บทที่ 2
บทที่ 2
จากที่คิดว่ารอคู่หมั้นแค่สามสิบนาทีตามที่อีกฝ่ายได้บอกไว้ ก็กลับกลายว่าต้องรออีกเกือบสองชั่วโมง กว่าที่นักรบจะมาถึงสตูดิโอถ่ายภาพ ทำเอาทั้งพันธิสา พอลลี่ และทีมงานในสตูดิโอต้องนั่งรอจนเหงือกแห้งไปตามๆ กัน
ทันทีที่เปิดประตูสตูดิโอและเดินเร็วๆ ตรงมาหาคู่หมั้นสาวที่นั่งรอเขารวมสี่ชั่วโมงเต็ม นักรบก็รีบเข้าไปสวมกอดคู่หมั้นสาวพร้อมกับขอโทษเสียงอ่อนเพื่อไม่ให้อีกฝ่ายโกรธตนเอง
“ใบเฟิร์นจ๋า...ฮันนี่ของผม...ผมขอโทษมากๆ เลยครับที่มาช้ามาก มันเป็นความสะเพร่าของผมเองที่ลืมเติมน้ำมัน รถของผมน้ำมันหมดกลางทาง กว่าจะหาซื้อน้ำมันมาเติมได้ ก็ทำให้ผมมาที่สตูดิโอช้าอย่างที่ใบเฟิร์นเห็นนี่แหละครับ”
พันธิสาปล่อยให้คู่หมั้นสวมกอดอยู่ชั่วครู่ ขณะเดียวกันก็นิ่วหน้ากับกลิ่นน้ำหอมแสบจมูกอันไม่คุ้นเคยที่ติดมากับตัวของคู่หมั้น แต่กระนั้นก็ไม่ได้เอ่ยซักถาม นอกจากจะเร่งให้คู่หมั้นไปแต่งตัวเพราะเวลาล่วงเลยมานานแล้ว
“ค่ะ ไม่เป็นไรค่ะ คุณรบไปแต่งตัวเถอะค่ะ จะได้ถ่ายรูปสักที พี่พอลล่ารอเรานานแล้วค่ะ”
“ครับๆ ผมจะไปเดี๋ยวนี้ครับ”
นักรบรับคำขณะผละตัวออก และขณะกำลังจะหมุนตัวเดินตามพนักงานในสตูดิโอเพื่อไปเปลี่ยนชุด พันธิสาก็เห็นสิ่งผิดปกติบางอย่างจนต้องเอ่ยถามพร้อมกับยกมือลูบไล้ด้วย
“คุณรบ คอของคุณโดนอะไรมาคะ ทำไมแดงเป็นเถือกเลย”
นักรบหน้าถอดสีเล็กน้อย รีบปัดมือเล็กของพันธิสาออกพร้อมกับเกาแรงๆ ตรงบริเวณที่คู่หมั้นสาวสัมผัสในก่อนหน้านี้ แล้วเอ่ยบอกให้คลายความสงสัย
“ผมโดนมดกัดครับ ผมเกาแรงไปหน่อยก็เลยเป็นรอยแดงช้ำเหมือนที่คุณเห็นครับ”
“โดนกัดหลายที่เลยหรือคะ มันแดงเกือบทั้งลำคอเลยค่ะคุณรบ”
“ก็มีมดอยู่ในเสื้อเชิ้ตหลายตัว ตอนใส่ผมไม่ได้สะบัดเสื้อก่อน ไอ้มดบ้าพวกนี้ก็รุมกัดผมเป็นว่าเล่น”
“เดี๋ยวถ่ายรูปเสร็จแล้วใบเฟิร์นจะหาแซมบัค (ยาหม่องชนิดสีเขียวเข้ม) ทาให้คุณรบนะคะ”
“ครับ ขอบคุณครับ ผมไปแต่งตัวก่อนนะครับ”
นักรบรีบจับคอเสื้อไว้แล้วหันหลังให้คู่หมั้นสาว จากนั้นก็เดินเร็วๆ ตามพนักงาน เพื่อไปเปลี่ยนชุดที่เตรียมรอเขาไว้นานแล้ว
ทันทีที่นักรบเดินเข้าห้องแต่งตัวแล้ว พนักงานในสตูดิโอนามว่าแนนซี่ซึ่งเป็นสาวประเภทสองเช่นเดียวกันกับพอลลี่ ก็คันปากยิกๆ ขณะมองตามนักรบที่เดินลับหายไปในห้องแต่งตัว และก็อดใจไม่ไหวเอ่ยถามกับพันธิสาว่า
“เอ่อ...คุณน้องใบเฟิร์นขา...คุณน้องคิดดีแล้วหรือคะที่จะแต่งงานกับคุณนักรบ”
“ทำไมหรือคะพี่แนนซี่” พันธิสาหันมามองแนนซี่ เลิกคิ้วขึ้นสูงขณะเอ่ยถามอีกฝ่ายกลับคืน
“ก็...เอ่อ...คุณนักรบ...เป็น...”
ตุ๊บ!!!
แนนซี่ไม่มีโอกาสพูดคำที่เหลือออกมา เพราะถูกพอลลี่ทุบหลังเต็มแรงจนหัวคะมำไปข้างหน้าพร้อมกับถลึงตามองเขม็งเป็นการสั่งห้าม จากนั้นก็เป็นฝ่ายเอ่ยบอกกับพันธิสาแทน
“อย่าไปฟังนังแนนซี่เลยค่ะน้องใบเฟิร์น นังนี่มันขี้อิจฉา เห็นใครแต่งงานเป็นไม่ได้ ชอบยุให้รำตำให้รั่ว พี่ตัดเงินเดือนมันหลายรอบแล้ว ถ้ามันยังปากหมายุแยงลูกค้าไม่เลิก พี่จะไล่มันออก”
“อุ้ย! อย่านะคะแม่พอลลี่ขา...ถ้าไล่แนนซี่ออก แนนซี่จะหาเงินจากไหนไปเปย์ผู้ชายละคะ”
แนนซี่ทำหน้าตะห้อยร้องโวยวายพร้อมกับยกมือไหว้พอลลี่ผู้เป็นเจ้านายด้วย ทำเอาพันธิสอดหัวเราะออกมาไม่ได้ และก็เอ่ยสนับสนุนคำพูดของแนนซี่ว่า
“ใบเฟิร์นไม่โกรธหรือถือโทษพี่แนนซี่หรอกค่ะ พี่พอลล่าอย่าไล่พี่แนนซี่ออกนะคะ เดี๋ยวเธอไม่มีเงินเปย์ผู้ชาย”
“เห็นไหมแม่...แม่พอลลี่จ๋า อย่าไล่แนนซี่ออกนะคะ”
แนนซี่ยังคงยกมือไหว้อ้อนวอนพอลลี่ จนผู้ที่ถูกขอร้องต้องเอ่ยปากไล่ด้วยความหมั่นไส้
“ไปๆ นังแนนซี่ ไปเตรียมถ่ายรูปให้น้องใบเฟิร์นกับคุณนักรบ และอย่าปากพล่อยพูดมากอีก ไม่ยังงั้นแม่พอลลี่จะไม่ไว้แน่”
“ค่ะๆ แม่จ๋า ไม่พูดแล้วค่ะ”
แนนซี่รีบรับคำพร้อมกับทำตามคำสั่ง เตรียมถ่ายภาพพรีเวดดิ้งให้กับว่าที่เจ้าบ่าว-เจ้าสาว ซึ่งตอนนี้เจ้าบ่าวได้เดินออกมาจากห้องแต่งตัวแล้ว
“คุณนักรบมาแล้ว เชิญน้องใบเฟิร์นกับคุณนักรบทางนี้เลยค่ะ วันนี้เราจะถ่ายทั้งหมดห้าเซ็ทด้วยกัน ต้องใช้เวลาทั้งวันเลยค่ะ”
“อะไรนะ ถ้าห้าเซ็ท! และถ่ายทั้งวันเลยหรือ”
นักรบตะโกนถามเสียงดังหลังจากได้ยินคำพูดของพอลลี่ ทำเอาพันธิสาและทุกคนต้องชะงักฝีเท้าที่กำลังจะเดินเข้าสตูถ่ายภาพ
“ค่ะ...ใช่ค่ะ ใบเฟิร์นลิสต์รายการไว้แล้วว่าเราจะถ่ายพรีเวดดิ้งทั้งหมดห้าเซ็ท และออกไปถ่ายนอกสถานที่ในช่วงบ่ายด้วยค่ะ”
พันธิสาเอ่ยตอบคู่หมั้นหนุ่ม และก็ต้องหน้าถอดสีกับคำพูดห้วนๆ จากนักรบ
“ถ่ายแค่สามเซ็ทก็พอ และไม่ออกไปถ่ายนอกสตูดิโอ ผมร้อน และตอนบ่ายผมมีนัดกับมิสเตอร์ลูคัส ผมต้องเทคแคร์เขาตลอดเวลาที่เขาอยู่ที่ภูเก็ต ถ้าหากผมทำให้เขาไม่พอใจ เขาจะยกเลิกสัญญาธุรกิจที่ทำกับผม นั่นจะทำให้ผมเสียหายในหลักสิบล้าน คุณเข้าใจผมไหมใบเฟิร์น”
ใบหน้าที่ตกแต่งอย่างสวยหวาน ซีดเผือดหนักกว่าเดิมกับคำตะคอกถามเสียงห้วนของคู่หมั้นหนุ่ม และก็รีบพยักหน้ารับคำเพราะเกรงว่าคู่หมั้นจะโกรธไปมากกว่านี้
“ค่ะๆ ถ่ายแค่สามเซ็ทก็ได้ค่ะ ถ้ายังงั้นเรารีบถ่ายรูปกันเถอะค่ะ ใบเฟิร์นไม่อยากให้มิสเตอร์ลูคัสต้องรอนาน ไม่อยากให้คุณรบต้องเสียงานเพราะใบเฟิร์น”
“ดีครับ ถ่ายแค่สามเซ็ท สิบยี่สิบรูปก็พอแล้ว”
น้ำเสียงของนักรบอ่อนลงเล็กน้อยหลังจากคู่หมั้นสาวยอมทำตามคำพูดของเขา จากนั้นก็เดินเข้าห้องถ่ายภาพโดยไม่คิดรอว่าที่เจ้าสาวเลย
พันธิสายิ้มเจื่อนๆ ให้กับพอลลี่ที่เข้ามาช่วยจับปลายกระโปรงชุดแต่งงานสีขาว ซึ่งหน้าที่นี้ควรเป็นหน้าที่ของคู่หมั้น แต่อีกฝ่ายก็เดินเข้าไปในห้องถ่ายภาพแล้ว
การถ่ายภาพพรีเวดดิ้งแค่เพียงสามเซ็ทด้วยชุดแต่งงานแบบสากล ชุดไทย และปิดท้ายด้วยชุดลำลองแบบสบายๆ เสร็จสิ้นภายในสามชั่วโมง
เพราะแต่ละเซ็ทว่าที่เจ้าบ่าวได้กำกับให้ช่างถ่ายภาพ ถ่ายภาพแค่ไม่กี่ภาพเท่านั้น อีกทั้งเร่งเร้าให้ช่างภาพและทีมงานสตูดิโอถ่ายภาพให้เสร็จเร็วที่สุด
พอถ่ายภาพเซ็ทสุดท้ายเสร็จแล้ว ก็รีบเดินออกจากห้องถ่ายภาพพร้อมกับล้วงหยิบโทรศัพท์จากกระเป๋ากางเกงมากดรับสายเมื่อมีเสียงเรียกเข้า และก่อนจะกรอกเสียงทักทายกับต้นทางที่โทร.มา ก็ไม่ลืมหันมามองพันธิสา ก่อนจะเดินเร็วๆ ออกจากห้องถ่ายภาพเพื่อคุยโทรศัพท์