บทที่4 ไม่ใช่รุ่นพี่คนเดิม
@โรงพยาบาล
รถหรูราคาหลายสิบล้านเคลื่อนตัวมาจอดลงยังลานจอดรถของโรงพยาบาล ก่อนสินซึ่งทำหน้าที่เป็นคนขับจะก้าวลงจากรถส่วนนนทพัทธ์ยังคงนั่งอยู่ในรถตรงเบาะหลังกับข้าวหอมที่เอาแต่ร้องไห้ไม่หยุดตั้งแต่ออกมาจากบ้านพระพาย
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้เธอขวัญเสียและกลัวเป็นอย่างมาก กลัวความผิดที่ได้กระทำไว้กลัวว่าพระพายกับลูกจะเป็นอะไรไปเหมือนกับแพรและลูกในท้อง
"เลิกร้องไห้สักทีข้าวหอม ต่อให้เธอร้องไห้จนน้ำตาเป็นสายเลือดก็ไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้นมา มันเปลี่ยนความจริงที่ว่าเธอทำเรื่องชั่วช้าไม่ได้หรอก" นนทพัทธ์เอ่ยอย่างรำคาญพลางแกะเนคไทออกจากข้อมือเล็ก
"อึก! ข้าวไม่ได้ต้องการให้เรื่องมันเป็นแบบนี้ ข้าวขอโทษ" คำพูดของรุ่นพี่หนุ่มไม่ได้ช่วยทำให้ข้าวหอมหยุดร้องไห้ กลับยิ่งสะอื้นไห้ออกมาหนักกว่าเก่าเธอไม่คิดเลยจริง ๆ ว่าเรื่องราวจะบานปลายถึงขั้นนี้
การกระทำของเธอมันทำร้ายคนไปไม่รู้กี่คนทั้งที่ความจริงเธอเพียงต้องการทำให้พระพายเจ็บปวดจากการโดนอลันทิ้งเท่านั้น
"คนที่เธอต้องขอโทษคือพระพายไม่ใช่ฉัน" นนทพัทธ์กัดกรามกรอด ก่อนจะก้าวลงจากรถและไม่ลืมจะกระชากอีกคนลงตามมาด้วย
"โอ้ย!" แรงกระชากรุนแรงทำให้ข้าวหอมเจ็บไม่น้อยราวกับแขนจะหลุดออกจากไหล่ ร่างถลาตามเขาไปโดยง่ายดาย อีกคนรู้ว่าเธอเจ็บแต่ไม่สนใจเมื่อกระชากเธอลงจากรถได้สำเร็จก็ลากให้เดินตามเข้าไปในโรงพยาบาลไม่ฟังเสียงร้องท้วงของเธอสักนิด
"อึก!" ข้าวหอมทำได้เพียงยกมืออีกข้างขึ้นปาดน้ำตาออกเดินตามแรงลากของรุ่นพี่หนุ่มไปอย่างไม่มีทางเลี่ยงได้
น้ำตาที่เพิ่งแห้งเหือดหายไปพลันไหลรินออกจากตาอีกครั้งเมื่อเห็นรุ่นพี่สาวที่นอนอยู่บนเตียงมีทั้งสายน้ำเกลือและสายให้เลือดห้อยระโยงระยาง จมูกมีสายออกซิเจนสอดอยู่ ใบหน้าซีดเซียวไร้สีเลือด ความรู้สึกผิดยิ่งกัดกินใจได้แต่พร่ำขอโทษในใจซ้ำ ๆ
"เห็นหรือยังว่าการกระทำของเธอทำร้ายพระพายแค่ไหน" นนทพัทธ์กัดฟันพูดเสียงแข็งพอได้ยินแค่สองคน ก่อนจะลากเธอไปยืนริมปลายเตียงข้างสิน
ข้าวหอมได้แต่เม้มปากแน่นก้มหน้ามองพื้นฟังทุกคนคุยกันเงียบ ๆ เพราะมิอาจสู้หน้าสิน อลัน อคินและแฟนสาวของเขาได้มีเพียงหยาดน้ำตาที่หยดเผาะลงบนพวงแก้มหยดแล้วหยดเล่า
"แล้วนิกกี้ล่ะ" กระทั่งอลันเอ่ยถึงนิกกี้เธอจึงเงยหน้าขึ้นมอง หัวใจดวงน้อย ๆ สั่นไหวด้วยความหวาดกลัวตอนนี้นิกกี้ได้หนีไปแล้วคงมีแต่เธอที่ต้องก้มหน้ารับกรรม
"ฉันพยายามจะจับไว้แล้วแต่เธอขับรถหนีไปได้" นนทพัทธ์เป็นคนตอบ
"ไม่เป็นไรผมรู้ว่าเธออยู่ไหน ผมจะไปจัดการเธอเอง" อลันเอ่ย
"เรื่องทั้งหมดคลี่คลายแล้วฉันต้องขอโทษด้วยที่เคยส่งคนไปทำร้ายนายและเข้าใจนายผิด ส่วนเรื่องแพรฉันก็ต้องขอโทษแทนเธอด้วย" สินที่นิ่งเงียบมานานเอ่ยขึ้นด้วยความรู้สึกผิดและเสียใจกับการกระทำของตัวเองและน้องสาว
"ไม่เป็นไรครับเรื่องมันก็ผ่านมาแล้ว" อลันเอ่ยแล้วนิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนเอ่ยต่อ "ส่วนเรื่องแพรผมก็ไม่อยากเก็บมาคิดอีกแล้วยังไงเธอก็ตายไปแล้ว"
"ขอบใจมากงั้นระหว่างเราก็ไม่มีอะไรติดค้างกันอีก เราก็ลากันตรงนี้เลยนะ" สินยิ้มรับน้อย ๆ ว่าจบก็หันหลังเดินจากไปส่วนเรื่องคนที่ทำร้ายน้องสาวอลันกับนนทพัทธ์ก็รับปากแล้วว่าจะจัดการแทนเอง
"พายพิสูจน์ความบริสูจน์ของตัวเองได้แล้วหวังว่าคุณจะไม่ทำร้ายเธออีก" หลังจากสินหายหลังไปนนทพัทธ์ก็เอ่ยขึ้นอีกครั้ง สายตาจ้องมองใบหน้าซีดเซียวของคนบนเตียงด้วยความเจ็บปวดและเสียใจ
เขารักพระพายมาตลอดตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัยด้วยกัน เธอเป็นคนนิสัยดี น่ารัก ใครอยู่ด้วยก็มีความสุข อีกทั้งเธอยังมีไลฟ์สไตล์คล้ายกับเขาอีกจึงทำให้เข้ากันได้ดี หากวันไหนมีเวลาว่างก็มักจะหากิจกรรมทำด้วยกัน
ยิ่งได้ใกล้ชิดก็ยิ่งทำให้ความรู้สึกที่มีต่อเธอเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ แต่เขามันขี้ขลาดเกินไปทำได้แค่แอบรักไม่กล้าสารภาพความรู้สึกออกไปกระทั่งเรียนจบจนถึงวันต้องไปเรียนต่อต่างประเทศเขาก็ยังคงเก็บทุกอย่างไว้เป็นความลับกลัวว่าบอกไปจะทำให้สัมพันธ์ระหว่างเขากับเธอเปลี่ยนไป
ระหว่างเรียนต่อเขาก็คุยกับเธอผ่านไลน์ตลอด และเขาก็คิดไว้แล้วว่าหลังจากเรียนจบจะกลับมาสารภาพรักกับเธอไม่ว่าผลออกมาเป็นยังไงก็พร้อมยอมรับ แต่เขาก็ต้องผิดหวังในวันที่เธอโทรมาบอกกับเขาว่ากำลังจะแต่งงาน
"ในเมื่อเธอไม่มีความผิดแล้วผมจะทำร้ายเธอไปทำไมกัน" เสียงอลันดังขึ้นทำให้เขาหลุดออกจากห้วงความคิด ตวัดสายตามองหน้าอลันราวกับค้นหาอะไรบ้างอย่าง ผ่านไปนานนับนาทีจึงเอ่ย
"ก็ดีครับผมจะได้ไม่ต้องหว่ง..ส่วนผู้หญิงคนนี้ผมจะจัดการเอง" ประโยคแรกเขาเอ่ยกับอลัน ส่วนประโยคหลังหันไปกัดฟันพูดใส่หน้าข้าวหอมที่น้ำตานองหน้าพร้อมกับออกแรงบีบข้อมือเล็กระบายความโกรธที่คุกรุ่นอยู่ในใจ
"อึก" ข้าวหอมได้แต่ร้องไห้ออกมาเงียบ ๆ แม้จะรู้สึกเจ็บแค่ไหนก็ตาม สิ่งที่เธอทำมันหนักหนาเกินกว่าจะให้อภัยได้เจ็บแค่นี้มันยังน้อยไปด้วยซ้ำเมื่อเทียบกับความเลวที่เธอได้ทำลงไป
"งั้นผมขอตัวก่อนไว้จะมาเยี่ยมพายใหม่" เมื่อได้รับคำยืนยันนนทพัทธ์ก็วางใจขึ้น ว่าจบก็ลากข้าวหอมออกจากห้องไป
"พี่นนท์จะพาข้าวไปไหน ปล่อยข้าวนะคะ" ข้าวหอมขืนตัวสุดแรงพลางพยายามแกะมือหนาออกจากข้อมือ ไม่รู้ว่าเขาจะลากเธอไปไหนและที่บอกว่าจะจัดการกับเธอเองคือจัดการแบบไหน
หากเขาพาไปส่งตำรวจชีวิต และอนาคตของเธอคงพังไม่เป็นท่า เธอยังมีแม่ที่ต้องดูแลอีกเกิดท่านรู้ว่าเธอทำเลวอะไรไว้ต้องผิดหวังและเสียใจมากแน่ ๆ เอ่ยเว้าวอนด้วยน้ำเสียงสั่นเครือหวังว่าเขาจะนึกเห็นใจสักนิด "พี่นนท์อย่าจับข้าวส่งตำรวจเลยนะคะ ข้าวขอร้องให้ข้าวทำอะไรก็ได้แต่อย่าส่งข้าวเข้าคุกเลย"
นนทพัทธ์ได้ยินแต่ไม่คิดสนใจเพียงตวัดสายตามองเธอเล็กน้อยแล้วออกแรงลากมากกว่าเดิม ขณะที่ข้าวหอมก็พยายามสะบัดมือออก และขืนตัวสุดแรง
แต่ผู้หญิงตัวเล็กอย่างเธอหรือจะสู้กำลังคนตัวโตกว่าได้ หนำซ้ำมือหนายังกอบกำข้อมือแน่นขึ้น ๆ จนรู้สึกเจ็บไปหมดราวกับกระดูกจะแตกออกเป็นเสี่ยง ๆ ยิ่งเธอพยายามมากเท่าไรเขาก็ยิ่งบีดรัดแน่นเท่านั้น "พี่นนท์ปล่อยข้าว ข้าวเจ็บ"
ไม่ว่าเธอจะร้องท้วงหรือทำอะไรก็เปล่าประโยชน์สุดท้ายก็ถูกรุ่นพี่หนุ่มลากมาที่รถได้สำเร็จ
"เข้าไป!" นนทพัทธ์เปิดประตูฝั่งข้างคนขับแล้วออกคำสั่งเสียงแข็ง เมื่ออีกคนยังยืนนิ่งไม่ทำตามเขาจึงต้องบังคับด้วยการจับเธอยัดเข้าไปในรถเองทำให้ข้าวหอมที่พยายามต่อต้านศีรษะโขกเข้ากับขอบประตูรถถึงจะไม่แรงแต่ก็สร้างความเจ็บให้เธอไม่น้อย
"อึก!" น้ำสีใสพลันไหลออกจากคู่สวยอีกครั้งทั้งรู้สึกเจ็บและเสียใจที่รุ่นพี่หนุ่มกระทำกับเธอรุนแรงไม่สนใจสักนิดว่าเธอจะเจ็บหรือไม่
รุ่นพี่หนุ่มผู้แสนดี อ่อนโยนและอบอุ่นคนนั้นหายไปแล้ว เธอได้แต่นั่งก้มหน้าประสานมือบนหน้าตักแน่นข่มความกลัวและความรู้สึกมากมายที่ประเดประดังเข้ามา
ตอนนี้ถึงเธอทำอะไรหรือพูดอะไรก็ไม่มีประโยชน์รุ่นพี่หนุ่มคงโกรธและเกลียดชังที่เธอทำร้ายผู้หญิงที่เขารักคงยากลากคอเธอเข้าคุกเต็มทีแล้ว แต่หากเธอเข้าคุกแล้วผู้เป็นแม่จะอยู่ยังไงจะเป็นยังไง ทุกอย่างมันเป็นความโง่เขลาของเธอแท้ ๆ
นนทพัทธ์ปรายตามองร่างบางที่นั่งก้มหน้าน้ำตาร่วงเผาะบนหลังมือครั้งแล้วครั้งเล่าแวบหนึ่ง แล้วจึงเหยียบคันเร่งมุ่งหน้าออกจากโรงพยาบาล
ภายในรถปกคลุมด้วยความเงียบตลอดทางข้าวหอมเพียงปรายตามองคนที่ตั้งหน้าตั้งตาขับรถเป็นครั้งคราว กระทั่งรถแล่นผ่านสถานีตำรวจจึงรีบหันไปถามด้วยความสงสัย "พี่นนท์จะพาข้าวไปไหนคะ"
เขาไม่ได้จะพาเธอส่งตำรวจหรอกหรือ แล้วจะพาไปไหนกันคำถามมากมายผุดขึ้นในสมองหวังว่าเขาจะช่วยกระจ่าง แต่ก็ได้รับเพียงความเงียบแทนคำตอบ
หัวใจดวงน้อยเริ่มหวาดหวั่นอีกครั้งกับความนิ่งเงียบของเขา บรรยากาศรอบตัวเย็นเฉียบจนเธอสะท้านรับรู้ได้ถึงรังสีบางอย่างที่ชวนให้อึดอัดและเสียวสันหลัง ภายใต้ใบหน้าเคร่งขรึมนั้นเธอไม่สามารถรู้ได้เลยว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่