2.วังวนความแค้น ep2
เพชรไพลินมุ่งหน้ามาบ้านพักที่เธอเคยมาก่อนที่จะบินไปเรียนต่อที่เองนอกด้วยความรู้สึกที่ทั้งโกรธระคนอับอายที่เธอไปดันไปหอมแก้มผู้ชายปากคมที่มีสายตาเย้ยหยันคนนั้นเข้า แถมยังถูกเขาไล่ออกมาราวกับเป็นอะไรสักอย่างที่ผู้คนไม่ต้อนรับ
“คุณหนูมาค่ะ..”
คำบอกเล่าของสาวใช้ทำให้นายอรรถพงษ์ โชษิตาและดนัยที่กำลังนั่งเงียบอยู่ในห้องโถงของบ้านต้องหันมามองแทบเป็นตาเดียว
“เพชรไพลิน หนูมาได้ยังไงลูก ไหนบอกว่าจะมาอีกสองเดือนข้างหน้าไงจ๊ะ..”
โชษิตาร้องถามทั้งดีใจและเศร้าใจระคนกันเมื่อรีบยื่นมือประคองสองมือบางที่ประนมลงกราบแทบตัก ก่อนที่เธอจะหันไปกราบพ่อและไหว้พี่ชาย
“มันเกิดอะไรขึ้นคะพ่อขา พี่ดนัย..บ้านของเราที่กรุงเทพฯ ถูกปิด สำนักงานทนายของเราอีกแล้วที่น่าเจ็บใจ ก็แผ่นดินผืนนี้ มันทำไมเปลี่ยนเจ้าของคะพ่อ ผู้ชายตาคมปากจัดคนนั้นเขาเป็นใคร แม่รู้ไหมว่าลินเจอเขาแล้ว แล้วลินถูกเขาถากถางอย่างไรบ้าง..”
เธอมองหน้าพ่ออีกครั้งที่นั่งก้มหน้านิ่ง
“มันเกิดอะไรขึ้นคะพ่อขา ทำไมครอบครัวของเราต้องมาผจญวิบากกรมแบบนี้ นายคนนั้นเขาบอกว่า เขามารับช่วงต่อจากคุณพ่อ ถึงเวลาต้องส่งคืนที่ดินให้เขาแล้ว มันหมายความว่าไงคะ..”
โชษิตาหันไปมองหน้านายอรรถพงษ์นิ่งก่อนจะหันมายิ้มให้เธอแล้วยกมือบางเชยคางมนให้หันมาหา
“แม่ว่าหนูมาไกลคงเหนื่อยและหิวใช่ไหมจ๊ะ ขึ้นไปอาบน้ำให้สบายตัวก่อนนะลูก แม่จะให้แม่ครัวเตรียมอาหารอร่อย ๆ ไว้ให้หนูนะจ๊ะ..”
คำปลอบโยนที่ผ่านออกมาเป็นน้ำเสียงที่เสนาะหู มันไม่ได้ทำให้เธอใจเย็นลงได้ ความกังขายังคาใจและดูเหมือนว่านายอรรถพงษ์จะรู้นิสัยของเธอดี จึงเงยหน้าแล้วแล้วมองเธอนิ่ง
“มันเป็นความผิดของพี่เอง..เพราะพี่เอง ทุกอย่างจึงเป็นแบบนี้..”
ดนัยชายหนุ่มที่อายุมากกว่าเธอสี่ปีเอ่ยออกมาเบา ๆ
“พ่อถูกเพื่อนหักหลัง ที่ดินกว่าสามร้อยไร่ พ่อเอามาจำนองไว้ที่เขา แต่ ยังไม่เคยส่งทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยเลย จนผ่านมาปีกว่า..”
“เขาก็เลยยืด แล้วให้ไอ้หมอนั่นเข้ามาอาละวาดใช่ไหมคะ..”
“พ่อไม่มีปัญญาจะหาเงินมาส่งทั้งต้นทั้งดอก ไม่ว่าจะผ่านไปอีกนานแค่ไหนก็คงไม่มีปัญญา แต่ยังดีที่ บ้านหลังนี้ ไม่ได้อยู่ในโฉนดใบนั้น มันจึงทำให้เรามีที่อยู่..”
เธอกำมือแน่น
“เลวที่สุด เพื่อนกันแท้ ๆ ไม่ให้โอกาสเลย..”
“แต่เขาให้พี่ไปทำงานในไร่นะ เขาจะให้เงินเดือนพี่ แล้วยังเปิดโอกาสให้เราหาเงินต้นมาจ่ายคืนพร้อมดอกเบี้ยตลอดเวลาอย่างไม่มีกำหนดด้วย..”
“ก็คุณพ่อเพิ่งบอกว่าไม่ว่าจะนานแค่ไหนก็ไม่มีหนทาง มันก็คงจะพูดเพื่อให้ตัวเองดูดีขึ้น..”
เธอลุกขึ้นยืนแล้วเดินวนไปวนมาอย่างคนคิดหนัก
“จะไปไหนลูก..”
“ลินไปเจรจากับไอ้หมอนั่นอีกครั้ง ลินจะหาทางเอาที่ดินผืนนี้กลับคืนให้ได้..”
“อย่าไปเลยลูก..”
นายอรรถพงษ์พยายามจะร้องห้ามแต่ก็ช้าไปเมื่อร่างบางระหงก้าวฉับ ๆ ออกไปจากบ้าน มุ่งหน้าไปยังบ้านพักที่เพิ่งเจอเขาเมื่อครู่ใหญ่อีกครั้ง
บานประตูห้องทำงานถูกผลักให้เปิดออกอย่างเร็วและดังจนทำให้โภคาธรที่กำลังวางผังของพื้นที่กว่าสามร้อยไร่ว่าจะเปลี่ยนแปลงเป็นอะไรในส่วนไหนต้องเงยหน้าแล้วมองเธอที่ก้าวฉับ ๆ ไปหยุดตรงหน้าเขานิ่ง
“ฉันไม่ได้มาแบบเมื่อครู่ใช่ไหม เพราะตอนนี้ฉันเปิดประตูมาอย่างดัง หากหูคุณไม่ผิดปกติคงได้ยินชัด แล้วไม่ต้องแสดงท่าทางที่บ่งบอกว่ารำคาญออกมาด้วย..”
เขาอมยิ้ม ก่อนจะลุกขึ้นแล้วเดินอ้อมโต๊ะทำงานออกมาหาเธอ
“มีอะไรครับ ..”
เขาถามพร้อมกับยกข้อมือมองนาฬิกา
“แค่ชั่วโมงกว่า ๆ..ร้อนรนขนาดนี้คงมีเรื่องสำคัญ..”
“ฉันต้องการได้ที่ดินผืนนี้กลับคืน..”
เขาเลิกคิ้วสูง
“จ่ายเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยมา ทั้งย้อนหลังมาจนถึงปัจจุบัน..”
“ฉันขอเวลา..”
“หากต้องการจะได้คืน ไม่มีเวลาอีกต่อไป ต้องภายในวันนี้และเดี๋ยวนี้เท่านั้น..”
“จะบ้าหรือไง เงินตั้งมากมายจะหาที่ไหน..”
เธอตบกระเป๋ากางเกงแล้วสอดมือบางลงไปแล้วดึงออกมาก่อนจะแบมือออกให้เขาดู
“ตอนนี้ทั้งเนื้อทั้งตัวก็มีอยู่แค่สองร้อยกว่าบาท เป็นเงินทอนค่าแท็กซี่ที่เหมามาจากกรุงเทพฯ..จะเอาไหม..”
เขายิ้มพร้อมกับวางมือใหญ่ที่อบอุ่นลงบนมือเรียวของเธอแล้วรวบทั้งเงินและมือของเธอไว้แน่น
“ถ้าหากจะให้ทั้งเนื้อทั้งตัวก็ยินดีรับ แต่ต้องขอตรวจสอบก่อนว่า สะอาดปราศจากเชื้อโรคหรือเปล่า เพราะเพิ่งมาจากเมืองนอกด้วยนี่ใช่ไหม..”
“แก!..”
เพียงเท่านั้นฝ่ามืออีกข้างของเธอก็ตวัดไปยังใบหน้าคมขรึมของเขาอย่างหนักหน่วงจนใบหน้าที่หล่อสะอาดหันไปตามแรง แต่ทว่าเมื่อเขาหันกลับมา เธอก็ต้องรู้สึกสั่นสะท้านเมื่อมือเรียวบางข้างที่อยู่ในมือของเขาถูกบีบอย่างหนักก่อนที่ร่างบางจะถูกรั้งเข้าไปหาแผ่นอกกว้างที่แน่นเครียดไปด้วยกล้ามเนื้อเป็นมัด ๆ
ริมฝีปากได้รูปฉกทาบลงมาหาเรียวปากอิ่มที่กำลังเผยอออกหมายจะบริภาษเขาแต่ไม่มีโอกาสเมื่อมันถูกปิดลงอย่างหนักหน่วงและรวดเร็ว
กลีบปากบางถูกดูดซับอย่างรุนแรงจากริมฝีปากได้รูปที่มีพลัง เธอพยายามกัดริมฝีปากเอาไว้ เมื่อเขาพยายามจะแยกกลีบปากของเธอออกแต่ไม่เป็นผลทำให้เขาบดเคล้ากดทาบลงไปอย่างหนักหน่วงจนเธอรู้สึกเจ็บจนแสบ จึงยอมเผยอกลีบปากออกทำให้เขาสอดแทรกปลายลิ้นใหญ่สะอาดที่อบอุ่นเข้าไปแตะสัมผัสกับปลายลิ้นเล็กของเธอ
แต่เธอก็พยายามจะกัดลิ้นของเขาแต่ทว่าเหมือนเขาจะรู้ทันจึงใช้ปลายนิ้วเรียวสะอาดที่แข็งแรงบีบขากรรไกจากภายนอกล็อคไรฟันของเธอเอาไว้แล้วเกี่ยวกวัดรัดปลายลิ้นเล็กของเธอดูดซับความหอมหวานจนอิ่มเอม
อาการเกร็งและทีท่าขัดขืนแสดงความชิงชังแปรเปลี่ยนกับลีลาแล้วความช่ำชองของเขาที่เปรียบเหมือนช่างตีเหล็ก เมื่อได้เหล็กดีมาชิ้นหนึ่ง เขาก็สามารถใช้ประสบการเผาไหม้จนเหล็กอ่อนด้วยไฟคือความเชี่ยวชาญของเขา หลังจากนั้นก็ตัดแต่งหรือตีจนเกิดรูปทรงที่ต้องการอย่างพึงพอใจ
เฉกเช่นเดียวกับการตักตวงความหอมหวานจากจูบแรกที่เขาสัมผัสแล้วรู้ได้ด้วยวัยและประสบการที่เหนือกว่า ว่าเธอยังไม่เคยผ่านอะไรมาเลย แม้แต่การถูกจูบ ความหอมหวานรัญจวนจึงบีบเคล้นหัวใจของเขาอย่างหนักที่จะไม่ให้กล้ำเกินมากไปกว่านี้ แต่ก็อดที่จะสอนบทเรียนให้เธอเสียไม่ได้
จากความชิงชังเริ่มเปลี่ยนเป็นความโหยหาแล้วคล้อยตาม ร่างบางระหงถูกกอดรัดให้ลู่แน่นมาหาอกกว้างของเขา เมื่อฝ่ามือใหญ่โลมไล้ไปทั่วแผ่นหลังที่เนียนกริบ ริมฝีปากบางก็ถูกจูบซับอย่างหิวกระหาย สอดสลับกับความอาทรที่โยนให้แล้วได้รับการตอบโต้อย่างแสนหวานที่แทรกด้วยความอาดูรที่โอนอ่อนแต่กลับทำให้หัวใจของเขาร้อนฉ่า เธอทำให้เขาเผลอไผลก่อนจะผลักอกกว้างของเขาออกห่างแล้วตบหน้าเขาสองทีซ้อน
โภคาธรตั้งหลักได้ก็รวบร่างไว้แน่นก่อนจะผลักให้กระเด็นไปที่โซฟาตัวยาวริมหน้าต่างพร้อมกับถั่งโถมร่างเข้าใส่ แต่เพชรไพลินก็พร้อมจะปกป้องตัวเองเต็มที่ หากแต่ไม่อาจจะทัดทานพละกำลังของเขาได้เมื่อสองมือถูกรวบให้กางออกจากลำตัว แล้วปลายจมูกกับริมฝีปากได้รูปของเขาก็จูบไซ้ไปทั่วดวงหน้าหวานไล่ลงมาตามซอกคอที่หอมกรุ่น
“หอมจริง ๆ นะกลิ่นเหงื่อที่ผสมผสานกับน้ำหอมของเมืองนอก..”
เขากระซิบบอกเธอที่ข้างใบหูสะอาดเมื่อและเล็มจูบไซ้ขึ้นไป
“ปล่อยนะ ปล่อยฉันไอ้คนสารเลว ฉวยโอกาส..”
“ใครกันแน่ที่ฉวยโอกาส คุณทำร้ายผมก่อน ผมจำเป็นต้องป้องกันตัว..”
“นี่คือวิธีป้องกันตัวของคุณหรือไง..”
“มันก็แล้วแต่ว่า ผมจะถูกทำร้ายอย่างไร..”
เขาไม่พูดเปล่าแต่ปลายจมูกและริมฝีปากยังคงสาละวนอยู่กับใบหน้าซอกคอของเธอก่อนจะซบซุกลงมาที่ทรวงอกที่เขาประจักษ์ชัดเมื่อทาบใบหน้าลงไปว่ามันอวบอิ่มแล้วหอมกรุ่นยียวนกวนประสาทของเขามากแค่ไหน มันทำให้เขาอยากจะเกี่ยวร้อยเอาเสื้อออกมาแล้วชื่นชมให้สมกับความนุ่มและหอมของเธอ
“ปล่อยนะ ปล่อยฉันอย่าทำแบบนี้ อย่านะ..อย่า..”
เธอร้องบอกเขาด้วยน้ำเสียงที่เครือสะอื้น ทำให้เขาต้องถอนใจยาวก่อนจะยอมคลายฝ่ามือแล้วถอยห่างออกมาอย่างเสียดาย เธอรีบกระชับสาบเสื้อแล้วสะอื้นไห้ออกมาด้วยความอายระคนเจ็บใจแค้นใจอย่างมาก
“นี่คงเป็นวิธีเรียกเงินของคุณสินะ คงได้เยอะใช่ไหม เพราะไอ้หนุ่มฝรั่งคงคิดว่าคุณยังซิงอยู่..”
“ไอ้บ้า..”
เสียงสะอื้นกับหยาดน้ำตาถูกขจัดออกไปจนหมดสิ้นเมื่อเธอลุกขึ้นยืนแล้วจ้องหน้าเขาอย่างไม่พอใจ
“คุณดูถูกฉันมากไปแล้วนะ ไหนจะทำร้ายฉันแบบไม่เกรงใจ ยังใช้สายตาและคำพูดถากถางดูแคลนแบบนี้อีก หัวใจทำด้วยอะไร..”
“หิน เหล็ก ไฟ ครับ มันคือหัวใจของผม..”