6 กันไว้ดีกว่าแก้
รถคันหรูจอดหน้าร้านอาหารตามสั่ง มีนาที่นั่งคู่มากับคนขับรถด้านหน้า รีบเปิดประตูลงมาก่อน จากนั้นตัวเองก็เปิดประตูทางด้านหลังให้กับดลฤดี ส่วนอีกด้านคนขับรถก็เปิดให้กับคุณดวงกมล
“สวัสดีค่ะคุณท่าน คุณฤดี มีนาไปกวนอะไรหรือเปล่าคะถึงได้พามาส่ง” มุกดายกมือไหว้ผู้มีพระคุณทั้งสอง
“ไม่ได้กวนหรอกจ้ะน้ามุก”
“เชิญคุณท่านกับคุณฤดีด้านในก่อนนะคะ ร้านคับแคบไปหน่อย”
“ไม่เป็นไรจ้ะมุกดา ที่ฉันกับลูกสาวมาวันนี้ก็อยากจะมาขออนุญาตพามีนาไปช่วยดูแลลูกชายฉันสักระยะ ไม่รู้จะรบกวนเกินไปหรือเปล่า”
“ไม่เลยค่ะ มีนาปิดเทอมหลายเดือนคุณท่านใช้งานได้เต็มที่เลยนะคะ”
“แล้วที่ร้านไม่ลำบากใช่ไหม”
“ไม่เลยค่ะ ให้มีนาไปอยู่กับคุณท่านช่วงปิดเทอมเลยก็ได้นะคะ”
ดวงกมลมองไปในร้านเห็นผู้ชายคนหนึ่งนั่งมองมาทางพวกเขา เธอก็เดาว่าน่าจะเป็นสามีใหม่ของมุกดา เพราะตอนนั่งมาในรถมีนาเล่าให้ฟังบ้างแล้วว่าตอนนี้ที่ร้านมีสามีใหม่ของมารดามาช่วยขายของและมาอาศัยอยู่ด้วย
“มีนาล่ะ ว่ายังไง”
“ได้ค่ะ มีนาไม่มีปัญหา”
“ถ้าอย่างนั้นหนูก็เก็บของรอ พรุ่งนี้เช้าพี่จะให้น้าชัยแวะรับหนูไปที่โรงพยาบาล”
“ได้ค่ะ มีนาจะเตรียมตัวรอตั้งแต่เช้านะคะ”
“ถ้าอย่างนั้นฉันขอตัวก่อนนะมุกดา ขอบใจมากนะที่ยอมให้มีนาไปช่วยดูแลตาดล”
“ไม่เป็นไรเลยค่ะคุณท่าน เราสองแม่ลูกยินดีทำทุกอย่างค่ะ พรุ่งนี้มุกขออนุญาตทำข้าวต้มไปเยี่ยมคุณดลได้ไหมคะ”
“ได้สิ ขอบใจมากนะ ฉันไปก่อนล่ะ”
คุณดวงกมลและลูกสาวเดินกลับมาที่รถ สีหน้าของผู้สูงวัยดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่
“มีอะไรหรือเปล่าคะแม่” ดลฤดีถามเมื่อรถเคลื่อนตัวออกมาจากหน้าร้านได้ไม่นาน
“ฤดีเห็นไหมว่าผู้ชายคนนั้นมองตามมีนาตลอด”
“คุณแม่ก็เห็นเหรอคะ” เพราะตอนที่เธอคุยกับมุกดา ยังมีลูกค้าอยู่ในร้าน มีนาเลยทำหน้าที่เอาอาหารไปเสิร์ฟและเก็บโต๊ะ เธอสังเกตเห็นว่าสามีของมุกดามองตามหลังมีนาตลอด ไม่ว่าหญิงสาวจะทำอะไรเขาก็จ้องเหมือนเสือกำลังจะตะครุบเหยื่อ
“แม่ไม่สบายใจเลย ไม่รู้ว่าคิดไปเองหรือเปล่า”
“ฤดีว่ามีนาก็คงรู้สึกตัวแหละค่ะ ตอนที่เล่าถึงผู้ชายคนนั้นดูเหมือนมีอะไรในใจบางอย่าง”
“ช่วงนี้ให้มีนาไปนอนเฝ้าตาดลที่โรงพยาบาลก่อน ถ้าเขาออกจากโรงพยาบาลแม่ว่าจะให้น้องกลับมาอยู่ที่บ้านหลังเล็ก ไม่อยากให้ไปอยู่ที่คอนโดคนเดียว”
“แล้วมีนาล่ะคะ ให้มาอยู่ด้วยกันที่นี่เลยดีไหมคะ บ้านหลังเล็กก็มีตั้งสองห้อง ให้มีนาช่วยดูแล เพราะถ้าจะจ้างพยาบาลมาที่บ้านฤดีว่าน้องคงไม่ยอมแน่ๆ” เธอรู้นิสัยน้องชายดีว่าชอบความเป็นส่วนตัว เขาถึงได้ย้ายออกไปอยู่ที่คอนโดตามลำพัง
“ก็ดีเหมือนกัน แม่เป็นห่วงนะ มีนาเป็นเด็กดีเรียนเก่ง”
“เราสองคนคงไม่คิดมากไปเองใช่ไหมคะแม่”
“กันไว้ก็ยังดีกว่าแก้นะฤดี อีกอย่างบ้านเราก็มีเด็กตั้งหลายคนจะเพิ่มมีนามาอยู่ด้วยอีกคนก็คงไม่เป็นไรหรอก”
“เดี๋ยวเราค่อยบอกเรื่องนี้กับมีนาพรุ่งนี้อีกทีดีไหมคะ”
“ดีจ้ะ”
พอกลับมาถึงบ้านก็ถึงเวลาอาหารเย็นพอดี
“ออกจากโรงพยาบาลมากตั้งนานทำไมเพิ่งถึงบ้านกันล่ะ แอบไปแวะที่ไหนมาหรือเปล่า” คุณประพันธ์ถามภรรยาและลูกสาว
“คุณพ่อรู้ได้ยังไงคะว่าเราออกจากโรงพยาบาลมาตอนไหน”
“ก็พ่อแวะไปหาตาดลมาน่ะสิ ว่าแต่ไปไหนกันมาล่ะ”
“ฤดีกับแม่แวะไปส่งมีนาที่ร้านมาค่ะ พ่อจำมีนาได้ไหมคะ”
“ใครกันล่ะ”
“ก็เด็กที่เราให้ทุนไงคะ ที่บ้านเธอขายอาหารตามสั่งไงคะ”
“เด็กทุนมีหลายคนเหลือเกินพ่อนึกหน้าไม่ออกเลย”
“เดี๋ยวก็นึกออกเองค่ะ มีนาจะมาช่วยดูแลตาดลค่ะพ่อ”
“แล้วพยาบาลล่ะ เห็นว่าจ้างไว้แล้ว”
“ก็นั่นพยาบาล ส่วนมีนาก็ดูแลทั่วๆ ไปไงคะ”
“อย่าทำอะไรกันเองโดยไม่ถามเจ้าตัวเขานะ เกิดตาดลอาละวาดขึ้นมาพ่อว่ามันจะยุ่งเอานะ” เขาเตือนเพราะรู้จักนิสัยของลูกชายดี
“ไม่หรอกค่ะ วันนี้มีนาก็ไปเยี่ยมที่โรงพยาบาลมาแล้ว ฤดีคุยกับน้องแล้วค่ะพ่อ เขายอมให้มีนามาดูแล”
“เหรอ แปลกนะ แต่ก็ดีนะ อย่างน้อยก็ถือว่ามีคนของเราช่วยดูแล” แม้จะแปลกใจแต่เมื่อลูกชายยอมเขาก็ไม่ว่าอะไร
“ไม่รู้ต้องอยู่อีกนานไหม พ่อล่ะสงสารตาดลเหลือเกิน เจ็บหนักอย่างนี้คงเบื่อแย่”
“ฉันก็สงสารลูก แต่ได้มีนาไปอยู่เป็นเพื่อนก็คงหายเหงา มีนาเป็นเด็กน่ารัก นิสัยดี” ดวงกมลบอกสามี
“แล้วไว้ใจได้ใช่ไหม” แม้ตอนนี้ตัวเองจะออกมาเป็นอาจารย์พิเศษสอนนักศึกษาแต่งานในบริษัทก็พอจะรู้ว่าเรื่องไฟไหม้อาจมีเบื้องหลัง
“ไว้ใจได้สิ ฉันมองคนไม่พลาดหรอก” เธอตอบสามี
“คุณพ่อคุณแม่หิวหรือยังคะ เรากินข้าวกันเลยไหม ไม่ต้องรอพี่วัฒน์ค่ะ วันนี้เขาออกไปกับลูกค้า” ดลฤดีบอกบิดามารดาเพราะวันนี้สามีของเธอมีนัดทานข้าวกับลูกค้าและคงจะกลับดึก
“เอาสิ พ่อก็หิวเหมือนกัน คุณล่ะหิวหรือยัง” เขาหันมาถามภรรยา
“ค่ะ กินเลยก็ได้ กินข้าวเสร็จดวงมีอะไรอีกหลายอย่างที่ต้องจัดการ”
ทานอาหารเย็นเสร็จแล้วดลฤดีก็ขอตัวขึ้นห้อง คุณประพันธ์ก็ขอตัวเข้าห้องทำงาน เหลือเพียงคุณดวงกมลนั่งอยู่ที่ห้องรับแขก เธอเรียกให้ป้าแข ชบาและสาวใช้อีกสองคนมารวมตัวกันจากนั้นก็สั่งให้ช่วยกันทำความสะอาดบ้านหลังเล็ก
“ใครจะมาย้ายมาอยู่เหรอคะ”
“ฉันจะให้ตาดลกลับมาอยู่บ้านสักพัก พวกตู้กับเตียงเดี๋ยวฉันจะไปสั่งที่ร้านให้เขามาส่ง ป้าแขก็ดูแลให้เด็กๆ ทำความสะอาดให้เรียบร้อย ทุกห้องเลยนะ”
“เหรอคะ ป้าดีใจจังค่ะ แล้วคุณดลจะย้ายเข้ามาวันไหนคะ”
“ยังมารู้เลย แต่เตรียมห้องไว้ก่อน บางทีอาจจะมีคนอื่นมาอยู่ที่บ้านหลังนั้นก่อนก็ได้”
“ใครคะ แฟนคุณดลหรือเปล่า” ป้าแขรีบถาม
“ไม่ใช่หรอกจะ เอาไว้ถ้าเขาตกลงจะมาอยู่ฉันจะบอกอีกที” คุณดวงกมลไม่รู้ว่ามีนาจะยอมมาอยู่กับเธอหรือเปล่า ถ้าชวนดีๆ ไม่ยอมมาก็คงต้องหาเหตุผลมาอ้างกันบ้าง เพราะถ้ายังให้อยู่ที่นั่นต่อก็ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เธอไม่ได้คิดมากเกินไปแต่สายตาแบบนั้นมันเหมือนกับสายตาที่ชายหนุ่มมองหญิงสาวหรือมองคนรัก และเธอคงรู้สึกผิดถ้าเห็นแล้วไม่ลงมือทำอะไร ทั้งที่พอจะช่วยได้