3 - อยากจะหยุดรัก แต่ก็ทำไม่ได้
อนุชิตและขวัญฤทัยมาถึงโรงพยาบาลก็โทรถามห้องพักของลูกสาวจากลูกชายตัวเองทันที พอรู้แล้วว่าอยู่ห้องไหน ชั้นไหนก็พากันมาหาอุรณา ทั้งสองแม้จะอายุหกสิบกว่ากันแล้ว แต่ก็ยังแข็งแรงเดินเหินสะดวก พอมาถึงเปิดประตูห้องเข้าไปเห็นลูกสาวตัวเองนั่งพิงหัวเตียงอยู่และข้างเตียงมีพริมานั่งอยู่เป็นเพื่อน
“เป็นยังไงมั่งยัยเนมของแม่” ขวัญฤทัยเดินเข้าไปหาพร้อมถามถึงอาการ
“สวัสดีค่ะคุณป้า สวัสดีค่ะคุณลุง” พริมายกมือไหว้ผู้ใหญ่ทั้งสองที่เดินมาหยุดยืนข้างเตียงของอุรณาตรงข้ามกับตนเอง
“ไหว้พระเถอะหนูพรีม” เป็นอนุชิตเอ่ย ส่วนขวัญฤทัยทำเพียงแค่พยักหน้ารับไหว้ส่งยิ้มเอ็นดูให้เด็กสาวที่ตัวเองเอ็นดูเหมือนลูกสาวอีกคน
“เดี๋ยวพรีมไปรินน้ำให้คุณลุง คุณป้านะคะ คุณป้ามานั่งเก้าอี้ดีกว่าค่ะจะได้ไม่ปวดขา” พริมาพูดพร้อมกับลุกขึ้นจากเก้าอี้
“ขอบใจนะหนูพรีม” ขวัญฤทัยเอ่ยแล้วเดินอ้อมเตียงมานั่งแทนที่เด็กสาวแล้วหันมาสนใจลูกสาวตัวเองต่อ
“เป็นยังไงมั่งลูก ตอนพี่เราโทรไปบอกว่าเราพลัดตกบันไดที่โรงพยาบาล แม่ตกใจมากรู้ไหมยัยเนม แล้วไปทำอีท่าไหน ทำไมถึงตกบันไดหนีไฟได้ลูก” นางซักถามเป็นชุด
“พี่พอร์ชน่ะชอบทำให้เป็นเรื่องใหญ่ เนมไม่ได้เป็นอะไรหรอกค่ะแม่ขวัญ พ่อชิต เนมแค่คอเคล็ด หมอให้ใส่เฝือกพยุงคอไว้เดี๋ยวอาทิตย์สองอาทิตย์หายดีแล้วค่ะ และมีแผลฟกช้ำตามขาและแขนเล็กน้อยค่ะ” เธอบอกตอบแม่และพ่อให้คลายความเป็นห่วง
“แล้วสามีเราไปไหนล่ะ ทำไมไม่มาดูแลเรา” นางถามถึงลูกเขย แม้จะเอ็นดูพชรพล แต่พอรู้ว่าต้นเหตุทั้งหมดทั้งมวลของอุบัติเหตุครั้งนี้มาจากลูกเขยก็รู้สึกเคืองโกรธ
“คุณฌอห์ณเพิ่งออกไปก่อนแม่ขวัญกับพ่อชิตมานี่เองค่ะ”
เธอโกหกคำโตด้วยกลัวว่าท่านทั้งสองจะต่อว่าตำหนิสามี แม้ว่าเขาจะไม่สนใจไยดีตัวเอง แต่เธอก็ไม่ปรารถนาให้เขาโดนตำหนิ เธอไม่อยากให้เขาโดนใครเกลียดชัง สำหรับอุรณาแล้วพชรพลคือคนที่ดีในสายตาหล่อนเสมอ
“แน่ใจว่าเพิ่งออกไปก่อนแม่กับพ่อจะมา”
ขวัญฤทัยถามลูกสาวย้ำพร้อมมองจ้องหาความจริงในดวงตาหม่นเศร้าของลูกสาวและยิ่งลูกสาวหลบตาก็ยิ่งแน่ใจมั่นใจว่าลูกสาวกำลังโกหกตัวเอง ไม่รู้จะปกป้องพชรพลทำไม ตลอดสองเดือนนางและสามีรู้มาตลอดว่าทั้งสองแยกกันอยู่และแทบจะไม่เจอกันเลย พชรพลไม่เคยแวะไปบ้านเลยสักครั้ง รายนั้นนอนค้างที่แฟลตและคอนโดส่วนตัวไม่ยอมกลับไปบ้านที่มีภรรยารออยู่ นางและสามีเริ่มกังวลปรึกษากันว่าคิดผิดไหมที่เอาพินัยกรรมและสัญญาสมัยก่อนของตนเองและเพื่อนมาบีบบังคับพชรพลให้แต่งงานกับลูกสาวตัวเองแบบนี้
“เนมกำลังโกหกพ่อกับแม่” เป็นเสียงแหบห้าวของอนุชิตที่ดังขึ้น
“นะ…เนมเปล่า” เธอตอบเสียงแผ่วเบาไม่ดังนัก
หึหึ
“ทำไมต้องปกป้องคนที่ไม่ไยดีเราด้วยยัยเนม” เป็นขวัญฤทัยพูดอีกครั้ง
“ไม่เลยนะคะ คุณฌอห์ณเขามาจริงๆ ค่ะ เขาเพิ่งออกไปก่อนหน้าแม่ขวัญกับพ่อชิตจะมาเองค่ะ” เธอยังยืนยันคำเดิม และแล้วคนที่ทุกคนกำลังพูดถึงก็เปิดผลักประตูเข้ามาเมื่อพริมาที่เดินไปรินน้ำแอบโทรบอกพี่ชายให้มาที่ห้องพักฟื้นของอุรณา
“ทำไมคุณต้องโกหกคุณพ่อ คุณแม่ด้วยคุณเนม สวัสดีครับคุณพ่อ คุณแม่” พชรพลยกมือไหว้พ่อตา แม่ยายพร้อมกับพริมาเดินนำน้ำที่รินใส่แก้วมาให้ท่านทั้งสองแล้วขอตัวออกจากห้องไปเงียบๆ เพื่อให้ทั้งสี่คนพูดคุยกันในห้อง
“เห็นไหม เป็นอย่างแม่กับพ่อคิดไว้ไม่มีผิด มันจะเกินไปแล้วนะฌอห์ณ ฌอห์ณไม่รักลูกสาวแม่ไม่เป็นไร แต่ควรทำตัวเย็นชาแบบนี้ไหม มีอย่างที่ไหนทิ้งให้ยัยเนมอยู่บ้านคนเดียวแล้วตัวเองออกมาอยู่ข้างนอก และอุบัติเหตุวันนี้อีก แม่กับพ่อผิดหวังในตัวเราจริงๆ ที่ฝากยัยเนมไว้กับเรา”
“ผมขอโทษครับ ถ้าหากต้องการให้ผม ‘หย่า’ ผมก็จะ ‘หย่า’ กับคุณเนมให้ครับ” เขาตอบเสียงเรียบไร้อารมณ์เหมือนหน้าตาที่เย็นชาไร้ความรู้สึกเหมือนกับว่ามันเป็นเรื่องไม่สำคัญ และหน้าหล่อก็ถูกหมัดหนักๆ ของอนุชิตกระแทกเข้าหน้าเต็มแรง โดยที่เขาไม่แม้แต่จะหลบทั้งๆ ที่เขามองเห็นหมัดของท่านที่กำลังลอยมาทางตนเอง
ตุ้บ!
“คิดว่าเรื่องแต่งงานเป็นเรื่องเล่นๆ รึไงฌอห์ณ พ่อผิดหวังในตัวนายมากที่ฝากลูกสาวคนเดียวไว้กับนาย” อนุชิตผิดหวัง เคืองโกรธลูกเขย เพราะไม่คิดว่าจะได้ยินคำพูดแบบนี้จากปากของพชรพล
“ไม่นะคะ เนมไม่ ‘หย่า’ นะคะคุณฌอห์ณ เนมไม่ ‘หย่า’ กับคุณค่ะ พ่อคะ แม่คะ ยังไงเนมก็ไม่ยอมนะคะ” เธอส่ายหน้าแรงๆ แม้จะเจ็บคอที่ใส่เฝือกพยุงคอ แต่เธอไม่มีวันยอม ‘หย่า’ กับคนที่รักเป็นอันขาด แม้จะรู้ดีอยู่เต็มอกว่าเขาไม่ ‘รัก’ ตนก็ตามแต่
“ยัยเนม พี่เขาพูดขนาดนี้แล้วลูกยังจะดื้ออีกเหรอ เขาไม่ได้ ‘รัก’ ลูก แม่ว่า ‘หย่า’ กันน่ะดีแล้ว” ขวัญฤทัยบอกลูกสาว
“ไม่นะคะแม่ ยังไงเนมก็ไม่ยอมค่ะ โอ๊ย! เจ็บ!” เธอส่ายหน้าแรงจนรู้สึกเจ็บคอ
“อย่าขยับคอแรงสิ” พชรพลเอ่ยดุพร้อมกับเคลื่อนตัวไปประคองหัวทุยเล็กของภรรยาอย่างรวดเร็ว ทำให้ขวัญฤทัยกับอนุชิตหันมามองหน้ากัน แล้วอนุชิตก็เอ่ยขึ้น
“อย่ามาทำเป็นห่วงยัยเนมตอนนี้ ก่อนหน้านี้ทำไมไม่ดูแลยัยเนมให้ดี”
“ผมขอโทษครับ” เขาตอบเพียงสั้นๆ แล้วผละมือออกจากหัวทุยเล็กเดินกลับมายืนที่เดิม ตอนนี้พชรพลรู้สึกแสบในกระพุ้งแก้มและรับรู้ได้ถึงกลิ่นคาวและรสเค็มของเลือดในปากตนเองที่มีแผลจากการโดนพ่อตาต่อยหน้าเมื่อครู่นี้
“ขอโทษงั้นเหรอ ถ้าฌอห์ณดูแลลูกสาวแม่ดี ยัยเนมจะเป็นแบบนี้ไหม” ขวัญฤทัยยังไม่คลายความโกรธ
“แม่ขวัญ พ่อชิตอย่าว่าคุณฌอห์ณเลยนะคะ งานคุณฌอห์ณที่โรงพยาบาลเยอะ อีกอย่างเนมก็ดูแลตัวเองได้ค่ะ” เธอปกป้องเขา ไม่ว่าเขาจะเป็นยังไง เธอก็รับได้ ขออย่างเดียวอย่า ‘หย่า’ กันก็พอ เธอทนได้กับความเป็นอยู่ในตอนนี้
“ยัยเนม!” ขวัญฤทัยไม่คิดว่าลูกสาวจะรักพชรพลมากถึงขนาดที่มองไม่เห็นความจริงว่าอีกฝ่ายนั้นไม่เคยไยดีตน
“ให้เนมอยู่กับคุณฌอห์ณตามลำพังนะคะ พ่อชิต แม่ขวัญกลับไปก่อนนะคะ เนมไม่เป็นไรแล้วค่ะ แค่เล็กน้อยเองเดี๋ยวก็หายค่ะ” เธอขอร้องพ่อกับแม่
“ถ้าคุยกันไม่ได้ก็ ‘หย่า’ พ่อไม่อยากให้เนมทนอยู่กับความเย็นชาของสามีลูก หวังว่าฌอห์ณจะมีคำพูดดีๆ และคำตอบที่ดีให้ลูกสาวพ่อล่ะ ถ้าไม่ดีเจออีกหมัดแน่นอน ไปกันแม่ ไปหาไอ้พอร์ชกัน”
“ครับ” พชรพลรับปากหนักแน่นด้วยสีหน้าที่ใครก็อ่านไม่ออกว่าในหัวของเขาคิดอะไรอยู่กันแน่ พร้อมยกมือไหว้พ่อตา แม่ยายที่กำลังเดินออกไปจากห้อง
“เนมขอโทษแทนคุณพ่อด้วยนะคะคุณฌอห์ณ” เมื่อเหลือกันสองคน อุรณาก็เอ่ยขอโทษชายหนุ่มแทนพ่อของตัวเอง
“เรื่องอะไร?”
“ที่คุณพ่อต่อยคุณน่ะค่ะ ขอโทษด้วยนะคะที่เป็นต้นเหตุ”
หึหึ
“ท่านไม่ได้ทำอะไรผิด ผมก็สมควรโดนหมัดท่านนั่นแหละ” แล้วเขาก็นั่งลงเก้าอี้ตัวที่แม่ยายนั่งก่อนหน้าเพื่อจะคุยกับภรรยาของตน
“แล้วเรื่อง ‘หย่า’ ของเราล่ะ คุณตัดสินใจได้รึยัง ที่ผมพูดไปเมื่อกี้ผมคิดมาดีแล้ว ผมคิดว่าเราสองคนไม่เหมาะสมกันหรอก ชีวิตเราสองคนมันเข้ากันไม่ได้แน่นอน ผมกับคุณ เราต่างกัน คุณใช้ชีวิตเรียบง่ายมาตลอดต่างจากผมที่ต้องดิ้นรนมาตลอดตั้งแต่พ่อกับแม่ผมเสีย ผมต้องแบกรับภาระหลายอย่าง แต่คุณสิ อยู่บนกองเงินกองทองไม่เคยลำบาก เป็นคุณหนูที่ได้รับความรัก ความเอาใจใส่มาตั้งแต่เด็ก ผมมองไม่ออกเลยว่าเราจะเป็นสามีภรรยากันได้ ถึงเราจะแต่งงานกันแล้ว แต่ผมก็พร้อมจะ ‘หย่า’ ให้คุณตลอด” เขาบอกอธิบายถึงความแตกต่างระหว่างตัวเขากับภรรยา
“ใจร้าย! พี่ฌอห์ณใจร้าย อึก! ฮือๆๆ”
เธอร้องไห้อีกครั้งแล้ว ยกมือขึ้นปาดป้ายเช็ดน้ำตา แต่ก็ถูกมือใหญ่คว้าจับมือที่กำลังยกขึ้นไปเช็ดน้ำตารั้งไว้ แล้วมือใหญ่ก็เอื้อมไปหยิบทิชชูในกล่องที่วางบนข้างหัวเตียงมาซับน้ำตาให้เธออย่างอ่อนโยน สายตาของเขาตอนนี้มันต่างจากทุกครั้ง มันอ่อนโยน ซึ่งเธอรับรู้และสัมผัสได้ หัวใจของอุรณาเต้นแรงไม่เป็นจังหวะ
“ผมมีพรีมเป็นน้องสาวคนเดียว และคนเดียวที่เรียกผม ‘พี่’ มีแค่ยัยพรีม แต่คุณไม่ใช่ ฉะนั้นอย่าเรียกผมแบบนี้อีก”
มือที่ซับน้ำตาให้อย่างอ่อนโยน แต่ปากนั้นกลับพูดคำเชือดเฉือนใจของหล่อนแทน โดยที่เขานั้นจงใจจะให้เธอเจ็บปวดและตัดใจจากตนเอง เพราะพชรพลรู้ว่าอุรณานั้น ‘รัก’ ตน ส่วนความรู้สึกของเขานั้นมันไม่สำคัญหรอกว่ารู้สึกยังไงกับผู้หญิงที่ขึ้นชื่อว่าภรรยาตัวเองตรงหน้า เพราะเขาเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าตัวเองรู้สึกกับอุรณายังไง บางครั้งก็หวนคิดถึง อยากโอบกอด อยากให้ไออุ่นคนตัวเล็ก อยากกอดปลอบประโลม แต่บางครั้งก็บอกว่าตัวเองกับเธอนั้นไม่คู่ควรกัน
“ผมถามหมอให้แล้วว่ากลับบ้านได้ เดี๋ยวผมจะพาคุณกลับบ้าน” นายแพทย์หนุ่มหยุดมือที่ซับน้ำตาแล้วลุกขึ้นยืนเต็มความสูง ก่อนจะพูดต่ออีก “เรื่อง ‘หย่า’ คิดให้ดีนะครับ ผมไม่อยากให้คุณเสียเวลากับผู้ชายอย่างผม” แล้วเขาก็เดินจากไปโดยไม่สนใจจะรอฟังคำพูดตอบกลับของอุรณาแม้แต่น้อย
“ทำไมพี่ฌอห์ณไม่ถามเนมบ้างว่าเนมต้องการ ‘หย่า’ กับคุณไหม สำหรับเนมแล้วไม่มีคำว่าเสียเวลาถ้ามันเกี่ยวกับคุณ” เธอพึมพำกับตัวเองแล้วหลับตาไล่น้ำตาที่อาบล้นในดวงตาให้ไหลออกมาช้าๆ
“พี่จะกลับไปอยู่บ้าน” นั่นคือคำพูดของพชรพลที่พูดกับพริมาเมื่อเปิดประตูห้องออกมาเจอน้องสาวที่ยืนเล่นโทรศัพท์อยู่หน้าห้อง
“ดีค่ะ ดี เนมรู้ยังคะว่าพี่ฌอห์ณจะกลับไปอยู่บ้าน”
“ยัง พี่ไม่จำเป็นต้องบอกเธอ” เขาตอบกลับพร้อมเดินไปด้วยโดยมีน้องสาวเดินตามไปติดๆ
“ไม่จำเป็น? อะไรทำให้พี่คิดว่าไม่จำเป็น นั่นเมียพี่ฌอห์ณนะคะ”
“เพราะเราจะ ‘หย่า’ กันแล้ว พี่ว่าไม่เห็นจำเป็นต้องบอกเธอ”
“เนมโอเคเหรอคะเรื่องหย่า ทำไมพี่ฌอห์ณคิดเอง ตัดสินใจเอง พรีมไม่ยอมนะคะ ไม่ยอมให้พี่ ‘หย่า’ กับเพื่อนของพรีมแน่นอนค่ะ”
“ไม่รักกัน ไม่รู้จะทนอยู่ด้วยกันไปทำไม พี่ก็แต่งงานให้แล้ว แล้วยังต้องการอะไรจากพี่อีก” เขาหยุดเท้าที่เดินหันมาหาน้องสาวที่เดินตามมา
“พี่ฌอห์ณคิดไปเองต่างหาก พี่ฌอห์ณก็รู้ว่าเนม ‘รัก’ พี่ พี่ต่างหากล่ะ ปิดหูปิดตาตัวเองไม่สนใจเนม พี่ฌอห์ณเปิดใจให้เนมแล้วพี่ฌอห์ณจะรักเนมได้ไม่ยาก”
“พี่ไม่เคยคิดจะรักคุณหนูไฮโซเพื่อนของเรา คนที่ใช้แต่เงินพ่อกับแม่ ร้านที่เปิดก็เงินทุนจากพ่อกับแม่ เศรษฐกิจแบบนี้มีเหรอจะรอด แต่ที่อยู่ได้ทุกวันนี้เพราะเงินทุนพ่อแม่สนับสนุนเท่านั้น เราสองคนแตกต่างกันเกินไป พี่ออกเวรแล้วพี่จะไปโรงงานทอผ้า ไปกับพี่ไหม”
“ไม่ค่ะ พรีมจะอยู่กับเนม”
“อือ...เดี๋ยวตอนเย็นพี่จะมารับเราสองคนกลับบ้าน พี่ถามรุ่นพี่แล้วเขาบอกว่ากลับบ้านได้ แต่ถ้ากลับไปแล้วมีอาการปวดหัว อาเจียนค่อยกลับมาหาอีกครั้ง” แล้วเขาก็เดินจากไป ส่วนพริมาก็หมุนตัวเดินกลับทางเดิม และนึกโกรธโมโหพี่ชายตัวเองแทนเพื่อนรักไปด้วย ไม่รู้ว่าอุรณาหลงรักพี่ชายตัวเองตรงไหน คนอะไรโคตรแสนจะเย็นชาเลยให้ตายสิ!