บทที่ 1
บทที่ 1
ร้อยรักเวดดิ้งแอนด์สตูดิโอ...
สตูดิโอสำหรับการแต่งงานแบบครบวงจรในอำเภอเมืองภูเก็ต ซึ่งมีแพคเกจสำหรับการจัดงานแต่งงานในทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการ์ด ของชำร่วยแต่งงาน บริการถ่ายภาพพรีเวดดิ้ง หรือแม้กระทั่งบริการจัดงานเลี้ยงฉลองมงคลสมรส ไม่ว่าต้องการจัดงานแบบไหน ต้องการชุดเจ้าบ่าว-เจ้าสาวแบบไหน ร้อยรักเวดดิ้งแอนด์สตูดิโอสามารถเนรมิตให้ได้ทุกอย่าง ขอแค่เพียงเงินถึงก็เป็นพอ!
และในวันนี้ว่าที่เจ้าสาวคนสวยก็ตื่นตั้งแต่เช้าตรู่ เดินทางมาที่สตูดิโอแห่งนี้เพื่อเตรียมตัวถ่ายภาพพรีเวดดิ้ง ก่อนจะมีงานแต่งงานเกิดขึ้นในอีกสองสัปดาห์ข้างหน้า
“สวยมากเลยค่ะน้องใบเฟิร์นขา...นี่ขนาดถ่ายพรีเวดดิ้งน้องใบเฟิร์นยังสวยหวานขนาดนี้ พอถึงวันแต่งจริง พี่พอลลี่กล้าเอาหัวเป็นประกันเลยว่าทุกคนจะต้องพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าน้องใบเฟิร์นเป็นเจ้าสาวที่สวยหวานที่สุดในรอบปี”
‘พอลลี่’ ผู้ที่มีกายเป็นชายแต่มีจิตใจเป็นหญิง ซึ่งเป็นเจ้าของสตูดิโอแห่งนี้ และมีฝีมือการแต่งหน้าขั้นเทพ ที่สามารถปัดแปรงแต่งหน้าเนรมิตผู้หญิงทุกคนให้กลายเป็นหญิงสาวที่สวยงามในวันสำคัญครั้งหนึ่งในชีวิตของพวกเธอ ได้เอ่ยชมว่าที่เจ้าสาวคนสวยไม่มีหยุดปาก
และ ‘พันธิสา’ เจ้าของผับชื่อดังในย่านถนนบางลา ป่าตอง อันเป็นถนนแห่งสีสันและครบเครื่องเรื่องบันเทิง จนบรรดานักท่องเที่ยวทั่วโลกต่างก็พูดกันว่า หากมาเที่ยวป่าตองแล้วต้องมาเช็คอินที่ถนนบางลาให้ได้...
เดอะบีชผับที่มีพันธิสาเป็นเจ้าของ เป็นผับเกรดเอระดับพรีเมี่ยม นักท่องเที่ยวที่จะเข้าเที่ยวในเดอะบีชผับต้องกระเป๋าหนาพร้อมจ่าย แต่พวกเขาก็ได้รับการบริการระดับเลิศหรูกลับคืนสมน้ำสมเนื้อกับเงินที่พวกเขาได้ควักจ่าย
ในเช้าวันนี้พันธิสาผู้เป็นเจ้าของผับชื่อดัง ได้ละทิ้งหน้าที่การบริหารงานทั้งวัน เพื่อมาถ่ายภาพพรีเวดดิ้งในร้อยรักเวดดิ้งแอนด์สตูดิโอ ให้พอลลี่เจ้าของสตูดิโอได้ปัดแปรงแต่งหน้าให้จนกระทั่งเห็นภาพของตัวเองที่สะท้อนออกมาจากกระจกเงาบานใหญ่ว่าเป็นเจ้าสาวที่ดูสวยหวานดั่งคำชมของพอลลี่จริงๆ
“พี่พอลลี่แต่งหน้าได้สวยจริงๆ ค่ะ ใบเฟิร์นไม่ผิดหวังเลยที่เลือกมาถ่ายพรีเวดดิ้งกับพี่พอลลี่”
“จะชมแค่ฝีมือของพี่พอลลี่ฝ่ายเดียวไม่ได้หรอกค่ะ ต้องชมตัวน้องใบเฟิร์นด้วยค่ะ น้องสวยมาก ขนาดยังไม่ได้แต่งหน้ายังสวยเลย พี่พอลลี่แค่เติมแป้งนิด ทาปากหน่อย ปัดแปรงแค่ครั้งเดียวน้องใบเฟิร์นก็สวยสุดๆ ไปเลยค่ะ”
พอลลี่จีบปากจีบคอเอ่ยชมว่าที่เจ้าสาวแห่งปี ซึ่งเธอไม่ได้ชมเกินความเป็นจริงแม้แต่นิดเดียว พันธิสามีผิวพรรณที่เปล่งปลั่งสดใสอย่างคนที่ใส่ใจสุขภาพเป็นอย่างดี แค่เธอแต่งแต้มเติมเมคอัพลงไปอีกนิดหน่อย ว่าที่เจ้าสาวก็ดูสวยไม่ต่างจากนางงามเลยทีเดียว
“ใบเฟิร์นตื่นเต้นจังเลยค่ะ อีกไม่กี่วันก็จะถึงวันแต่งงานแล้ว พอถึงวันจริง ใบเฟิร์นคงตื่นเต้นจนนอนไม่หลับแน่”
พันธิสาเอ่ยบอกด้วยดวงตาเป็นประกาย รอคอยวันเวลาที่จะถึงวันสำคัญในชีวิตถึงสองปี กว่าจะหาฤกษ์แต่งงานได้ อีกทั้งว่าที่เจ้าบ่าวก็ไม่พร้อมสำหรับการแต่งงานสักที ต้องเดินทางไปติดต่อธุรกิจในต่างประเทศปีละหลายครั้ง จึงเป็นเหตุให้ต้องเลื่อนการแต่งงานมาเรื่อยๆ และในที่สุด อีกแค่ 14 วันข้างหน้าก็จะถึงวันแต่งงานของเธอแล้ว
“พี่พอลลี่ก็ตื่นเต้นเหมือนกันค่ะ วันนั้นพี่พอลลี่จะเนรมิตให้น้องใบเฟิร์นสวยกว่าวันนี้อีกค่ะ”
“ใบเฟิร์นเชื่อฝีมือของพี่พอลลี่ค่ะ”
พันธิสาแย้มยิ้มหวานให้กับพอลลี่ เป็นรอยยิ้มแห่งความสุขที่เธอรอนาน แต่แล้ว...รอยยิ้มหวานที่ประดับอยู่บนใบหน้าก็มีอันต้องจางหายไปกับคำถามของพอลลี่
“เอ๋...ว่าแต่เมื่อไรคุณนักรบจะมาสักทีคะ พี่พอลลี่แต่งหน้าให้น้องใบเฟิร์นจนเสร็จแล้ว แต่ไม่เห็นว่าที่เจ้าบ่าวเลย พี่ต้องแต่งหน้าทำผมให้เขาด้วยค่ะ”
พันธิสาหน้าถอดสีเล็กน้อยกับคำถาม หญิงสาวหลุบสายตามองเวลาบนนาฬิกาข้อมือก็เห็นว่า ‘นักรบ’ ผู้เป็นว่าที่เจ้าบ่าวได้ผิดนัดเกือบสองชั่วโมงแล้ว ซึ่งอีกฝ่ายควรมาถึงสตูดิโอเพื่อแต่งหน้าทำผมพร้อมๆ กับเธอ เพื่อจะได้ถ่ายภาพพรีเวดดิ้ง แต่จนป่านนี้แล้วยังไม่เห็นแม้แต่เงาของที่เจ้าบ่าว
“เดี๋ยวใบเฟิร์นโทร.หาคุณรบก่อนนะคะ”
พันธิสารีบทำตามที่เอ่ยบอก คว้าโทรศัพท์มือถือมากดโทร.หาคู่หมั้นของตนเอง และขณะฝืนยิ้มให้กับพอลลี่นั้น ในใจกลับรู้สึกน้อยใจคู่หมั้นหนุ่มที่มาไม่ตรงเวลานัด ทั้งๆ ที่เป็นวันสำคัญของเธอกับเขาที่จะถ่ายภาพพรีเวดดิ้งร่วมกัน แต่นักรบคู่หมั้นหนุ่มก็มาสายจนเธอต้องรอ
เกือบสองชั่วโมงแล้ว
และการโทร.หาคู่หมั้นในครั้งแรก สามารถได้ อีกฝ่ายไม่ได้ปิดโทรศัพท์ ทว่า...กลับไม่มีการกดรับสายจนสัญญาณโทรศัพท์ตัดไป ทำเอาพันธิสาหน้าเสีย แต่กระนั้นก็ยังคงฝืนยิ้มให้กับพอลลี่ที่เฝ้ามองอยู่
“สงสัยกำลังขับรถอยู่ คุณรบเลยไม่รับโทรศัพท์ เดี๋ยวใบเฟิร์นโทร.อีกครั้งนะคะ”
ว่าแล้วก็กดโทร.หาคู่หมั้นหนุ่มอีกครั้ง ใบหน้างามที่ถูกพอลลี่แต่งแต้มจนสวยหวานดุจเจ้าหญิงเริ่มถอดสีซีดมากกว่าเดิม และการโทร.ในครั้งที่สองก็ต้องรอสัญญาณอีกนานกว่าคู่หมั้นจะกดรับสายในที่สุด
“คุณรบคะ...อยู่ไหนคะ ใกล้มาถึงสตูดิโอหรือยัง ใบเฟิร์นกับพี่พอลลี่รอนานแล้วนะคะ”
พันธิสาสาบานได้ว่าได้ยินเสียงถอนหายใจเฮือกใหญ่จากคู่หมั้นในขณะที่เธอเอ่ยถามแกมตัดพ้อ และก็ได้รับคำตอบติดเสียงห้วนว่า
“ผมเพิ่งเคลียร์งานเสร็จ ลูกค้าเพิ่งกลับเมื่อห้านาทีที่ผ่านมา และผมกำลังจะไปในอีกสิบนาทีนี้แล้ว”
“ขอโทษค่ะ ใบเฟิร์นไม่รู้ว่าคุณติดลูกค้าอยู่ ใบเฟิร์นนึกว่าวันนี้คุณเคลียร์งานจนคิวว่างหมดแล้วและมาถ่ายพรีเวดดิ้งด้วยกัน”
เจอน้ำเสียงดุๆ ของคู่หมั้นเข้า ทำเอาพันธิสาหน้าเสียรีบขอโทษขอโพยเป็นการยกใหญ่เพราะกลัวว่าคู่หมั้นจะโกรธไปมากกว่านี้
“ผมเคลียร์งานหมดแล้ว เพราะผมเองก็ตื่นเต้นที่จะถ่ายพรีเวดดิ้งเหมือนกัน แต่เมื่อสามชั่วโมงที่ผ่านมามิสเตอร์ลูคัสโทร.หาผม บอกว่าเพิ่งบินมาถึงภูเก็ต เขาบินมาภูเก็ตโดยไม่บอกผมล่วงหน้า เมื่อเขามาถึงสนามบินแล้ว ผมก็ต้องไปต้อนรับดูแลเขาให้เข้าพักในโรงแรมก่อน ใบเฟิร์นก็รู้นี่ครับว่ามิสเตอร์ลูคัสเป็นลูกค้ากระเป๋าหนักของผม”
“ค่ะ ใบเฟิร์นทราบค่ะ”
พันธิสารับคำ สีหน้าดีขึ้นเมื่อได้รับคำอธิบายจากคู่หมั้น ใช่! เธอรู้ว่ามิสเตอร์ลูคัสคือลูกค้าชาวอังกฤษกระเป๋าหนักที่คู่หมั้นติดต่อทำธุรกิจด้วย แต่เธอยังไม่เคยเจอลูกค้าคนนี้ ได้ยิน
ชื่อแค่จากคู่หมั้นที่มักจะพูดถึงมิสเตอร์ลูคัสบ่อยที่สุด
“โอเคครับ คุณรอไม่เกินสามสิบนาทีผมก็ไปถึงสตูดิโอครับ”
นักรบตัดบทสนทนา และพันธิสาก็รีบรับคำอย่างใจชื้น
“ค่ะคุณรบ เดี๋ยวใบเฟิร์นจะบอกพี่พอลลี่กับทีมงานให้รอก่อนค่ะ”
พันธิสาไม่แน่ใจว่าคู่หมั้นได้ยินประโยคท้ายของเธอหรือเปล่า เพราะอีกฝ่ายกดตัดสายสนทนาแล้ว พอลดโทรศัพท์ลงจากใบหู ก็เงยหน้าขึ้นคลี่ยิ้มให้กับพอลลี่พร้อมกับเอ่ยบอกและขอโทษขอโพยอีกฝ่าย
“คุณรบกำลังมาค่ะ เขาบอกว่ารอไม่เกินสามสิบนาที ใบเฟิร์นขอโทษพี่พอลลี่และทีมงานด้วยนะคะที่ต้องรอนาน คุณรบติดลูกค้าแบบกะทันหันค่ะ ถ้ายังไงใบเฟิร์นจะชดใช้ค่าเสียเวลาให้พี่พอลลี่นะคะ”
“ได้ค่ะ ไม่มีปัญหาค่ะ คุณนักรบมาถึงตอนไหนเราก็ถ่ายรูปตอนนั้น ระหว่างรอคุณนักรบเดี๋ยวน้องใบเฟิร์นเปลี่ยนใส่ชุดเจ้าสาวที่จะถ่ายในเซ็ทแรกก่อนนะคะ ส่วนคุณนักรบเปลี่ยนชุดแค่แป๊บเดียว แต่งหน้าทำผมนิดหน่อยก็พร้อมถ่ายรูปแล้วค่ะ”
“ค่ะพี่พอลลี่”
พันธิสาอมยิ้มขณะรับคำ จากนั้นก็ลุกขึ้นเดินตามพอลลี่และพนักงานในสตูดิโอ เดินเข้าไปในห้องเปลี่ยนชุดเพื่อสวมชุดราตรีสีขาวฟูฟ่องสำหรับถ่ายภาพพรีเวดดิ้งในเซ็ทแรกของวันนี้