บทที่2.จบตอน
เมวีนั่งหน้างอคู่กับคนขับที่ดูจะอารมณ์ดีจนน่าโมโห ใบหน้าสวยงอง้ำนั้นเมินมองไปนอกรถเหมือนว่ามีอะไรที่น่าสนใจนักหนาทั้งยังไม่พูดไม่จากับเขามาตลอดทางจนถึงโรงพยาบาลเอกชนชื่อดังที่คุณทัศยาพักรักษาตัวมาตั้งแต่เมื่อคืนด้วยอาการที่เมวีนึกค่อนแคะว่าสำออย ความเกลียดชังที่ไม่รู้มาจากไหนเกาะกินในใจของเธออย่างไม่น่าเชื่อทั้งที่เธอกับแม่เลี้ยงนั้นไม่เคยมีเรื่องหมางใจกันถึงขั้นว่าเกลียดชังกันมาก่อน แม้ก่อนหน้าที่บิดายังมีชีวิตอยู่อาจจะมีบ้างที่เธอรู้สึกอิจฉาคุณทัศยาที่บิดาให้ความสนใจนางมากกว่าเธอ อีกทั้งความเก่งและฉลาดที่คุณทัศยามีนั้นสามารถช่วยงานของบิดาได้มาก และสร้างความชื่นชมให้นักธุรกิจที่ร่วมงานกับบิดามาก แต่เธอก็ไม่เคยมีความรู้สึกเช่นตอนนี้ ไม่รู้เพราะอะไร... เมวีรู้สึกสับสนกับความรู้สึกของตัวเอง
เธอไม่ได้รู้สึกเกลียดแม่เลี้ยงของตัวเองเพราะผู้ชายที่ชื่อออสการ์ใช่ไหม... อยู่ๆ คำถามนี้ก็ดังขึ้นในหัวจนเมวีรู้สึกตกใจตัวเองแล้วหันมามองชายหนุ่มที่เข้ามาวุ่นวายในหัวของเธอ
“มองทำไม คิดอะไรไม่ซื่อกับฉันรึเปล่านี่”
“บ้า.. ทำไมฉันต้องคิดแบบนั้นด้วย ทุเรศ...” เมวีหน้าแดงก่ำ ทำปากขมุบขมิบต่อว่าเขาในใจที่มารู้ทันเธอ ใจสาวไหววูบนึกแช่งชักเขาในใจ ในขณะที่ออสการ์ยิ้มที่มุมปากเล็กน้อยที่เห็นท่าทางพยายามซ่อนความขัดเขินของเธอ
ทั้งสองนั่งเงียบมาตลอดทางจนรถมาจอดที่ชั้นซึ่งคุณทัศยารักษาตัวอยู่ หญิงสาวเปิดประตูลงมาก่อนที่เขาจะลงจากรถด้วยซ้ำ ร่างงามเดินฉับๆ หมายจะเดินลงลิฟต์หนีเขากลับบ้านแต่ความเร็วของเขาที่เธอต้องทึ่งก็ทำให้เมวีจำต้องเดินตามแรงกึ่งลากกึ่งจูงของเขาเข้าไปยังพื้นที่ห้องพักฟื้นชั้นพิเศษของโรงพยาบาลจนได้
“ไม่ต้องมาจับมาจูง ฉันเดินเองได้...”
“หัดพูดเพราะๆ กับผู้ชายบ้างนะครับคุณผู้หญิง เพราะหากพูดไม่เข้าหูอาจจะเป็นอันตรายได้นะ”
“เรื่องของฉัน ฉันจะพูดกดีๆ กับคนที่ดีๆ เท่านั้นล่ะ” หญิงสาวหันมาแหวใส่คนตัวโตทั้งพยายามดึงข้อมือออกจากอุ้งมือหนาแข็งแกร่งราวคีมเหล็กกล้า แต่สุดท้ายก็เดินมาถึงหน้าห้องพักของคุณทัศยา
หัวใจของเมวีก็ต้องเต้นแรงจนเธอเหนื่อยหอบความอึดอัดหมุนวนในอกจนเธอหายใจแทบไม่ออก มันช่างทรมานเหลือเกินเมื่อเห็นออสการ์ที่ปล่อยมือเธอทันทีที่เข้ามาในห้องแล้วเดินไปโอบกอดร่างผอมบางที่ดูซูบลงไปมากของคุณทัศยาอย่างแสนรัก... เขามาหาคนรักของเขาแล้วจะพาเธอมาทำไม...เมวีคิดในใจอย่างเจ็บปวด ทำไมเธอต้องรู้สึกอย่างนี้ด้วย หญิงสาวคิดในใจอย่างรู้สึกเจ็บแปลบอย่างช่วยไม่ได้...
“มารับแนนนี่เสียที แนนนี่อยากกลับบ้านจะแย่แล้ว” คุณทัศยาซึ่งอยู่ในชุดที่พร้อมกลับบ้านกล่าวยิ้มแย้ม ก่อนจะหันมามองคนที่ยืนนิ่งอยู่หน้าประตูไม่ยอมเดินเข้ามาเหมือนถูกตอกหมุดที่เท้าไว้เสียอย่างนั้น
“อ้าว คุณหนูเมก็มาด้วยเหรอคะ”
“เอ่อ คือ...” เมวีติดอ่างขึ้นมาซ้ำยังหายใจติดๆ ขัดๆ
“อ๋อ.. คุณหนูเมของแนนนี่เขาอยากมาเยี่ยมแนนนี่ด้วยน่ะครับ อีกอย่างเธอก็อยากจะขอโทษแนนนี่ด้วยที่พูดกับแนนนี่ไม่ดีเมื่อวานนี้” ออสการ์พูดแทนหญิงสาวที่ยืนนิ่งอยู่ แม้เมวีจะขึงตามองเขาอย่างไม่พอใจก็ตาม
“นี่คุณ...”
“ไม่เป็นไรค่ะคุณหนูเม ฉันไม่โกรธหรอกค่ะ เรากลับบ้านกันเถอะออซ แนนนี่ไม่อยากอยู่ที่นี่แล้ว” คุณทัศยากล่าวอย่างอ่อนโยนแล้วลึกขึ้นเดินมาจับมือบางของเมวีเหมือนจะขอบคุณเธอทำให้เมวีรู้สึกละอายใจอยู่ไม่น้อย
“ครับแนนนี่ นี่เมวี เธอช่วยถือของให้แนนนี่ฉันหน่อยสิ...” ออสการ์บุ้ยใบ้ไปที่กระเป๋าใบเล็กของคุณทัศยาซึ่งหันมามองเขาอย่างตำหนิ
“อะไรกันออซ กระเป๋าใบเล็กนิดเดียว แนนนี่ถือเองได้น่า” ผู้สูงวัยกล่าวและจะเดินไปหยิบกระเป๋าของตนมาแต่เมวีซึ่งเพิ่งหาแรงของตัวเองพบก็เดินเข้าไปหยิบมาถือไว้ก่อนอย่างเคอะเขินไม่น้อย
“จะไปก็ไปเสียทีสิ ร่ำไรอยู่ได้น่ารำคาญ...” เมวีพูดอย่างเสียไม่ได้ใบหน้างามเชิดอย่างถือตัว คุณทัศยาหันมาสบตากับออสการ์แล้วก็ส่ายหน้ายิ้มๆ ก่อนจะเดินออกไปจากห้องไปก่อน เมวีจึงเดินตามคนทั้งสองไปด้วยความรู้สึกที่ยากจะบรรยาย...
“พี่บิ๊กอยู่ไหนคะ...” เมวีโทรศัพท์หาคนรักทันทีที่กลับเข้าห้องของตนเอง แต่กว่าที่บารมีจะรับโทรศัพท์เธอก็ทำให้หญิงสาวค่อนข้างจะไม่พอใจ
“น้องเมเหรอจ๊ะ พี่กำลังยุ่งเลยจ้ะ” เสียงของคนรักดังมาตามสายแต่น้ำเสียงดูมีลับลมคมนัยจนเมวีรู้สึกใจกระตุกแปลกๆ ความรู้สึกที่เหมือนกำลังถูกหลอกทำให้เมวีร้อนรุ่มในใจอยากจะรู้ว่าบารมีคนรักของตนอยู่ที่ไหน และสิ่งที่เธออยากอยากจะรู้อีกอย่างก็คือบารมีเอาข้อมูลของออสการ์มาจากไหน และแหล่งข่าวเชื่อถือได้หรือไม่ เธอไม่อยากเป็นคนสวยแต่โง่อย่างที่ออสการ์ว่าเธอ...
“กำลังยุ่งหรือกำลังทำอะไรคะ”
“โธ่.. จนป่านนี้น้องเมยังหึงพี่อยู่อีกเหรอจ๊ะ”
“หนูเมไม่ได้หึงค่ะ แต่หนูเมกำลังคิดว่าหนูเมถูกใครบางคนหลอกรึเปล่า...” หญิงสาวกล่าวเสียงเรียบแต่ทำให้คนฟังเกือบจะสำลักลมหายใจที่เริ่มจะติดขัดเพราะกำลังถูกปรนเปรอจากปากของสาวน้อยสวยสดไม่แพ้เมวี แต่ลีลารักร้อนแรงช่ำชองจนเขาต้องกลับมาใช้บริการเธออีกครั้ง...
“เอ่อ หนะ น้องเมจ๊ะ พอดีพี่มีสายสำคัญของลูกค้า วะ ไว้พี่จะโทร. กลับนะจ๊ะ พี่รักน้องเมที่สุด บายจ้ะ...”
บารมีชิงวางสายแล้วโยนโทรศัพท์เครื่องบางลงบนที่นอนนุ่มหันมาลูบศีรษะที่กำลังก้มอยู่ใจกลางร่างแกร่งของตนพลางสูดปากอย่างเผ็ดร้อนด้วยความเสียวซ่านเมื่อเจ้าหล่อนดูดกลืนแก่นกายชายอย่างเอร็ดอร่อยด้วยลีลาที่เด็ดถึงใจ...
“โอ้ว แมว หนูแมวจ๋า สะ เสียว เฮียเสียวเหลือเกิน...”
ชายหนุ่มครางเรียกชื่อสาวน้อยวัยยี่สิบนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยชื่อดังซึ่งเขารู้จักเธอจากคำบอกเล่าสรรพคุณที่เด็ดดวงของเธอ และเขาก็กำลังหลงใหลลีลาเร่าร้อนของเธอจนลืมเมวีหญิงสาวที่เขาหมายตาไว้ให้เป็นภรรยาในอนาคต
“ชอบมั้ยคะ เฮียบิ๊กขา แมวจะกินเฮียแล้วนะคะ...”
สาวน้อยผู้เร่าร้อนเงยหน้าขึ้นจากแก่นกายร้อนผ่าวของเขาแล้วค่อยๆ ผลักร่างชายหนุ่มให้นอนราบกับเตียงกว้างแล้วแนบเรือนกายอวบอัดยั่วใจกับร่างแกร่งของเขา ก่อนที่เพลิงสวาทเร่าร้อนจะเริ่มขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่าจนเกือบจะเที่ยงวันของวันถัดมาทั้งสองจึงได้แยกย้ายกันออกจากห้องพักของโรงแรมหรูใจกลางเมืองท่องเที่ยวอย่างพัทยา....
