บท
ตั้งค่า

1 : ของของเราก็ต้องเป็นของของเรา

คุณเชื่อคำว่า “ของของเรา ยังไงซะก็ต้องเป็นของเราอยู่วันยังค่ำ” แต่สำหรับคนอย่างนายกันต์ จอร์น พันล้าน วัย 37 ปี ทายาทคนเดียวของเจ้าพ่อค้าอาวุธข้ามชาติที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก แน่นอนว่าผมเป็นลูกครึ่งผิวสี แม่เป็นไทย พ่อเป็นคนผิวสี ได้รับช่วงต่อธุรกิจมาจากพ่อที่ถูกคู่แข่งลอบสังหาร ผมจึงตกมาอยู่ในตำแหน่งนายใหญ่ของ “The king” เพราะความจำเป็นที่เลี่ยงไม่ได้จึงต้องมากุมบังเหียนอาณาจักรอันยิ่งใหญ่ของพ่อ แม้ว่าท่านกับแม่จะเลิกรากัน แต่ท่านทั้งสองก็ยังคงติดต่อกัน เพราะมีผมเป็นตัวเชื่อมระหว่างพวกท่านทั้งสอง ที่แม่กับพ่อต้องเลิกรากัน เพราะแม่ทนอยู่กับมาเฟียโหดเหี้ยมอย่างพ่อไม่ไหว ก็ท่านเล่นตัวอาบโชกไปด้วยเลือดกลับบ้านทุกวัน และตอนนี้ลูกชายคนเดียวอย่างผมก็กำลังเจริญตามรอยของพ่อผู้ใหญ่กำเนิด แม้ตอนเด็กจะไม่ชอบธุรกิจของท่าน แต่เพราะความจำเป็นถึงต้องมาอยู่จุดนี้ ในคราแรกทุกคนไม่ยอมรับในตัวของผม แต่เพียงเวลาแค่หนึ่งปี กันต์ก็พิสูจน์ให้ทุกคนรู้และเห็นว่าตัวเขาเองก็เหี้ยมโหดไม่แพ้บิดาผู้ให้กำเนิด เลือดของท่านไหลเวียนในกายผม และผมก็คือตัวแทนของท่านนั่นเอง แม้ว่าจะเป็นเลือดผสมก็ตาม

ไม่มีคำพูดไหนแสดงได้ดีกว่าการกระทำ และตอนนี้เขาก็เชื่อการกระทำของตัวเองมากกว่าคำพูดของคนโบราณที่ชอบพูดกัน ปีนี้เขาได้มาพักผ่อนที่เมืองไทย จากที่ไม่ได้เจอแม่มาเกือบปีตั้งแต่รับตำแหน่งนายใหญ่ของ ‘The king’ ยอมรับว่าที่ผ่านมาทำงานหนักมากเพื่อให้ลูกน้องและลูกค้าเก่าของพ่อยอมรับและเชื่อมั่นในตัวเอง และก็เฉียดตายมาหลายรอบด้วยเช่นกัน บัดนี้ร่างกายของเขาเต็มไปด้วยแผลเป็นจากกระสุน มีด และอาวุธสงครามอย่างอื่น แม้มันจะอานุภาพร้ายแรง แต่มันก็ไม่สามารถปลิดชีวิตของผมได้

เผียะ!

นางนงลักษณ์ตวัดมือเหี่ยวย่นฟาดแก้มซ้ายของลูกชายทันทีเมื่อเจอหน้า

กันต์หน้าหันไปตามแรงตบ เขาทำได้แค่กัดกรามแน่นเพื่อเกร็งหน้าเมื่อท่านง้างมือขึ้นสูงจะตบตนเองอีกครั้ง

“ป้านงคะ”

มือน้อยคว้าจับมือเหี่ยวย่นรั้งไว้พร้อมกับกุมมือท่านแน่นให้ผ่อนคลายอารมณ์โกรธ

“นึกว่าจะเป็นศพกลับมาให้แม่เห็นซะแล้วตากันต์ รู้ไหมว่าที่ผ่านมาแม่โกรธและโมโหลูกแค่ไหนที่เอาตัวเองไปเสี่ยงอันตรายแบบนั้น” นางนงลักษณ์เสียงสั่นเครือพร้อมทุบตีอกลูกชายด้วยความน้อยใจ

กันต์รู้ว่าท่านเป็นห่วงตนถึงทำแบบนี้

“กันต์ก็กลับมาปลอดภัยแล้วไงครับแม่”

“ถ้าไม่ปลอดภัยล่ะ ลูกจะทำยังไง และครั้งล่าสุดตอนที่แม่รู้ว่าลูกโดนยิงสาหัส นอนซมสองอาทิตย์ รู้ไหมแม่แทบใจวายตาย ทำไมต้องให้แม่รู้หลังจากที่หายดีทุกครั้ง”

“ถ้าผมบอกแม่ตอนสาหัส แม่ก็ใจวายน่ะสิ ไม่โกรธไม่งอนนะคนดีของกันต์”

แล้วเขาก็โอบกอดท่านพาไปนั่งยังโซฟา แต่สายตากลับจดจ้องไปยังคนตัวเล็กที่อยู่ข้างแม่ตลอด ถ้าจำไม่ผิดคือเด็กที่แม่ของเขารับมาเลี้ยงสินะ เพียงแค่เวลาไม่กี่ปีณิการ์โตเป็นสาวเต็มวัยขนาดนี้เชียว แทบไม่อยากเชื่อว่านี่คือเด็กขี้มูกย้อย ฟันหลอที่ตนรู้จัก

สาวน้อยรู้สึกไม่คุ้นชินกับลูกของผู้มีพระคุณที่จดจ้องมองตนเสียเลยตอนนี้ มันแปลกและแตกต่างจากเมื่อครั้งยังเด็ก เขาไม่เคยมองแบบสำรวจเธอแบบนี้มาก่อน

“ป้านงคะ หนูขอตัวไปดูในครัวก่อนนะคะ” สาวน้อยต้านสายตาที่จ้องมองตนไม่ไหวจึงเอ่ยขึ้น

“ไปเถอะหนูณิ” นางบอกณิการ์ สาวน้อยที่ตนรับมาเลี้ยงดูตั้งแต่เด็ก

ณิการ์ลุกเดินก้มหน้าออกไปจากห้องนั่งเล่นเพื่อไปยังห้องครัว แต่สายตาของกันต์ยังคงมองตามไม่ยอมละสายตาจนคนเป็นแม่ต้องกระแอม

อะแฮ่ม!

“กลืนกินน้องไปทั้งตัวเลยไหมตากันต์” นางอ่านสายตาและความคิดของพ่อมาเฟียตัวดีของตนเองออก

“หึหึ...อายุเท่าไหร่แล้วครับแม่ เสิร์ฟขึ้นเตียงผมได้รึยัง”

ไม่มีใครอ่านความคิดของเขาได้และเข้าใจเขาได้เท่าแม่ของเขาอีกแล้ว

“ดูพูดเข้า อย่าให้ร่างกายน้องแปดเปื้อนตัวเสนียดอย่างลูกจะดีกว่านะตากันต์”

“นี่แม่เป็นแม่ของผมจริงไหมเนี่ย ทำไมไม่เข้าข้างลูกชายตัวเอง ผมออกจะหล่อดำเข้มขนาดนี้ รู้ไหมสาวๆ ทั่วโลกต่างอยากขึ้นเตียงกับผม”

“ลูกมีเงินน่ะสิ ผู้หญิงพวกนั้นถึงอยากขึ้นเตียงกับลูก กับผู้หญิงคนอื่นน่ะได้ แต่กับหนูณิ อย่าแม้แต่จะคิดเชียว แม่อยากให้หนูณิเจอผู้ชายดีๆ นี่ก็เพิ่งจบมอหก รอมหา’ลัยเปิด ยังต้องเจอคนอีกเยอะ”

“ทำไมแม่ไม่เข้าข้างลูกชายตัวเองบ้างและสนับสนุนลูกตัวเอง”

“กับใครก็ได้ แต่ต้องไม่ใช่หนูณิ น้องยังเด็ก อีกอย่างลูกน่ะแก่แล้วนะตากันต์ อีกสามปีก็สี่สิบแล้ว อายุห่างกันตั้งรอบ”

“แต่ลูกชายแม่แข็งแรงนะครับ”

“ไปแข็งแรงกับคนนอกบ้าน อย่ามาแข็งแรงกับเด็กในบ้าน ว่าแต่อยากกินอะไรวันนี้ แม่จะเข้าครัวทำให้” นางบอกลูกชายอย่างรู้ทัน

“แม่ไม่ได้เลี้ยงไว้ให้ผมหรอกเหรอ นึกว่าโตขึ้นจะประเคนใส่พานให้ผมเสียอีก”

“อย่ามาพูดเล่นกับแม่ตากันต์”

“ครับ อะไรก็ได้ แม่ทำให้กันต์ก็กินหมดนั่นแหละ อีกอย่างคิดถึงฝีมือแม่มาก ไม่ได้กินตั้งนาน”

“คิดถึงแล้วทำไมไม่ยอมกลับมาหาแม่บ่อยๆ ไม่รู้ไปรับช่วงธุรกิจบ้าๆ นั่นของไอ้พ่อชั่วของลูกทำไมกัน”

“พ่อก็ตายไปแล้ว อย่าไปดึงมาด่าสิครับ คงตกนรกอยู่ ไม่ว่างมาฟังแม่บ่นให้หรอกครับ” กันต์ตอบกลับ

“เดี๋ยวแม่ไปทำอะไรให้ทาน ไม่พูดถึงพ่อเลวๆ ของลูกแล้ว พูดทีไรแม่โมโหทุกที”

“ครับผม” กันต์รู้ดีว่าในใจของแม่น่ะมีพ่อตลอด แม้ว่าจะไม่ได้อยู่ด้วยกัน

ตื๊ด! ตื๊ด! ตื๊ด!

พอแม่ลุกเดินจากไป เสียงสั่นเตือนโทรศัพท์ของเขาก็ดังแจ้งเตือนจนต้องรีบล้วงโทรศัพท์ออกจากกระเป๋ากางเกงออกมากดรับสาย

“ว่าไงมาร์ก” เสียงเข้มห้าวกรอกส่งไปในสาย

“ตอนนี้พวกไอ้โอดินมันกำลังเคลื่อนไหวครับนาย” มาร์กเอ่ยตอบกลับมา

“ดี นายกับชอนจัดการตามเหมาะสมได้เลย จัดการทุกอย่างเสร็จแล้วให้ชอนมาอยู่กับฉันที่ไทย ส่วนนายก็จัดการงานที่เดอะคิงค์รอฉัน และอย่าให้พวกศัตรูรู้ว่าฉันกลับเมืองไทยมาหาแม่ อ้อ...ส่งคนของเรามาเฝ้าบ้านฉันอย่างลับๆ ด้วย” ที่ห่วงที่สุดคือแม่ในตอนนี้ เขาไม่อยากให้พวกสารเลวนั่นเข้ามาวุ่นวายปั่นป่วนการใช้ชีวิตของท่าน

“ครับนาย”

“ฉันจะฆ่าแกไอ้โอดิน” พอกดวางสายจากคนสนิทแล้วก็พึมพำกับตนเองอย่างหมายมาด ที่เขาได้รับบาดเจ็บก็เพราะโอดินลอบกัดและเขาก็แน่ใจว่ามันเป็นคนลอบฆ่าพ่อของเขาเช่นกัน เพราะหลายครั้งที่มันส่งลูกน้องมาปลิดชีวิตเขา แต่ลูกน้องของมันก็เป็นศพทุกคนที่ส่งมา

นงลักษณ์เข้ามาในครัวมาดูว่าณิการ์ทำอะไรอยู่ พอเห็นว่ากำลังทำกล้วยบวชชีนางก็ยิ้ม แล้วเดินไปเปิดตู้เย็นแล้วสั่งเด็กเตรียมของให้ตนจะทำกับข้าวให้ลูกชายจอมโฉดทาน นานแล้วที่ไม่ได้ทานฝีมือนาง นางเลยอยากเอาใจลูกชายที่ไม่ได้เจอหน้ากันนาน

“ป้านงจะทำอะไรให้คุณกันต์คะ”

“ป้าว่าจะทำหมูหวานให้พี่เขาน่ะ พี่เขาชอบตอนเด็ก” นางบอกหลานสาว

“ให้ณิช่วยไหมคะ?”

“หนูณิทำของหนูณิไปเถอะ ป้าให้แจงเตรียมของให้ป้าได้”

“มีอะไรให้หนูช่วยบอกนะคะ”

“จ้ะลูก หนูทำกล้วยบวชชีเถอะ กล้วยบวชชีก็เป็นเมนูโปรดของพี่เขาเหมือนกัน”

สาวน้อยยิ้มน้อยๆ ไม่ตอบกลับ จริงๆ แล้วเธอตั้งใจทำให้ลูกชายผู้มีพระคุณนั่นแหละ เธอจำได้ทุกอย่างที่เป็นเขาและจำได้ว่าเขาชอบอะไร ไม่ชอบอะไร

ตกดึกกันต์เดินสำรวจรอบบ้านแล้วมานั่งพักศาลาในสวนดอกไม้ของแม่ตน แม้ว่าจะดึกมากแล้ว แต่คืนนี้พระจันทร์เต็มดวงจึงทำให้ฟ้าไม่มืดอย่างเคย เขาล้วงบุหรี่และไฟแช็กออกมาจากกระเป๋ากางเกงตนเองแล้วก็ต่อบุหรี่ดูด

อ่า!

เมื่อพ่นควันบุหรี่ออกมาจากปากแล้วลุกเดินล้วงกระเป๋ากางเกงมาแหงนเงยมองท้องฟ้า

แก๊ก!

“ใคร!” ความเงียบของกลางดึกและเขาชินกับการเฝ้าระวังตัวมาตลอด ได้ยินเสียงกิ่งไม้หักก็ถามออกไปทันที

“คะ...คือณิเองค่ะคุณกันต์”

เสียงเล็กสั่นกลัวพร้อมเดินโผล่ออกมาจากมุมที่หลบอยู่

“หนูณิเหรอ” แม่เขาพาเรียก เขาจึงเรียกเธอแบบนี้ และจริงๆ เมื่อก่อนเขาก็เรียกณิการ์เช่นนี้เหมือนกัน

“ค่ะ คุณกันต์”

“มาทำอะไรดึกๆ ฮึ”

“คือณินอนไม่หลับค่ะคุณกันต์”

“ดีเลย มาคุยเป็นเพื่อนพี่ในศาลาหน่อยสิ” เขากวักมือเรียกคนตัวเล็กที่เอาแต่ยืนก้มหน้าอยู่นอกศาลา

“ค่ะ” แล้วเธอก็เดินเข้ามาในศาลาพร้อมกับยกมือปิดจมูก

กันต์เห็นสาวน้อยปิดจมูกก็รู้ทันทีว่าเธอไม่ชอบกลิ่นบุหรี่ เขาจึงทิ้งมันลงพื้นแล้วเอาเท้าขยี้จนไฟที่บุหรี่มอดดับ

“ขอโทษ” มาเฟียหนุ่มเอ่ยขอโทษ กับคนตัวเล็กคนนี้ เขาอ่อนโยนคือคนแสนดีต่างจากอยู่กับคนอื่น และเขาไม่ปรารถนาให้ณิการ์เห็นมุมโหดเหี้ยมของเขา

“ไม่เป็นไรค่ะคุณกันต์” เธอรู้ว่าเขาขอโทษเรื่องบุหรี่ เพราะเขาทิ้งบุหรี่ที่ดูดทันทีที่เธอเดินเข้ามาในศาลา

“ทำไมถึงเรียกห่างเหินแบบนี้ พี่จำได้เมื่อก่อนหนูณิไม่เคยเรียกพี่แบบนี้นี่” กันต์เดินมานั่งข้างคนที่นั่งลง แม่บอกไม่ให้ยุ่งกับณิการ์ แต่เขาจะยุ่งซะอย่าง ก็นี่คือของของเขาตั้งแต่ที่เธอย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านหลังนี้แล้ว

ณิการ์ขยับถอยห่างเมื่อถูกนั่งเบียด ไม่เข้าใจที่มีตั้งเยอะ ทำไมกันต์ถึงมานั่งข้างตนและเบียดอีก

ฮึ!

กันต์ขำในคอกับท่าทางไร้เดียงสา ขี้อายและหวาดกลัวของแม่กวางน้อยของตนแล้วก็เลิกแกล้ง ลุกไปนั่งฝั่งตรงข้ามเธอ

“บอกพี่หน่อยสิหนูณิว่าทำไมถึงทำตัวห่างเหินแบบนี้ เมื่อก่อนไม่ใช่แบบนี้ไม่ใช่เหรอ ว่าแต่ทำไมถึงนอนไม่หลับ”

“คือณิว่าณิเรียกคุณกันต์จะเหมาะกว่าค่ะ”

“งั้นก็ตามใจเถอะ แล้วแต่จะเรียก”

“แล้วทำไมถึงนอนไม่หลับ” เขาถามด้วยความอยากรู้

“พอดีเพื่อนชวนไปดูหนังค่ะพรุ่งนี้ ณิเลยนอนไม่หลับ”

“อ้อ...ตื่นเต้นจนนอนไม่หลับว่างั้น แล้วเพื่อนเนี่ยผู้ชายหรือผู้หญิง” เขาถามอย่างอยากรู้

“ผู้ชายค่ะ เขาขอณิเป็นแฟน แต่ณิยังไม่ได้ให้คำตอบเขา และกลัวว่าหลังดูหนังจบเขาจะถามเอาคำตอบค่ะ ณิเลยกังวล”

สาวน้อยตอบกลับอย่างใสซื่อ แต่คนฟังนั้นกลับเดือดร้อนในอกเมื่อรู้ว่ากวางน้อยของตนมีคนมาสนใจ แต่ก็ไม่แปลก เพราะณิการ์น่ารักจิ้มลิ้มขนาดนี้เป็นใครก็หมายปองแน่นอน

“อืม! พูดยากนะ แล้วหนูณิชอบเพื่อนคนนั้นไหมล่ะ” เขาหวังว่าคำตอบจะเป็นสิ่งที่เขาอยากได้ยิน แต่มันตรงกันข้าม

“ชอบค่ะ” สาวน้อยตอบสั้นๆ และทำเอามาเฟียโฉดเม้มปากแน่น

“ชอบ?”

“ก็เขาเป็นคนดี เราเรียนด้วยกันตั้งแต่เด็ก ณิเลยว่าถ้าจะเป็นแฟนกันก็ไม่แปลก แต่ณิก็กังวลค่ะ กลัวว่าจะไม่รอด”

“อยากฟังความเห็นของพี่ไหมหนูณิ” เขาถามอย่างใจเย็นทั้งๆ ที่อยากเห็นหน้าไอ้เด็กนั่นเหลือเกินว่ากล้าดียังไงคิดจะมาเป็นแฟนผู้หญิงของตน

“ค่ะ” สาวน้อยพยักหน้า

“ถ้าคบกัน หนูณิจะเสียเพื่อนได้นะ เชื่อพี่ พี่อาบน้ำร้อนมาก่อน เพื่อนกันไม่ควรคบกันเป็นแฟน”

“ใช่ไหมคะ”

“ใช่ หนูณิไม่อยากเสียเพื่อนที่ดีไปก็ไม่ควรตกลงคบรู้ไหม เวลาเลิกกันมาจะเกลียดกัน”

“นั่นแหละค่ะที่ณิกลัว ขอบคุณนะคะคุณกันต์”

“อือ...มีอะไรมาปรึกษาพี่ได้ โดยเฉพาะเรื่องผู้ชาย”

“ขอบคุณนะคะ ณิขอตัวไปนอนก่อนนะคะ ตอนนี้สบายใจขึ้นนิดหน่อยแล้วค่ะ”

“กู๊ดไนท์หนูณิ”

“ฝันดีค่ะคุณกันต์” สาวน้อยไร้เดียงสาลุกเดินออกจากศาลากลับเข้าบ้านไปนอนโดยไม่รู้เลยว่ามาเฟียร้ายนั้นคิดไม่ซื่อกับตน

“หึหึ...เด็กน้อยเหลือเกินหนูณิของพี่กันต์ หนูณิถูกเลี้ยงมาให้เป็นของพี่ไม่ใช่ของผู้ชายข้างนอกพวกนั้น รู้ไว้ซะ!” กันต์เอ่ยไล่หลังคนที่เดินจากไปไกลแล้วก็เดินออกจากศาลากลับเข้าบ้านไปนอนเช่นกัน

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel