ผู้หญิงคนนั้น
ตอนที่ 4
ผู้หญิงคนนั้น
“ผมขอตั้งชื่อลูกว่าปุณณ์นะจะได้คล้องกับผม”
คุณหมอมานั่งรอขวัญฤดีและลูกอยู่ที่ห้องพิเศษแล้วทันทีที่เขาได้เห็นหน้าลูกชายก็รีบตรงไปอุ้มและพามาหาคนเป็นแม่ที่ตอนนี้กำลังนอนพักอยู่บนเตียง
“ตอนคุณออกจากโรงพยาบาลคงไม่ได้กลับไปที่บ้านเช่าหลังนั้นเพราะบ้านที่ผมสร้างตกแต่งเสร็จเรียบร้อย”
คุณหมอพูดเหมือนว่ามันเป็นเรื่องที่ไม่ได้มีอะไรพิเศษแต่สำหรับคนฟังถึงกับตกใจเธอไม่เคยรู้เรื่องที่คุณหมอสร้างบ้านแล้วก็ไม่คิดว่าคุณหมอจะพาเธอเข้าไปอยู่
“แต่คนอื่นจะคิดว่าเราเป็นอะไรกันไหมคะถ้ารู้ว่าคุณหมอพาขวัญเข้าไปอยู่ที่บ้านด้วย”
“เรื่องนั้นเดี๋ยวผมจัดการเองว่าแต่คุณเถอะเจ็บแผลมากไหม”
ปราชญ์ไม่ได้สนใจกับเรื่องที่หญิงสาวพูดเพราะตอนนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับเขาคือลูกและตัวเธอเรื่องอื่นๆเขาคิดว่าไว้ค่อยแก้ปัญหาทีหลัง
“ยังไม่ค่อยเจ็บมากเท่าไหร่ค่ะคุณหมอบอกว่าอีกสักพักก็อาจจะเริ่มปวด คุณหมอลางานมาแบบนี้กระทบเรื่องงานหรือเปล่าคะ”
ขวัญฤดีรีบถามด้วยความเป็นห่วงเพราะคุณหมอไม่ได้ลางานมาแค่ตอนที่เธอมาคลอดลูกที่โรงพยาบาลแต่เขาลางานมาก่อนหน้านั้นแล้วเมื่อเห็นว่าเธอเริ่มมีอาการไม่ดีจากที่เขาไม่เคยมาค้างที่บ้านเช่าที่เธออยู่เมื่อช่วงใกล้คลอดเขาก็มานอนที่นี่ทุกคืนถึงแม้ว่าเธอกับเขาจะนอนคนละห้องกันก็ตาม
“ลาตามสิทธิ์ก็ไม่ได้มีผลกระทบอะไร”
คนตอบหันมาส่งยิ้มมุมปากก่อนที่จะใช้ปลายนิ้วเขี่ยลงไปที่แก้มของทารกน้อยที่ตอนนี้กำลังนอนหลับหลังจากที่ได้ดื่มนมจากอกของแม่ไป
ตลอดเวลาที่อยู่โรงพยาบาลคุณหมออยู่ดูแลทั้งลุกทั้งแม่ไม่ยอมไปไหน
“กำลังจะลุกไปไหนนอนกับลูกต่อเถอะ”
ปราชญ์หันมาถามขวัญฤดีเมื่อเห็นว่าเธอกล่อมลูกหลับและกำลังจะยันตัวลุกขึ้นทั้งที่เมื่อคืนเธอก็แทบจะไม่ค่อยได้พักผ่อนเลยเพราะหนุ่มน้อยอ้อน โยเยในช่วงดึกทุกวัน
“ยังไม่มีกับข้าวตอนเช้าเลยค่ะ บ่ายนี้คุณหมอก็ต้องไปเข้าเวรเดี๋ยวขวัญจะรีบไปทำให้นะคะ”
“ไม่ต้องแล้ว ผมโทรสั่งให้ร้านอาหารนำมาส่งอีกสักพักก็คงจะมา”
คุณหมอปราชญ์ถึงแม้ว่าเขาจะทำกับข้าวไม่เป็นแต่เขาก็ได้คิดหาวิธีที่จะช่วยให้แม่ของลูกได้พักผ่อน เขาได้สั่งกับข้าวมาสำหรับเธอและเขาจนถึงช่วงเย็นเพื่อที่เธอจะได้ไม่ต้องทำกับข้าว เขาเองไปเข้าเวรในช่วงบ่ายแล้วคงจะกลับมาอีกทีในช่วงเช้ามืด
ตั้งแต่แม่และลูกกลับจากโรงพยาบาลมาอยู่ที่บ้าน คุณหมอปราชญ์ก็ดูแลทุกอย่างทำหน้าที่เหมือนเป็นสามีและพ่อโดยที่ไม่ได้สนใจว่าคนอื่นจะพากันสงสัย
“ทำไมยังไม่แต่งตัวอีก”
คุณหมอหันมาดุใส่ขวัญฤดีที่ตอนนี้เธอยังอยู่ใน ชุดนอนเพราะเขาได้บอกกับเธอตั้งแต่ช่วงเช้าแล้วว่าวันนี้เขาจะเข้าไปในเมือง
“ขวัญนึกว่าคุณหมอจะไปคนเดียวค่ะไม่รู้ว่าเราสามารถไปด้วยกันได้ด้วย”
หญิงสาวพูดด้วยท่าทีเกรงใจกล้าๆกลัวๆเพราะตั้งแต่เธอมาอยู่ที่นี่เพิ่งเคยไปไหนมาไหนกับคุณหมอก็แค่เพียงช่วงที่เธอต้องไปฝากท้องกับตอนที่ไปคลอดลูกที่โรงพยาบาลเท่านั้น
“ของใช้เด็กที่จำเป็นคุณก็ต้องไปเลือกเองเดี๋ยวผมจะอุ้มลูกให้”
คุณหมอพูดจบก็รีบอุ้มลูกชายออกจากเปลเพื่อพาไปเดินเล่นหน้าบ้านเพื่อรอให้ขวัญฤดีแต่งตัวแต่ยังที่ไม่ทันที่คุณหมอจะได้เดินออกพ้นประตูก็มีเสียงรถของใครบางคนเข้ามา
“สวัสดีค่ะคุณหมอ คุณพ่อให้เอาผลไม้ที่บ้านมาฝากคุณหมอค่ะ”
“ขอบคุณคุณอรมากนะครับ คิดถึงจังเลยช่วงนี้เราไม่ค่อยได้เจอกันผมยุ่งๆต้องช่วยน้องสาวดูแลลูก”
บทสนทนาของทั้งคู่ดังขึ้นมาถึงห้องนอนบนบ้านชั้น 2 ขวัญฤดีถึงแม้ใจจะไม่อยากแอบฟังแต่เธอก็อยากรู้ว่าทั้งสองคนนี้เป็นอะไรกัน ในที่สุดเธอก็ได้เห็นหน้าของผู้หญิงที่ชื่ออิงอรหลังจากที่เธอได้ยินทั้งคู่คุยโทรศัพท์กันมาตลอดตั้งแต่เธอมาอยู่ที่นี่ ทุกบทสนทนาการแสดงออกท่าทางและแววตาที่มองกันทำให้ขวัญฤดีรู้สึกได้ว่าผู้หญิงที่มาในวันนี้เป็น คนพิเศษของพ่อของลูกเธอ
“กำลังจะไปไหนกันคะเนี่ย”
อิงอรหันมาส่งยิ้มให้กับขวัญฤดีเหมือนกับว่าทั้งคู่เคยรู้จักกันมาก่อนทั้งที่ความจริงครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ผู้หญิงทั้งสองคนมีโอกาสได้เจอหน้ากัน
“สวัสดีค่ะคุณขวัญ ปราชญ์มักจะเล่าถึงคุณขวัญให้ฟังอยู่บ่อยๆว่าเป็นน้องสาวที่เขาห่วงใยมาก วันนี้เพิ่งมีโอกาสได้เห็นตัวจริง น่ารักมากกว่าที่คิดไว้อีกนะคะ แทบดูไม่ออกเลยว่าเป็นคุณแม่ที่เพิ่งคลอดลูก”
จากคำทักทายของหญิงสาวตรงหน้าทำให้ ขวัญฤดีรู้เลยว่าคุณหมอไปแนะนำเธอให้ผู้หญิงที่กำลังยืนคุยกับเขารู้จักเธอในฐานะไหนและมันก็คงเป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้วที่เขาจะแนะนำแบบนั้น
“ยินดีที่ได้รู้จักนะคะเห็นคุณหมอคุยโทรศัพท์กับคุณอรบ่อยๆก็เพิ่งได้เห็นตัวจริงวันนี้น่ารักมากๆเลยค่ะ”
คุณหมอปราชญ์มองคนทั้งคู่คุยกันด้วยท่าทางรุกรนเพราะเขาไม่เคยคิดที่จะให้อิงอรมาที่บ้านหลังนี้และไม่เคยคิดว่าทั้งคู่จะมีโอกาสได้คุยกัน
“ฝากบอกคุณพ่อด้วยนะครับว่าขอบคุณมากแล้วพรุ่งนี้เย็นผมจะเข้าไปกินมื้อเย็นด้วย วันนี้ขอตัวพาน้องสาวกับหลานไปซื้อของในตัวเมืองก่อน”
คุณหมอไม่ใช่แค่เพียงเดินไปส่งแขกผู้นำผลไม้มาให้แต่เขาใช้มือหนาโอบลงไปที่ไหล่แสดงความสนิทสนมก่อนที่จะให้อีกฝ่ายได้หยอกล้อกับหนุ่มน้อยที่กำลังนอนยิ้มหวานอยู่ในอ้อมกอดของคนเป็นพ่อ ภาพทุกอย่างอยู่ในสายตาของขวัญฤดี มันทำให้เธอรู้สึกว่าเวลาของเธอคงใกล้หมดลงแล้วในเมื่อเธอเป็นคนเสนอกับเขาเองว่าเธอจะยกลูกให้กับเขาเป็นคนเลี้ยงดูและเธอจะไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ วันนี้ในเมื่อผู้ชายที่ได้ชื่อว่าเป็นพ่อของลูกเจอผู้หญิงที่เขารัก เธอก็ควรจะรีบไปจากที่นี่เพื่อไม่ให้ความรักของเขาต้องมีปัญหา