บทย่อ
ตอนนี้สารภาพตรงๆ ว่าไม่ได้คิดว่าเรื่องความผอม แต่คิดว่าตัวเองกำลังเป็นลูกข่าง โลกนี้มันช่างพลิกคว่ำพลิกหงายไปหมด เธอได้ยินเสียงหอบฟืดฟาดรุนแรงของเขา มันรุกเร้าเข้ามาในอารมณ์หวาม เธอถูกช้อนให้หยัดสะโพกรับ ก่อนที่ทุกอย่างจะพุ่งทะยานขึ้นไปสู่จุดหมายปลายทางที่ไม่เคยพานพบมาก่อน ธิดารับรู้ได้ถึงอ้อมแขนที่กอดรัดเธอเอาไว้แนบแน่นเนื้อกายของเธอกับเขาสั่นระริก หัวใจที่เต้นโครมครามเริ่มสงบลง เขาขยับออกห่างเล็กน้อยแต่ยังฝังกายอยู่ในความนุ่มละมุน ใบหน้าของเธอแดงก่ำ เผยอปากหอบหายใจน้อยๆ เขาทาบหน้าผากลงมาหา มองสบตาเธอ ธิดาเขินอาย เธอหลบสายตาเป็นพัลวัน “ขี่หลังพี่ไปอาบน้ำกันนะ” นางเอกในนิยายพระเอกต้องอุ้มไปอาบน้ำ แต่เธอต้องขี่หลัง คิดเอาเองสิ! น้ำหนักเกินมาตรฐานขนาดไหน!!!!!!!!!!!!!!!!!
1
“ยายอ้วนๆๆ” เสียงที่ล้อเลียนมาทำให้เด็กสาววัย 18 ถึงกับน้ำตาซึม ช่วงหลังมานี้เธอน้ำหนักเกินมาตรฐาน เด็กๆ สมัยนี้ก็น่ากลัวทั้งซนทั้งร้าย แก่แดดเหลือเกิน แค่เธอเดินผ่านก็โดนเด็กนรกในหมู่บ้านแลบลิ้นปลิ้นตาใส่ล้อเลียนทุกวัน
อ้วนแล้วมันผิดตรงไหน!!!
เธอสอบเรียนได้มหาวิทยาลัยที่นี่เลยย้ายมาอยู่บ้านเก่าของบิดา บ้านเก่าแก่ที่ถูกปิดทิ้งไว้นานหลายปีพร้อมกับความทรงจำเก่าก่อน ธิดาจำมันได้ติดใจ บ้านหลังนี้เป็นบ้านที่เธอถือกำเนิดขึ้นมา เติบโตขึ้นมา ปั่นจักรยานเล่นกับเด็กๆ ในหมู่บ้าน ว่ายน้ำเล่นตรงคลองหลังบ้าน และมีเพื่อนวัยเดียวกันที่สนิทที่สุดคือนิรตี อีกฝ่ายก็สอบเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยเดียวกันกับเธอ
เธอขอบิดาและย่า พวกท่านอนุญาตเพราะเห็นว่าเธอโตแล้ว มารดาเลี้ยงยังช่วยพูดอีกแรงหนึ่ง แม้ท่านจะดูไม่ค่อยรักเธอเท่าไหร่แต่ก็ไม่ได้ร้ายใส่ ท่านบอกว่าเด็กวัยเดียวกันกับเธอก็สามารถออกไปอยู่หอพักหรือบ้านเช่าเพื่อศึกษาเล่าเรียนต่อกันได้แล้ว ที่บ้านจึงยอมให้เธอออกมาอยู่คนเดียว อีกนัยคือบ้านหลังนี้ก็ปิดไว้มานาน ถ้าเธอมาอยู่ก็จะได้มาดูแล
ธิดาวิ่งหนีเสียงแซวของเด็กในหมู่บ้านก่อนจะไปชนเข้ากับร่างสูงของใครคนหนึ่ง
“โอ๊ย!” เธอหงายหลังล้มก้นจ้ำเบ้า มองร่างสูงของพี่ธีหรือธีรภัทร อดีตพี่ชายข้างบ้านและคู่หมั้นวัยเด็กของเธอ เขายื่นมือมาให้จับเพื่อดึงเธอขึ้นจากพื้น
ธิดากะพริบตาปริบๆ เธอกับธีรภัทรไม่ได้เจอกันนานแล้ว เธอย้ายบ้านเมื่อหลายปีก่อน และรับรู้จากผู้ใหญ่ว่าเขาไปเรียนต่อต่างประเทศ เขากลับมาอยู่ที่นี่ตอนไหน เธอไม่เห็นรู้เลย
“เป็นยังไงบ้างครับน้องดา” เขารีบดึงแขนเธอขึ้นมา เธอใช้มือปัดก้นตัวเองไปมา ใบหน้าเหยเก
“เจ็บไหมครับ”
“ไม่เป็นไรค่ะ ไม่เจ็บเท่าไหร่” เธอตอบเสียงเบา มองพี่ธีผู้แสนน่ารัก แล้วแอบเขินก่อนจะก้มงุดเล็กน้อย
คู่หมั้นของเธอร่างสูงเพรียวแข็งแรง หุ่นเซ็กซี่ยิ่งกว่านายแบบเสียอีก ในขณะที่เธออ้วนเป็นหมู!!!
“วิ่งหนีอะไรมาครับ แล้วร้องไห้ทำไม” เขาเดินเข้าใกล้ เช็ดน้ำตาให้อย่างอ่อนโยน
“ธิดาโดนล้อว่าอ้วนค่ะ” คนตอบก้มหน้าก้มตา ก่อนจะน้ำตาซึมหนักกว่าเดิม
“คิดมากอีกแล้วล่ะสิ” เขาโยกศีรษะของเธอไปมา ก่อนจะเช็ดน้ำตาให้เบาๆ ธิดามองเขาอย่างซาบซึ้งใจ
ในสมัยก่อนธีรภัทรเป็นหนุ่มเนื้อหอมที่สาวๆ ชอบกันทั้งหมู่บ้าน เธอยังนึกแปลกใจที่เขายอมหมั้นหมายกับเด็กน้อยแบบเธอ ถึงตอนนั้นเธอไม่ได้อ้วนแบบนี้ แต่ก็ยังเด็กนัก
แม้ตอนเด็กจะไม่ได้อ้วนแต่ก็อวบระยะสุดท้ายมาตลอด ไม่เคยผอมกับใครเขาเลย เธอพยายามลดน้ำหนักหลายรอบแล้ว แต่ลดได้นิดเดียวก็พุ่งขึ้นมาอีก ถามว่าท้อแท้ไหมกับความอ้วนของตัวเอง ก็ท้อแท้นะ อยากจะทำใจยอมรับกับความอ้วน แต่อีกใจก็อยากผอมอีกนิด ไม่ต้องหุ่นเพรียวเหมือนนางแบบอะไรหรอก แต่อยากรักษามาตรฐานน้ำหนักเอาไว้ มันใส่เสื้อผ้าแล้วสวยไง แถมยังดูดีอีกด้วย
“อย่าคิดมากครับ เอาคำพูดของคนอื่นมาเป็นแรงผลักดันดีกว่าครับ”
“น้องดาลดน้ำหนักมาตลอดเลยนะคะ ตอนนี้พยายามกินผักต้ม ไม่กินของมันของทอด ไม่กินข้าวเย็นแต่ก็ไม่เห็นลดเลย ลดได้นิดหนึ่งก็กลับไปกินอีก แถมยังอ้วนกว่าเดิมเสียด้วย” คนพูดทำหน้าเครียด ทำท่าจะร้องไห้อีกรอบ
“ความพยายามอยู่ที่ไหนความสำเร็จอยู่ที่นั่นครับ”
“น้องดาท้อจังเลยค่ะ ลดน้ำหนักทำไมมันยากเย็นแบบนี้นะ” ลดน้ำหนักยากจริงๆ นะ ใครไม่เป็นเธอไม่รู้หรอก อิจฉาพวกที่กินเท่าไหร่ก็ไม่อ้วนจังเลย
“พี่ช่วยเอาไหมครับ”
“พี่ธีจะช่วยน้องดาลดน้ำหนักเหรอคะ”
“ครับ แต่มีข้อแม้”
“ข้อแม้อะไรคะ”
“ไปคุยกันที่บ้านพี่ไหม จะได้คุยรายละเอียดกัน”
“ค่ะๆๆๆ ไปค่ะ” เธอพยักหน้าตามเขากลับบ้าน
“ดื่มน้ำเย็นๆ ให้ชื่นใจก่อนครับ” เขายกน้ำเย็นๆ กับขนมมาให้เธอ ธิดายกน้ำขึ้นดื่มแก้กระหาย มือเอื้อมไปทำท่าจะหยิบขนมเข้าปาก ก่อนจะชะงัก รีบวางลงไปในจานเหมือนเดิม
“ทำไมไม่กินล่ะครับ”
“น้องดากำลังลดน้ำหนักอยู่ค่ะ จะกินได้ยังไงล่ะคะ”
“กินเถอะครับ เดี๋ยวค่อยลด”
“คิดแบบนี้ยังไงล่ะคะ ค่อยลดๆ ถึงได้อ้วนไง”