บทที่ 4
เมื่อชีคอัลมัสสั่งว่าไม่ต้องอยู่ดูแลพระองค์ เพราะพระองค์มีองครักษ์คอยดูแลและต้องการความเป็นส่วนตัวในการเลี้ยงฉลองโสด พันธิสาจึงกลับเข้ามาในห้องทำงานซึ่งอยู่ด้านหลังผับ และให้แฟร์รี่รวมทั้งพนักงานในผับอีกหลายๆ คนคอยดูแลให้บริการเรื่องเครื่องดื่มกับท่านชีคอัลมัสและองครักษ์ของพระองค์
ขณะนั่งทำงานอยู่นั้น ภาพของใบหน้าคมเข้มติดบึ้งตึงรวมทั้งดวงตาคมกริบขององครักษ์ที่เธอยังไม่รู้จักชื่อเสียงเรียงนามก็ตามมาหลอกหลอนจนต้องวางปากกาลง เพราะถูกภาพขององครักษ์ผู้นั้นรบกวนจนไม่มีสมาธิทำงาน
“เป็นอะไรนี่ ทำไมนึกถึงแต่ใบหน้าขององครักษ์คนนั้น”
พันธิสาบ่นต่อว่าตัวเอง จากนั้นก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้ ตั้งใจจะชงกาแฟดื่มสักแก้ว แต่ไม่ทันได้ชงกาแฟ ก็มีอันต้องตกใจกับเสียงตะโกนเรียกร้องโวยวายของแฟร์รี่
“คุณใบเฟิร์น! คุณใบเฟิร์น! แย่แล้วค่ะ คุณตะวันตบหน้าท่านชีคอัลมัสค่ะ”
ถ้วยกาแฟที่ถืออยู่ในมือแทบร่วงตกลงพื้นตอนได้ยินคำโวยวายของแฟร์รี่ ที่วิ่งหน้าตาตื่นเข้ามาในห้องทำงานของเธอ และก็ถามซ้ำเสียงร้อนรนราวกับฟังไม่ชัด
“อะไรนะ! แฟร์รี่พูดใหม่สิ”
คนที่หน้าซีดยิ่งกว่ากระดาษขาว หน้าตาตื่นกลัว ละล่ำละลักบอกกับเจ้านายสาวอีกครั้งว่า “แฟร์รี่ไม่รู้ว่าคุณตะวันทะเลาะกับท่านชีคอัลมัสด้วยเรื่องอะไร แต่พอหันไปเห็นอีกทีก็ตอนที่คุณตะวันตบหน้าท่านชีคจนหน้าหันเลยค่ะ”
“โอ๊ยย...อกอีแป้นจะแตก!”
พันธิสายกมือทาบอกจะเป็นลมให้ได้กับสิ่งที่แฟร์รี่ละล่ำละลักเอ่ยบอก
ตะวัน หรืออาคิราเป็นเพื่อนสนิทของเธอ...เธอรู้ว่าอาคิราเดินทางมาเที่ยวภูเก็ตได้หลายวันแล้ว แต่ไม่คิดว่าอาคิราจะมาที่ผับของเธอในคืนวันนี้ เพราะอีกฝ่ายไม่ได้โทร. มาบอกล่วงหน้า อีกทั้งเธอให้พนักงานในผับปิดประกาศหน้าผับว่าวันนี้ปิดบริการหนึ่งวัน เพราะมีลูกค้าเหมาผับไว้ทั้งคืน ก็ไม่คิดว่าเพื่อนสาวจะเข้ามาดื่มในผับกระทั่งเกิดเรื่องขึ้น
“โอ๊ยยยย...ตะวันของฉัน ตบใครไม่ตบ ดันไปตบท่านชีคอัลมัส ป่านนี้ไม่ถูกท่านชีคหรือองครักษ์ของท่านชีคจับเชือดคอแล้วหรือนี่”
ขณะร้องโอดครวญ พันธิสาก็เดินเร็วๆ ออกจากห้องทำงาน ตั้งใจจะไปขอโทษท่านชีคอัลมัสและขอร้องพระองค์ไม่ให้ทำร้ายอาคิราเพื่อนของเธอ แต่พอเดินมาถึงบริเวณผับ ซึ่งตอนนี้นักดนตรีได้หยุดร้องเพลงแล้ว พนักงานเสิร์ฟหลายคนในร้านต่างก็ยืนรวมตัวกันอยู่ตรงมุมห้อง สีหน้าทุกคนหวาดกลัวกับเหตุการณ์ไม่คาดฝัน ต่างก็ตกใจระคนหวาดหวั่นว่าตัวเองจะถูกอาญาจากท่านชีคแห่งทะเลทรายหรือไม่
และเมื่อกวาดสายตามองหาอาคิราเพื่อนรักของตน รวมทั้งท่านชีคอัลมัสและเหล่าองครักษ์หน้ายักษ์ของพระองค์ ก็ไม่พบใครแม้แต่คนเดียว จึงเรียกพนักงานในร้านที่เห็นเหตุการณ์มาสอบสวนหาความจริง
“ใครเห็นเหตุการณ์ว่าเกิดอะไรขึ้น มาเล่าให้พี่ฟังหน่อย”
“อั้มค่ะ อั้มเห็นค่ะ”
พนักงานเสิร์ฟชื่ออั้มรีบเอ่ยบอก จากนั้นก็เดินมาหาเจ้านายสาว สีหน้ายังตื่นตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน ที่เพื่อนรักของเจ้านายบังอาจตบหน้าคนที่เป็นถึงเจ้าแผ่นดินแห่งทะเลทราย
“เล่ามาสิอั้ม”
พันธิสาบอกกับพนักงาน จากนั้นก็ทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้ราวกับหมดแรง รอฟังคำเล่าจากลูกน้อง
“อั้มกำลังชงบรั่นดี และก็ได้ยินเสียงท่านชีคกับคุณตะวันทะเลาะกัน พอจับใจความได้ว่า...ท่านชีคต่อว่าคุณตะวันว่าเป็นเด็กออฟ แล้วไม่ยอมมาบริการท่านชีค ท่านชีคก็เลยโกรธ ส่วนคุณตะวันก็บอกว่าเธอไม่ใช่ผู้หญิงอย่างว่า หลังจากนั้นก็อย่างที่ทุกคนเห็นค่ะ คุณตะวันตบ
หน้าท่านชีคจนหน้าหันเลยค่ะ”
“โอ๊ยยย...ใครก็ได้หายาดมมาให้พี่ที พี่จะเป็นลม”
พันธิสาร้องครวญ หน้าซีดไม่ต่างจากพนักงานในร้านหลังจากได้ยินคำบอกจากอั้ม จากนั้นก็เอ่ยถามต่อทั้งๆ ที่เป็นห่วงเพื่อนรักสุดกำลัง
“แล้วท่านชีคได้ทำร้ายคุณตะวันไหม”
“ไม่ค่ะ แต่คนที่เป็นองครักษ์ทำท่าจะกระโจนเข้าเล่นงานคุณตะวัน แต่ถูกท่านชีคห้ามไว้ หลังจากนั้นคุณตะวันก็วิ่งออกจากผับ พวกหนูมัวแต่กลัวกันว่าจะถูกองครักษ์ของท่านชีคเล่นงานด้วย ก็พากันหลบอยู่หลังโต๊ะ พอมองมาอีกทีก็ไม่เห็นทั้งท่านชีคและองครักษ์นับสิบของพระองค์ค่ะ”
“ขอพี่ดมยาดมก่อนนะ”
พันธิสาโอดครวญ สูดดมยาดมที่แฟร์รี่เอามายื่นให้เฮือกใหญ่ ก่อนจะหยิบโทรศัพท์
โทร.หาเพื่อนรัก ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าท่านชีคอัลมัสต้องโกรธจัดที่ถูกอาคิราตบหน้า และป่านนี้เพื่อนของเธอไม่ถูกบรรดาองครักษ์ตามไปเก็บแล้วหรือ
“พี่จะโทร.หาคุณตะวัน ไม่รู้ว่าป่านนี้เป็นยังไงบ้าง ปลอดภัยไหม กลับถึงโรงแรมหรือยัง โอ๊ยยย...ฉันอยากตาย ผับฉันจะถูกองครักษ์หน้ายักษ์ของท่านชีคมาถล่มจนเละไหมเนี่ย”
พันธิสาบ่นไม่หยุดปากขณะกดโทร.ออกและรอสัญญาณจากปลายทาง ในใจนั้นภาวนาให้อาคิราปลอดภัยจากอาญาของท่านชีคอัลมัส อีกทั้งภาวนาให้อาคิรารับโทรศัพท์ของเธอด้วย และก็แทบร้องด้วยความดีใจเมื่อเพื่อนรักกดรับสายของเธอ
“ตะวัน! เป็นอะไรบ้างไหม เด็กในร้านบอกใบเฟิร์นว่าตะวันตบหน้าท่านชีคและเกือบถูกองครักษ์ของพระองค์ทำร้าย”
“ตะวันไม่เป็นอะไรจ้ะ ตอนนี้กลับถึงโรงแรมแล้ว ขอบคุณใบเฟิร์นที่โทร.มาหานะ และตะวันขอโทษด้วยที่ก่อเรื่อง ถ้ายังไงตะวันจะชดใช้ค่าเสียหายให้นะ”
“เรื่องนั้นเรื่องเล็กจ้ะ ขอแค่รู้ว่าตะวันปลอดภัยดี ไม่ถูกองครักษ์ของท่านชีคทำร้าย ใบเฟิร์นก็โล่งอกแล้ว”
“จ้ะใบเฟิร์น ตะวันขอนอนก่อนนะ ปวดหัวมาก เดี๋ยวพรุ่งนี้ตะวันจะเลี้ยงข้าวเที่ยงใบเฟิร์นนะ”
“ได้จ้ะ ตะวันพักผ่อนเถอะ ล็อกห้องดีๆ นะ ถ้ามีเรื่องไม่ชอบมาพากลก็โทร.หาใบเฟิร์นได้ตลอด 24 ชั่วโมงจ้ะ”
“ขอบใจมากใบเฟิร์น”
พันธิสาพยักหน้ารับช้า ก่อนจะลดโทรศัพท์ลงและกดวางสายพร้อมกับบอกลูกน้องทุกคนที่เฝ้ารอฟังข่าวว่า
“คุณตะวันปลอดภัยจ้ะ ตอนนี้อยู่ในโรงแรมแล้ว”
“เฮ้อ...ค่อยยังชั่วหน่อย นึกว่าคุณตะวันจะถูกองครักษ์หน้าตาหน้ากลัวคนนั้นตามไปเก็บซะแล้วที่บังอาจตบหน้าท่านชีค” แฟร์รี่เอ่ยออกมาด้วยความโล่งอกไม่แพ้พนักงานคนอื่นๆ
“ทุกคนเก็บร้านเถอะ แล้วก็กลับไปพักผ่อน พี่ไม่หักค่าแรงของพวกเธอหรอก เพราะยังไงๆ ท่านชีคก็เหมาร้านและจ่ายเงินให้เรียบร้อยแล้ว ถือว่างานเลี้ยงเลิกราก่อนกำหนดก็แล้วกัน”
“ค่ะพี่ใบเฟิร์น”
พนักงานทุกคนรับคำ จากนั้นก็ช่วยกันเก็บกวาดทำความสะอาดผับ เพื่อจะกลับไปพักผ่อน นึกดีใจที่ผับปิดก่อนเวลากำหนดแต่พวกเธอก็ยังได้ค่าแรงเหมือนเดิม
และก็ขอบคุณพันธิสาที่เป็นนายจ้างที่มีความยุติธรรมที่สุด แม้ผับจะปิดก่อนเวลา และพวกเธอยังทำงานได้ไม่คุ้มค่าแรง แต่กระนั้นพันธิสาก็ยังให้ค่าแรงเต็มจำนวนเหมือนเดิม
ทางด้านของพันธิสาถอนหายใจลึก บอกกับตัวเองว่าดีใจที่อาคิราปลอดภัยไม่ถูกองครักษ์หน้ายักษ์ตามไปทำร้าย และขณะเดียวกันก็คิดว่าพรุ่งนี้คงต้องหากระเช้าผลไม้ไปขอโทษท่านชีคอัลมัสถึงโรงแรมที่พักของพระองค์ ซึ่งเธอยังไม่สามารถเดาได้ว่าท่านชีคอัลมัสจะรับคำขอโทษจากเธอหรือเปล่า...