บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 7 แรงรักแรงริษยา

ร่างบางที่กำลังก้าวขึ้นตำหนักหลวงหยุดชะงักกึกทันที ริมฝีปากบางเม้มเข้าหากันแน่นเมื่อหันไปเห็นภาพที่บาดตาบาดใจ มือเรียวกำแน่นจนเส้นเลือดนูนขึ้นมา ดวงตาสีเทาวาววับยังกับมีเปลวไฟอยู่

“คุณหนูขาดูนั่นสิคะ เจ้าชายกับนังผู้หญิงชาวเอเชียนี่คะ ดูซิคุณหนูนังนั่นมันออดอ้อนเจ้าชายใหญ่เลยค่ะ” เสียงแหลมของนางรับใช้ดังแว้ดขึ้น พร้อมกับชี้มือชี้ไม้ให้กับนายสาวดู

“ฉันมีตาดูนังบ้า ไม่ต้องบอก” โซไรดาหันมาตะคอกใส่สาวใช้ ก่อนจะหันกลับไปมองพระคู่หมั้นที่กำลังประคองสาวไทยลงจากรถยนต์ส่วนพระองค์อย่างโกรธแค้น ดวงตากลมโตหรี่ลงพร้อมกับกัดฟันกรอด

“เจ้าชายทรงทำแบบนี้ไม่ถูกนะคะคุณหนู มีคุณหนูอยู่แล้วทั้งคนยังจะไปยุ่งเกี่ยวกับผู้หญิงอื่นอีก” สาวใช้บอกอย่างโมโหแทนนายสาว

“หุบปากเสียๆ ของแกซะ ก่อนที่จะไม่มีเอาไว้พูดอีก แกอย่าได้คิดบังอาจมาต่อว่าเจ้าชายเด็ดขาดคนที่ผิดคือนังผู้หญิงชาวเอเชียคนนั้นต่างหาก”

“ค่ะๆ นังคนนั้นมันผิดค่ะ” สาวใช้รีบรับคำเสียงลนลาน

“มันคิดว่ามันเป็นใครถึงได้กล้ามายุ่งกับเจ้าชายของฉัน” หญิงสาวชาวจากัสต้ากัดฟันกรอด เธออยากจะตรงเข้าไปกระชากร่างบางเข้ามาตบให้หายแค้นใจยิ่งนัก แต่ก็ทำไม่ได้

“แบบนี่มันต้องสั่งสอนให้รู้จักว่าของใครเป็นของใครนะคะ เข้าไปจัดการมันเลยไหมคะคุณหนู” นางรับใช้ยุส่งนายสาว

“เข้าไปให้โง่น่ะสิ ขืนเข้าไปอาละวาดตอนนี้ เจ้าชายได้ทรงกริ้วแน่ๆ หัดใช้หัวคิดเสียบ้างนังโง่” ผู้เป็นเจ้านายหันกลับมาตวาดใส่คนรับใช้อย่างโมโห ก่อนจะหันกลับไปมองภาพบาดหัวใจอีกครั้งด้วยแววตาที่เหี้ยมเกรี้ยม ใบหน้ารูปไข่เชิดขึ้น พร้อมกับหรี่ดวงตาลง

“เอาไว้หาโอกาสที่เหมาะกว่านี้นังนั่นมันจะต้องได้รู้แน่ๆ ว่ามันกำลังเล่นอยู่กับใคร” โซไรดาจ้องเขม็งไปยังใบหน้างามที่กำลังแย้มยิ้มอย่างมีความสุขด้วยแววตาอาฆาตแค้น แล้วกระแทกเท้าเดินขึ้นตำหนักหลวงไปด้วยความโมโหโกธา

“ทรงเสด็จไปไหนมาเหรอเพคะ” โซไรดายืนขึ้นพร้อมกับทูลถามกษัตริย์หนุ่มด้วยสีหน้าที่บึ้งตึง ทันทีที่อีกฝ่ายเสด็จเข้ามาในห้องนั่งเล่น

เจ้าชายคาร์ดาลหรี่ดวงพระเนตรลงมองหญิงสาวที่ได้ขึ้นชื่อว่าคู่หมั้นอย่างไม่พอพระทัย ในตอนแรกที่คาริมมารายงานว่าโซไรดามาขอเข้าเฝ้าพระองค์ก็อยากจะไล่ให้กลับไปเสียเดี๋ยวนั้นแต่พระองค์ก็ทำไม่ได้จึงต้องเสด็จมาพบ

“อย่ามาตั้งคำถามงี่เง่าแบบนี้กับฉันเป็นอันขาด ฉันไม่ใช่คนในปกครองของเธอ” พระสุรเสียงแข็งกระด้างเย็นชาจนคนฟังถึงกับสะอึก และรู้สึกตัวว่าเป็นการไม่สมควรจึงรีบปรับเปลี่ยนสีหน้าทันที พร้อมกับขยับเดินเข้าไปหาวรกายสูงสง่าเมื่อเจ้าชายหนุ่มเสด็จมาประทับลงบนเก้าอี้นวมสีทอง

“หม่อมฉันขอประทานอภัยโทษด้วยเพคะที่เสียมารยาทก้าวก่ายเรื่องส่วนพระองค์” โซไรดาพูดเสียงอ่อยลง และนั่งลงบนเก้าอี้ตัวตรงข้าม

“แล้วมีธุระอะไรถึงได้ต้องการเข้าพบฉัน”

“เอ่อ...วันมะรืนจะเป็นวันเกิดของเพื่อนหม่อมฉัน หม่อมฉันจึงมากราบทูลเชิญฝ่าบาทไปด้วยกันเพคะ” หญิงสาวมองเจ้าชายหนุ่มนิ่งอย่างรอคำตอบ

“เธอก็รู้ไม่ใช่เหรอว่างานของฉันยุ่งมากในตอนนี้ แต่ก็เอาเถอะถ้าว่างแล้วจะไปด้วย เธอมีเรื่องแค่นี้ใช่ไหม วันนี้ฉันเหนื่อยมามากแล้วต้องการจะพักผ่อน” ชีคหนุ่มรับสั่งด้วยพระสุรเสียงที่ราบเรียบเช่นเดียวกับพระพักตร์ที่นิ่งเฉย

“เพคะ มีแค่นี้เพคะ” โซไรดามองสบดวงเนตรที่เย็นชาอย่างรู้สึกน้อยใจ จากนั้นวรกายสูงก็ประทับยืน แล้วเสด็จออกไปจากห้องนั้นโดยไม่รับสั่งใดๆ อีก

“ทรงเหนื่อยเพราะเรื่องงานหรือเพราะนังผู้หญิงคนนั้นกันแน่เพคะ” หญิงสาวพึมพำออกมาเบาๆ หลังจากที่วรกายสูงของเจ้าชายคาร์ดาลเสด็จออกไปแล้ว ร่างบางค่อยๆ ยืนขึ้นพลางคิดในใจอย่างตัดพ้อ

‘นับตั้งแต่หมั้นกับเจ้าชายหนุ่มมา พระองค์ไม่เคยที่จะสนใจเธอเลย นอกจากเวลาออกงานสังคมชั้นสูงด้วยกันเท่านั้น ในฐานะคู่หมั้นและว่าที่ราชินีองค์ต่อไป ไม่เคยเลยที่จะมีเวลาอยู่ด้วยกันแบบคู่รัก’

โซไรดารู้ดีว่ากษัตริย์หนุ่มไม่เคยรักเธอเลยและที่ต้องหมั้นหมายก็เพราะความเห็นชอบของข้าราชบริพารเก่าแก่เป็นคนจัดการให้ แต่จะด้วยสาเหตุใดก็ตาม เธอก็รักเจ้าชายคาร์ดาลอย่างหมดหัวใจจะไม่ยอมให้ใครหน้าไหนมายุ่งเกี่ยวกับพระองค์อย่างเด็ดขาด มือเรียวกำแน่นพร้อมกับขบกรามแน่นก่อนจะเดินออกไปจากห้องนั่งเล่นอีกคน

หลังจากทานอาหารมื้อเย็นเสร็จเรียบร้อยนีนนาราก็ออกมาเดินเล่นในสวนหน้าตำหนักรับรอง ลมเย็นๆ ที่พัดมาอ่อนๆ หอบเอากลิ่นหอมของดอกไม้นานาพันธุ์ลอยเข้ามาปะทะจมูกโด่งเป็นสันได้รูป หญิงสาวจึงสูดกลิ่นหอมนั้นเอาไว้จนเต็มปอด ก่อนจะผ่อนออกมาพร้อมกับคลี่ยิ้ม

และในขณะที่นีนนารากำลังเพลิดเพลินอยู่นั้น เสียงเหยียบใบไม้ก็ดังมาจากทางเบื้องหลัง หญิงสาวจึงหันไปดูก่อนจะขมวดคิ้วมุ่น เมื่อเห็นหญิงสาวสวยในชุดคลุมยาวสีฟ้าอ่อนยืนจ้องเขม็งมาที่เธอ และจากแววตาขึงขังที่อีกฝ่ายมองมานั้น ทำให้สาวไทยรู้ว่าเธอผู้นี้คงไม่ได้มาแบบมิตรแน่ๆ

“ขอโทษที่มารบกวน เธอคงเป็นทีมงานที่มาจากประเทศไทยสินะ” โซไรดาเอ่ยขึ้นพร้อมกับเดินมาหยุดยืนใกล้ๆ กับสาวไทย

“ใช่ค่ะ คุณมีอะไรหรือคะ?” นีนนาราส่งยิ้มให้ถึงแม้จะรู้ว่าอาจจะไม่ได้รับยิ้มตอบ

“ฉันชื่อโซไรดาเป็นคู่หมั้นของเจ้าชายคาร์ดาล ฉันอยากจะฝากเตือนเพื่อนผู้หญิงของเธอรวมทั้งเธอด้วยว่าอย่ามายุ่งกับเจ้าชายเป็นอันขาด ถ้าไม่เชื่อล่ะก็ได้เห็นดีกันแน่” น้ำเสียงที่เค้นออกมาเฉียบขาดและเหี้ยมเกรียม แต่ก่อนที่นีนนาราจะทันได้พูดอะไรต่อ เสียงของหญิงสาวอีกคนก็ดังขึ้น

“แล้วถ้าฉันไม่เลิกล่ะจะทำไม” อัมพิกาตั้งใจจะเดินออกมาคุยกับนีนนาราในเรื่องที่เห็นเมื่อเย็นแต่ก็ทันได้ยินสิ่งที่หญิงสาวชาวจากัสต้าพูดพอดีความ ขุ่นเคืองในใจจึงทวีคูณขึ้น

“เธอนั่นเอง เจอตัวก็ดีแล้ว” โซไรดาหันมาเผชิญหน้ากับพิธีกรสาวไทยในระยะใกล้ชิด ตาสบตากันนิ่งเหมือนกับกำลังหยั่งเชิงซึ่งกันและกันอยู่ ก่อนที่สาวเจ้าถิ่นจะเอ่ยขึ้นอีกครั้ง

“ฉันมาเตือนให้เธอเลิกยุ่งกับเจ้าชายคาร์ดาล เพราะพระองค์เป็นพระคู่หมั้นของฉัน เธอคงจะไม่โง่จนไม่รู้ความหมายของคำว่าคู่หมั้นหรอกนะ”

“ใช่ ฉันไม่โง่ขนาดนั้น แต่เธอมันก็แค่คู่หมั้นไม่ใช่องค์ราชินีหรือพระชายาของเจ้าชายเสียหน่อย แต่ถึงจะเป็นก็ไม่เห็นเป็นไรเลย เพราะเจ้าชายก็ยังสามารถมีเหล่าสนมนางในได้อีกตั้งเยอะ เธอคิดจะหวงไว้คนเดียวหรือไง อ้อ...แล้วก็อีกอย่าง เจ้าชายเป็นฝ่ายเสด็จเข้ามาหาฉันเองนะ ถ้าจะห้ามก็ไปห้ามเจ้าชายสิ กล้าหรือเปล่าล่ะ ฮึ ฮึ” อัมพิกาหัวเราะเยาะในลำคอพร้อมกับกระตุกยิ้มที่มุมปาก สร้างความไม่พอใจให้กับโซไรดามากขึ้นไปอีก ใบหน้าเนียนที่ตอนแรกแค่ขึงขังก็บึ้งตึงและเคร่งเครียดขึ้น มือเรียวเกร็งกำแน่น สายตาดุดันมองสาวไทยตรงหน้าอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อ

นีนนารามองดูเหตุการณ์อย่างหวาดเสียว เพราะกลัวว่าจะเกิดการทะเลาะวิวาทขึ้น และนั้นก็คงจะไม่เป็นการดีแน่ เพราะอีกฝ่ายเป็นถึงว่าที่องค์ราชินีของที่นี่ หญิงสาวจึงขยับเข้าไปดึงแขนเพื่อนสาวที่ไม่ค่อยจะลงลอยกันให้ถอยห่างออกมา

“อย่ามายุ่งกับฉัน!” อัมพิกาสะบัดแขนออกมาแล้วตวัดสายตามองค้อนเพื่อนร่วมชาติอย่างหมั่นไส้ ก่อนจะหันมายิ้มเยาะให้กับหญิงสาวที่ประกาศตัวเป็นคู่หมั้นของเจ้าชายหนุ่ม

“ฉันว่าคนที่เธอควรจะระวังน่าจะเป็นผู้หญิงคนนี้มากกว่า” อัมพิกาชี้นิ้วมาทางนีนนาราก่อนจะหัวเราะในลำคอแล้วพูดต่อ “เมื่อเย็นก่อนจะกลับเข้าวังเธอก็แอบไปยืนกอดจูบอยู่กับเจ้าชายในที่ลับตาคน”

“อัมพิกา!” นีนนาราตะคอกใส่เพื่อนสาวก่อนจะหันมาทางโซไรดาที่มองมายังเธอด้วยสายตาถมึงทึง

“ทำไม! ฉันพูดเรื่องจริง แหม...เห็นนิ่งๆ ไม่น่าเชื่อเลยว่าจะง่ายแบบนี้ทำเป็นเล่นตัวที่แท้ก็หวังของสูงเหมือนกันแหละน่า” พิธีกรสาวเหยียดมุมปากออกอย่างดูหมิ่น ก่อนจะหันมาตวัดค้อนให้กับโซไรดาอีกคน

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel