เจ้ากลับมาแล้ว 1/2
ขณะที่เขากำลังยอมรับชะตากรรม พลันก็มีเสียงคำรามแหลมสูงดังขึ้น! ร่างปุกปุยสีขาวของ “จิ้งจอกหิมะ” กระโดดเข้ามาอย่างรวดเร็ว ราวกับสายลมหนาวที่พัดผ่านกลางคืน
จิ้งจอกขาวใช้กรงเล็บของมันตวัดเส้นใยของแมงมุมหน้าคนจนขาดออก เส้นใยเหนียวๆ ที่เคยพันธนาการเขาคลายออกทันที และร่างกายของฮั่วอู๋ซวนถูกดึงขึ้นไปบนหลังของจิ้งจอกอย่างแผ่วเบา
ปีศาจแมงมุมส่งเสียงกรีดร้องด้วยความโกรธ มันพ่นเส้นใยออกมาเพื่อหวังจะจับจิ้งจอกหิมะ แต่เมื่อมันได้สบกับดวงตาสีทองของจิ้งจอก หัวใจของมันกลับสั่นสะท้านราวกับถูกความเย็นยะเยือกกดทับ
ดวงตาสีทองของจิ้งจอกหิมะจ้องมองมันราวกับมองสิ่งที่ไร้ชีวิต แรงคุกคามอันมหาศาลแผ่ซ่านไปทั่ว ทำให้ปีศาจแมงมุมรู้สึกหวาดกลัวจนไม่กล้าขยับตัว
“เจ้าจะยอมหลีกทางให้หรือไม่?” จิ้งจอกหิมะคำรามเสียงต่ำ
เมื่อแมงมุมไม่กล้าสู้ต่อ จิ้งจอกหิมะก็พาร่างที่ไร้สติของฮั่วอู๋ซวนไปยังที่ปลอดภัยในป่าแห่งนี้ สถานที่ที่แม้แต่ปีศาจที่น่ากลัวที่สุดยังไม่กล้าย่างกรายเข้าไป
จิ้งจอกหิมะพาฮั่วอู๋ซวนลึกเข้าไปในป่าลึกและในที่สุด พวกเขาก็มาถึงกระท่อมไม้หลังเล็กที่ตั้งอยู่กลางป่า บริเวณโดยรอบมีต้นสาลี่ใหญ่แผ่กิ่งก้านปกคลุม ให้ร่มเงาและกลิ่นหอมอ่อนๆ ของดอกไม้ที่กำลังบาน
จิ้งจอกหิมะค่อยๆ วางร่างของฮั่วอู๋ซวนลงบนเตียงไม้ภายในกระท่อมอย่างระมัดระวัง ขนปุกปุยของมันสั่นไหวเล็กน้อย ก่อนที่ร่างนั้นจะเริ่มแปรเปลี่ยนเป็นหญิงสาวที่งดงามประหนึ่งเทพธิดา
ดวงตาสีทองเปล่งประกายจ้องมองชายหนุ่มที่ยังคงหมดสติ ใบหน้าของนางแสดงออกถึงความโหยหาและความรักอันลึกซึ้งราวกับมีเรื่องราวมากมายที่ซ่อนอยู่
นางค่อยๆ เอื้อมมืออ่อนโยนไปสัมผัสใบหน้าของฮั่วอู๋ซวนเบาๆ ราวกับกลัวว่าเขาจะหายไปในพริบตา น้ำตาคลอเบ้าในดวงตาสีทองของนาง เอ่อท่วมด้วยความรักที่อัดแน่นมานานแสนนาน
“อู๋ซวน… ในที่สุดเจ้าก็กลับมาหาข้า”
นางเอ่ยด้วยเสียงกระซิบแผ่วเบา ราวกับพูดกับตัวเองมากกว่าที่จะให้เขาได้ยิน
“ข้ารอเจ้า รอคอยเจ้ามานานเหลือเกิน จากนี้ไปข้าจะปกป้องเจ้า ข้าจะไม่ยอมให้เจ้าจากข้าไปไหนอีกแล้ว ไม่ว่าจะต้องทำสิ่งใดก็ตาม”
ในความมืดมิดของค่ำคืน เสียงลมพัดผ่านใบไม้ดังก้องกังวานแผ่วเบา ฮั่วอู๋ซวนนอนนิ่งอยู่บนเตียงไม้ในกระท่อมกลางป่า เสียงลมหายใจของเขาค่อยๆ สม่ำเสมอ ราวกับจมลงไปในห้วงลึกแห่งความฝันที่กำลังรอให้เขาได้ค้นพบ
ในห้วงลึกของความฝันที่เขาเพิ่งเข้ามา ฮั่วอู๋ซวนพบว่าตนเองยืนอยู่ท่ามกลางทุ่งหญ้ากว้างใหญ่ เขามองเห็นแต่ท้องทุ่งสีเขียวสดที่ทอดยาวไปสุดสายตา
รอบกายของชายหนุ่มมีดอกไม้ป่าหลากสีที่บานสะพรั่ง กลิ่นหอมของดอกไม้ลอยอบอวลในอากาศ ฮั่วอู๋ซวนรู้สึกได้ถึงบรรยากาศที่แสนจะอบอุ่น
แม้ว่าฮั่วอู๋ซวนนั้นจะไม่เคยรู้จักสถานที่นี้มาก่อน แต่ความรู้สึกคุ้นเคยก็อบอวลในจิตใจ ราวกับเขาเคยมาที่นี่มาก่อน และเป็นสถานที่ที่เขาอยากกลับมาอยู่เสมอ
ฮั่วอู๋ซวนเห็นดรุณีรูปงามนางหนึ่งกำลังวิ่งเล่นไปมาอย่างอารมณ์ดี ใบหน้าของนางเปื้อนไปด้วยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความสุข ดวงตาสีทองของนางเปล่งประกายเหมือนดวงดาวยามค่ำคืน นางวิ่งวนรอบๆ ชายหนุ่มอีกคนที่ยืนอยู่ในทุ่งหญ้า ราวกับจะหยอกล้อให้ชายหนุ่มคนนั้นยิ้มออกมา
แต่สิ่งที่ดึงดูดสายตาของเขามากกว่านั้น คือหูสีขาวและหางที่ยาวนุ่มฟู ซึ่งบ่งบอกว่านางมิใช่เพียงมนุษย์ธรรมดา นางคือปีศาจจิ้งจอกที่เพิ่งได้ถอดกระดูกและกลายร่างเป็นมนุษย์ใหม่ๆ
สิ่งนี้ยิ่งทำให้ฮั่วอู๋ซวนรู้สึกถึงความเป็นธรรมชาติและความบริสุทธิ์ในตัวจิ้งจอกสาวตนนี้มากขึ้น ราวกับว่านางคือแสงสว่างที่สามารถขับไล่ความมืดมิดในโลกทั้งใบให้หายไป
ทันใดนั้น สายตาของเขาก็เหลือบไปเห็นชายหนุ่มอีกคนหนึ่งยืนอยู่ในทุ่งหญ้าไกลออกไป ร่างสูงที่ยืนอยู่อย่างสงบและมีท่วงท่าอันสง่า ทำให้ฮั่วอู๋ซวนเกิดความสงสัยว่าเขาเป็นใคร
ทว่าทันทีที่เขาเพ่งมองไปยังใบหน้าของชายหนุ่มคนนั้น ความตกใจและประหลาดใจก็เกิดขึ้นในใจอย่างฉับพลัน
"นั่นมัน...ข้าเองมิใช่หรือ?" ฮั่วอู๋ซวนพึมพำด้วยความไม่เชื่อในสายตาตนเอง
ชายหนุ่มที่เขาเห็นในภาพฝันก็คือตัวเขาเอง?
ร่างในฝันนั้นจ้องมองปีศาจจิ้งจอกสาวด้วยแววตาที่เปี่ยมไปด้วยความรักและความห่วงใย ราวกับว่าจิ้งจอกสาวตรงหน้านั้นเป็นสิ่งที่เขาต้องการปกป้องไปตลอดชีวิต
รอยยิ้มอบอุ่นแฝงด้วยความอ่อนโยนปรากฏบนใบหน้าของเขาอย่างชัดเจน และทุกครั้งที่ชายหนุ่มคนนั้นสบสายตากับนาง ความรู้สึกที่มีต่อหญิงสาวก็ลึกซึ้งยิ่งขึ้น