ตอนที่ 13เร่งงานแต่ง2
เจิ้งเซียวเล่อยังออกคำสั่งเสียงเหี้ยมว่า
“ส่งของกำนัลไปวังฝูอ๋องอีก เร่งงานแต่งให้เร็วขึ้นด้วย”
กล่าวจบพลันสะบัดแขนเสื้อเดินเข้าห้องไปไม่เหลียวหลัง ไม่สนใจคนสนิททั้งสองที่บัดนี้คล้ายสุนัขหูตั้งตาโตสองตัว
เป็นวัวเป็นม้าแล้วอย่างไร เวลากระชั้นชิดเกินไปเช่นนี้ หากจะสืบหาตัวนางย่อมต้องใช้เวลามากนัก ไม่ทันการณ์แล้ว มิสู้ทำตัวโง่งมเพื่อรอรับนางที่มาพร้อมเกี้ยวเจ้าสาวดีกว่า
ความจริงเป็นเช่นใดค่อยสืบสาวเอากับว่าที่ภรรยา
หากนางหาญกล้า บังอาจมาหลอกล่อพรางตาลวงใจเขาเพื่อพี่สาวของนาง คอยดูเถิดว่าอ๋องโฉดอย่างเขาจักแก้แค้นนางได้สาสมหรือไม่?
ส่วนหยี่ซินกับเจิ้งซงหยวน คนอย่างเจิ้งเซียวเล่อต้องสนใจหรือไร?
วันเวลาผ่านไปเนิ่นนานเท่าใด
เฟิงลี่ล้วนไม่รับรู้ เพราะนางไม่เคยได้เห็นแสงตะวันและดวงจันทร์มาหลายวันแล้ว
เป็นครั้งแรกในชีวิตที่เฟิงลี่ฉุกคิดว่า การได้นอนหลับอย่างเพียงพอ ได้กินอาหารครบสามมื้อ ไม่ต้องเจอผู้คนวุ่นวาย ไม่ต้องเจอชายใดเกี้ยวพา เป็นเรื่องที่ไม่น่ายินดีสักเท่าใด
หรือนางเรียกร้องมากเกินไป
คงไม่กระมัง!
เพราะว่าทั้งหมดคือการกระทำต่อผู้ถูกกักขังเช่นนาง
ก่อนหน้านี้เด็กสาวทำใจดีสู้เสือ ทำใจให้สงบเยือกเย็น ปล่อยเวลาให้ร่างกายได้สมานตัวเองจนมั่นใจว่ากระดูกของนางจะไม่มีปัญหาในระยะยาว รอจนกระทั่งข้อเท้าหายดีนางจึงลองงัดหน้าต่างเพื่อหมายจะกระโดดลงไป ทว่าโผล่ไปได้แค่ศีรษะ ลำตัวติดขัด ลำบากดึงกลับเข้ามาอยู่เป็นนาน
ต่อมาจึงแอบปีนขึ้นหลังคาเรือเพื่อเปิดกระเบื้องออก มิคาดว่าด้านบนก็มีพวกชายชุดดำคอยเฝ้าอยู่เต็มไปหมด
ทั้งๆ ที่อาศัยเวลาหลบหนียามค่ำคืนดึกดื่นแท้ๆ พวกเขาไม่คิดนอนหลับพักผ่อนกันบ้างหรือไร? ไยคุมเข้มเช้าค่ำ
เฟิงลี่ต่อสู้ด้วยกำลังทั้งหมดที่มีจนได้บาดแผลเต็มตัวถึงกระโดดหนีจากหลังคาได้ ทว่ากลับถูกชายชุดดำที่ยืนยามอยู่ด้านล่างกรูเข้ามาจับตัวนางเอาไว้จนดิ้นไม่หลุด เสียงตะโกนโวยวายดังอื้ออึงอยู่ริมหูขณะร่างเล็กถูกจับโยนใส่ในห้องอีกครา
เด็กสาวพลันตระหนักได้ว่าวิธีที่ทำลงไปช่างโง่เขลา
อีกทั้งเรือกลางริมทะเลสาบแห่งนี้มีขนาดใหญ่โตเกินไป แม้จะไม่มีคนชุดดำอยู่บนหลังคา ก็ใช่ว่านางจะรอดพ้นจากอาณาเขตแห่งนี้ไปได้
ต่อมานางใช้เวลาสำรวจเส้นทางอยู่หลายวันผ่านช่องหน้าต่างคับแคบเพื่อหาทางหนีทีไล่อย่างเหนือชั้น
เฟิงลี่คิดว่าหากรอบเรือแห่งนี้มีป่ารกชัฏแม้เพียงเล็กน้อย นางย่อมใช้อำพรางตัวหนีไปได้ง่ายดาย
ทว่าด้านนอกเป็นทุ่งหญ้าโล่งกว้าง เบื้องหน้าเป็นทะเลสาบเวิ้งว้าง ไม่มีป่าเขาพงไพร ไม่มีกระทั่งต้นไม้สักต้น ลักษณะคล้ายจงใจจับสัตว์ป่ามาขังเอาไว้อย่างรู้เท่าทันกระนั้น
ใครกันที่รู้ถึงขีดความสามารถในการเอาตัวรอดกลางป่าของนาง ถึงขั้นสกัดกั้นทางหนีทีไล่ได้ครบครันทุกทาง
เด็กสาวจึงทำได้เพียงอาละวาดอย่างเกรี้ยวกราดไม่เกรงกลัวต่อบาดแผลที่เกิดขึ้นกับตัวเอง แต่ก็นั่นล่ะ คนนะไม่ใช่หิน ความแข็งแกร่งมิอาจเทียบเท่า ท้ายที่สุดก็เหนื่อยอ่อนหมดสติไป จำต้องรอให้ฟื้นตัวก่อนค่อยคิดหนีใหม่
แม้มีเตียงอุ่นให้นอน มีอาหารร้อนๆ ให้กิน มียารักษาตัว มีน้ำสะอาดให้อาบ มีเสื้อผาสวมใส่ หากแต่นางมิใช่แม่หมูนี่นา จึงไม่อาจรอให้ใครมาเชือด
เฟิงลี่ยังคงไม่ละความพยายามที่จะหนี นางรอจังหวะที่หญิงร่างอวบเปิดประตูห้องพร้อมอาหารและยาบำรุง นางก็รีบวิ่งสวนออกไป เตะชายชุดดำหน้าประตูจนอีกฝ่ายกระเด็นไปไกล กระโดดถีบอีกคนจนจุกท้องร้องไม่ออก
นางม้วนตัวหลบหลีกว่องไวตามเส้นทางที่ลอบจดจำและวางแผนเอาไว้อย่างดี
กระทั่งลอบหนีออกมานอกห้องได้สำเร็จแล้วรีบวิ่งไปตามระเบียงเรือกระโดดลงน้ำแหวกว่ายฉับไว กลับถูกจับกลับมาขณะกำลังม้วนตัวหลบหลีกใต้ทะเลสาบลึกเย็นจัด
เนื่องจากไม่มีต้นไม้ให้ปีนป่ายอำพรางตัว เฟิงลี่จึงต้องหนีลงน้ำตามสัญชาตญาณ
แม่น้ำแห่งนี้มิใช่แค่เย็นเยียบจนหนาวเหน็บเข้ากระดูก แต่ยังกว้างใหญ่ไพศาลเกินประมาณ การพรางตัวในม่านน้ำนั้น แม่นางน้อยเคยทำอยู่บ่อยครั้งเมื่อต้องหลบซ่อนตัวจากสัตว์ร้ายในป่าใหญ่ จึงมิใช่เรื่องยากเท่าใดหากนางจะเลือกทำยามคับขัน
ทว่าเหนือคาดของเฟิงลี่ กลุ่มชายชุดดำกำลังอำพรางตัวอยู่ในน้ำเช่นกัน เสมือนพวกเขาสามารถล่วงรู้ขีดความสามารถของนางโดยละเอียด แม้มิได้ปราดเปรียวเช่นนาง แต่พริบตาเดียวพวกเขากลับใช้ตาข่ายอันใหญ่จับนางลากเข้าฝั่งได้สำเร็จ
ให้ตายเถิด...คนนะไม่ใช่ปลา!
ทุกวันหลังจากนั้นเฟิงลี่ยิ่งได้รับการ ‘คุมขังอย่างดีที่สุด’ ภายในเรือกลางทะเลสาบแห่งนี้ในลักษณะน่ากระอักกระอ่วนใจ ต้องฝืนข่มจำทนเหลือจะกล่าว
เมื่อใดที่คิดหนีจะถูกจับมาได้ทุกครา นางสู้ไม่ถอยแต่ก็ไม่อาจออกนอกเรือแม้ครึ่งก้าว
ต่อมายังถูกย้ายมาไว้ในเรือนหรูหรา ถูกมัดติดเตียงในห้องหับมิดชิด มีชายชุดดำเอาดาบจ่อลำคอทุกคราที่คิดขยับหนี ถูกหญิงงามผู้หนึ่งข่มขู่สารพัดตลอดเวลา
ท้ายที่สุดยังถูกรมยาบางชนิดจนสติเลื่อนลอย ความคิดความอ่านเบาบางเหมือนปุยนุ่น คล้ายมิใช่เจ้าของร่างกายตนเอง
ทว่ากลับได้กินอาหารครบทุกมื้อ มีเสื้อผ้าสะอาดสวมใส่ มีชาดื่ม มีน้ำชำระกาย มีเครื่องประทินโฉมประเทืองผิวชั้นเลิศ ทั้งยังมีสตรีงดงามคอยอบรมสอนสั่งอย่างเข้มงวด
ลักษณะคล้ายแม่หมูพันธุ์ดีตัวหนึ่งซึ่งกำลังถูกขุนให้อ้วน เพื่อรอขายให้โรงเชือด...