ตอนที่ 3.
ตอนที่ 3.
น้ำตามาหยาหยดลงบนหลังมือ ความเจ็บปวดแทบฉีกเธอออกเป็นชิ้นๆ ในสายตาตะวัน เธอเป็นเพียงแค่กาฝากที่เข้ามาอาศัยใบบุญมารดาของเขาเพื่อการเจริญเติบโต
มารดาของตะวันคือผู้มอบชีวิตใหม่ให้ตัวเอง แต่เธอกลับเนรคุณท่าน แอบหลงรักบุตรชายของท่าน ตะวันทำให้เธอรู้สึกผิดต่อมารดาผู้ล่วงลับไปแล้วของเขา
“คุณหยาไม่จำเป็นต้องทำร้ายตัวเองแบบนี้นี่คะ” ผินปราม มาหยาเชือดหัวใจตนเองโยนทิ้ง ทั้งที่ความจริงหากเธอคิดสู้ ก็ไม่แน่ใจนักว่าจะแพ้ ความผูกพันหลายปีระหว่างตะวันกับหญิงตรงหน้า ผินฟันธงไม่ได้ในทันที แต่อย่างน้อยความเอื้ออาทรที่มีให้กัน ผินก็เห็นเต็มตา
ตะวันไม่ใช่คนไร้ความรับผิดชอบและใจร้ายหรอก
หากเขารู้พันธะที่เกิดขึ้น เขาอาจจะฉุกใจ และทบทวนใหม่
“หยาไม่ได้ทำร้ายตัวเองนะคะนม หยาแค่รัก ‘เค้า’ มากกว่าจะปล่อยให้เขาถูกลูกหลงไปด้วย” เธอวางมือเหนือเนินหน้าท้อง พลางส่งยิ้มเซียวๆ ให้นมผิน
“ถ้า...” นมผินพยายามท้วง
มาหยาส่ายหน้ารีบปราม “เราจะไม่พูดเรื่องนี้กันอีกนะคะนม” ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่เธอกับนมผินจะมาถกเรื่องสำคัญนี้ ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงหรอก เธอตัดสินใจแล้ว ในเมื่อตะวันไม่เผื่อแผ่ความรักให้กับเธอและใครอีกคน ความรักทั้งหมดที่เธอมี จะยกให้เขาแต่เพียงผู้เดียว
“คุยอะไรกันครับ ท่าทางพิลึก” ตะวันเปรย เขาเดินเข้ามาในห้องครัว สถานที่ที่น้อยครั้งที่เขาจะย่างกรายเข้ามา
นมผินฝืนยิ้มกร่อยๆ ให้ บรรยากาศอึมครึมก่อนหน้า ถูกกดดันมากขึ้น หลังจากตะวันปรากฏตัว
“คุยเรื่องทั่วไปนั่นแหละคะ คุณตะวันมีธุระอะไรกับหยาหรือเปล่าคะ?” มาหยาตัดสินใจแทรกถาม เพื่อเปลี่ยนหัวข้อสนทนา
“เราตกลงกันแล้วนี่หยา ผมแค่หาเธอไม่เจอเลยเดินมาตาม”
มาหยาก้มมองนาฬิกาที่ข้อมือข้างซ้าย เธอแค่นยิ้ม ยังเช้าเกินไป หากตั้งใจจะไปทำธุระเรื่องที่ตะวันต้องการ ชายตรงหน้าเธอคงร้อนใจไม่น้อย เขาถึงขั้นควานหาตัวเธอ ทันทีที่ลืมตาตื่น
“ไม่ทานอะไรสักนิดก่อนเหรอคะ” มาหยาไม่ได้ทักท้วงเรื่องเวลา เธอลุกขึ้นยืน เตรียมจัดโต๊ะอาหาร อย่างน้อยเขาควรกินอะไรสักนิดก่อนออกจากบ้าน
ตะวันนิ่วหน้าแต่ก็ยอมตามใจมาหยา เขาคุ้นกับการบริการของเธอ รสมือมาหยาก็ถูกปาก เขาไม่เคยเจอใครรู้ใจเขา เรื่องอาหารการกินเท่าเธอเลย “หลังหย่ากัน ผมคงหาคนทำอาหารถูกปากไม่ได้อีกแล้ว”
มาหยาชะงักมือ แล้วก็รีบปรับความรู้สึกเจ็บแปลบๆ ทิ้ง เธอในสายตาของตะวัน คงไม่ต่างอะไรกับคนรับใช้ถูกใจ
“กลับมาบ้านนี้บ่อยๆ สิคะคุณตะวัน หากอยากกินของอร่อย” ผินพูดแทรก น้ำเสียงเต็มไปด้วยการประชดประชัน
ตะวันชะงักเงยหน้ามองคนสนิทมารดาตาค้าง เขาเหลือบมองมาหยาที่มีอาการเฉยสนิท “เธอบอกเรื่องของเราสองคนกับนมว่าไงบ้างหะหยา!!”
“คุณหยายังไม่ได้บอกอะไรอิฉันเลยค่ะคุณตะวัน อิฉันสอดรู้เอง” นมผินรีบแก้ตัวแทน และบางอย่างในแววตาของผู้สูงวัย ตะวันเลยไม่กล้าซักไซ้ไล่เรียง
“หยาขอเวลาสักครู่นะคะ” หลังจัดเตรียมอาหารมื้อนี้ให้ตะวันเสร็จ มาหยาก็เอ่ยปากขอตัว เธอควรดูดีกว่านี้ หากต้องออกไปนอกบ้านพร้อมเขา ถึงตะวันจะไม่เคยสนใจ แต่ก็น่าจะช่วยให้เขาไม่ต้องแก้ตัวแทนเธอทุกครั้งไป ผินยิ้มจนมุมปากยกโค้งขึ้น
“ให้อิฉันไปช่วยแต่งตัวนะคะ คุณหยา”
ไม่มีใครรู้ความคิดในใจของหญิงสูงวัยผู้นี้ ซึ่งตะวันเองก็พยายามไม่ใส่ใจ เขาควรโฟกัสความสนใจของตัวเองทั้งหมดไปที่อิงดาว เขาจะได้ไม่ว่อกแว่กมากไปกว่านี้
นมผินใช้เทคนิคที่เรียนรู้มาทั้งชีวิต เนรมิตมาหยาให้สวยชวนตะลึ่ง แม้เจ้าตัวจะพยายามคัดค้าน แต่ผินไม่สนใจ เธอบรรเลงสุดฝีมือ ทิ้งทวนครั้งสุดท้าย วัดใจเจ้านายหนุ่ม ตะวันจะไม่อาลัยอาวรณ์มาหยาสักนิดเชียวเหรอ?
“เชื่ออิฉันสักครั้งนะคะคุณหยา” ผินยิ้มให้กำลังใจ หลังพินิจมาหยาจนพอใจ
“ไม่มีประโยชน์หรอกค่ะนม หยาไม่เคยอยู่ในสายตาของคุณตะวันมาตั้งแต่ต้นค่ะ” มาหยาตอบเสียงแฝงความเศร้า เธอรู้อยู่แก่ใจดี ในสายตาของตะวัน ไม่มีใครดีกว่าอิงดาว ผู้หญิงที่ครอบครองหัวใจของเขาทั้งดวง