ตอนที่ 4
เคเซย์ก้มหน้างุดเก็บหนังสือเข้ากระเป๋า แล้วเปลี่ยนเป็นเล่มใหม่เพื่อเริ่มเรียนในคาบต่อไป ส่วนฉันวันทั้งวันได้แต่นั่งกุมขมับเมื่อรับรู้ชะตากรรมตนเองที่ต้องไปทำความสะอาดโรงยิมสุดอลังการของโรงเรียน
ตกเย็นนักเรียนพากันแยกย้ายกลับบ้าน ฉันเริ่มทำหน้าที่ของตนเองโดยการเดินทางไปโรงยิม ส่วนเคเซย์นะเหรอเดินตามมาติดๆ เราสองคนเปลี่ยนใส่ชุดพละแล้วเริ่มทำความสะอาดกันจนเกือบหนึ่งทุ่ม ฉันไม่พูดอะไรกับหมอนั่นเลย ทำไมจะต้องพูดด้วยก็เพราะเขาทำให้ฉันถูกลงโทษแบบนี้
ฉันเห็นเขาเหลือบมองมาบ่อยๆ พอจับได้ก็ก้มหน้าก้มตาทำหน้าที่ตนเองต่อ มือยกขึ้นปาดเหงื่อมองดูผลงานตนเองเล็กน้อย พอเวลาเกือบสองทุ่มงานเสร็จสิ้นฉันรีบไปเปลี่ยนชุดแต่ห้องน้ำปิดหมดแล้ว ชั่งใจพักใหญ่ตัดสินใจเข้าไปเปลี่ยนในห้องเก็บของโรงยิม
แกร๊ก!
เสียงล็อกประตูหน้าห้องดังขึ้น ฉันตกใจมากรีบวิ่งไปกระชากประตูแต่มันเปิดไม่ออกแล้ว
ปัง! ปัง! ปัง!
ฉันทุบประตูไม่ยั้งแต่มันไม่ได้ช่วยอะไรเลย กำลังคิดไปเองหรือเปล่า... เหมือนได้ยินเสียงฝีเท้าคนอยู่ด้านนอก มีคนแกล้งกันใช่ไหม
“ใครอยู่ข้างนอก ช่วยเปิดประตูทีข้างในมีคนอยู่!”ฉันตะโกนออกไปสุดเสียง กวาดตามองรอบๆ มีแต่ความมืดมีเพียงแสงสว่างจากถนนสาดส่องเข้ามาเพียงเล็กน้อย ความรู้สึกหนาวสะท้านมันคืออะไรนี่ฉันกำลังกลัว“ช่วยด้วย! มีใครอยู่ไหม!”ฉันร้องออกไปเป็นสิบก็ไม่มีใครได้ยิน
เคเซย์...
ผมเห็นโซรีนหายไปนานไม่รู้เธออยู่ที่ไหนเลยออกตามหา เห็นกลุ่มนักเรียนหญิงกำลังมุ่งอยู่หน้าประตูห้องเก็บอุปกรณ์โรงยิม ตอนแรกผมไม่ได้สนใจคิดว่าพวกนักเรียนหญิงคงเอาอุปกรณ์มาเก็บ
ปัง! ปัง! ปัง!
ผมได้ยินเสียงตะโกนของเธอพอเดินไปดูเห็นห้องถูกล็อกกุญแจ ตอนนั้นถึงได้รู้ว่าโซรีนคงถูกแกล้งเสียแล้ว ที่สำคัญนักเรียนหญิงพวกนั้นวิ่งออกไปแล้ว ให้ตายสิ! ผมต้องวิ่งไล่ตามพวกนั้นซึ่งแยกย้ายกันไปคนละทิศละทาง โชคดีที่ผมจำหน้าพวกเธอได้
หมับ!
ผมคว้าข้อมือหนึ่งในสามคนนั้นไว้ แล้วจ้องมองผ่านแว่นตาด้วยสีหน้าหงุดหงิด
“เอาลูกกุญแจมา ในห้องเก็บอุปกรณ์โรงยิมมีคนติดอยู่!”น้ำเสียงขมขู่ไม่ได้ทำให้นักเรียนหญิงคนนี้สลดเลย เธอเชิดหน้าท้าทาย
“เรื่องอะไรล่ะ ให้มันติดอยู่ในนั้นล่ะดีแล้ว อยากอ่อยปีแอร์ดีนัก!”
“ถ้าไม่ให้ก็อย่าหาว่าใจร้ายก็แล้วกัน เรื่องนี้ได้รู้ถึงหูอาจารย์แน่!”
“นึกว่ากลัวหรือไง แกก็เหมือนกันทำร้ายกล้าดียังไงทำร้ายปีแอร์!”
เพียะ!
ฝ่ามือเธอสะบัดมาที่หมายคือใบหน้าแสนหวงของผมแต่เพราะหลบเลยพ้น แต่แว่นตาของผมกระเด็นออกจากใบหน้า กรามขบแน่นสูดหายใจเข้าปอด ผมไม่ใช่ผู้ชายเรียบร้อยและไม่ใช่สุภาพบุรุษแต่เพราะไม่ชอบความยุ่งยากเลยปกปิดใบหน้าตนเองไว้ ผมหันขวับจ้องมองสายตาเอาเรื่องปล่อยข้อมือนักเรียนหญิงคนนั้นเป็นอิสระยกมือขึ้นเสยผมด้วยความหงุดหงิด