บทที่ 2 (2)
พันธิสามองตามคู่หมั้นซึ่งมีท่าทีแปลกๆ รีบกดรับสายที่โทร.เข้า แต่กลับไม่พูดกับคนที่โทร.มาในทันทีทันใดราวกับกลัวว่าเธอจะได้ยินคำสนทนา แล้วเดินเลี่ยงไปคุยซะไกล ก่อนจะเดินกลับมาหาเธอด้วยสีหน้าซีดเผือดแล้วเอ่ยบอกรัวเร็วว่า
“ผมต้องกลับก่อนนะครับ มิสเตอร์ลูคัสกำลังเดือดเป็นไฟ เพราะพนักงานของโรงแรมดันทำกาแฟหกใส่เสื้อสูทราคาแพงลิบของเขา ถ้าผมไม่รีบไปเคลียร์ พนักงานคนนั้นคงต้องชดใช้ค่าเสื้อสูทจนหลังหักแน่”
“ค่ะ คุณรบ คุณกลับไปดูแลมิสเตอร์ลูคัสเถอะค่ะ เดี๋ยวพี่พอลลี่อัดภาพถ่ายเสร็จแล้ว
ใบเฟิร์นจะเอาไปให้ดูค่ะ”
“ครับ”
นักรบรับคำโดยไม่ได้มองใบหน้าของคู่หมั้นสาว เพราะเขาหมุนตัวเดินออกจากสตูดิโอในทันทีที่บอกเสร็จแล้ว แทบจะไม่ได้ยินประโยคท้ายของพันธิสาด้วยซ้ำไป
พันธิสามองตามคู่หมั้นด้วยอารมณ์น้อยเนื้อต่ำใจที่อีกฝ่ายเห็นลูกค้าสำคัญกว่าเธอ ซึ่งเป็นคู่หมั้นและจะเป็นคู่ชีวิตของเขาในอีกไม่กี่วันหน้านี้แล้ว
และคนที่ช่วยแก้ไขสถานการณ์ให้ดีขึ้นคือพอลลี่ที่เข้ามาแตะต้นแขนว่าที่เจ้าสาวแล้วเอ่ยถามว่า
“น้องใบเฟิร์นจะกลับเลยไหมคะ หรือว่าอยากคุยรายละเอียดจัดงานกับพี่พอลลี่ก่อน”
“ใบเฟิร์นกลับก่อนดีกว่าค่ะ ต้องไปเตรียมต้อนรับท่านชีคอัลมัสจากประเทศคาลาห์ ท่านชีคเหมาผับของใบเฟิร์นในคืนนี้ ใบเฟิร์นต้องไปกำชับดูแลเด็กๆ เตรียมการต้อนรับท่านชีคไม่ให้มีขาดตกบกพร่องค่ะ”
“ได้ค่ะ ถ้ายังงั้นเราค่อยคุยรายละเอียดจัดงานวันหลังก็ได้ค่ะ ยังพอมีเวลา หรือน้องใบเฟิร์นจะส่งรายละเอียดมาทางไลน์ก็ได้ว่าอยากได้ทีมแบบไหน สีไหน รายการอาหารมีอะไรบ้าง ขอแค่เพียงน้องใบเฟิร์นเอ่ย...พี่พอลลี่จะเนรมิตให้เองค่ะ”
“ค่ะพี่พอลลี่ เดี๋ยวใบเฟิร์นส่งรายละเอียดคร่าวๆ มาให้ในไลน์นะคะ”
พันธิสาเอ่ยบอกพร้อมกับฝืนยิ้มให้กับพอลลี่ด้วย จากนั้นก็ยกมือไหว้ล่ำลาอีกฝ่าย
“ใบเฟิร์นกลับก่อนนะคะ ขอบคุณพี่พอลลี่ที่สละเวลาทั้งวันเพื่อใบเฟิร์น”
“ค่ะ ไม่เป็นไรค่ะ เพื่อน้องใบเฟิร์น พี่พอลลี่ทำได้ทุกอย่างค่ะ”
พอลลี่แย้มยิ้มให้กับพันธิสา แน่นอนว่าเธอเต็มใจทำทุกอย่าง นั่นก็เพราะว่าพันธิสาเป็นลูกค้ากระเป๋าหนัก เป็นลูกสาวของมหาเศรษฐีในจังหวัดภูเก็ตที่มีเงินถุงเงินถังใช้ทั้งชาติก็ไม่มีหมด ซึ่งการที่พันธิสาเลือกใช้บริการสตูดิโอของเธอแทบทำให้เธอร้องกรี๊ดสามวันไม่มีหยุด เพราะพันธิสาเซ็นเช็คจ่ายเงินให้เธอโดยไม่มีอิดออดแม้แต่นิดเดียว
ทางด้านของพันธิสา เดินออกจากสตูดิโอด้วยอาการระโหยโรยแรง น้อยใจคู่หมั้นหนุ่มจนแทบร้องไห้ออกมาให้ได้ และก็ไม่อาจกลั้นน้ำตาไว้ได้จริงๆ เมื่อนึกถึงการกระทำที่ผ่านๆ มาของคู่หมั้นหนุ่มที่ไม่ค่อยสนใจเธอเท่าที่ควร
เมื่อกลั้นน้ำตาไม่อยู่ น้ำตาเอ่อคลอเบ้าจึงยกมือเช็ดดวงตาพยายามไม่ให้น้ำตาไหลรินออกมา และด้วยเช็ดขยี้ดวงตาแรงเกินไปทำให้คอนแทคเลนส์สายตาสั้นที่สวมอยู่หลุดติดปลายนิ้ว จึงเดินอ้อมไปทางด้านหลังสตูดิโอเพื่อเข้าห้องน้ำส่องกระจกใส่คอนแทคเลนส์ใหม่
และจังหวะที่เดินไปถึงหน้าห้องน้ำ เท้าเล็กในรองเท้าส้นสูงก็ต้องหยุดชะงักอยู่กับที่เมื่อได้ยินเสียงสนทนาที่ดังมาจากห้องน้ำ
“ฉันละสงสารคุณใบเฟิร์นจริงๆ ที่คิดว่าคู่หมั้นตัวเองเป็นชายทั้งแท่ง”
“ใช่ ฉันก็สงสาร ใครๆ ก็รู้ว่าคุณนักรบเป็นอีแอบ...ชอบแอ๊บแมน แต่จริงๆ แล้วเป็นเกย์”
“ตอนแรกฉันก็ไม่เชื่อนะว่าเขาเป็นเกย์ แต่ฉันไปเจอเขาแบบจะๆ ในบาร์เกย์ และเขาก็หิ้วผู้ชายต่อหน้าต่อตาฉัน นี่ถ้าไม่เห็นกับตาฉันจะไม่เชื่อเลย”
“นี่ๆ นังแนนซี่ ฉันเห็นตั้งหลายครั้งแล้ว บาร์เกย์ดังๆ ในภูเก็ตคุณนักรบไปกวาดเด็กหนุ่มมากินหมดแล้ว เด็กใหม่ๆ ซิงๆ ไม่เคยมีใครรอดจากมือของคุณนักรบ ใครๆ ก็รู้ มีแต่คุณใบเฟิร์นคนเดียวเท่านั้นที่ไม่รู้”
“เฮ้อ...ฉันสงสารคุณใบเฟิร์น ไม่อยากให้ผู้หญิงดีๆ อย่างเธอต้องถูกคุณนักรบหลอก ส่วนฉันก็คั๊น...คันปาก อยากบอกความจริงกับคุณใบเฟิร์น แต่ก็ถูกแม่พอลลี่ตบจนขี้หูสั่น
สะเทือน แถมขู่จะไล่ออกด้วย ไม่ยังงั้นฉันได้บอกคุณใบเฟิร์นไปแล้ว
เสียงสนทนาของพนักงานในสตูดิโอ โดยเฉพาะแนนซี่ยังคงสนทนากันต่อเนื่องซึ่งมี
พันธิสาและนักรบเป็นหัวข้อในการสนทนา แต่ตอนนี้พันธิสาไม่ได้อยู่ฟังอีกแล้ว หญิงสาวเดิน
เร็วๆ ออกจากบริเวณหน้าห้องน้ำ เข้ามานั่งในรถยนต์และนึกถึงคำสนทนาที่ได้ยินเมื่อสักครู่ที่ผ่านมา
‘คุณนักรบเป็นเกย์’
“ใช่หรือ คุณรบเป็นเกย์จริงหรือ”
พันธิสาตั้งคำถามกับตัวเองหลังจากได้ยินคำสนทนาโดยบังเอิญ หญิงสาวนิ่วหน้า ส่ายหัวปฏิเสธกับคำพูดของแนนซี่ที่ยังคงดังก้องอยู่ในโสตประสาท และก็ให้คำตอบกับตัวเองว่า
“ไม่ใช่! คุณรบไม่ได้เป็นเกย์”
ตั้งคำถามและให้คำตอบกับตัวเองแล้ว พันธิสาก็สตาร์ทรถขับออกจากบริเวณสตูดิโอถ่ายภาพทั้งๆ ที่ยังไม่ได้ใส่คอนแทคเลนส์อีกข้าง
แม้คอนแทคเลนส์จะหลุดไปข้างหนึ่งแต่ก็ยังเหลืออีกข้างที่พอจะทำให้มองเห็นได้บ้าง และต้องใช้ความระมัดระวังในการขับรถ ขับช้าๆ ชิดซ้ายไว้กระทั่งถึงเดอะบีชผับ เป็นผับระดับห้าดาวที่มีชื่อของเธอเป็นเจ้าของ
และในค่ำคืนนี้ผับของเธอได้รับการติดต่อจากองครักษ์ส่วนตัวของชีคอัลมัส อัลซิดส์ คาลาห์ ที่เดินทางมาประเทศไทยเพื่อจัดงานเลี้ยงฉลองสละโสด และพระองค์ก็เลือกใช้บริการที่เดอะบีชผับ ซึ่งเธอต้องดูแลกำชับให้พนักงานในผับบริการท่านชีคและเหล่าองครักษ์ของพระองค์ให้ประทับใจที่สุดที่ได้มาใช้บริการในผับของเธอ