บท
ตั้งค่า

บทที่ 3 (1)

นาราภัทรเดินออกมาจากห้องนอนในชุดที่เตรียมพร้อมสำหรับการออกไปทำงานเป็นบาร์เทนดี้ชงเหล้าในผับของ

อีตาพอลจอมแตะอั๋ง ชุดทำงานที่พอลบังคับให้บาร์เทนดี้ทุกคนต้องสวมขณะทำงานคือเสื้อกล้ามแบบสปอร์ตลายเสือกับกางเกงหนังสีดำสนิทเข้ารูป

เสื้อกล้ามสปอร์ตลายเสือกับกางเกงหนังสีดำอาจจะดูธรรมดาไม่หวือหวาเท่าใดนักถ้าหากถูกวางไว้เฉยๆ หรืออยู่ในเรือนร่างของหญิงสาวอื่นที่ไม่ใช้น้ำหนาว

เสือตัวสั้นที่ถูกสวมใส่บนเรือนกายที่อรชรอ้อนแอ้นได้เปิดผิวกายเนียวขาวผ่องยองใยตรงช่วงเอวคอดกิ่วล่อตาล่อใจบรรดานักท่องราตรียิ่งนัก สะโพกผายกลมกลึงต้นขาเรียวยาวเข้ารูปสวยกับกางเกงหนังสีดำยั่วน้ำลายให้เสือหิวทั้ง

หลายต้องกลืนน้ำลายลงคอดังเอื้อก!...

นาราพรรณเห็นพี่สาวออกมาจากห้องนอนด้วยชุดพร้อมสำหรับการไปทำงานก็จ้องมองเขม็งขมวดคิ้วเข้าหากันยุ่งก่อนจะเอ่ยถามด้วยความสงสัย

“น้ำหนาวจะออกไปทำงานด้วยชุดนี้เลยหรือ”

“ทำไมหรือน้ำค้าง”

นาราภัทรก้มลงมองชุดทำงานของตนเองจากนั้นก็เงยหน้าขึ้นเลิกคิ้วเอ่ยถามน้องสาว ไม่เข้าใจว่าตนเองแต่งตัวแปลกตรงไหน เธอก็ใส่ชุดนี้เพื่อไปทำงานทำหน้าที่เป็นบาร์เทนดี้อยู่ทุกวัน

“น้ำค้างว่ามันเอ่อ...โป๊เกินไปถ้าหากตัวจะออกไปขึ้นรถเมล์ด้วยชุดนี้”

นาราพรรณอ้อมแอ้มตอบพลางแกล้งลากนิ้วไปตามส่วนเว้าส่วนโค้งผิวกายขาวเนียนผ่องที่เปิดเปลือยให้เห็น ขนาดเธอเป็นผู้หญิงเป็นน้องสาวได้เห็นผิวขาวๆ เนียนนุ่มมือแล้วยังต้องกลืนน้ำลายลงคอแล้วถ้าเป็นพวกเสือ สิงห์ กระทิง แรด มีหรือจะไม่ต้องการครอบครองเรือนร่างอรชรกลมกลึงที่งดงามยิ่งกว่านางในวรรณคดี

นาราภัทรยิ้มหวานให้แฝดน้องจากนั้นก็หยิบเสื้อโค้ทสีดำตัวยาวเลยมาถึงหัวเข่าชูให้คนถามได้ดู

“ไม่โป๊หรอกน้ำค้างเดี๋ยวตอนออกจากบ้านเราก็สวมเสื้อโค้ทคลุมทับไปอีกที คราวนี้ก็ไม่โป๊แล้ว”

“ค่อยยังชั่วหน่อยนึกว่าตัวจะออกไปทั้งชุดลายเสือ” นาราพรรณถอนหายใจเป่าลมออกจากปากอย่างโล่งอกก่อนจะเอ่ยถามต่อ

“ทำไมวันนี้ตัวถึงได้แต่งชุดนี้ไปเลยล่ะ ปกติจะไปเปลี่ยนชุดที่ผับไม่ใช่หรือ”

“ฮื้อ...ใช่แต่ก่อนเราไปเปลี่ยนชุดที่ผับ แต่มาพักหลังๆ เรากับเพื่อนร่วมงานรู้สึกเหมือนกับว่าในห้องแต่งตัวถูกซ่อนกล้องวงจรปิดไว้ เวลาเปลี่ยนชุดทีไรเหมือนถูกสายตาของอีตาพอลคอยจับจ้องยังไงยังงั้น”

นาราภัทรเอ่ยบอกน้องสาวพลางหยิบเสื้อโค้ทตัวยาวมาสวมทับชุดลายเสื้อแล้วติดกระดุมให้เรียบร้อย

“แล้วไม่ลองหาดูหรือคะว่ามีกล้องซ่อนอยู่ตรงไหนหรือเปล่า”

นาราพรรณขยับกายเข้าไปช่วยแฝดพี่ติดกระดุมเสื้อโค้ทที่มีนับสิบเม็ดจากนั้นก็หันไปหยิบกระเป๋าสะพายใบเล็กยื่นให้แฝดพี่

“เรากับเพื่อนๆ หาจนทั่วห้องแทบจะรื้อแห่งแต่งตัวก็ว่าได้ แต่หาเท่าไหร่ก็หาไม่เจอ ไม่รู้อีตาพอลโรคจิตมันซ่อนกล้องไว้ตรงไหน”

“ถ้างั้นเลิกทำงานที่ผับอีตาพอลดีมั้ยเพื่อความสบายใจของน้ำหนาวด้วย”

นาราพรรณเอ่ยถามพร้อมกันนั้นก็หยิบเสื้อโค้ทของตนเองมาให้แฝดพี่ช่วยสวมใส่บ้าง เธอกับน้ำหนาวจะคอยดูแลซึ่งกันและกันเสมอมาทั้งที่อยู่ในเมืองไทยจนกระทั่งมาศึกษาต่อที่ต่างประเทศ ถ้าหากเธอได้กินเช่นไรพี่น้ำหนาวก็จะได้กินเช่นนั้นเหมือนกัน ถ้าหากเธอทุกข์ใจหมองเศร้าพี่น้ำหนาวก็ยิ่งทุกข์ยิ่งเศร้ามากกว่า ความเป็นพี่น้องเป็นฝาแฝดที่เกิดห่างกันแค่ไม่กี่วินาทีทำให้สองสาวรักใคร่กลมเกลียวเหมือนเป็นคนๆ เดียวกัน

นาราภัทรเปิดประตูห้องออกกว้างให้น้องสาวเดินออกจากห้องก่อนจึงได้ก้าวตามออกมาบ้างแล้วล็อกประตูให้เรียบร้อยจากนั้นก็ก้าวเดินตามน้องสาวตรงไปที่ลิฟท์โดยไม่ลืมตอบคำถามของน้ำค้างที่เอ่ยไว้ก่อนหน้านี้

“บอกตามตรงว่าเราเสียดายเงินนะน้ำค้าง ผับที่อยู่ในถนนเส้นนั้นมีผับอีตาพอลที่เดียวที่จ่ายเงินค่าแรงให้มากที่สุด ลูกค้าก็เยอะพลอยทำให้เราได้รับทิปเยอะไปด้วย”

“แต่มันเสี่ยงน่ะน้ำหนาว ทั้งอีตาพอลทั้งลูกค้าวีไอพีของมันไม่มีใครน่าไว้วางใจสักคน สายตาแต่ละคนที่มองเด็กเสริฟสาวๆ ในผับโดยเฉพาะน้ำหนาวเป็นมันวาวราวกับจ้องขบเนื้อของน้ำหนาวให้ได้”

นาราพรรณร้องท้วงอีกครั้งหลังจากที่เคยคัดค้านแฝดพี่เรื่องการไปทำงานที่ผับมาครั้งหนึ่งแล้ว หญิงสาวเข้าไปในลิฟท์ที่เปิดออกกว้างจากนั้นก็หันมาขอร้องอีกครั้ง

“ไปทำงานกับน้ำค้างดีกว่าน่ะ ได้เงินน้อยกว่าผับตาพอลแต่ก็ปลอดภัยกว่า”

“ไม่เอาหรอก เราจะทำงานที่ผับนี้แหละ น้ำค้างไม่ต้องห่วงหรอก เราบอกแล้วไงว่าเราเอาตัวรอดได้ น้ำค้างอย่าห่วงเราเลย”

นาราภัทรก้าวเข้าไปในลิฟท์แล้วกดเรียกชั้นล่างสุด วันนี้เธอกับน้องมีเรียนแค่วิชาเดียวเลยกลับพี่พักอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนที่จะออกไปทำงาน เวลาที่เหลือค่อนข้างมากทำให้ไม่ต้องรีบเร่งสักเท่าไหร่

ผับของพอลอยู่ห่างจากอพาร์ทเม้นท์ไป 7 ช่วงตึกเห็นจะได้ การเดินทางก็อาศัยรถรางหรือรถเมล์แล้วแต่ยานพาหนะประเภทใดได้ผ่านมาก่อน ส่วนร้านอาหารที่น้ำค้างไปทำงานเป็นเด็กเสริฟอยู่ห่างไปแค่ 2 ช่วงตึกไม่ไกลสักเท่าไหร่น้ำค้างจึงมักเดินไปทำงานเพื่อเป็นการประหยัดเงินและออกกำลังไปในตัวด้วย

“เลิกขมวดคิ้วทำหน้ายุ่งได้แล้วน้ำค้าง เราบอกแล้วไงว่าเราเอาตัวรอดจากเหล่าบรรดาเสือหิวได้”

นาราภัทรเอ่ยแซวแฝดน้องยิ้มๆ เมื่อเห็นอีกฝ่ายยังคงตีสีหน้าไม่สบายใจกับเรื่องความปลอดภัยของเธอ และเมื่อน้ำค้างตีหน้ายุ่งไม่เลิก หญิงสาวจึงเอื้อมมือจับแก้มเนียนแดงปลั่งให้ฉีกยิ้มกว้าง

“ยิ้มหน่อยสิยายตัวแสบ ทำหน้ายุ่งเป็นเครื่องหมายคำถามแบบนี้ทำให้เราไม่สบายใจรู้มั้ย”

“ก็เราเป็นห่วงน้ำหนาว ไปทำงานที่ผับอีตาพอลก็เหมือนกวางสาวที่หลงเข้าไปในดงเสือหิวไม่มีผิด”

ถ้อยคำเปรียบเปรยของนาราพรรณแฝดน้องทำเอาน้ำหนาวต้องหัวเราะออกมาด้วยความขบขำอย่างอดไว้ไม่อยู่ไม่ได้นึกหวาดกลัวกับสิ่งที่น้องสาวเอ่ยพูดออกมาสักนิด

“เออ...ช่างเปรียบเปรยน่ะเนี่ย...กวางสาวหลงไปในดงเสือหิว”

“ยังจะมาพูดเล่นอีก”

น้ำค้างขึงตาใส่ตีลงไปบนต้นแขนขาวเนียนของแฝดพี่ด้วยความโมโหก่อนจะเอ่ยพูดประโยคต่อมาซึ่งทำให้คนพี่หัวเราะร่วนก่อนหน้านี้ต้องร้องเสียงหลง

“นี่ถ้าหากคุณพ่อกับพี่น้ำเหนือรู้ว่าตัวไปทำงานในผับมีหวังได้โทรมาเฉ่งจนน้ำหนาวหูชาแน่”

“เฮ้ย!...น้ำค้าง!...ห้ามบอกพ่อกับพี่น้ำเหนือเด็ดขาด”

น้ำหนาวร้องห้ามเสียงหลงตกใจกับความคิดของอีกฝ่ายที่คิดจะโทรไปบอกพ่อกับพี่สาวคนโต ถ้าหากบุคคลที่เธอรักทั้งสองรู้เรื่องเข้าอย่าว่าแต่โดนด่าเลยสงสัยเธอจะถูกสั่งห้ามไม่ให้ทำงานใดๆ ทั้งนั้น

“เอาน่า...น้ำค้าง เราให้สัญญากับตัวน่ะ ถ้าหากเมื่อใดเรารู้สึกว่าไม่ปลอดภัยเราจะรีบถอนตัวเลิกทำงานที่ผับนายพอลทันที”

เมื่อแฝดน้องยังทำหน้ามุ่ยด้วยความไม่พอใจอยู่เหมือนเดิมนาราภัทรจึงจำเป็นต้องเอ่ยคำมั่นสัญญาให้น้องสาวได้สบายใจ

“ตัวสัญญากับเราแล้วน่ะ ต้องเลิกทำงานที่ผับทันทีถ้าหากรู้ว่าไม่ปลอดภัย”

น้ำค้างเอ่ยย้ำคำมั่นสัญญาพลางยื่นมือให้แฝดพี่จับเพื่อถือว่าเป็นการยืนยันคำมั่นทั้งด้วยวาจาและการกระทำ

“อืม...เราให้สัญญา”

น้ำหนาวย้ำคำมั่นอีกครั้งพร้อมกับจับมือบางนิ่มที่ยื่นมาข้างหน้าไว้แน่นก่อนจะโอบกอดร่างบางของแฝดน้องไว้แนบแน่น

น้ำค้างแย้มยิ้มออกมาได้ในที่สุดเมื่อได้รับคำสัญญาจากแฝดพี่ “เราจะช่วยกันทำงานหาเงินไปซื้อบ้านคืนน่ะ แต่ว่าต้องเป็นการทำงานที่ไม่เสี่ยงเกินไป”

“ใช่ต้องไม่เสี่ยงเกินไป”

น้ำหนาวฉีกยิ้มแป้นรับคำของแฝดน้องเพื่อให้อีกฝ่ายได้สบายใจ แต่น้ำค้างไม่รู้หรอกว่าเธอตั้งใจเอาไว้แล้วถ้าหากทำงานที่ผับอีตาพอลไม่ได้ ก็ยังมีผับที่อยู่ใกล้ๆ กันที่เธอสามารถสมัครเข้าไปทำงานเป็นบาร์เทนดี้ได้อีกหลายที่

ลิฟท์ที่ถูกกดเรียกให้วิ่งลงมายังชั้นล่างได้เปิดออกกว้างเมื่อเดินทางมาถึงจุดหมายแล้ว ฝาแฝดแสนสวยสองพี่น้องเดินออกมาจากลิฟท์โดยไม่รีบเร่งสักเท่าไหร่เพราะเห็นว่าเวลายังเหลืออยู่อีกมาก แต่พอออกมาถึงหน้าตึกอพาร์ทเม้นท์ รถรางที่กำลังคืบคลานเข้ามาใกล้ป้ายจอดพอดีและจอดนิ่งไม่กี่นาทีเพื่อรอรับผู้โดยสารทำให้นาราภัทรรีบวิ่งตรงดิ่งไปขึ้นรถอย่างรวดเร็ว

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel