บทที่ 13
“คุณน่าจะหาเวลาสําหรับคลายเครียดให้กับตัวเองบ้างนะเคลลี่” เสียงฮิวจ์กล่าวต่อ
“ไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นคําพูดของผู้ชายคนที่วางกําหนดการให้ฉันทํางานตั้งแต่เช้าวันจันทร์อันสดใสเป็นต้นไป สงสัยว่าคุณอยากจะให้ฉันหยุดพักผ่อนสักเดือนละมังคะ”
“มันก็จริงอยู่หรอกนะ เพราะเรามีรายการที่จะต้องทำ มีข่าวที่จะต้องรายงาน มีผลงานในอนาคตที่จะต้องพิจารณากันต่อไปอีก”
“ก็นั่นน่ะสิคะ” เธอมิได้คัดค้านในสิ่งที่เขากล่าวออกมาแม้แต่น้อย “บางครั้งฉันก็นึกว่าตัวเองฝันไปด้วยซ้ำที่จะได้ทํารายการ ‘พีเพิล แอนด์ เพลสเซส’ ตอนแรกคิดว่าลินดา เจมส์ จะได้เป็นผู้จัดทํารายการนั้นเสียอีก”
“คนส่วนมากเขาก็คิดแบบนั้นกันทั้งนั้นละ”
“ซึ่งมันก็น่าจะใช่อยู่แล้ว” เคลลี่ยกมือขึ้นจากโต๊ะเพื่อให้บริกรวางจานอาหารที่นําเข้ามาเสิร์ฟลง “เพราะตอนที่เขาเข้ามาทํางานในตําแหน่งนักข่าวประจําเวสต์ โคสท์ ให้กับเอ็นบีซี. ฉันยังเคยได้ยินว่าเขาจะให้เธอจัดรายการด้วย”
“แต่แผนการนั่นมันเปลี่ยนแปลงได้” ฮิวจ์พยักหน้าเป็นเชิงขอบใจกับบริกรที่ถอยห่างออกจากโต๊ะ
“ก็พอจะเห็นอยู่แล้วละ”
ฮิวจ์ยกแก้วไวน์ที่ตั้งอยู่ตรงหน้าขึ้นชูมาทางเธอ
“ขอแสดงความยินดีกับข่าวด่วนพิเศษที่คุณได้มาคนเดียว”
เคลลี่พลอยยกเก้วไวน์ตาม พร้อมกับเอ่ยออกมาว่า
“และแก่รายการพีเพิล แอนด์ เพลสเซส ด้วยค่ะ”
ต่างชนแก้วกันเบา ๆ ก่อนจะจิบ ฮิวจ์ชื่นชมกับกลิ่นและรสชาติของไวน์นั้นอย่างมาก พยักหน้าอย่างพอใจ
“อือม์...นุ่มละมุนดีเหลือเกิน กลิ่นหอมชื่นใจดีด้วย”
“ถ้าฉันจะใช้คำว่าเยี่ยมยอดนี่จะทำให้ภาษาเสียไหมคะนี่” เคลลี่ถามล้อ ๆ
“อย่าเลย...” เขาแสร้งทําเป็นขนลุก “มันดีกว่าคําว่าเยี่ยมยอดมาก เพราะคํานั้นรู้สึกว่ามันจะแข็งไปสําหรับไวน์ที่รสชาติกลมกล่อมหอมหวนแบบนี้ คุณจะใช้คําว่าอะไรก็ได้ แต่อย่าให้เป็นคําว่ายอดเยี่ยมเลยจะดีกว่า”
เคลลี่อดยิ้มกับคำพูดของเขาไม่ได้ เมื่อตักอาหารคําแรกส่งเข้าปากแล้วจึงได้ย้อนกลับมาพูดเรื่องที่ค้างไว้ต่อ
“ฉันไม่แน่ใจนะคะ ว่าคุณไปขอร้องใครหรือไปบิดแขนใครเข้าฉันถึงได้รายการนี้มาทำ แต่จะยังไงก็ตามแต่เถอะค่ะฮิวจ์ ฉันต้องขอบใจคุณอย่างมากทีเดียว”
“ผมไม่เห็นต้องทําอะไรเลยนอกจากเอาชื่อคุณใส่เข้าไปในผังของรายการ ‘ทูเดย์’ ที่แคธี่ คูริค เคยจัดอยู่ แต่บังเอิญเขาต้องลาคลอด มันก็เลยทําให้คุณได้รายการนี้ไปด้วยโดยปริยาย” เขายกแก้วไวน์ขึ้น มองผ่านขอบแก้วมายังเธอ “คุณคงพอจะทราบอยู่แล้วว่า หลังจากรายการที่คุณจัดผ่านไปถึงสามครั้ง เรทติ้งมันขึ้นมาอีกครึ่งจุดซึ่งเครดิตมันไม่ได้เป็นของแขกที่เราเชิญมาร่วมรายการแน่ วิธีจัดรายการของคุณต่างหากที่น่าสนใจ”
“มันก็จริงอยู่หรอกค่ะ” เธอกลอกตาใช้ความคิด “ที่จริงมันก็เป็นเรื่องน่าสนุกดีอยู่หรอก เพียงแต่ฉันคิดเอาเองว่ารายการ ‘ทู เดย์’ ที่ฉันจัดขึ้นนั่นน่ะมันจะผลักดันให้ฉันได้ทําหน้าที่นักข่าวอย่างสมบูรณ์แบบมากกว่า แต่นึกไม่ถึงว่าจะเป็นเรื่องของการจัดรายการใหญ่ ๆ อย่างนั้น แม้ฉันจะรู้อยู่ว่าคุณพยายามสนับสนุนให้มีการปรับปรุงรายการต่าง ๆ ให้ดีขึ้นก็ตาม” เคลลี่ลดส้อมที่ถืออยู่ในมือลง สีหน้าเครียดเคร่งขรึมเมื่อเอ่ยต่อว่า
“จริง ๆ นะคะฮิวจ์ จนถึงตอนนี้ฉันก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีว่าทําไมพวกเขาถึงมาเลือกให้ฉันทํารายการนี้ ในเมื่อลินดา เจมส์ เองก็ได้ชื่อว่าเป็นคนที่มีความสามารถและยังมีประสบการณ์มากกว่าฉันตั้งหลายเท่า”
“ระวังหน่อย คุณกําลังแสดงความไม่มั่นใจออกมาให้ผมเห็นแล้วนะ” เขาเตือนเบา ๆ
แต่เขาก็รู้อยู่ว่าผู้ที่อยู่ในวงการโทรทัศน์นั้นน้อยนักที่จะมีความมั่นใจในตนเองเต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ อย่างไรก็ตาม ในกรณีของเคลลี่ ดูเหมือนความรู้สึกต่ำต้อยที่เธอสร้างให้กับตัวเองนั้นมันออกจะมากมายเกินไป ฮิวจ์ยังสงสัยว่าจะมีผู้ใดที่ได้สัมผัสกับความรู้สึกเช่นนี้ของเธอมากกว่าตัวเขา ทั้งนี้เพราะในสายตาของบุคคลภายนอก เคลลี่ดูเป็นคนที่สงบเยือกเย็น มีความกระตือรือร้นในการทํางานอย่างเต็มที่
เขารู้ว่าเธอมีความมุ่งหวังตั้งใจที่จะให้งานทุกชิ้นที่ผลิตออกมาเป็นงานที่มีคุณภาพ แทบจะอุทิศเวลาทั้งหมดให้กับงาน นอนคืนละไม่ถึงหกชั่วโมง และต้องวิ่งวนในขณะที่ลืมตาตื่นอยู่ เธอปรารถนาในชื่อเสียง ไขว่คว้าความสําเร็จเพื่อที่จะสร้างความประทับใจให้กับตัวเองและผู้อื่น
มันจึงคล้ายกับเธอต้องเก็บกดอารมณ์อันหลากหลายไว้จะแสดงออกมาให้ผู้ใดเห็นไม่ได้ ซึ่งเธอก็สามารถอําพรางอารมณ์และความรู้สึกเหล่านั้นได้ดี ทั้งที่ต้องเครียดอยู่กับงานตลอดเวลา
เธอเปล่งเสียงหัวเราะแผ่วเบาออกมา กลิ้งไวน์ในแก้วช้า ๆ เมื่อบอกเขาว่า
“ถ้าอย่างนั้นก็ช่วยปลอบโยนอัตตาให้ฉันหน่อยสิคะ”
“ด้วยความยินดี” เขาชอบความจริงใจที่แฝงอยู่ในน้ำเสียง “ก่อนอื่นคุณจะต้องรู้ว่ารูปแบบของรายการนั้นคือการนําเสนอเพื่อความสนุก จะต้องสร้างความสนใจให้เกิดขึ้นกับคนดู ไม่ว่าจะเป็นตัวบุคคลหรือสถานที่ก็ตาม” เขาหยุดเว้นระยะไปเป็นครู่
“สําหรับลินดานั้นเป็นที่รู้กันอยู่ว่าการตั้งคําถามของเขาต่อผู้สัมภาษณ์นั้นเป็นคําถามที่มักจะยากต่อการตอบพิธีกรที่ดีจะต้องรู้จักให้ความช่วยเหลือผู้ที่เราเชิญเขามาร่วมรายการด้วย เขาขาดคุณสมบัติที่คุณมีหลายอย่างไม่ว่าจะเป็นการแสดงออกถึงไมตรีจิต ความสามารถที่จะทําให้ผู้ถูกสัมภาษณ์ตอบคําถามได้อย่างสะดวกปาก ความอบอุ่นในน้ำเสียง...
“คําถามเดียวกันนั้นถ้าเอามาให้คุณถามผู้ตอบย่อมจะอยากตอบ คุณสามารถจะถามเขาอย่างสบาย ๆ ไม่ใช่ไปบดขยี้ซักจนแทบจะเอาเป็นเอาตายให้ได้อะไรทํานองนั้น...”
“ประการสําคัญก็คือคุณเป็นพิธีกรหน้าใหม่ เพราะฉะนั้นย่อมจะเป็นที่สนใจของผู้ชม และผู้ที่รับการสัมภาษณ์ก็ย่อมกระตือรือร้นอยากรู้ว่าเขาจะได้พูดในสิ่งที่ต้องการจะพูดหรือไม่”
“ฉันจะไม่ทําให้พวกเขาผิดหวังเลยค่ะ” เคลลี่ตอบด้วยน้ำเสียงหนักแน่น
ฮิวจ์อําพรางรอยยิ้มไว้และลอบสังเกตเธออยู่ ใบหน้าของเธอไม่ว่าจะมองโดยภาพรวมหรือแยกออกมาแต่ละส่วน แสดงออกถึงความมีพลัง แต่ไม่ถึงกับจะคุกคามผู้ที่เข้าใกล้ มันมีคุณสมบัติอันเป็นธรรมชาติแฝงอยู่ในตัวเธอ ไม่ว่าจะความเจิดจ้าของแสงตะวันในเรือนผม ความเขียวเข้มของพรมหญ้าในดวงตา ยิ่งฮิวจ์ใช้ความคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้มากเพียงไร เขาก็ยิ่งชื่นชอบในภาพลักษณ์ของเธอมากขึ้นเพียงนั้น
“ฉันมีแนวความคิดเกี่ยวกับรายการนี้ที่อยากจะเล่าให้คุณฟังก่อนหน้าจะเข้าประชุมวันจันทร์” เคลลี่เขี่ยผักที่วางอยู่ในจานเมื่อกล่าวต่อ “คือฉันอยากจะโฆษณารายการล่วงหน้าด้วยการเอารูปด้านข้างของฮาร์รี่ คอนนิค จูเนียร์ นักร้องที่เอาเพลงเก่าของโคล พอร์เตอร์ มาร้องนั่นแหละออกอากาศในช่วงโฆษณาอย่างที่ว่า ตอนนี้เขากําลังมีชื่อเสียงโด่งดังมาก...”
ฮิวจ์นั่งฟังแนวความคิดของเธอ แต่ดูจะให้ความสนใจกับน้ำเสียงมากกว่าถ้อยคําที่เธอกล่าวออกมา หลายต่อหลายครั้งที่ฮิวจ์เคยแอบฝันอยู่ในใจอยากจะให้เคลลี่ได้มากระซิบพรอดพร่ำอยู่ริมหู
ช่วงเวลาสองสามเดือนแรกที่เขาได้รู้จักเธอ เขาได้ชวนเธอออกไปรับประทานอาหารข้างนอกโดยแฝงเร้นเจตนาที่จะได้หลับนอนกับเธอในทุกครั้ง ซึ่งเมื่อเขาไม่ประสบความสําเร็จในครั้งแรกนั้นเขาไม่ได้รู้สึกผิดหวังแต่อย่างใด ความมีสายเลือดอังกฤษอยู่ในตัวทําให้เขารู้ดีว่า การไล่ติดตามนั้นมีความสนุกตื่นเต้นกว่าการฆ่า
และแล้วก็ถึงคืนหนึ่งที่เขาเริ่มเดินหน้า แต่เคลลี่ได้ยับยั้งเขาไว้ให้อยู่ในที่ทางได้อย่างดี
“อย่าค่ะ...” เธอพูดเรียบ ๆ เมื่อเบี่ยงตัวออกจากอ้อมแขนของเขา “ถึงแม้ว่าฉันจะชอบคุณมากนะคะฮิวจ์ แต่ฉันก็ไม่อยากสร้างความผูกพันกับคุณ การหาคู่รักน่ะมันง่าย แต่หาเพื่อนรักน่ะยากมาก เพื่อนดี ๆ เป็นสิ่งที่หายากมากนะคะ และอีกอย่างหนึ่งความสัมพันธ์แบบนั้นมันเป็นสิ่งที่เหนียวแน่นมากเกินไปคุณว่าไหมคะ”
ถ้าเป็นคําพูดจากปากผู้หญิงอื่น ฮิวจ์อาจจะไม่ให้ความสนใจเลย เพราะถือว่าเป็นเพียงการทักท้วงเพื่อทําให้เขามองเห็นว่าหล่อนเป็นผู้หญิงที่มีคุณค่า เขาสามารถจะเกลี้ยกล่อมและใช้จูบเป็นอาวุธให้หล่อนยินยอมได้ หรืออย่างน้อยก็เป็นเครื่องแสดงให้เห็นว่าเขามีความต้องการในตัวหล่อนมากมายเพียงไร
แต่ไม่ใช่เคลลี่ แววในดวงตาที่บ่งบอกถึงการตัดสินใจอันแน่วแน่ คางที่เชิดสูง และกับภาษากายอีกหลายอย่างที่แสดงออกอยู่ เท่ากับเป็นการบอกให้เขาได้รับรู้ไว้ ว่าเธอหมายความในทุกคําพูดที่กล่าวออกมา มันทําให้เขาต้องเปล่งเสียงหัวเราะและปล่อยมือจากเธอ หยิบบุหรี่มวนหนึ่งออกมาจุดสูบ