6 ผู้หญิงกลางคืน 2
เขาบอกกับตัวเองว่าอดทนเอาไว้ อย่าเพิ่งปล่อยออกมา รอให้เธอถึงจุดหมายก่อน บางทีการเปลี่ยนท่าอาจจะช่วยให้ดีขึ้น ชายหนุ่มถอนสมอออก ท่ามกลางสายตาที่มองอย่างเสียดาย แต่ไม่ทันจะอ้าปากถาม พยัคฆ์จับปลายเท้าสวยค่อยๆ ลากมาที่ปลายเตียง ส่วนสะโพกวางหมิ่นเหม่เกือบจะตก เขาแยกขาให้ออกจากกันแล้วเข้าส่งแก่นกายเข้าไปสำรวจเส้นทางอีกครั้ง
มาม่าซังยกขาขึ้นแล้วรัดปลายเท้าเข้าหากับบั้นเอวชายหนุ่มเอาไว้ ความเร็วขงจังหวะการเคลื่อนไหวและการเสียดสีของเนื้อภายในทำให้เธอรู้สึกชาแล้วเริ่มทนไม่ไหวต่อการตอกย้ำในที่เดิมเป็นเวลานานๆ สุดจะทนไหว
ระเบิดเวลาแห่งความสุขเกิดขึ้น เมื่อถึงจุดสูงสุด มาม่าซังเกร็งไปทั้งตัว ยกสะโพกขึ้น กลั้นลมหายใจร้องครางออกมา พยัคฆ์เร่งความเร็วกว่าเดิม พร้อมกับปลดปล่อยหยาดหยดออกจากร่างกายจนหมดสิ้น
ขาทั้งสองขาถูกปล่อยวางลงไปพร้อมกับร่างหนาทาบทับบดคลึงอยู่บนร่างอวบ ฝ่ามือยังคงกุมที่หน้าอกเคล้นเบาๆ มาม่าซังจูบที่แก้มชายหนุ่มเป็นการให้กำลังใจ
“เก่งมากพยัคฆ์ สุดยอดจริงๆ”
“ขอบคุณครับ คุณก็เก่งมาก มาม่า”
“เก่งอย่างนี้ ผู้ชายบางคนไม่ชอบ หาว่ากร้านชีวิต ผ่านอะไรมาเยอะ”
“สำหรับผมไม่ ชอบคนที่มีประสบการณ์ ไม่ต้องบอกสอนกันมาก แต่คืนนี้คุณทำให้ผมมีความภูมิใจในตัวเองที่สุด”
“นอนพักก่อนเถอะค่ะแล้วฉันจะไปส่ง”
“ครับ ผมไม่ได้รับความสุขอย่างนี้นานมาก ขอเวลาทำความสะอาดก่อนแล้วจะมานอนด้วย”
ชายร่างใหญ่ลุกขึ้นจากการกอดรัด เดินเปลือยกายโทงๆ เข้าไปในห้องน้ำ โดยมีสายตาของมาม่าซังมองตามไหล่ผึ่งผายด้วยความพึงพอใจ ในชีวิตของการเป็นผู้หญิงกลางคืน ผ่านผู้ชายมาพอสมควร แต่ไม่มีใครประทับใจเท่ากับพยัคฆ์ นอกจากรูปหล่อ รูปร่างใหญ่แข็งแรง ลีลาในเรื่องดังกล่าวเร่าร้อนเสียจนเธอแทบขาดใจ
หลังจากนอนพักผ่อนชั่วครู่ มาม่าซังมาส่งพยัคฆ์ที่ริมถนนตรงปากทางเข้าซอยพร้อมกับมอบเงินจำนวนหนึ่งให้ แต่เขาไม่รับแล้วเดินจากไปอย่างรวดเร็ว มาม่าซังรีบลงจากรถเพื่อตามไปดูว่าเขาอยู่ที่ไหน แต่ร่างใหญ่หายเข้าไปในซอยเล็กๆ ที่มืดจนน่ากลัว
“ว้า แล้วเราจะเจอเขาได้ยังไงเนี่ย ไม่ยากถ้าเพื่อนเขายังทำงานอยู่ที่นั่น เขาต้องไปหาบ่อยๆ ผู้ชายอะไรไม่รู้ พูดแล้วขนลุก”
มาม่าซังพึงพอใจต่อบทรักอันเร่าร้อนที่พยัคฆ์มอบให้ นึกถึงภาพที่ตัวเองคลุกเคล้าแนบชิดแล้วใจเต้นแรง ปรารถนาที่จะได้รับอีกอีก
“อิ่มมาแล้วสิ ถึงเดินขาพันกันอย่างนั้นน่ะ”
เสียงทักดังมาจากร่างที่นอนคลุมโปงอยู่บนเตียง พยัคฆ์ชะงักเท้า ก่อนที่จะปิดประตูห้อง กดล็อกลูกปิดแล้วกระโจนขึ้นมานอนเคียงข้างกับก้องที่ยังคงลืมตาสำรวจไปทั่วเรือนร่างเหมือนจับผิด พยัคฆ์แกล้งตีหน้าเซ่อ ตามด้วยคำถาม
“มองอะไร ทำไมขาถึงพันกัน”
“ไม่ต้องมาทำเป็นไขสือเลยนะ เอ็งน่ะไปนอนกับยัยมาม่าซังมาน่ะสิ คงดูดพลังออกไปเยอะ นายถึงสิ้นเรี่ยวแรงอย่างนี้น่ะ”
“ใครบอกว่าเราไปกับมาม่า”
“ยามโว้ย เราออกมาถามหานาย ยามก็เลยแจงรายละเอียดให้ฟัง อย่างว่านั่นแหละ รูปร่าง หน้าตานายตรงสเป็กมาม่าก็เลยไม่รอดที่ถูกหิ้ว ว่าแต่ถึงสวรรค์ชั้นไหนล่ะ”
“บ้า ไม่มีอะไร แค่ดื่มเบียร์นิดหน่อยแล้วกลับ”
ชายหนุ่มปฏิเสธว่าไม่มีอะไรเกินเลยกับมาม่าซังตามที่ก้องเข้าใจเพื่อไม่ให้ฝ่ายหญิงเสียหาย แม้ว่าทำงานกลางคืนก็ตาม แต่ก้องไม่เชื่อ ลุกขึ้นนั่ง เอื้อมมือมาที่ขอบกางเกงพยัคฆ์เพื่อพิสูจน์อะไรบางอย่าง แต่ชายหนุ่มปัดมือออก ร้องห้ามเสียงหลง
“เฮ้ย อย่า นายจะทำอะไรน่ะ”
“อ้าว กลัวอะไร”
“นายทำอะไร บอกมาสิ”
“อยากรู้ว่านายไปกุ๊กกิ๊กกับมาม่าจริงหรือเปล่า ต้องมีหลักฐานทิ้งเอาไว้บ้างล่ะ”
“ไม่มี นอนเถอะ เราง่วงแล้ว”
ร่างใหญ่หันหลังให้ทันที ดวงตาทั้งสองข้างปิดเข้าหากัน ความง่วงที่จู่โจมเข้ามานั้นทำให้พยัคฆ์หลับอย่างรวดเร็ว ก้องได้แต่มองด้วยความคลางแคลงใจ อยากรู้ว่าเพื่อนไปหลับนอนกับมาม่าซังผู้เร่าร้อนคนนั้นจริงหรือไม่ ได้แต่เก็บความสงสัยเอาไว้แต่เพียงผู้เดียว
ความสัมพันธ์ระหว่างพยัคฆ์กับมาม่าซังยังคงมีอย่างต่อเนื่องเพราะฝ่ายหญิงมีความปรารถนาที่จะให้เขามอบความเสน่หาให้ในยามต้องการ แรกๆ พยัคฆ์มีความสุขกับรสรักอันเร่าร้อน พอนานไปรู้ว่าไม่ใช่สิ่งสำคัญในการดำรงชีวิตเพราะเขาจะต้องหางานทำ สร้างฐานะให้กับตนเอง แม้มาม่าซังบอกว่าจะช่วยในเรื่องค่าใช้จ่าย เขาไม่ต้องทำอะไร นอกจากคอยปลดเปลื้องความสุขบนเตียงเพียงอย่างเดียว
“แสดงว่าเรื่องของเราจบลงเพียงเท่านี้ใช่ไหม”
มาม่าซังเครียดอย่างเห็นได้ชัดเมื่อพยัคฆ์ไม่ยินยอมที่จะตกเป็นทาสสวาทของเธออีกต่อไป
“ผมมีอะไรที่จะต้องทำอีกเยอะ ชีวิตต้องเดินไปข้างหน้า คงหยุดอยู่กับที่ไม่ได้ หวังว่าคุณคงจะเข้าใจ”
“แสดงว่าคุณเจอผู้หญิงคนใหม่ สาวกว่า สวยกว่า เร่าร้อนกว่าฉัน”
“ผมยังไม่มีใคร”
“ฉันไม่เชื่อหรอก ถ้าไม่มีคนอื่นคุณคงไม่เป็นอย่างนี้ ใช่สิฉันมันแก่ ทำงานกลางคืน คุณรับไม่ได้”
มาม่าซังเริ่มฟูมฟาย ร้องไห้สะอื้นดังๆ พยัคฆ์ส่ายหน้าอย่างเอือมระอา ก้มลงหอมแก้มแล้วเดินออกจากห้องโดยไม่มีคำบอกลา เสียงร้องไห้ปานว่าจะขาดใจยังคงได้ยินอยู่ข้างหลัง เขาจะต้องตัดใจจากเธอ เพื่อตามหาฝันหลังจากเรียนจบ รอแค่วันรับปริญญาเท่านั้น
“ผู้ชายก็เป็นอย่างนี้ พอเบื่อก็หนี ฉันไม่น่าใจง่ายเลย”
พยัคฆ์เร่งฝีเท้าเดินหนีเสียงที่รบกวนความรู้สึก ยอมรับว่าสงสารมาม่าซัง แต่ความเป็นไปได้ที่จะใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันนั้นไม่มีเลย ในเมื่อเธอและเขาเดินคนละทาง จะให้เขาละทิ้งโอกาสในชีวิตหนุ่มหลังจากร่ำเรียนจบปริญญาตรีมาเป็นสามีผู้หญิงกลางคืนโดยไม่ทำงาน เขาทำอย่างนั้นไม่ได้ ในเมื่อเขาคือความหวังของพ่อแม่ที่อุตส่าห์ทนเหนื่อยยาก ทำงานตากแดดตากฝน หาเงินส่งให้เขาเรียน ถ้าท่านรู้ว่าเขากลายเป็นแมงดาปีกทองเกาะผู้หญิงกลางคืนกิน ท่านจะเสียใจแค่ไหน
จิตสำนึกความเป็นคนอยู่เหนือกว่าความสุขสบายที่มาม่าซังหยิบยื่นให้ โชคดีที่หลุดออกมาก่อนที่จะถลำลึกไปกว่านี้ พยัคฆ์ยอมเป็นคนเลวในสายตาของเธอ เพื่อต่อสู้ด้วยลำแข้งของตัวเอง แม้ว่าเหนื่อยยากแค่ไหนแต่เขาก็มีความสุข ทว่า พยัคฆ์ล้มทั้งยืน หัวใจเหมือนถูกกระชากออกจากอก เมื่อกลับเข้าที่พัก คนดูแลบอกว่ามีญาติโทรศัพท์มาบอกให้กลับบ้านด่วน พ่อแม่ตายแล้ว