ก้าวแรก(2)
“ผมกำลังจะไปครับ ต้องขอโทษคุณอรด้วยที่ไม่ได้รับโทรศัพท์พอดีมีเรื่องยุ่งๆที่โรงพยาบาล”
ขวัญฤดีที่กำลังยกแก้วน้ำมาให้คุณหมอยังไม่ทันที่จะวางแก้วก็ได้ยินบทสนทนาที่คุณหมอกำลังคุยกับคนในสายซึ่งมันก็แสดงให้เธอรู้ว่าเขาคงอยู่กับเธออีกแค่เพียงไม่กี่นาทีแล้วก็คงจะต้องรีบไปหาคนที่ชื่ออร
“ปิดบ้านให้ดีๆ วันนี้ผมคงไม่ได้มาหาคุณอีกถ้ามีเวลาพรุ่งนี้ก็จะมาหาใหม่”
นับตั้งแต่วันนั้นมาขวัญฤดีก็จะแอบได้ยิน คุณหมอคุยโทรศัพท์กับปลายสายที่ชื่ออรอยู่เสมอหญิงสาวถึงแม้อยากจะรู้ว่าผู้หญิงที่คุณหมอคุยโทรศัพท์ด้วยประจำเวลาที่มาหาเธอเป็นใครแต่ก็คงไม่มีสิทธิ์อะไรที่จะไปอยากรู้จึงได้แต่เก็บทุกอย่างไว้แค่เพียงในใจ เธอไม่ได้รู้สึกหึงหรือหวงแต่แค่เพียงอยากรู้ถ้าวันหนึ่งคุณหมอจะมีผู้หญิงเข้ามาผู้หญิงคนนั้นจะต้องมีส่วนเกี่ยวข้องกับลูกของเธอในอนาคตเธอจึงอยากรู้จักคนคนนั้น
“ไม่ต้องเป็นห่วงนะครับผมจะดูแลให้ดีที่สุด”
คุณหมอที่ทำหน้าที่ทำคลอดให้กับขวัญฤดีจับ
มือยืนยันเพื่อให้คุณหมอปราชญ์สบายใจเพราะตอนนี้ดูเหมือนคุณหมอจะควบคุมตัวเองไม่ค่อยได้ด้วย ความเป็นห่วง
จากท่าทีของคุณหมอทำให้หลายคนในโรงพยาบาลรู้สึกแปลกใจเพราะคุณหมอบอกแค่เพียงว่าขวัญฤดีเป็นลูกพี่ลูกน้องของเขาที่เธอมีปัญหากับพ่อของเด็กเลยตัดสินใจเดินทางมาคลอดที่นี่เพื่อให้ห่างไกลจากสังคมที่กรุงเทพฯ
“ยินดีด้วยนะคะคุณหมอได้ลูกชายนะคะแข็งแรงทั้งแม่ทั้งลูก”
นางพยาบาลอุ้มทารกน้อยเพศชายมาส่งให้กับคุณหมอที่ยืนนั่งไม่ติดอยู่ที่หน้าห้องคลอดด้วยรอยยิ้มที่เหมือนมีอะไรในใจเพราะทารกที่อยู่ในอ้อมกอดของพยาบาลตอนนี้มีหน้าเหมือนคุณหมออย่างกับถอดแบบออกมาจากกัน
“แม่ของเด็กเป็นอย่างไรบ้างครับ”
ชายหนุ่มถามด้วยเสียงตะกุกตะกักเพราะเขา
คิดไม่ออกว่าจะเรียกกขวัญฤดีว่าอย่างไรดีเพื่อไม่
ให้คนอื่นสงสัย
“ไม่มีอะไรต้องกังวลค่ะ อีกสักพักทางโรงพยาบาลจะพาขึ้นไปที่ห้องพักฟื้นแต่ตอนนี้ขอตัวหนุ่มน้อยไปที่ห้องเด็กก่อนนะคะ”
พยาบาลยิ้มหวานเมื่อเห็นคุณหมอกอดทารกเพศชายไว้แน่นแววตาที่คนอุ้มมองไปยังหนุ่มน้อยที่อยู่ในอ้อมกอดมันดูมีความผูกพันมากกว่าความเป็นญาติห่างๆ