บท
ตั้งค่า

2 : ผมดื้อ

หลังทานมื้อเช้าเสร็จ ณิการ์ก็ขึ้นมาอาบน้ำแต่งตัว เธอเลือกใส่ชุดเดรสชีฟองลายลูกไม้สีหวานเหมาะกับเธอ พอแต่งตัวเสร็จก็ออกจากห้องมาเจอกับกันต์ที่ยืนรออยู่หน้าประตูห้อง

“วันนี้พี่ว่าง พี่จะออกไปกับหนูณิ” กันต์เอ่ยพร้อมฉวยโอกาสคว้ามือเล็กมากุมดึงเดินตามตน

ณิการ์ใจสั่นรัวกับความใกล้ชิดสนิทสนม กันต์ในวันนี้ไม่เหมือนกันต์ที่เธอรู้จักเมื่อครั้งยังเด็ก มือน้อยพยายามดึงออกจากมือสากกร้าน แต่ก็ไม่ได้ผล

“คือณิจะไปกับเพื่อนนะคะคุณกันต์”

“ก็พี่ไม่มีเพื่อนนี่ ให้พี่ไปด้วยนะ ถือว่าพาพี่เที่ยวก็แล้วกัน”

“แต่ณิจะไปดูหนังนะคะ”

“พี่ดูหนังกับหนูณิและเพื่อนได้”

“คือ...”

“หนูณิไปกับเพื่อนไม่ใช่กับแฟนสักหน่อย ทำไมให้พี่ไปด้วยไม่ได้” กันต์เอ่ยแทรกก่อนสาวน้อยจะพูดจบ

“แต่คุณกันต์ไปกับเราจะเบื่อได้นะคะ”

“อย่าเพิ่งคิดแทนพี่สิ ไปก่อนแล้วค่อยพูด เดี๋ยววันนี้พี่ขับรถเอง หนูณิทำหน้าที่บอกทางแล้วกัน”

เขาดึงลากสาวน้อยเดินลงบันได วันนี้ยอมรับณิการ์แต่งตัวถูกใจเขามาก น่ารักสมวัยและที่สำคัญเขาไม่อยากให้ใครเห็นเด็กน้อยของเขาเลยเวลานี้ อยากเก็บขังไว้ดูคนเดียวที่บ้าน

“ตากันต์จะพาน้องไปไหน”

นงลักษณ์ที่เดินออกมาจากห้องนั่งเล่นเห็นลูกชายเดินจับมือลากณิการ์เดินลงบันได

“วันนี้หนูณิมีนัดดูหนังกับเพื่อน ผมเลยอาสาไปเป็นเพื่อนครับ”

กันต์ตอบแม่และจับมือน้อยแน่นไม่ยอมปล่อย แม้ว่าณิการ์จะพยายามดึงมือออกจากมือของตนก็ตาม

“ไปกับน้องทำไมตากันต์ น้องไปกับเพื่อนของน้อง เราน่ะแก่แล้วจะไปเป็นภาระของเด็กเปล่าๆ”

“ผมแก่ตรงไหนแม่ อีกอย่างผมก็ไม่มีเพื่อนเดินซื้อของด้วยเลยว่าจะให้หนูณิช่วยซื้อของใช้ส่วนตัวด้วยวันนี้”

“อ้อ...จำได้ใช่ไหมที่แม่พูดกับเราเมื่อวานตากันต์ ว่า ‘ห้าม’ เข้าใจไหม” นางจ้องตาที่เป็นประกายของลูกชาย

“ยิ่งแม่ห้ามผมเท่าไหร่ ผมก็ยิ่งดื้อ”

“เด็กดื้อน่ะน่ารัก แต่คนแก่อย่างลูกดื้อมันไม่น่ารักหรอกนะตากันต์ ถ้าดื้อจะไปกับน้องก็ไปเถอะ หนูณิดูแลตัวเองด้วยนะลูก และไม่ต้องซื้ออะไรมาฝากป้านะ” นางบอกหญิงสาว เพราะไปข้างนอกทีไรหอบข้าวของมาฝากนางทุกทีเวลากลับบ้าน

“ค่ะป้านง ณิไปก่อนนะคะ” แล้วเธอก็ดึงมือออกจากมือใหญ่สำเร็จมายกไหว้ท่านก่อนจากไป

“ดูแลตัวเองด้วยนะลูก” นางอยากบอกว่า ‘ระวังคนแก่ที่ไปด้วยด้วยนะลูก’ แต่ก็เลือกที่จะไม่พูด นางมองสายตาลูกชายออกว่าคิดไม่ซื่อกับเด็กน้อยของตนแน่นอน

ณิการ์ยิ้มหวานแล้วเดินออกไปก่อนกันต์

“ไปนะครับแม่”

“อย่าแม้แต่จะคิดเชียวตากันต์ กับคนอื่นน่ะได้ แต่กับหนูณิ แม่ขอไว้เถอะ”

“แม่ไม่คิดว่าผมจะดูแลหนูณิของแม่ได้ดีเหรอครับ”

“แม่ไม่อยากให้หนูณิต้องเป็นเหมือนแม่ ลูกเองก็เห็นแล้วไม่ใช่เหรอว่าชีวิตของพ่อกับแม่เป็นยังไง”

“ไม่เหมือนกันแน่นอน เพราะผมไม่ใช่พ่อ ไปนะครับแม่”

“ระวังตัวด้วยนะลูก”

“ครับแม่” แล้วกันต์ก็เดินตามคนตัวเล็กที่เดินไปก่อนตน

เฮ้อ!

“หนูณิ ป้าจะปกป้องหนูจากไอ้มาเฟียของป้าได้ยังไงกันฮึ มาเฟียจ้องเขมือบขนาดนี้แล้ว” นางส่ายหน้าพึมพำแล้วก็เดินไปยังห้องครัวไปดูว่าแจงเตรียมวัตถุดิบทำขนมเสร็จรึยัง วันนี้นางจะทำสังขยาฟักทอง

ณิการ์มาถึงหน้าโรงหนังที่นัดกันกับเพื่อน พอมาถึงก็เห็นปกป้องยืนรออยู่หน้าโรงหนัง ก่อนหน้านี้เธอได้โทรบอกปกป้องแล้วว่ามีคนมาด้วยหนึ่งคนให้ซื้อตั๋วหนังเพิ่มอีกหนึ่งใบ เธอจะจ่ายเงินให้

“สวัสดีครับ ผมปกป้อง เพื่อนของณิครับ” ปกป้องยกมือไหว้ผู้ใหญ่อย่างมีมารยาท

กันต์มองดูเด็กหนุ่มที่ยกมือไหว้ตนแล้วพยักหน้ารับไหว้ด้วยสีหน้าเย็นชาไร้อารมณ์ ทำเอาหนุ่มน้อยขนลุกชันไปทั้งกายทำตัวไม่ถูกเดินมากระซิบข้างหูณิการ์ให้ได้ยินกันสองคน แต่หารู้ไม่ว่ามาเฟียโฉดนั้นได้ยินทุกคำพูดชัดเจน

‘ณิ ทำไมพี่ชายของณิน่ากลัวมาก’

‘เราเองก็กลัว คุณกันต์เขาเพิ่งมาจากต่างประเทศน่ะ’

‘พี่เขาเป็นลูกครึ่งเหรอณิ’

“ใช่ ลูกครึ่งผิวสี’

‘หล่อมาก แบบนี้สาวเยอะแน่นอน’ ปกป้องชม

‘คงงั้นแหละปกป้อง’

‘สายตาพี่เขาน่ากลัวมาก เหมือนจะฆ่าปาดคอเราเลย’ ปกป้องเอ่ยเมื่อสบตาสีเข้มของชายร่างใหญ่ที่มากับเพื่อน

‘เขาเป็นแบบนั้นแหละ ว่าแต่ได้เวลาเข้าโรงหนังยัง’

“อีกสิบนาที’

‘งั้นเข้าโรงกันเถอะ’

กันต์มองสองคนคุยกระซิบกระซาบกันแล้วก็ขัดหูขัดตา แต่ก็สงบจิตใจให้นิ่งไว้เพื่อฟังว่าทั้งสองคุยอะไรกันถึงตน และเขาก็ได้แต่ยิ้มหัวเราะเด็กทั้งสองในใจ

“คุณกันต์เข้าโรงหนังกันเถอะค่ะ ดูหนังจบเดี๋ยวณิพาไปซื้อของค่ะ”

“ไปกันครับพี่” ปกป้องเอ่ยบ้าง

กันต์ไม่ตอบ แต่ฉวยโอกาสจับข้อมือเล็กแล้วพาเดินตรงไปทางเข้าโรงหนัง ส่วนปกป้องก็รีบวิ่งไปก่อนเพื่อเอาตั๋วให้พนักงานตรวจ พอเข้ามาในโรงหนัง กันต์นั่งคั่นกลางระหว่างณิการ์กับปกป้อง ไม่ยอมให้ทั้งสองนั่งใกล้กัน

สองชั่วโมงกว่าหนังจบ ทั้งสามออกมาจากโรงหนังพร้อมกัน กันต์ไม่ได้ดูเลยสักนิด เพราะเอาแต่มองหน้าของกวางน้อยของตนเอง พอออกมาก็จับมือน้อยกุมไว้ไม่ให้ห่างตน

ปกป้องอยากคุยเรื่องส่วนตัวของตนกับณิการ์ก็ไม่ได้คุย เพราะมีสายตาอำมหิตจ้องมองตลอดและติดตามเป็นเงาของณิการ์

“ณิ เราคุยกันสองคนได้ไหม ให้พี่ณิไปรอตรงนั้นก่อน” ปกป้องเอ่ย

ณิการ์แหงนเงยมองหน้าคนตัวสูงข้างตนแล้วก็ก้มมองมือตัวเองที่เขากำแน่นแล้วก็เอ่ยขอ แม้จะกลัวแต่ก็ต้องพูด เพราะวันนี้ต้องพูดกับปกป้องให้ชัดเจนกันไป

“คุณกันต์คะ”

“ว่าไงหนูณิ” เขารู้ว่าณิการ์จะพูดอะไร แต่ก็แสร้งพูดถามออกไปด้วยน้ำเสียงหวานอ่อนโยนปนยิ้ม แต่กับปกป้องมีแต่เสียงแข็งห้วนและหน้าบูดบึ้งใส่

“ณิอยากคุยกับปกป้องค่ะ”

“ก็คุยสิ”

“คือ...คุณกันต์ไปรอตรงนั้นก่อนได้ไหมคะ ณิอยากคุยกับปกป้องสองคนค่ะ”

“อ้อ...ได้สิ” เขายอมปล่อยมือเล็กให้เป็นอิสระ

“ผมขอคุยกับณิไม่นานครับพี่กันต์”

“ห้านาที ถ้าเกินห้านาทีคุยไม่จบก็คือจบ” น้ำเสียงเข้มและสายตาดุดันจ้องจนปกป้องสั่นกลัว

“ครับ พี่กันต์” ปกป้องรับปากเสียงสั่น

“พี่ไปนะหนูณิ” ก่อนไปก็แตะไหล่เล็กของสาวน้อยก่อนพร้อมคำพูดอ่อนโยน

“ลูกชายของป้าณิน่ากลัว เหมือนเคยเห็นข่าวของเขา” ปกป้องเอ่ยเมื่อเหลือกันกับเพื่อนสองคน

“ไม่ต้องเหมือนเคยเห็นข่าวหรอก คุณกันต์เขาเป็นนักธุรกิจน่ะ เป็นเจ้าของธุรกิจสีเทา เป็นมาเฟีย”

“ถึงว่าน่ากลัว เดี๋ยวต้องไปค้นดูซะแล้วตอนกลับบ้าน มาเรื่องของเรากันเถอะ ห้านาทีเอง พี่เขาให้เวลาเรา”

“ปกป้อง ณิขอโทษนะ ณิไม่อยากเสียเพื่อนดีๆ อย่างปกป้อง เราเป็นเพื่อนกันจะดีกว่าณิว่า”

ใจของหนุ่มน้อยแตกสลายไปทันทีเมื่อได้ยินคำปฏิเสธจากปากของคนที่ตนแอบรักมาตลอดหลายปี

“ณิทำไมไม่ลองให้โอกาสเราบ้าง ลองคบกันก่อนค่อยตัดสินใจ”

“อย่าดีกว่าปกป้อง ณิกลัวว่าลองคบกันแล้วไปกันไม่รอด เราจะกลับมาเป็นเพื่อนกันไม่ได้อีก”

“งั้นก็แล้วแต่ณิเถอะ ยังไงเราก็ยังชอบณินะ”

“ไปเรียนมหา’ลัย ปกป้องอาจจะเจอคนใหม่ก็ได้”

“แต่ตอนนี้...”

ปกป้องยังพูดไม่ทันจบ เสียงเข้มห้วนก็ดังแทรกมาพร้อมเดินมาจับมือของณิการ์

“ห้านาทีแล้ว”

ห้านาทีเร็วมาก คุยกันยังไม่รู้เรื่องเลย

“แต่ณิยังคุยกับปกป้องไม่เสร็จเลยนะคะ”

“พี่ต้องไปซื้อของนะหนูณิ” กันต์ก้มหน้าเอ่ยกับคนตัวเล็ก

“ไปกับพี่กันต์เถอะณิ ปกป้องเข้าใจแล้ว วันนี้ณิไม่ตกลง แต่เราไม่ยอมแพ้แน่นอน ผมลานะครับพี่กันต์” แล้วปกป้องก็ยกมือไหว้ลากันต์ เดินคอตกจากไป

“คุณกันต์ปล่อยมือณิได้ไหมคะ”

“พี่กลัวหนูณิหลงทาง”

“ณิมาที่นี่บ่อยไม่หลงหรอกค่ะ คุณกันต์ปล่อยเถอะค่ะ มันไม่เหมาะสม ตั้งแต่อยู่บ้านแล้ว”

“แต่พี่กลัวพี่หลงกับหนูณิ ไปเถอะ พี่จะซื้อของให้หนูณิ อยากได้อะไรวันนี้พี่จะเปย์ให้เอง กระเป๋า รองเท้า นาฬิกา เครื่องสำอาง เสื้อผ้า หรืออื่นๆ แล้วแต่หนูณิอยากได้”

เขาไม่ยอมปล่อยมือเล็ก แต่จับแน่นกว่าเดิมแล้วดึงลากเดินไปทางร้านเสื้อผ้า

“ณิไม่ต้องการของพวกนั้นหรอกค่ะ ณิไม่ได้ไปไหน อีกอย่างณิก็เพิ่งสิบแปดปีเอง ของพวกนั้นไม่จำเป็นค่ะ คุณกันต์เถอะบอกจะซื้อของ อยากได้อะไรคะ เดี๋ยวณิพาไปค่ะ เพราะณิรู้ว่าอะไร อยู่ตรงไหน ชั้นไหนของห้างนี้ค่ะ”

“อยากได้ถุงยาง” เขาตอบสั้นๆ และเป็นคำตอบที่ทำให้สองแก้มน้อยแดงระเรื่อเขินอาย

“คะ...คืออันนี้ณิไม่รู้ว่าอยู่ตรงไหนค่ะ”

“งั้นก็สั่งซื้อเอาก็ได้ เดี๋ยวคนของพี่ก็จะตามมาจากเม็กซิโกแล้วให้มันจัดการได้ แต่ตอนนี้ก็จะเที่ยงกว่าแล้ว ไปหาอะไรกินกันเถอะ หนูณิชอบอาหารไทยหรืออาหารฝรั่ง”

“ณิอะไรก็ได้ค่ะ แล้วแต่คุณกันต์เลยค่ะ”

“ถ้าแล้วแต่พี่ ตอนนี้พี่ก็อยากกินหนูณิ”

เขากลัวกวางน้อยจะตื่นตกใจ แต่ก็อดไม่ได้ที่จะไม่พูดความปรารถนาของตนเองออกมาแบบนี้

“คะ...คุณกันต์ไม่พูดเล่นแบบนี้สิคะ”

“ถ้าฉันพูดจริงล่ะหนูณิ”

ณิการ์เม้มปากแน่นไม่พูดตอบ เธอเอาแต่ก้มหน้าซ่อนความอายเดินตามแรงจูงของมาเฟียร้าย

หึ!

เขาแค่นขำเอ็นดูท่าทางเด็กน้อยแล้วจูงมือเล็กลากมาร้านอาหารไทย สำหรับเขาแล้วความชอบของน้องน้อยมาก่อนตัวเขาเสมอ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel