ออกเดินทาง
น้ำเสียงของเขาเจือด้วยความรู้สึกผิดและความเสียใจ ดวงตาที่แฝงความอับอายหันไปมองนางอย่างอัดอั้นใจ
ลั่วอี๋เฟิงหายใจลึกและฝืนยิ้มบางๆ แม้จะเจ็บปวด แต่แววตาของนางยังคงอบอุ่น
“ไม่เป็นไร…เจ้าไม่ต้องโทษตัวเอง ซวนเอ๋อร์ สิ่งสำคัญที่สุดคือเจ้ายังปลอดภัยดี”
นางพยายามยกมือที่สั่นเล็กน้อยขึ้นมาแตะไหล่ของเขา
“เจ้าต้องเข้มแข็งให้มากกว่านี้ ข้ารู้ว่าเจ้าจะมีพลังที่แข็งแกร่งพอที่จะจะปกป้องตนเองและผู้อื่นได้ในสักวันหนึ่ง”
คำพูดของนางเหมือนกระจกที่สะท้อนความอ่อนแอในใจของเขา ความรู้สึกผิดแผ่ซ่านในใจของเขายิ่งมีเป็นทวีคูณ
“ข้าสัญญา…ข้าจะต้องเข้มแข็งให้ได้ ศิษย์พี่ ข้าจะไม่ยอมให้ท่านต้องเจ็บปวดเพราะข้าอีก”
ลั่วอี๋เฟิงยิ้มเล็กน้อย ก่อนจะพยักหน้าให้กำลังใจเขา
ทุกครั้งที่ฮั่วอู๋ซวนเห็นลั่วอี๋เฟิงเจ็บป่วย ซึ่งเป็นผลจากการใช้พลังอย่างหนักในการต่อสู้กับปีศาจในคืนนั้น ความรู้สึกผิดในใจเขาก็ยิ่งทวีคูณ ร่างกายที่เคยเข้มแข็งของนางค่อยๆ เสื่อมถอยไปตามกาลเวลา
เมื่อเห็นนางไอเบาๆ หรือจับหน้าอกด้วยความเจ็บปวด ฮั่วอู๋ซวนก็เหมือนถูกแผดเผาด้วยความรู้สึกผิดที่ไม่อาจบรรเทาได้ ด้วยรู้ดีว่าเหตุที่นางต้องเจ็บป่วยเช่นนี้เป็นเพราะเขา หากวันนั้นนางไม่ต้องมาปกป้องเขา นางคงยังคงแข็งแรงอยู่
และความจริงอีกอย่างที่ฮั่วอู๋ซวนเก็บซ่อนไว้ลึกในใจ คือความรู้สึกที่มีต่อลั่วอี๋เฟิง ไม่ใช่เพียงแค่ศิษย์พี่ผู้ใจดีที่คอยดูแลเขาเท่านั้น แต่สำหรับเขา นางคือผู้หญิงที่งดงามและมีคุณค่ามากที่สุดในชีวิต แม้เขาจะไม่กล้าแสดงออกว่ารัก แต่เขาก็ปรารถนาจะดูแลและทำสิ่งดีๆ เพื่อนาง สายตาที่เขามองศิษย์พี่หญิงจึงแฝงไปด้วยความรักที่ไม่อาจเอื้อนเอ่ย
หลังจากที่ค้นหาตำราและเอกสารเก่าแก่หลายเล่ม ฮั่วอู๋ซวนก็พบเข้ากับบันทึกที่เขียนถึง “ผลอมฤต”
ว่ากันว่าผลอมฤตนั้นเป็นผลไม้ที่หาได้ยากยิ่ง หากนำไปหลอมเป็นโอสถทิพย์จะสามารถรักษาโรคทุกชนิดได้ แม้แต่ความเจ็บป่วยเรื้อรังก็รักษาได้หายเป็นปลิดทิ้ง
ฮั่วอู๋ซวนอ่านบันทึกด้วยความสนใจ จนหัวใจของเขาเต้นแรง ความหวังที่จะช่วยลั่วอี๋เฟิงกลับมาแข็งแรงเต็มเปี่ยมขึ้นในใจของเขา
บันทึกบอกว่า ผลอมฤตอยู่ในส่วนลึกสุดของป่าอนธการ ป่าที่ถูกขนานนามตามความมืดมิดและอันตราย เป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ปีศาจและสิ่งมีชีวิตที่น่าสะพรึงกลัว ทั้งยังเป็นป่าที่ไม่มีใครกล้าล่วงล้ำมาก่อน
แต่สำหรับฮั่วอู๋ซวนแล้ว ไม่ว่าเส้นทางข้างหน้าจะเต็มไปด้วยความเสี่ยงเพียงใด เขาก็ไม่อาจหันหลังกลับ
เขากำดาบในมือแน่น ก่อนจะมองไปยังทิศทางของป่าด้วยสายตาที่มุ่งมั่น
“ศิษย์พี่ ข้าสัญญากับท่าน ข้าจะหาผลอมฤตมาให้ท่านให้จงได้ ข้าจะไม่ยอมแพ้ ไม่ว่าจะต้องเผชิญกับอะไรก็ตาม”
จากนั้น ฮั่วอู๋ซวนจึงลงเขาไป ขณะที่เขาก้าวเท้าออกจากสำนัก เสียงลมหนาวพัดผ่านอย่างเงียบสงบ แต่ในใจของเขากลับเต็มไปด้วยพลังและความมุ่งมั่นที่จะทำภารกิจนี้ให้สำเร็จ
ยามสายหมอกคลุมหนาเข้าปกคลุมทิวไม้ที่สูงชันราวกับจะกลืนกินทุกสิ่งที่ล่วงล้ำเข้ามา ป่าอนธการเงียบสงบ แต่ความเงียบงันนี้ไม่ได้เป็นสัญญาณแห่งความสงบแต่อย่างใด บรรยากาศกดดันราวกับมีดวงตาหลายคู่จ้องมองมาอยู่ในเงามืด
ฮั่วอู๋ซวนสาวเท้าก้าวเดินไปข้างหน้าอย่างระมัดระวัง ร่างสูงคลุมเสื้อคลุมสีเข้ม มือขวาจับด้ามกระบี่แน่นเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับสิ่งใดก็ตามที่จะโจมตีเขาในความมืด
"ที่นี่…น่ากลัวอย่างที่เขาว่าจริงๆ"
เขาพึมพำกับตัวเอง มองไปรอบๆ ด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความระวัง