บทที่ 2 เหมือนคนแปลกหน้าต่อกัน 3
พชรพลวิ่งตามอุรณามาติดๆ เธอเปิดประตูหนีไฟจะวิ่งลงบันได แต่เขาก็รีบคว้ากอดรั้งร่างเธอไว้ด้วยกลัวว่าเธอจะพลาดพลั้งพลัดตกบันได
“มันอันตราย” เขารั้งเธอเข้ามากอดเมื่อขาของเธอเกือบพลาดทำให้ตกบันได
“ปล่อยเนม อึก! ฮือๆๆ คนใจร้าย” เธอดิ้นขัดขืนพร้อมทุบตีไหล่คนตัวโตเต็มแรง
ฮือๆๆ
เฮ้อ!
พชรพลกอดภรรยายืนนิ่งที่บันไดยอมให้เธอทุบตีไหล่ตัวเองแม้จะรู้สึกเจ็บ แต่ก็ไม่รู้จะทำยังไงจึงได้แต่ระบายลมหายใจยาวออกมา
“คนใจร้าย อึก! ใจร้าย…ฮือๆๆ”
“ผมไปใจร้ายกับคุณตั้งแต่เมื่อไหร่?” เขาถามเสียงเข้มพร้อมดันเธอออกจากอ้อมกอดแล้วจับมือเล็กบังคับพาเดินกลับห้อง แต่เธอก็ขืนตัวเองและบิดข้อมือจากอุ้งมือหนานุ่มของเขา
“อึก! ฮือๆๆ คุณไม่รู้แล้วคุณตามเนมมาทำไม อึก! ฮือ...”
“ถ้าไม่บอกผมจะรู้รึไง กลับไปคุยกันที่ห้อง และเช็ดน้ำตาด้วย อย่ามาทำตัวอ่อนแอสำออยให้ผมเห็นแบบนี้ ผมรำคาญ!” คำพูดไม่คิดของเขามันบาดลึกหัวใจของคนฟังจนต้องสะบัดมือออกจากอุ้งมือหนาอีกครั้งและครั้งนี้แรงกว่าเดิมจึงหลุด แล้วเธอก็พลาดทรงตัวไม่อยู่พลัดตกลงบันได
กรี๊ด!
ตุ้บ!
“เนม!”
ไม่ทันเสียแล้ว เมื่อหันมาเธอก็อยู่ข้างล่างที่พักของบันไดเสียแล้ว พชรพลรีบวิ่งลงบันไดไปดูคนตัวเล็กที่พลัดตกบันไดจนหมดสติด้วยใจร้อนรน
อธิปมาที่ห้องฉุกเฉินเมื่อน้องเขยโทรไปบอกว่าอุรณาพลัดตกบันได ตอนนี้ทั้งพชรพล อุรณา และอธิปต่างรอประตูห้องฉุกเฉินเปิดออก จนเวลาผ่านไปได้เกือบครึ่งชั่วโมงหมอก็เปิดประตูออกมาพร้อมกับเจ้าหน้าที่เข็นเตียงของน้องสาวออกมาเพื่อจะเคลื่อนย้ายไปยังห้องพักฟื้น
“ผู้ป่วยแค่คอเคล็ดและฟกช้ำเท่านั้นครับ ส่วนที่หลับอยู่นี่แค่หมดสติ” นายแพทย์วัยกลางคนเอ่ยบอกสองแพทย์หนุ่มรุ่นน้องของตัวเอง
“ขอบคุณครับ แล้วสมองของเธอไม่ได้รับความกระทบกระเทือนนะครับ” เป็นเสียงเข้มของพชรพลที่เอ่ยขึ้น
“ไม่ครับ ถ้าหลังจากนี้มีอาการปวดหัวค่อยมาทำซีทีสแกนอีกที แต่เท่าที่ตรวจเบื้องต้นไม่น่าห่วงครับ ไม่มีเลือดคั่งในสมองอะไร ตอนนี้เรากำลังย้ายผู้ป่วยไปที่ห้องพักฟื้น เดี๋ยวไม่นานก็ฟื้นครับ ขอตัวนะหมอฌอห์ณ หมอพอร์ช” แล้วนายแพทย์วัยกลางคนก็เดินจากไป
“มันเกิดอะไรขึ้นฌอห์ณ”
อธิปหันมาถามน้องเขยพร้อมมองเตียงของน้องสาวที่เจ้าหน้าที่เข็นไปและมีพริมาน้องสาวของพชรพลเดินตามไปด้วย
“เกิดอุบัติเหตุนิดหน่อยครับ” เขาตอบเสียงเรียบด้วยสีหน้าไร้อารมณ์เหมือนเดิม นั่นยิ่งทำให้อธิปรู้สึกโกรธ ไม่พอใจในตัวรุ่นน้อง
“ไม่ไหวแล้วนะไอ้ฌอห์ณ ถ้ามันรุนแรงกว่าวันนี้ล่ะจะทำยังไง นั่นน้องสาวกูนะเว้ย! อีกอย่างนั่นก็เมียมึง มึงไม่รักน้องกู กูเข้าใจ แต่มึงไม่ควรใจดำกับน้องกูแบบนี้ ถ้าเป็นแบบนี้มึงก็ไป ‘หย่า’ กับเนมซะ จะได้ตัดขาดกัน”
“พี่ก็รู้ว่าผม ‘หย่า’ ตอนนี้ไม่ได้” เขาบอกตอบอีกฝ่าย
หึหึ
“เดี๋ยวพ่อกับแม่กูมา มึงค่อยอธิบายก็แล้วกันตอนท่านทั้งสองมาถึง เนมเป็นลูกสาวคนเดียวของท่านทั้งสองและเป็นน้องสาวคนเดียวของกู เนมไม่เคยต้องเสียใจ แต่ก็ต้องมาเจ็บปวดเสียใจเพราะคนอย่างมึง มึงคิดให้ดีแล้วกันไอ้ฌอห์ณ ถ้ามึงยังจะอยู่ที่แฟลตไม่ยอมกลับบ้านแบบนี้ก็ ‘หย่า’ ให้น้องสาวกูซะ” แล้วอธิปก็เดินจากไปโดยทิ้งให้พชรพลยืนนิ่งอยู่กับความคิดตัวเองตามลำพัง
หึหึ
พชรพลทำเพียงแค่นขำแล้วมองไปทางทุกคนที่เดินไปแล้ว ตัวเขาก็เดินไปอีกทาง เขาไม่ได้ตามไปที่ห้องพักฟื้นของอุรณา เขาเดินกลับไปห้องทำงานตัวเองต่อ เพราะอาการของอุรณาไม่ได้เป็นอะไรมาก
พริมามองไปทางคนที่นั่งอยู่ในห้องด้วยบ่อยๆ เธอรู้สึกใจเต้นแรงทุกครั้งเวลาสบตากับพี่ชายของเพื่อนและ เมื่อคิดถึงเรื่องเร่าร้อนที่เพิ่งจะเกิดขึ้นในห้องตรวจเมื่อวันก่อนก็ยิ่งแก้มแดงไปหมด แต่ตอนนี้เขาทำเหมือนไม่รู้จักเธอ เธอเดินไปหยิบขวดน้ำในตู้เย็นของห้องพักฟื้นมาส่งให้เขา
“น้ำค่ะพี่พอร์ช”
“อืม...ขอบใจ” เขายื่นมือมารับขวดน้ำในมือเธอแล้วเปิดขวดกระดกดื่มแก้กระหายแล้ววางขวดน้ำตั้งไว้ที่โต๊ะกลางโซฟาตรงหน้าตนเอง และคนส่งขวดน้ำให้ก็ยังยืนอยู่ที่เดิม เขาจึงถามเธอ
“ทำไมไม่หาที่นั่ง มายืนค้ำหัวผู้ใหญ่แบบนี้ได้ยังไง ไร้มารยาท!”
“ขะ...ขอโทษค่ะพี่พอร์ช” เธอรีบขอโทษเขาแล้วรีบเดินไปนั่งที่เก้าอี้ข้างเตียงของอุรณา แล้วก็ได้ยินเสียงเอ่ยสบถไล่หลังมา
“น่าเบื่อ!”
‘เราทำอะไรผิดเหรอ ทำไมพี่พอร์ชถึงมองว่าเราน่าเบื่อ” พริมาพึมพำถามตัวเองในใจแล้วมองไปที่คนนอนหลับบนเตียง ‘พี่ฌอห์ณไปไหน ทำไมไม่มาดูแลเนม’ เธอพึมพำถึงพี่ชายตัวเองที่จนป่านนี้ก็ไม่ยอมตามมาที่ห้องพักฟื้นของเพื่อน
พริมานั่งตัวเกร็งตัวลีบอยู่บนเก้าอี้ด้วยใจที่สั่นรัว ตอนนี้เธอทำตัวไม่ถูก คิดอะไรก็ไม่ออก แม้ว่าจะมีอุรณาอยู่ด้วย แต่อีกฝ่ายหมดสติยังไม่ฟื้นก็เหมือนอยู่ด้วยกันตามลำพัง ด้านนายแพทย์หนุ่มก็ปรายตามองน้องสาวของรุ่นน้องตลอด และคิดถึงเรื่องที่มันกำลังจะเกิดขึ้น ยังไงเขาก็ต้องแต่งงานกับเธอ และไม่แน่เธอก็อาจจะต้องมีชะตากรรมที่ไม่ต่างจากอุรณา เธอสวยนะ ข้อนี้เขาไม่เถียง แต่มันไม่ใช่สไตล์ที่เขาจะจินตนาการว่าจะรับมาเป็นเมีย เป็นคู่ชีวิต ในสายตาของเขา เธอเป็นสาวสวยที่จืดชืด น่าเบื่อและแสนเลี่ยน มองแล้วไม่เจริญตาเอาเสียเลยจนต้องถอนหายใจดังออกมาและทำให้คนตัวเล็กหันมามอง
“มองอะไร?”
“ปะ...เปล่าค่ะ” เธอรีบตอบเขาแล้วหันหน้ากลับไปมองทางเดิม
หึหึ
อธิปแค่นขำในลำคอแล้วลุกขึ้นยืนเต็มความสูง
“ฉันจะไปทำงาน เดี๋ยวพ่อกับแม่ฉันจะมา เธอก็ไปตามไอ้ฌอห์ณพี่ชายเธอมาอธิบายกับท่านทั้งสองด้วยล่ะว่ามันเกิดอะไรขึ้น ทำไมยัยเนมถึงพลัดตกบันไดแบบนี้” พูดจบเขาก็เดินออกไปจากห้องโดยไม่รอให้สาวเจ้าตอบรับคำสั่งตัวเอง