจะหนี แต่ไม่ทันการณ์เสียแล้ว เนี่ยเฟิงจู่โจม เร็วเหมือนสายฟ้าแลบ เขาอัดไปที่ใบหน้าของชายใส่แว่นอย่างไม่ยั้ง จนดั้งของชายใส่แว่นหัก
ชายใส่แว่นลอยละลิ่วไปไกลหลายเมตร ชนถูกเก้าอี้ที่อยู่ด้านข้างอย่างรุนแรง พร้อมกับกระอักเลือดออกมา ตัวกองเป็นสำลีอ่อนอยู่บนพื้น ไม่สามารถขยับตัวต่อไปได้
เนี่ยเฟิงพยักหน้าด้วยความพอใจ หมัดนี้ของเขาน่าจะทำให้ชายใส่แว่นสลบเหมือดไปหลายวัน
หลังจากเนี่ยเฟิงเก็บหมัด ก็รีบเหลียวหันไป ดูคังเมิ่งที่ยังตกใจตะเลิดอยู่ เขากุมมือน้อยๆของคังเมิ่งเอาไว้แล้วพูดด้วยความรักว่า :
“ภรรยา ไม่เป็นไรใช่ไหม ? ตกใจแล้วสินะ ?”
สติคังเมิ่งกลับมาในทันที พูดด้วยความเดือดดาลว่า “หมอนี่นายพูดเหลวไหลอะไรของนายหา ? ใครเป็นภรรยาของนาย ? รีบปล่อยฉันเดี๋ยวนี้เลยนะ !”
“คุณไง ไม่เช่นนั้นที่นี่ยังมีใครที่คู่ควรกับผมได้อีก ?” เนี่ยเฟิงกล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม
“นาย !”
คังเมิ่งโมโหจนตัวสั่น เวลานี้ถึงนึกขึ้นได้ว่าตัวเองยังไลฟ์สดอยู่ จึงรีบมองไปที่ไลฟ์ เห็นข้อความขึ้นเต็มจอสกรีน :
“นึกไม่ถึงว่าพิธีกรแต่งงานแล้วทำไมยังบอกว่าตัวเองยังไม่แต่งล่ะ ? อย่างนี้เท่ากับหลอกลวงความรู้สึกพวกเราไม่ใช่เหรอ ?”
“นั่นน่ะสิ ! อย่างนี้เท่ากับพิธีกรเป็นนักต้มตุ๋น !”
คังเมิ่งลนลานขึ้นมาในทันที รีบอธิบายว่า “เบบี๋ทั้งหลาย ฉันไม่รู้จักเขาเลยนะ ไม่รู้ว่าเขาโผล่มาจากไหน !”
“คุณไม่รู้จักผมได้อย่างไร ? เมื่อก่อนยังนอนบนเตียงเดียวกันเลย ! คุณยังห่มผ้าให้ผม แล้วยังหอมใบหน้าผมด้วย !”
เนี่ยเฟิงกล้ำกลืนโอบเอวคังเมิ่งเอาไว้
คังเมิ่งเห็นแฟนคลับในไลฟ์ลดฮวบลงในพริบตา กระหืดกระหอบขึ้นมา “นายชั่วมาก นายรู้ไหมว่าพฤติกรรมนายทำให้แฟนคลับฉันหายไปเท่าไหร่ ! น่าโมโหนัก !”
“ผมทำอะไรเหรอ ? เมื่อกี๊ผมเพิ่งช่วยชีวิตคุณนะ คุณไม่เห็นเหรอ ? ชายใส่แว่นคนนั้นอยากจะฆ่าคุณนะ !”
เนี่ยเฟิงชี้โบ้ชี้เบ้อย่างอลหม่านไปที่ชายสวมแว่นที่นอนกองอยู่ไม่กระดิกตัว
ตอนนี้คังเมิ่งร้อนใจเรื่องแฟนคลับในไลฟ์สดของตัวเอง จะสนใจเรื่องพวกนี้ที่ไหนกัน ?
เนี่ยเฟิงอดถอนหายใจไม่ได้ สมัยเด็กพี่เจ็ดก็นิสัยอย่างนี้นึกไม่ถึงว่าโตแล้วก็ยังไม่เปลี่ยน
เนี่ยเฟิงมองดูใบหน้าที่แดงฉานเพราะร้อนใจเกินไปของคังเมิ่ง อดยืนมือไปหยิกไม่ได้ สัมผัสยังรู้สึกเหมือนสมัยเด็กแบบนั้นไม่เปลี่ยนจริง ๆ !
คังเมิ่งตกใจเบิกตาโพลง “ไอ้หื่นกาม ! นายมันกุ๊ย !”
คังเมิ่งรีบหยิบกระเป๋าที่อยู่ข้าง ๆ ขึ้นมา ทุบไปที่เนี่ยเฟิง
ในเวลานี้รถไฟก็มาถึงสถานีพอดี ฝ่าเท้าเนี่ยเฟิงเผ่นแน่บปานป้ายน้ำมันหล่อลื่น นึกไม่ถึงปกติพี่เจ็ดที่นุ่มนวลอ่อนหวานพอตีคนขึ้นมาก็เจ็บได้เหมือนกัน !
“นายอย่าหนีนะ !” คังเมิ่งกำลังโมโหชายหนุ่มที่อยู่ ๆ โผล่ออกมา ไม่เพียงทำให้เธอต้องเสียแฟนคลับไป แล้วยังกล้าแต๊ะอั๋งเธออีก
เนี่ยเฟิงวิ่งด้วยความไวในตู้โบกี้ จนเจอทางออกด้วยความรวดเร็ว กระโจนออกไป “ไม่เผ่นก็กลายเป็นผีสิ !”
“นาย ! จับคนหื่นกามที ! ทุกคนดูเร็ว ! คนนั้นค่ะ !”
คังเมิ่งตะโกนคอเป็นเอ็น แต่ก็ไม่สามารถยับยั้งฝีเท้าของเนี่ยเฟิงได้