บทที่ 2
“คุณหนูทางนี้ค่ะ”
แม่นมยูคิกระซิบบอกในความมืด ขณะดึงมือให้รินรดาเดินตามนางไปในป่าทึบ นางได้รับมอบหน้าที่จากนายใหญ่นั่นก็คือฮิคาระ ผู้เป็นหัวหน้าแก๊งคานาเมะ ให้พาคุณหนูของตระกูลหลบหนีไปให้พ้นจากมัจจุราชที่กำลังตามล่าอยู่ในขณะนี้ และนางได้สาบานต่อนายใหญ่แล้วว่าจะทำหน้าที่นี้ให้ดีที่สุด
“แม่นมยูคิ...ยูริไม่อยากหนีไปคนเดียว ยูริอยากตายพร้อมกับคุณพ่อคุณแม่” ร่างบางระหงของคุณหนูตระกูลคานาเมะพยายามขืนตัวไว้ ไม่ก้าวเดินตามแรงฉุดของแม่นมยูคิ แม้รู้ดีว่ายาสุโนะมันคงไม่ปล่อยให้เธอตายง่ายๆ มันจะต้องสร้างตราบาปให้กับเธอไปชั่วชีวิต กระนั้นเธอก็ไม่อยากเอาตัวรอดแต่เพียงลำพังผู้เดียวเช่นที่กำลังกระทำอยู่ในเวลานี้
“คูณหนู...ยูคิปล่อยให้คุณหนูทำแบบนั้นไม่ได้ ยูคิยอมตาย นายใหญ่และนายหญิงก็ยอมตาย แต่พวกเราจะไม่ยอมให้คุณหนูถูกไอ้ยาสุโนะจับตัวได้อย่างแน่นอน เร็วเข้าเถอะค่ะ ยูคิจะพาคุณหนูไปที่สนามบินให้ได้”
ขณะกระซิบบอก แม่นมยูคิก็ไม่ลืมดึงมือเล็กให้ร่างบางระหงเดินตามนางเข้าไปในป่าเรื่อยๆ อีกทั้งยังพยายามไม่ให้รินรดาหันไปมองเหตุการณ์ที่อยู่ด้านหลัง ทว่าสิ่งที่นางต้องการกลับไม่เป็นไปตามที่คิด เมื่อจู่ๆ ก็มีเสียงปืนดังขึ้นหนึ่งนัด หลังจากเสียงปืนที่ถูกรัวยิงในก่อนหน้านี้ได้เงียบหายไปแล้ว
แม้พากันเดินเข้าไปในป่าแล้ว แต่ตำแหน่งที่รินรดากับแม่ยูคิยืนอยู่ยังสามารถมองเห็นเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นได้ และสิ่งที่ปรากฏต่อสายตาของรินรดาคือภาพที่บิดาของเธอกำลังเอามือกุมที่หน้าท้อง เมื่อกระสุนนัดนั้นเจาะเข้าตรงหน้าท้องของท่าน ใบหน้าของบิดาเธอแดงก่ำ เต็มไปด้วยความเจ็บปวด แต่กระนั้นท่านก็ไม่ยอมคายความลับออกมา ทั้งๆ ที่กำลังถูกยาสุโนะทรมานอีกครั้งด้วยการถีบเต็มแรงจนนอนหงายไปกับพื้นหญ้า แล้วยกเท้าเหยียบบดขยี้ไปบนบาดแผลที่มันได้ยิงใส่เมื่อสักครู่
“คุณพ่อ!”
รินรดาตะโกนเรียกบิดาเสียงดังลั่น ทว่าน้ำเสียงของเธอไม่สามารถหลุดลอดออกมาได้ เมื่อแม่นมยูคิไวปานกัน นางรีบยกมือปิดปากคุณหนูของนางไว้ ไม่ให้น้ำเสียงที่ตะโกนร่ำไห้ต้องหลุดออกมาให้ยาสุโนะได้ยิน พร้อมกันนั้นก็กอดร่างบางระหงไว้แน่น ไม่ให้รินรดาวิ่งกลับเข้าไปในอาณาบริเวณของคฤหาสน์ ซึ่งตอนนี้นายใหญ่ฮิคาระ คุณกสิณากำลังถูกยาสุโนะและลูกน้องเกือบๆ ยี่สิบคนยืนล้อมรอบอยู่ แต่กระนั้นรินรดาและแม่นมยูคิก็ยังพอมองเห็นว่ากำลังเกิดอะไรขึ้นตรงบริเวณสนามหญ้าหน้าบ้าน
“แม่นมยูคิ...ได้โปรดปล่อยยูริ...ยูริจะไปช่วยคุณพ่อคุณแม่” รินรดาอ้อนวอนทั้งๆ ที่ยังคงถูกแม่นมยูคิยกมือปิดปากไว้แน่น หยาดน้ำตาแห่งความโศกเศร้าอาดูรไหลรินพร่างพรูทั่วพวงแก้ม ร่างบางระหงพยายามดิ้นรนให้หลุดพ้นจากอ้อมแขนของแม่นมยูคิ แต่ไม่ว่าจะดิ้นรนมากเพียงใด หญิงสาวก็ยังคงถูกพันธนาการไว้แน่นจนไม่อาจดิ้นหนีไปไหนได้
“คุณหนู ยูคิขอร้องอย่าเข้าไปเลย ไอ้ยาสุโนะมันจะต้องให้ลูกน้องของมันสร้างตราบาปให้กับคุณหนูแน่ค่ะ”
ใช่ว่าจะมีแค่เพียงรินรดาที่ร่ำไห้ปิ่นจะขาดใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แม่นมยูคิก็สะอึกสะอื้นร้องไห้ไม่แพ้กัน ยิ่งเห็น ยิ่งได้ยินเสียงของนายใหญ่ร้องครางลั่นเพราะความเจ็บปวด ก็ยิ่งเสียใจจนทนดูไม่ได้ กระนั้นน้ำเสียงอันน่าสะพรึงกลัวของยาสุโนะก็ดังแว่วมาให้ได้ยินเป็นระยะ
“ลูกสาวมึงหายไปไหน”
หัวหน้าแก๊งยาสุโนะ ที่ต้องการกวาดล้างเสี้ยนหนามไม่ให้เหลือแม้แต่เสี้ยนเดียว ตะคอกถามคนที่กำลังตกเป็นเชลย พร้อมกับเพิ่มน้ำหนักลงไปบนฝ่าเท้าที่กำลังบดขยี้ลงไปบนบาดแผลของฮิคาระให้มากยิ่งขึ้น หวังให้อีกฝ่ายเจ็บปวดเจียนตายจนยอมคายความลับออกมา
ทว่าคนที่รักลูกสาวยิ่งกว่าชีวิตของตนเอง ไม่ว่าจะเป็นฮิคาระและคุณกสิณาไม่ยอมปริปากพูดแม้แต่คำเดียว ต่อให้ต้องตายก็ไม่ยอมบอกว่าลูกสาวของพวกเขาหนีไปอยู่ที่ไหน
“กูไม่บอก ต่อให้มึงฆ่ากูให้ตายกูก็ไม่บอก”
ฮิคาระตะโกนตอบกลับเท่าที่ยังพอมีแรงอยู่ และนาทีต่อมาก็ต้องหลับตาลง เพราะไม่อาจทนมองภาพตรงหน้าได้เมื่อยาสุโนะยกกระบอกปืนไปจ่อตรงศีรษะของภรรยาคู่ชีวิต ก่อนจะลั่นไกปลิดชีวิตภรรยาที่รักของเขาทันที
“ถ้าอย่างนั้นก็อย่าอยู่เลย!”
เปรี้ยง!
“คุณแม่!”
รินรดาตะโกนร่ำไห้ตัวสั่นสะท้านยิ่งกว่าถูกจับโยน หญิงสาวรู้สึกราวกับกำลังถูกเด็ดขั้วหัวใจออกไปทีละเล็กละน้อย ขณะเฝ้ามองร่างของมารดาที่ถูกยิงต่อหน้าต่อตา จากนั้นร่างของท่านก็ค่อยๆ ล้มลงไปนอนแน่นิ่งกับพื้น
“กสิณา!”
หัวหน้าแก๊งคานาเมะผู้เคยยิ่งใหญ่ในวงการยากูซ่า โผเข้าไปสวมกอดร่างของภรรยาไว้ น้ำตาของลูกผู้ชายไหลออกมาอย่างไม่อาจหักห้ามได้ เมื่อเห็นภรรยาล้มลงจมกองเลือดขาดใจตายตั้งแต่วินาทีแรกที่ถูกลูกกระสุนร้อนๆ เจาะเข้าตรงหน้าผากด้วยฝีมือการจ่อยิงอย่างโหดเหี้ยมของยาสุโนะ
เปรี้ยง!
“กรี๊ด!”
ลูกกระสุนนัดที่สองซึ่งลั่นไกยิงจ่อแผ่นหลังอย่างไร้ความปราณี ทั้งๆ ที่ฮิคาระกำลังก้มลงกอดร่างอันโชกเลือดของภรรยาไว้ เรียกเสียงหวีดร้องจากปากของรินรดาและแม่นมยูคิ ที่ไม่สามารถหักห้ามความเสียใจไว้ได้อีกต่อไป และน้ำเสียงของทั้งสองคนก็ดังเล็ดลอดเข้ากระทบประสาทหูของหัวหน้าแก๊งยากูซ่าที่โหดเหี้ยมที่สุดอย่างยาสุโนะ ไคจิ จนได้
“ยังมีคนหนีไปได้ ตามไปกวาดล้างให้หมดเดี๋ยวนี้” ยาสุโนะตะโกนสั่ง พร้อมกับยิงปืนมาตรงทิศทางที่คิดว่าเป็นที่มาของต้นเสียงหวีดร้องเมื่อสักครู่อีกหลายนัดติดๆ กัน โดยมั่นใจว่าจะต้องมีกระสุนนัดใดนัดหนึ่งที่ลอยไปเจาะร่างของคนเหล่านี้ได้บ้าง และก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ เมื่อกระสุนนัดหนึ่งลอยละลิ่วฝ่าความมืดเข้ามาโดนต้นแขนของรินรดาพอดี แม้จะโดนแบบถากต้นแขน ทว่ามันก็สามารถเรียกเลือดสีแดงสดให้ไหลรินจากต้นแขนของหญิงสาวได้ทันที
“คุณหนูไปเร็ว พวกมันตามมาแล้ว” แม่นมยูคิกำข้อมือเล็กกระชากร่างบางระหงให้วิ่งตามอย่างรวดเร็ว โดยไม่รู้เลยว่า รินรดาถูกยิงได้รับบาดเจ็บตรงต้นแขนจนเลือดไหลซึมไปหมดแล้ว
“ตามฆ่าลูกของไอ้ฮิคาระให้ได้ อย่าปล่อยให้มันหนีไปได้”
น้ำเสียงของยาสุโนะที่ดังลอยมาในความมืด พร้อมๆ กับลูกกระสุนที่ถูกยิงออกมาเป็นระยะๆ เป็นตัวผลักดันให้แม่นมยูคิพาคุณหนูวิ่งแบบไม่คิดชีวิต นางต้องพาคุณหนูหนีให้รอดพ้นจากเงื้อมมือของมนุษย์ใจโหดเหี้ยมพวกนี้ด้วยมือของนางเอง หากจะพึ่งมือตำรวจ และขอความช่วยเหลือจากตำรวจ ก็ไม่มีทางเป็นไปได้อย่างแน่นอน เพราะกว่าตำรวจจะมาถึง นางและคุณหนูรินรดาก็อาจจะกลายเป็นศพไปแล้วก็ได้
“แม่นม...ยูริวิ่งต่อไม่ไหวแล้วค่ะ”
เพราะเสียเลือดจากแผลที่ถูกยิง กอปรกับการวิ่งหนีอย่างไม่คิดชีวิต ทำเอารินรดาเริ่มหมดแรงอ่อนล้าแทบจะก้าวขาไม่ไหวอีกต่อไป
“คุณหนู ทนหน่อยนะคะ เกือบถึงถนนใหญ่แล้ว ทนอีกนิดเดี๋ยวเท่านั้นค่ะ”
แม่นมยูคิเอ่ยปลอบ ทั้งๆ ที่ตัวเองก็วิ่งแทบไม่ไหวเช่นเดียวกัน และนาทีต่อมาร่างบางระหงที่นางจูงมือวิ่งฝ่าความมืดหลบลูกกระสุนมาเกือบยี่สิบนาที ก็ล้มลงไปกองอยู่กับพื้นดิน พร้อมกับเสียงโอดครวญเพราะเหน็ดเหนื่อย
“ไม่ไหวแล้ว ยูริวิ่งไม่ไหวแล้ว แม่นมยูคิหนีไปคนเดียวเถอะค่ะ”
รินรดาร้องบอกแม่นมยูคิ เมื่อรู้ว่าตัวเองหนีต่อไปไม่ไหวแล้ว นอกจากเหนื่อยแทบขาดใจแล้ว ยังปวดบาดแผลตุบๆ จนต้องร่ำไห้ออกมาเบาๆ อย่างกลั้นไว้ไม่อยู่
“คุณหนูแข็งใจหน่อยนะคะ”
แม่นมยูคิกระซิบบอก รีบประคองร่างบางระหงให้ลุกขึ้นยืน ขณะเดียวกันก็หันไปมองข้างหลังตัว ด้วยเกรงว่าลูกสมุนของยาสุโนะจะตามมาทันและเห็นพวกเธอเข้า
รินรดาส่ายหน้าปฏิเสธ เหนื่อยล้าจนหอบหายใจรัวเร็ว น้ำเสียงที่ตอบออกมาก็ขาดกระท่อนกระแท่นฟังแทบไม่ได้ศัพท์
“ยูริไปไม่ไหวแล้ว...ทิ้งยูริไว้ที่นี่แหละ แม่นมยูคิรีบหนีไป ไม่ต้องเป็นห่วงยูริหรอกค่ะ”
“ไม่ได้ ยูคิจะไม่ยอมให้คุณหนูตายเป็นอันขาด”
แม่นมยูคิบอกเสียงเข้ม ประคองให้คุณหนูคนสวยที่นางยอมตายแทนได้ทุกเมื่อ ให้เข้าไปหลบอยู่หลังต้นไม้ใหญ่ เพื่อให้รินรดาได้พักเหนื่อยสักครู่
“ตามหาพวกมันให้พบ อย่าให้หนีไปได้”
เสียงของลูกน้องยาสุโนะที่ยังคงลอยมากับความมืด กอปรกับเสียงฝีเท้าที่ดังแว่วจวนเข้ามาใกล้ตัว ทำให้แม่นมยูคิดตัดสินใจทำในสิ่งรินรดาไม่เห็นด้วยแม้แต่นิดเดียว
“คุณหนู ถ้าเราหนีไปสองคนคงไม่รอดแน่ ยูคิจะล่อพวกมันไปอีกทางให้พวกมันตามยูคิไป คุณหนูฉวยโอกาสนี้หนีไปให้ถึงถนนใหญ่ และขอความช่วยเหลือจากชาวบ้าน คุณหนูต้องหนีออกจากประเทศญี่ปุ่นให้ได้ ไปหาญาติของคุณแม่คุณหนูนะคะ เขาจะช่วยเหลือคุณหนูให้พ้นจากเงื้อมมือของยาสุโนะได้”
“ไม่! แม่นมยูคิอย่าทำแบบนี้ เราต้องหนีไปด้วยกัน เราต้องรอดด้วยกันนะคะ”