2 เป็นห่วง
ร้านอาหารตามสั่งปิดในเวลาหนึ่งทุ่ม หลังจากช่วยมารดาเก็บร้านเสร็จแล้วมีนาก็ขอตัวไปอาบน้ำ ก่อนที่กิตติศักดิ์ซึ่งออกไปดื่มเหล้ากับเพื่อนจะกลับ เธอรู้สึกไม่ค่อยปลอดภัยเท่าไหร่ตั้งแต่เขาย้ายเข้ามาอยู่ด้วย เกือบสามเดือนที่ผ่านมามีนาไม่เคยนอนหลับสนิทเพราะรู้สึกระแวงไปหมด เนื่องจากมีอยู่ครั้งหนึ่งกิตติศักดิ์เมาแล้วเดินเข้าในห้องของเธอ แต่พอหญิงสาวโวยวายเขาก็บอกว่าเมาแล้วเข้าห้องผิด
มีนาไม่ได้บอกเรื่องนี้กับมารดาเพราะเห็นว่ามันไม่ใช่เรื่องสำคัญเท่าไหร่ แต่จากนั้นมากเธอก็ระวังตัวมากขึ้น มีหลายครั้งที่เธอเห็นว่าสามีใหม่ของมารดาชอบแอบมอง แต่ก่อนมีนาชอบใส่กางเกงขาสั้นกับเสื้อกล้ามเวลานอน แต่พอเห็นสายตาของเขาที่จ้องมาแล้วหญิงสาวก็เปลี่ยนเป็นใส่กางเกงขายาวและเสื้อยืดแทน เธอไม่กล้าบอกเรื่องนี้กับมารดา เพราะคิดว่าตัวเองจะเอาตัวรอดจากเขาได้ และหลังจากเรียนจบก็จะขอมารดาออกไปอยู่ตามลำพัง
หลังจากอาบน้ำเสร็จมีนาก็มานั่งอยู่หน้าทีวีเพื่อจะคุยกับมารดา
“แม่คะ พรุ่งนี้มีนาสอบเสร็จตั้งแต่เที่ยงมีนาขอไปเยี่ยมคุณดลที่โรงพยาบาลได้ไหมคะ”
“พี่ชบาไลน์มาบอกแล้วเหรอว่าเขาอยู่โรงพยาบาลไหน”
“ค่ะแม่ พี่ชบาบอกว่าตอนนี้คุณดลออกจากห้องผ่าตัดแล้ว ย้ายมาอยู่ห้องพักฟื้น มีนาว่าพรุ่งนี้จะซื้อผลไม้ไปเยี่ยมเขาดีไหมคะ แต่ไม่รู้ว่าหมอให้เขากินอะไรได้หรือยัง”
“ดีจ้ะ นี่ก็ดึกแล้วแม่ว่าหนูรีบเข้านอนดีกว่าไหม พรุ่งนี้จะได้ไม่ง่วงในห้องสอบ”
“ยังไม่ดึกสักหน่อย มีนาว่าจะอ่านหนังสือต่ออีกนิดแล้วค่อยนอนค่ะ แม่ล่ะคะ จะนอนเลยหรือว่าจะรอน้าศักดิ์คะ”
“แม่จะดูละครจบก็คงเข้านอน”
“แม่คะ แม่ไม่โกรธเหรอคะที่น้าศักดิ์กลับดึกแบบนี้”
“ไม่หรอกจ้ะ ถ้าไม่กลับเลยก็ยิ่งดี”
“แม่ค่ะ มีอะไรหรือเปล่าทำไมแม่ถึงพูดแบบนี้คะ หรือแม่กับเขาทะเลาะกัน”
“เปล่าจ้ะ แม่ไม่ได้ทะเลาะกับเขา แต่ที่แม่ไม่อยากให้เขากลับเพราะแม่เป็นห่วงหนู มีนาของแม่โตขึ้นและสวยขึ้น แม่กลัวว่าเขาจะมองหนูเป็นอย่างอื่น ไม่รู้ว่าแม่คิดไปเองหรือเปล่า แต่แม่เห็นสายตาที่เขามองหนู มันดูไม่น่าไว้ใจ แม่กลัวว่าเขาจะทำอะไรหนู แม่ขอโทษนะมีนาที่พาเขาเข้ามาอยู่ในบ้าน” มุกดาเสียใจที่พากิตติศักดิ์เข้ามาอยู่ในบ้าน
“แม่ขา มีนารู้ว่าแม่กังวลเรื่องอะไร แต่มีนาดูแลตัวเองได้ค่ะ เขาไม่มีทางทำอะไรมีนาได้อย่างแน่นอน”
“บางทีแม่ก็อยากให้เขาไปอยู่ที่อื่น แต่ไม่รู้จะไล่ยังไง แม่ไม่อยากให้เขาคิดว่าพอเขาตกต่ำแล้วเราก็ถีบหัวส่ง”
“มีนาเข้าใจค่ะ แต่ก่อนตอนที่น้าศักดิ์เขายังมีงานประจำทำ เขาก็ดีกับเราสองแม่ลูกมาก ถ้าตอนที่เขาตกงานแล้วเราไล่เขาไปอยู่ที่อื่นมันก็คงดูใจร้ายมาก”
“น้าศักดิ์เขาก็ไม่ได้เลวร้ายอะไร ถึงเขาจะตกงานแต่เขาก็ยังช่วยแม่ขายของ แม่ก็จะได้ไม่เหนื่อย สัญญากับแม่นะมีนา ถ้าเขาทำอะไรหนู หนูต้องรีบบอกแม่ทันที”
“ค่ะแม่”
12.00 น. มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง
“มีนา พลอย สอบเสร็จแล้วไปดูหนังกันไหม” กัลยากรหรือแก้วเพื่อนที่เรียนเอกเดียวกันเอ่ยชวน
“เอาสิ” พลอยหรือณัฐชารีบตอบตกลงทันที
“เราขอตัวนะพลอย แก้ว พอดีมีธุระน่ะ”
“อ้าว วันก่อนยังบอกว่าว่างอยู่เลยนะมีนาหรือว่าแอบนัดหนุ่มที่ไหนเดทหรือเปล่า”
“ไม่ได้นัดเดทใครหรอกหรอก เราแค่จะไปโรงพยาบาล”
“มีนาเป็นอะไร ไม่สบายตรงไหนเดี๋ยวเราขับรถไปส่งนะ” กัลยากรรีบถามด้วยความเป็นห่วง
“เราสบายดี แค่จะไปเยี่ยมคนรู้จักที่โรงพยาบาลแค่นั้นเอง”
“อ๋อ ถามได้ไหมใครเหรอ”
“คุณนฤดล ลูกชายของคนที่ให้ทุนเราเรียน เราได้ข่าวว่าเขาเข้าโรงพยาบาลเมื่อวานก็เลยจะไปเยี่ยมสักหน่อย”
“ถ้าอย่างนั้นมีนาก็แวะไปเยี่ยมแล้วก็ไปดูหนังต่อก็ได้นี่เดี๋ยวไปรถเราเลย คงเยี่ยมไม่นานหรอกมั้ง”
“เราไม่แน่ใจ พลอยกับแก้วอย่าเสียเวลาเลย ไปดูกันสองคนเถอะ”
“เอางั้นก็ได้” กัลยากรไม่อยากเซ้าซี้เพราะเห็นท่าทางไม่สะดวกใจของมีนา
“มีนา เป็นห่วงเขามากเหรอ”
“ก็นิดหน่อยน่ะพลอย เราไม่รู้ว่าเขาเจ็บเยอะไหม”
“ถ้าเป็นห่วงมากก็รีบขึ้นเลยรถเลย เดี๋ยวเราส่งมีนาที่โรงพยาบาลแล้วค่อยไปดูหนังกันต่อดีไหมพลอย” กัลยากรรีบเสนอเพราะดูแล้วเพื่อนคงไม่มีอารมณ์จะไปดูหนังแน่ๆ
“ดีสิ ถ้านั่งรถเมล์ไปกว่าจะถึงก็ช้า” ณัฐชารีบเดินนำไปที่รถของกัลยากรที่จอดอยู่ข้างตึก
ใช้เวลาครึ่งชั่วโมงมีนาก็มาถึงยังโรงพยาบาลเอกชนขนาดใหญ่ หญิงสาวเป็นห่วงเขาจนลืมแวะซื้อผลไม้อย่างที่คิดไว้
เธอมายืนอยู่หน้าห้องพักวีไอพีตามหมายเลขห้องที่ได้จากพี่ชบา แต่ไม่กล้าเปิดประตูเข้าไปเพราะไม่รู้ว่าเหมาะสมไหมที่เด็กทุนอยากเธอจะมาเยี่ยมลูกชายของเจ้าของทุน
มีนาเดินวนเวียนอยู่หน้าห้อง จากนั้นก็นั่งบนเก้าอี้ ในใจได้แต่ภาวนาให้คนที่อยู่ในห้องไม่เป็นอะไรมากจนกระทั่งเวลาผ่านไปเกือบครึ่งชั่วโมง หญิงสาวก็ยังไม่กล้าเคาะประตู