บทที่3
ปึ้ง
แรงผลักประตูจนเกิดเสียงดังทำเอาพรรณาราสะดุ้งด้วยความตกใจใบหน้าซีดเผือดเมื่อเห็นร่างใหญ่ของรณทียืนมองมาด้วยแววตาดุดัน
พรึ่บ
"โอ๊ย พรรณเจ็บนะคะ"
"อย่ามาสำออย เธอไปฟ้องอะไรพวกท่านห้ะ"รณทีรู้สึกโกรธเมื่อโดนผู้ให้กำเนิดต่อว่า สายตาของเขายิ่งมองเธอด้วยความชิงชังเพิ่มขึ้นมากกว่าแต่ก่อนตอนที่พ่อและแม่ของเขายัดเยียดให้แต่งงานกับผู้หญิงหิวเงินคนนี้
"ปล่อยพรรณก่อนเถอะนะคะ พรรณเจ็บ"
"ฉันไม่ปล่อยจนกว่าเธอจะยอมพูด ว่ายังไงห้ะคาบข่าวอะไรไปฟ้องพ่อกับแม่ของฉัน"
"พรรณไม่ได้ฟ้องอะไรทั้งนั้นคุณกำลังเข้าใจผิด โอ๊ย"สีหน้าของพรรณาราแสดงถึงความเจ็บปวดเมื่อแรงบีบรัดตรงบริเวณต้นแขนเพิ่มมากยิ่งขึ้นจนทำให้เธอต้องร้องออกมา ผิวขาวสวยเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดงตามรอยนิ้วมือแต่ผู้ชายใจร้ายอย่างรณทีก็ไม่คิดจะยอมปล่อย
"ฉันคงเข้าใจผิดไปสินะว่าเธอเป็นพวกหิวแค่เงิน"
"...."
" ถ้าจะให้ฉันเข้าใจถูกเธอมันก็เป็นผู้หญิงที่ยอมเอาตัวเข้าแลกเพื่อหวังให้ตัวเองได้อยู่สุขสบายแถมยังเป็นผู้หญิงตอแหลอีกด้วย"
ปึก
รณทีสะบัดมือด้วยความรุนแรงจนร่างของพรรณาราเซถลาล้มลงบนพื้นพรม ดวงตากลมโตแดงก่ำเมื่อถูกต่อว่าด้วยถ้อยคำรุนแรง
"จำใส่สมองของเธอเอาไว้นะพรรณารา ถ้ายังปากพล่อยไปฟ้องอะไรคุณพ่อคุณแม่อีกล่ะก็ ฉัน'เอา'เธอตายแน่"รณทีเน้นย้ำถ้อยคำทำเอาพรรณาราตัวสั่นเมื่อนึกถึงวันที่เธอต้องเข้าหอกับสามี ความรุนแรงที่เขามอบให้มันคงยังฝังลึกอยู่ในใจของเธอจนมาถึงทุกวันนี้
ก๊อก ก๊อก
เสียงเคาะประตูห้องพักดังขึ้นเรียกความสนใจ รณทีส่งสายตาให้พรรณาราเดินไปเปิดประตูซึ่งเธอก็ยอมทำตามอย่างว่าง่ายส่วนชายหนุ่มปลีกตัวไปคว้าผ้าเช็ดตัวเดินเข้าห้องน้ำไป
"คุณแม่มีอะไรให้พรรณรับใช้เหรอคะ"น้ำเสียงอ่อนน้อมเอ่ยถามผู้มีศักดิ์เป็นแม่สามีที่ยืนอยู่ตรงหน้าประตูพร้อมกับสาวใช้อีกสองคน
"แม่แค่เอาชุดที่จะใส่ไปงานเลี้ยงสำหรับเย็นนี้มาให้หนูพรรณกับเจ้าตัวดี"พรรณาราพยักหน้ารับรู้ เมื่อเช้าตรู่ผู้เป็นแม่สามีได้บอกกับเธอแล้วว่าจะต้องออกงานร่วมกับผู้เป็นสามีซึ่งเรื่องนี้ทำให้พรรณารารู้สึกหนักใจอยู่ไม่น้อย
แกร๊ก
"คุณแม่มีธุระอะไรกับผมหรือครับ"ชายหนุ่มในสภาพเนื้อตัวเปียกเดินออกมาจากห้องน้ำพร้อมเอ่ยตั้งคำถามเมื่อเห็นผู้เป็นแม่ยืนอยู่ตรงหน้าประตูห้องนอน
"แม่ก็แค่จะเอาชุดสำหรับใส่ไปงานเลี้ยงมาให้ลูกกับหนูพรรณ"
"งานเลี้ยง งานเลี้ยงอะไรกันครับ"
"งานเลี้ยงต้อนรับลูกสาวนายกเทศมนตรี ที่โรงแรมของเรา"
"ผมขอพาคนอื่นไปแทนได้ไหมครับ"พรรณารารู้สึกหน้าชาเมื่อถูกปฏิเสธอย่างไร้เยื่อใยจากสามี
"ได้ยังไงกันรณที ลูกอย่าพูดแบบนี้อีกนะคิดจะพูดอะไรก็เห็นใจหนูพรรณบ้าง"
"เหอะ! เข้าข้างกันเหลือเกินนะครับกับลูกสะใภ้คนนี้ ดูรักกันเหลือเกิน"
"รณที"
"ก็ได้ครับ ผมยอม"น้ำเสียงกดต่ำของคุณหญิงผกามาศทำให้บุตรชายหัวแข็งอย่างรณทียอมแพ้ให้พรรณาราไปงานเลี้ยงในครั้งนี้กับเขาด้วยอย่างไม่สามารถขัดใจผู้เป็นแม่ได้
ภายในใจของพรรณารารู้สึกอึดอัดเป็นอย่างมากเมื่อต้องออกงานกับสามีที่ตอนนี้ไม่คิดจะมองมายังเธอซึ่งกำลังยืนเก้ ๆ กัง ๆ ทำอะไรไม่ถูกอยู่ตรงโซนอาหารและเครื่องดื่มมองผู้คนมากมายภายในงานล้วนเป็นคนดัง นักธุรกิจที่มีชื่อเสียงทั้งนั้นแตกต่างจากเธอที่เป็นเพียงแค่ลูกสาวเจ้าของธุรกิจเล็ก ๆ
"ไม่คิดจะแนะนำภรรยาให้พวกเรารู้จักหน่อยเหรอครับ"วงสนทนาของรณทีทำเอาเขาต้องหันไปมองภรรยาที่ยืนอยู่ตรงโซนอาหารและเครื่องดื่มก่อนเจ้าตัวจะหันมาสนใจกับแขกที่มาร่วมภายในงานแถมยังเป็นหุ้นส่วนของบริษัท
"พอดีว่าภรรยาของผมเป็นคนเก็บตัวน่ะครับ เธอชอบอยู่ตัวคนเดียวมากกว่า"
"แต่ผมว่ามีหนุ่ม ๆ หลายคนภายในงานอยากทำความรู้จักกับภรรยาของคุณนะครับ"ชายคนดังกล่าวไล่สายตามองไปรอบ ๆ เพื่อนต้องการให้รณทีรู้ว่าผู้ชายภายในงานหลายคนกำลังให้ความสนใจภรรยาของเขาอยู่นั่นเอง
"ถ้าอย่างนั้นไว้คุยกันใหม่นะครับ"
"ยินดีครับคุณรณที"รณทีบอกลาทุกคนในวงสนทนาอย่างสุภาพ แต่ไม่ทันที่เขาได้ก้าวขาไปถึงร่างของพรรณาราก็มีเสียงทุ้มต่ำของใครบางคนเรียกชื่อของเขาเอาไว้เสียก่อน
"สวัสดีครับท่าน"รณทีหันไปทักทายเจ้าของงานอย่างท่านนายกเทศมนตรีที่ตอนนี้กำลังเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าของเขาพร้อมกับหญิงสาวผมบลอนด์ในชุดราตรีลากยาวท่านหนึ่งซึ่งกำลังยืนอยู่ด้านหลัง
"สบายดีนะ ว่าแต่ท่านเอกราชกับคุณหญิงผกามาศไม่มาด้วยหรือ"
"ท่านทั้งสองติดธุระด่วนเลยส่งผมมาร่วมงาน หวังว่าท่านรัฐมนตรีคงไม่ว่าอะไร"
"ฮ่า ๆ ไม่หรอก ฉันก็แค่ถามถึงเพื่อนสนิทสมัยเรียนก็เท่านั้นอย่าคิดมาก"ริมฝีปากของนทีคลี่ยิ้มบาง ๆ สายตาของเขาเหลือบมองเห็นใบหน้าของหญิงสาวผมบลอนด์สายตาของเธอกำลังจ้องมองมายังเขา
"นี่ ปัทมา หรือ ลูกปัด ลูกสาวของฉันเอง รู้จักกันเอาไว้เสียสิ"หญิงสาวผมบลอนด์ก้าวขามาหยุดข้างกายผู้เป็นพ่อ ใบหน้าของเธอสวยดั่งราวกับเทพธิดาในนิยายหุ่นกายอวบอิ่มรัดรูปเข้ากับชุดจนเห็นสัดส่วนที่ใหญ่เกินตัว ริมฝีปากเคลือบด้วยสีลิปสติกคลี่ยิ้มหวานส่งมาให้
"สวัสดีค่ะคุณรณที"
"สวัสดีครับคุณปัทมา"
"เรียกลูกปัดจะเพราะมากกว่านะคะ"สายตาแพรวพราวสื่อความหมายอย่างชัดเจนทำให้รณทีคลี่ยิ้มเล็ก ความหมายในดวงตากลมโตคู่นั้นเขาเข้าใจมันอย่างชัดเจนแจ่มแจ้ง
"คนสวยชื่ออะไรครับ"เสียงทุ้มของชายหนุ่มในงานดังขึ้นผ่านหูยังทิศทางที่พรรณารายืนอยู่ทำให้รณทีต้องรีบหันไปมองฝ่ามือทั้งสองข้างกำหมัดแน่นเมื่อเห็นภรรยาของเขากำลังยืนคุยอยู่กับชายหนุ่มรูปหล่อคนหนึ่งด้วยความสนิทสนม
"ผมต้องขอตัวก่อนนะครับ วันนี้พาเพื่อนมาร่วมงานด้วย"ท่อนแขนของเขาถูกฝ่ามือเรียวคว้าเอาไว้ ใบหน้าหงุดหงิดรีบปรับเปลี่ยนมาเป็นปกติเมื่อเห็นปัทมาเป็นคนคว้าต้นแขนของเขา
"แล้วเราสองคนจะมีโอกาสได้เจอกันอีกหรือเปล่าคะ"
"ถ้าคุณลูกปัดมีธุระอะไรก็สามารถโทรศัพท์หาผมได้ตลอดเวลา นี่ครับนามบัตรของผม"ปัทมายิ้มกว้างอย่างพึงพอใจก่อนจะปล่อยชายหนุ่มให้เป็นอิสระ สายตามองแผ่นหลังของชายหนุ่มที่เดินออกไปก่อนจะหันมาสนใจนามบัตรของเขาที่อยู่ในมือ
รณที บดินทร์เดชา