บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 5 กาลเปลี่ยนคนเปลี่ยน 1

ทุกสิ่งแปรผันตามกาลเวลา คนเราก็เช่นกัน

ยามเป็นเด็กน้อยแม้ไร้เดียงสาและโง่เขลาเบาปัญหาเพราะด้อยประสบการณ์ ทว่าเมื่อได้อาจารย์ดีคอยชี้แนะสั่งสอนย่อมเติบใหญ่อย่างมีชัยไปกว่าครึ่ง หานไต้ผู้เป็นจอมยุทธ์พเนจรจึงตั้งใจชี้แนะหลานรักเพียงคนเดียวที่เหลือเป็นอย่างดีจนตัวตาย

ทว่าเวลาช่วงนั้นออกจะน้อยไปสักหน่อย

นับตั้งแต่ที่ซือเร่อหายตัวไป หานไต้ก็ตรอมใจจนลุกไม่ขึ้น เฟิงลี่เองก็ร้อนใจจนนอนไม่หลับ

ต่อมา...เฟิงลี่จึงเร่งรักษาหานไต้ให้หายดี หวังเพียงได้เรียนรู้วรยุทธ์เพิ่มมากขึ้น จะได้ออกตามหาพี่สาวโดยสะดวก

ตลอดเวลาห้าปีนั้น ชายชราจึงลุกขึ้นจากโพรงดินเหนียว ส่วนเด็กหญิงคนหนึ่งก็ตรากตรำฝึกฝนวิชาความรู้อย่างหนัก กระทั่งอายุขัยของอีกฝ่ายสิ้นลงตามกาลเวลาเพราะโรคชรา

ท้ายที่สุดสิ่งที่หานไต้รับสารภาพก่อนตายทำให้เด็กหญิงไร้เดียงสาผู้หนึ่งได้เรียนรู้ที่จะเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตนขึ้นมา ภายใต้ใบหน้าจิ้มลิ้มไม่ประสีประสานางไม่ชอบให้ผู้ใดเอาเปรียบ

แม้ฝีมือต่อสู้ของเฟิงลี่มิได้เก่งกาจเป็นถึงจอมยุทธ์หญิง ฝีมือการคัดแยกสมุนไพรมิได้สูงส่งเทียบเท่าเหล่าหมอเทวดา ทว่าก็เอาตัวรอดจากอันตรายที่กล้ำกลายได้หลายครั้งหลายครา และสามารถใช้ชีวิตนอกชายป่าได้ไม่ยาก

มีเพียงเล่ห์เหลี่ยมของคนทั่วไปที่ยังไม่แตกฉานสักเท่าใด ยังต้องใช้เวลาขบคิดเล็กน้อย

วันนี้ยามค่ำ เฟิงลี่จึงไม่ค่อยเข้าใจกับท่าทีของหลิวอี้ สามีของจิ่วเม่ยที่บอกว่าหิวขนม ทว่ากลับหอมแก้มนางเสียอย่างนั้น

พริบตาเดียว หมัดเล็กๆ จึงเสยคางแกร่งอย่างแรงจนเกิดเสียงดังพลั่ก ฝ่ามือน้อยๆ ยังจับข้อมือใหญ่บิดไพล่หลังจนผิดรูป ฝ่าเท้าข้างหนึ่งของเฟิงลี่เหยียบแผ่นหลังของหลิวอี้จนแผงอกหนากระแทกกับพื้นห้องหนังสือเสียงดังอั่ก

“อ๊า!”

หลิวอี้ร้องลั่นอย่างกับวัวถูกเชือด

จิ่วเม่ยได้ยินเสียงเช่นนั้นของสามีก็รีบถลันเข้ามายังห้องหนังสือแห่งนี้ทันที

“ท่านพี่! เกิดสิ่งใด?”

ภาพที่เห็นทำเอาจิ่วเม่ยตกใจนัก นางรีบผลักเฟิงลี่ออกจากการเหยียบแผ่นหลังของสามีจนใบหน้าหล่อเหลาที่แนบพื้นแดงก่ำบิดเบี้ยวเสียรูป

“ลี่เอ๋อร์ เจ้ากำลังทำอะไร?”

เมื่อถูกผลักเฟิงลี่จึงทรงตัวไม่อยู่ชั่วขณะ นางซวนเซเล็กน้อยก่อนยืนอย่างมั่นคงได้ในเวลาอันรวดเร็ว

“พี่เม่ย...” เส้นเสียงเล็กใสของเด็กสาววัยดรุณีแรกแย้มเอ่ยออกมาอย่างตื่นตระหนกไม่เจือจาง “พี่อี้บอกว่าหิว ให้ข้าเข้าครัวหาอะไรให้เขารองท้อง เมื่อข้ายกขนมมาถึงหน้าห้องหนังสือ เขาก็เรียกข้าเข้ามาในห้อง จากนั้นก็หอมแก้มข้า”

แม่นางน้อยฟ้องร้องพลางยกมือหนึ่งขึ้นกุมแก้มตนแล้วฟ้องอีกหน “เขายังทำท่าจะลูบหน้าอกข้าเพื่อสำรวจดูว่าโตพอหรือยัง?”

“...!?”

ประหนึ่งฟ้าผ่ากลางใจ จิ่วเม่ยพลันหน้าถอดสี เฟิงลี่ในวัยสิบสี่ปีย่อมมีหน้าอกแล้ว ทว่ายังเติบโตไม่เต็มที่

หากแต่เรื่องนี้มิใช่ประเด็น หญิงสาวก้มมองสามีที่ยังนอนคว่ำหน้าหมดสภาพอยู่บนพื้นห้อง

“ท่านพี่...” เส้นเสียงหวาดหวั่นนัก “ท่านทำอะไรลี่เอ๋อร์”

หลิวอี้ค่อยๆ เรียกคืนสติให้กลับมา มือหนึ่งกุมปลายคาง อีกมือหนึ่งยันพื้นห้องก่อนลุกขึ้นยืนอย่างยากลำบาก เขากำลังคิดว่าควรไปฝึกวิชาต่อสู้เอาไว้บ้าง

จะได้ไม่เสียท่าให้สตรีนางน้อยตัวเล็กๆ คนหนึ่งเยี่ยงนี้อีก

หลังจากส่ายศีรษะไล่ความงุนงงจนหมดไป ชายหนุ่มจึงเอ่ยด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม

“ข้าไม่เคยทำเช่นนั้น แค่สั่งนางให้ยกขนมมาส่งในห้อง ไม่คิดว่าจะเจอลูกไม้เยี่ยงนี้ หากนางอยากเป็นอนุของข้ามากนัก บอกกันดีๆ ก็ได้ ไยต้องเล่นเล่ห์ใช้มารยาใส่ร้ายกันด้วย”

กล่าวจบก็สะบัดแขนเสื้อเดินจากไปอย่างไม่สบอารมณ์ ท่าทางของเขาไม่เหมือนชายหนุ่มผู้ล่วงเกินสาวน้อยแต่อย่างใด

จิ่วเม่ยเบิกตากว้าง มองตามแผ่นหลังสามีอย่างทำอะไรไม่ถูกอยู่บ้าง นางหันมามองเฟิงลี่อย่างโกรธกรุ่นก่อนออกจากห้องหนังสือเดินตามหลิวอี้ไป โดยไม่ถามอะไรเฟิงลี่สักคำ

ม่านตาดำของเฟิงลี่พลันหดแคบ โทสะสายหนึ่งผุดวาบ สิบกว่าปีที่เติบใหญ่ นางเกลียดที่สุดก็คือคนโกหกหลอกลวง

และเมื่อนางเกลียดก็ย่อมไม่ทำตัวเองให้เป็นเยี่ยงนั้น

เรื่องที่ถูกหลิวอี้แอบหอมแก้มและเกือบลูบคลำหน้าอก แม้เป็นเพียงชั่ววูบเดียวที่เห็นมือเขาเอื้อมขึ้นมา นางจึงมั่นใจว่าเขากำลังต้องการสำรวจเนินเนื้อตน และนั่นยิ่งไม่มีเหตุผลให้ต้องโกหกกัน นางจึงฟ้องออกไปอย่างเต็มปากเต็มคำ ไม่มีเหนียมอาย

แต่เพราะอะไร? ทำไมเหตุการณ์ถึงกลายเป็นเช่นนี้?

เฟิงลี่มองตามสามีภรรยาแซ่หลิวอย่างไม่เข้าใจ ครู่หนึ่งต่อมาในสายตาพลันมีความรู้สึกผิดขึ้นมาบางเบา

นางไม่ควรทำร้ายคน...

ห้องนอนห่างออกมาจากห้องหนังสือในเรือนใหญ่ มีระเบียงหันหน้าเข้าหากันคั่นด้วยสวนบุปผาขนาดย่อม

เส้นเสียงของหลิวอี้ยังคงดังลั่นตามอารมณ์เดือดดาลอย่างไม่ยินยอมกับจิ่วเม่ยว่า “ลี่เอ๋อร์กล่าวหาว่าข้าเป็นบุรุษกักขฬะได้อย่างไร ใช้ได้ที่ใด เห็นได้ชัดว่านี่คือแผนการปีนเตียง ตัวข้าไหนเลยคิดล่วงเกินเด็กหญิงตัวเล็กๆ หึ! มารยาตื้นเขินนัก”

ชายหนุ่มหยุดถอนหายใจหนักๆ เพื่อพยายามอดกลั้นโทสะที่กำลังพลุ่งพล่านแล้วกล่าวต่อด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึมว่า

“หากนางต้องการเป็นอนุของข้าถึงเพียงนี้ เจ้าเป็นภรรยาก็จัดการให้ถูกต้องเถอะ อย่าได้ทำเรื่องเสื่อมเสียเยี่ยงนี้กับข้าอีก จะอย่างไรเสีย ลี่เอ๋อร์ก็เป็นคนของเจ้า”

จิ่วเม่ยได้ฟังถึงกับถลึงตามองสามีอย่างไม่ยินยอมหัวใจของนางเต้นแรงอย่างไม่อาจควบคุม

ภายใต้ใบหน้าอ่อนหวานท่าทางแสดงออกว่าเชื่อคำสามี จิ่วเม่ยแค่นยิ้มเย็นในใจ แต่ไหนแต่ไรหลิวอี้มิใช่บุรุษเจ้าสำราญ เขารักมั่นเพียงนางมาโดยตลอด ทว่ามีหรือนางจะเชื่อสิ่งที่เขาพูด และสาเหตุที่เขาเปลี่ยนไปจากซื่อตรงจริงใจรักมั่นเพียงนางเช่นนี้ ไยมิใช่เพราะความงดงามที่มีเพิ่มมากขึ้นทุกวันของเฟิงลี่

บุปผางดงาม โชยกลิ่นหอมเช้าค่ำ เย้ายวนใจปานนั้น แมลงตัวใดบ้างจะทานทนได้เนิ่นนาน

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel