บท
ตั้งค่า

Ep 3 ความชิดใกล้

ความชิดใกล้

หลังจากที่เหตุการณ์ผ่านไป นี่ก็เป็นเช้าของอีกวัน เมื่อคืนคนตัวเล็กแทบไม่ได้นอนเพราะนอนไม่หลับ ก็เพราะปวดแผลและฤทธิ์ไข้ เธอมีไข้อ่อนๆ แต่ตอนนี้ก็ได้ทานยาไปบ้างแล้ว

ร่างเล็กที่เอาแต่พูดกับตัวเองในใจ จริงๆ ถ้าเธอจะไม่ทำงานนี้ต่อก็ย่อมได้ แต่เห็นแก่เขาที่เคยช่วยเธอไว้หรอกนะ และเห็นแก่หน้าคุณป้าฉวีนั้นด้วย จริงๆ แล้วเป็นเพราะใจของเจ้าหล่อนเองนั่นแหละที่ไม่อยากไปไหน เอาแต่หาข้ออ้างมาเข้าข้างเขา

“มอร์นิ่งวันอาทิตย์ค่ะคุณคนสวย นี่แป้งคิดว่าวันนี้จะไม่

เจอคุณคนสวยแล้วซะอีก?”

เสียงใสๆ ของเด็กถุงแป้งเอ่ยขึ้น ก็มันผิดคาดจริงๆ นี่นา ปกติถ้าเป็นคนอื่นเขาหนีเตลิดไปแล้ว คนตัวเล็กที่เอาแต่หันมายิ้มให้ถุงแป้งอย่างเจื่อนๆ พร้อมกับยังถือชุดอุปกรณ์พยาบาลไปยังอีกฟากของตัวบ้าน

“แป้งจะรออยู่ข้างล่างเหมือนเดิมนะคะ”

สายตาที่ส่งไปบอกร่างเล็กเป็นกรายๆ ว่าเอาใจช่วยนะ สู้ๆ ก่อนที่เธอจะหันไปยิ้มน้อยๆ ให้เด็กสาววัย 17 ก่อนจะก้าวขึ้นบันไดไปยังชั้นสองของตัวบ้าน ซึ่งชั้นสองที่ว่านี้ถูกจัดทำพิเศษขึ้นโดยเฉพาะสำหรับวีลแชร์ด้วย เธอแอบลอบสำรวจอย่างพินิจพิจารณา

ก๊อกๆ

ไม่มีเสียงตอบรับอะไรใดๆ ทั้งสิ้น มือเรียวเล็กค่อยๆ เปิดแง้มประตูบานใหญ่เข้าไปอย่างถือวิสาสะ วันนี้คนตัวเล็กหน้าซีดอยู่หน่อยๆ กับผ้าก็อตที่พันแผลตรงบริเวณหน้าผากไว้ ซ้ำยังตัวของเจ้าหล่อนเองก็ยังมีไข้รุมๆ อยู่อีกด้วย แม้จะทานข้าวทานยามาบ้างแล้ว แต่ตัวก็ยังร้อนไม่หาย

ร่างสูงของเขายังคงนั่งอยู่ที่เดิม ท่าเดิมแบบเมื่อวานเปี๊ยบ ต่างตรงที่วันนี้เขาไม่มีไม้กอล์ฟข้างๆ ตัว ก่อนที่เธอจะแอบยิ้มน้อยๆ ตรงมุมปาก แอบชอบใจที่เอาของรักของหวงของเขาไปซ่อนซะได้

คิดพลางสายตาก็เหลือบไปเห็นยังถาดอาหาร ที่ยังคงเหลืออยู่เต็มถาด ไม่มีแม้สักรอยของร่างสูงนั่นที่คิดจะแตะมัน ด้วยความห่วงใยหรืออะไรไม่ทราบ เจ้าหล่อนก็บอกตัวเองไม่ถูกเหมือนกัน ก่อนจะเอ่ยถามเขาเสียงเรียบว่า

“คุณยังไม่ได้ทานมื้อเช้าหรอกหรือคะ?”

เอาอีกแล้ว เสียงนี้มันชักจะเหมือนคุ้นๆ หรือว่าเคยได้ยินที่ไหนมาก่อน คนตัวโตก็ชักจะไม่มั่นใจ ซ้ำร้ายที่แม่บอกว่าเธอมาจากเชียงรายอีก เหมือนจะจำอะไรได้ตงิดๆ เขาพยายามจะคิดให้ออก แต่นึกยังไงก็นึกไม่ออก ช่างเถอะ ก่อนที่ปากหนาจะเอ่ยตอบร่างน้อยเสียงดัง

“กินไม่กินแล้วมันเกี่ยวอะไรกับเธอ!”

“ก็ถ้าคุณไม่ทานข้าว จะทานยาได้ยังไงละคะ”

เสียงหวานตอบกลับด้วยน้ำเสียงใจเย็น ถ้าเป็นพยาบาลบางคนมีตะคอกกลับเขาไปแล้ว นี่เธอโกรธใครไม่เป็นหรือยังไง หรือจะแสร้งทำเพื่อเอาใจแม่ของเขางั้นหรือ? หรือเพราะเธอได้ค่าจ้างเท่าไหร่ แต่ทำไมแม่ของเขาต้องเรียกเธอว่าน้อง ซ้ำยังเรื่องหมั้นหมายบ้าๆ นั่นอีก นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันแน่นะ

ร่างสูงคิดไม่ทันขาดคำ ถาดอาหารก็มาวางอยู่ตรงหน้าเสียแล้ว

“ทานหน่อยนะคะ”

ไม่ว่าเปล่า มือเรียวเล็กยังถือข้าวต้มกุ้งกับซุปครีม

เห็ดทรัฟเฟิลมาวางตรงหน้า

“เมื่อวาน เธอยังเจ็บตัวไม่พอสินะ!!”

“เอามันออกไป และเธอเองก็ออกไปด้วย”

คราวนี้ปากหยักหนาได้รูปพูดสั่งด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ แต่คนร่างเล็กดูท่าจะดื้อไม่ยอมเชื่อฟัง

ทำไมคุณถึงเอาแต่ใจแบบนี้นะ คุณช่วยใจดีกับฉันหน่อยได้ไหม ฉันอยากช่วยคุณจริงๆ นะ เธอครุ่นคิดยังไม่ทันไร มือหนาก็มาคว้าเรียวแขนบางของเธอไปเสียดื้อๆ เขาบีบมันอย่างแรง แรงเสียจนมือคนตัวเล็กเป็นจ้ำแดงไปหมด

“ตาเจ็บนะคะ!!”

ตอนนี้เองนอกจากเสียงเล็กๆ ของคนร่างบางจะสั่นเทาจนเขาจับสังเกตได้ ไหนจะมือน้อยๆ นี่อีก ที่มันอุ่นๆ เกินกว่าอุณหภูมิของคนปกติทั่วไป เขาพอจะเดาได้ว่าเธอคงไข้จากน้ำมือของตัวเองเมื่อวาน ก่อนที่มือหนาจะสะบัดแขนเธอออก

อย่างแรง

“ทานหน่อยนะคะ จะได้ทานยา”

“บอกว่าไม่กิน เซ้าซี้อยู่ได้ น่ารำคาญ!”

นี่มันเรื่องบ้าอะไร ห้ามมาออกคำสั่งบ้าๆ กับเขาแบบนี้นะ ขนาดลลินยังไม่เคยมีทีท่าว่าจะห่วงใย หรือที่เธอทำไปเพราะหน้าที่งั้นสิ? พอนึกเรื่องนี้ขึ้นมา อารมณ์ฉุนเฉียวก็พลุ่งพล่านมากขึ้นกว่าเดิม มือหนาปัดถ้วยข้าวต้มกับซุปร้อนๆ กระจัดกระจายระเนระนาดไปหมด ก่อนที่ทั้งคู่จะฉุดกระชากลากถูกันไปมาอยู่สักพัก

นิ้วเรียวเล็กก็กระชากร่างโตเอาไว้สุดแรง เมื่อเขาทำท่าเหมือนจะคลำหาอะไรสักอย่าง

“อย่าขยับนะคะ ตรงนั้นมันมีเศษแก้ว!!”

ไม่ว่าเปล่า ด้วยรูปร่างที่เล็กเกินในการจะห้ามคนตัวโต ทำให้เจ้าหล่อนเผลอถลาเพราะแรงที่ดึงเขาจนสุดแรง แต่ดันเป็นตัวเองที่กระเด็นเซไปยังแผ่นอกของเขาจนได้ อกที่นุ่มนุ่มก็ดันไปชนเข้ากับแผงอกกว้างของเขาเข้าอย่างไม่ได้ตั้งใจ ก่อนที่เธอจะผละตัวออกมา แต่มือหนากลับดึงทึ้งร่างบางไว้แน่น ก่อนที่บรรยากาศจะถูกทำลายลงด้วยเสียงของเด็กสาววัย 17

“คุณคนสวยมีอะไรไหมคะ? แป้งได้ยินเสียง”

ยังไม่ทันที่ถุงแป้งจะพูดจบ คนตัวโตก็ตะคอกเสียงดังบอกให้เธอรีบออกไป ก่อนที่ถุงแป้งจะรีบเก็บทำความสะอาดเศษแก้วที่เหลือ และรีบก้าวลงบันไดออกไปอย่างไว

“ใครจะทนอยู่ บรื๋อ…”

เด็กสาววัย 17 ที่เดินออกมาจากตรงนั้นก็พูดลอยๆ อย่างอดไม่ได้ ก่อนที่เท้าเล็กจะเดินก้าวไวฉับๆ ไปยังอีกฝั่งของตัวบ้านเพื่อเก็บทำความสะอาดเศษซากที่เหลือทิ้ง ซึ่งตอนนี้ คนที่อยู่โซนบ้านนี้ ก็เห็นจะมีแต่คนตัวเล็กกับผู้ชายร่างโตสองคนเท่านั้น

“ยังไม่ไปงั้นหรอ? แน่ใจหรอว่าจะทนอยู่ได้”

ปากหนาที่เริ่มขยับพูดถาม โดยที่ไม่ต้องการคำตอบอะไรใดๆ นั้นหรอก แต่ถามไปเพื่อจะตอกย้ำให้ร่างเล็กได้รู้ว่าควรจะออกจากบ้านนี้ไป ก่อนที่เขาจะเอ่ยขึ้นอีกว่า

“ถ้ามั่นใจว่าอยู่ได้ และยังคงอยากจะอยู่ที่นี่ งั้นเดี๋ยวเธอก็ได้รู้ดี ว่าจะต้องโดนเข้ากับอะไร”

มือหนาไม่ว่าเปล่า กลับดึงทึ้งเอวบางเข้ามานั่งบนตักในขณะที่ตัวเองยังนั่งวีลแชร์อยู่ เขาจะทำทุกอย่างให้เธอขวัญหนีดีฝ่อ ถ้าเลือดตกยางออกแล้วยังไม่ไป งั้นมาลองใช้ท่าไม้ตายดูสักตั้ง

“คุณจะทำอะไรคะ?”

ปากเล็กสั่นถาม ขณะที่มือน้อยๆ ก็ยันแผ่นอกกว้างของเขาออกให้ห่างตัว

“แอบคิดอะไรกับฉันหรือเปล่าเนี่ย หัวใจเต้นแรงเชียว

หรืออยากจะโดนล่ะ”

ปากหนาเริ่มจะแทะโลมด้วยวาจา มันยิ่งทำให้คนที่แอบ

ชอบเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ยิ่งไหวสั่น นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันนะ ใจเต้นแรงซะขนาดนี้ เขาได้รู้กันพอดี!! และมันก็จริงอย่างที่เขาว่า ก็ใจของเธอมันเต้นเสียงดังโครมครามแทบจะทะลุออกมานอกอกเสียให้ได้ซะขนาดนี้

“ปล่อยค่ะ เดี๋ยวตาจะได้ทำแผลให้”

ในเมื่อร่างใหญ่บอกไม่ฟัง ข้าวก็ไม่ยอมกิน งั้นทางเลือกสุดท้ายคือเธอต้องทำแผลที่ขาท่อนบนให้เขา และช่วงบ่ายก็ต้องทำกายภาพบำบัดอีก วันนี้จากที่จะทำแค่ 1 ชม. ก็ต้องเพิ่มเข้ามาเป็น 2 ชม. ก็เมื่อวานเธอพลาดไม่ได้ทำ ซึ่งวันนี้ต้องทำให้ได้

ร่างสูงที่เอาแต่นั่งเฉยๆ จู่ๆ เขาก็ว่าง่ายเสียอย่างนั้น เพราะเมื่อตอนที่เขากระชากเธอมากอดและนั่งบนตัก ร่างเล็กที่เอาแต่สั่นเทามันทำให้เขาเกิดรู้สึกสงสัยในใจ หรือความรู้สึกแปลกประหลาดเหล่านี้กันนะ มันเรื่องบ้าอะไรกัน ปกติเขาจับผู้หญิงคนไหนๆ หรือต่อให้เป็นลลินเอง เธอก็ยังไม่เคยประหม่าตัวสั่นงันงกได้ถึงเพียงนี้ และนี่มันยิ่งอยากทำให้เขาสัมผัสคนตัวเล็กอย่างบอกไม่ถูก

นิ้วเรียวเล็กค่อยๆ ถลกกางเกงขายาวทรงหลวมที่เขาสวมใส่ ร่างเล็กที่นั่งคุกเข่าลงกับพื้น เพื่อที่จะได้ดูบาดแผลและมันจะได้ดูแลได้อย่างสะดวก จู่ๆ ภาพเหตุการณ์เก่าๆ ในวันวานก็ผุดขึ้นมาเสียดื้อๆ

ย้อนไปเมื่อ 5 ปีก่อน

"เธออยู่นิ่งๆ สิ แผลลึกขนาดนี้เดี๋ยวก็อักเสบขึ้นมาหรอก" เพราะเหตุการณ์น้ำท่วมบวกกับสีน้ำที่ขุ่น มันทำให้เธอเดินไม่ระมัดระวัง และชนเข้ากับกิ่งไม้แห้งจนได้แผลเหวอะ และก็เป็นเขานั่นเอง คนที่คอยปฐมพยาบาล ร่างสูงที่อยู่ตรงหน้าของเธอนี่ นอกจากเขาจะช่วยปฐมพยาบาลเธอแล้ว ยังอาสาให้เธอขึ้นขี่หลังฝ่ากระแสน้ำที่เชี่ยวข้ามฟากไปยังอีกฝั่งด้วย พอนึกแล้วมุมปากเล็กๆ ที่ยกยิ้มอย่างคนมีความสุขก็เกิดขึ้น

ตอนนั้นเธอทั้งกลัว ทั้งสับสน ตื่นเต้นกับความรู้สึกที่ปนเปกันสะเปะสะปะกันไปหมด ด้วยความที่เขาทำดีด้วยตลอดระยะเวลา 15 วัน ทำเอาเธอเป็นปลื้มเขาอย่างมาก และวันก่อนที่เขาจะกลับ เธอตัวร้อนไข้สูงมากออกมาส่งเขาไม่ได้

เขาก็ฝากโน๊ตกับผ้าเช็ดหน้าที่สลักรูปสัญลักษณ์เกียร์ และมีตัวอักษรภาษาอังกฤษตัว "P" แค่ตัวเดียว พร้อมจดหมายบอกลา

(ฉันต้องกลับละนะ เห็นว่าเธอยังนอนอยู่เลยไม่อยากปลุก ปล. หายไวๆ นะตัวน้อย)

ความคิดบวกความสุขต้องหยุดลง...

“นี่!! จะจับขาฉันอยู่อีกนานไหม?”

ร่างเล็กต้องสะดุ้งตื่นจากภวังค์ ก็เธอเล่นจับขาเขาไม่ยอมปล่อยนี่นะ เผลอๆ แอบบีบแรงๆ ไปบ้างหรือเปล่าก็ไม่รู้

“ขอโทษค่ะ!”

“นี่หนะหรอ พยาบาลส่วนตัว ใจลอยซะขนาดนั้น

คิดถึงแฟนรึไง?”

ปากหนาก็ยังว่าให้เจ้าหล่อนไม่ยอมหยุดปาก

“ปะ ปล่าวค่ะ ตายังไม่… (มีแฟน) ”

เธอพูดคำว่าไม่มีแฟนซะเสียงแผ่วเบาจนแทบไม่ได้ยิน แต่ว่าเขากลับรู้ได้

มือเล็กที่กำลังจะลงมือทำแผล ใจเจ้ากรรม น้ำตาเธอรื้นขึ้นมาเอาเสียดื้อๆ ทำไมบาดแผลของเขาถึงได้ใหญ่และลึกขนาดนี้นะ ว่าแล้วคนตัวเล็กก็ค่อยๆ ล้างทำความสะอาดอย่างเบามือ ทำเอาคนตัวโตแทบไม่รู้สึกเลยว่าเธอกำลังทำแผลให้เขาอยู่ มือของเธอเบากว่าแม่หรือพยาบาลคนอื่นๆ เป็นไหนๆ

“เจ็บไหมคะ?”

เสียงถามปนสั่นเครือน้อยๆ แต่ร่างหนาไม่ยักตอบ

กลับตรงกันข้าม เขารู้สึกหงุดหงิดอย่างบอกไม่ถูกที่อีกฝ่ายมาแสร้ง

ทำเป็นดีถามราวกับว่าเป็นห่วงเป็นใย

“ยังไกลหัวใจ ไม่ตายง่ายๆ หรอก”

“คุณ!!”

ร่างเล็กสะดุ้งกับคำพูดเชือดเฉือนนั่น ทำไมคุณถึงต่างและเปลี่ยนไปได้ถึงขนาดนี้กันนะ คนตัวน้อยยังคงทำแผลด้วยความใจเย็น และเมื่อเสร็จจากทำแผลที่ขา ตอนนี้ก็ถึงเวลาเช็คดูม่านตาและหยอดตาตามลำดับ

เธอเดินไปหยิบอุปกรณ์หยอดตาและสำลีทำความสะอาด การดูแลปฐมพยาบาลที่ผ่านมาเธอไม่เคยรู้สึกประหม่าเท่านี้มาก่อนเลย ไม่ว่าจะเป็นคนหนุ่ม คนหล่อ หรืออะไรเธอก็เคยผ่านมาและทำมาหมดไม่มีติดขัดหรือหยุดชะงักแม้แต่น้อย จะแตกต่างก็ตรงเคสของร่างสูงของคนตรงหน้านี่ เมื่อมือ

เล็กเตรียมยาหยอดตาเสร็จ เธอเตรียมที่จะเช็ดทำความสะอาดดวงตา นั่นมันทำให้เธอได้ใกล้ชิดกับเขาขึ้นมากไปอีก ใบหน้าคมเข้มของเขาอยู่ห่างจากใบหน้าสวยของเจ้าหล่อนเพียงแค่เอื้อม เธอแทบจะหยุดหายใจเลยก็ว่าได้ ก่อนที่ปากบางจะเอ่ยกับเขา

“คุณช่วยเงยหน้าขึ้นมาอีกนิดได้ไหมคะ?”

คราวนี้คนตัวโตก็ทำตามอย่างว่าง่าย ลมหายใจอุ่นร้อนของเขาที่ปะทะเข้ากับใบหน้างามของเจ้าหล่อน ทำเอาเธอใจสั่นไหวอย่างไม่เป็นท่า ก็ยิ่งชอบเขาเป็นทุนเดิมอยู่แล้วนี่นะ ลมหายใจที่ติดๆ ขัดๆ ของเธอ บวกกับอาการประหม่า มันทำให้เขาสัมผัสและเริ่มรู้สึกได้ แต่เขาก็เลือกที่จะเงียบไม่พูดอะไร

ซ้ำยังเวลาทำธุระในห้องน้ำคนตัวเล็กที่เช็ดถูอย่างเบามือคล้ายกับว่าเป็นเรื่องธรรมดาของเธอยังไงยังงั้น แม้ว่าเขาจะจ้างบุรุษพยาบาลอีกคนมาดูแลเฉพาะเรื่องอย่างว่า แต่เจ้าหล่อนกลับมองว่ามันดูสิ้นเปลือง ซึ่งเธอก็ทำหน้าที่นี้ได้ดีอยู่แล้ว

แม้การดูแลจุดซ่อนเร้นอย่างว่า เธอก็หลับตาปี๋ไม่มองตรงๆ สักครั้ง ใครจะไปทนมองได้ แค่คิดใบหน้าของเธอก็ยังแดงก่ำซะขนาดนี้ นี่ดีนะที่เขามองไม่เห็นมัน…

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel