สืบเสด็ด
“ฮูหยินข้าเราก็ออกไปข้างนอกเถิด เจ้าเองก็ต้องไอเย็นไม่ต้องห่วงนางให้มาก เสี่ยวจูจะดูแลนางเองเจ้ายิ่งร่างกายอ่อนแอ”
จางอี้หลงพยุงร่างบางของชินเหอออกมานอกห้อง ที่เอนกายซบหน้าลงกับอกของท่านแม่ทัพจาง
“ชินเหอห่วงน้องยิ่งนัก”ยัง ยังไม่แล้ว
“พอแล้ว เจ้าอย่าได้คิดว่าเป็นความผิดของตัวเอง ในเมื่อมันคืออุบัติเหตุ น้องเจ้าต่างหากที่ไม่ประมาณตนว่าว่ายน้ำไม่เป็นเจ้าโทษตัวเองยิ่งทำให้รู้สึกแย่”เสียงทุ้ม เอ่ยปากด้วยความห่วงใย ที่ห่วงใยเพียงเมียของตัวเอง
ตัวเล็กส่ายหน้าจากคำให้การ ..ตัวเล็กมองว่าทุกอย่างเหมือนมีการจัดฉากขึ้นมาล้วนๆ แต่จะปักใจว่าใครเป็นคนทำก็คงไม่ได้ ในเมื่อตัวเล็กเหมือนเพิ่งจะเคยรู้จักพวกเขาในครั้งแรก ความสัมพันธ์ของพวกเขาและเจ้าของร่างมีเพียงเจ้าของร่างเท่านั้นที่รู้
“คุณหนูรอง”
อวิ้นจูยกชามข้าวต้ม และนำขิงเข้ามาข้างใน
“เสี่ยวจูคิดว่าคุณหนู จะทิ้งเสี่ยวจูไปเสียแล้ว”
สะอื้นอย่างหนักเมื่ออยู่เพียงลำพัง
“คุณหนูรองพูดอะไรหน่อย อย่าทำเฉยชาแบบนี้ เสี่ยวจูใจหายยิ่งนัก คุณหนูแม้จะสูญเสียลูกในท้องแต่คุณหนูยังมีชีวิตอยู่ เรื่องที่เราคุยกันไว้ยังพอมีหวัง”ที่ไม่พูดเพราะไม่รุู้จะพูดอะไรแต่เสี่ยวจูกลับคิดว่าที่ไม่พูดเพราะเสียใจเรื่องที่แท้งลูก
“คือ เสี่ยวจู ขะข้าคุยอะไรกับเจ้า”
เริ่มต้นกระบวนการสอบสวน
ห้องนอนของท่านแม่ทัพจางอี้หลง
อุ้มร่างบางของชินเหอวางไว้บนแท่นนอน
“ท่านพี่ ข้าเสียใจริงๆ ดูแลน้องไม่ดี ทำให้นางตั้งครรภ์ ท่านพี่ท่านพี่อย่าได้ตำหนิน้อง หากจะตำหนินางตำหนิข้าเถิดที่ดูแลนางไม่ดี”
“ข้าไม่บังอาจตำหนินาง เห็นได้ชัดว่าเจ้าห่วงใยนางยิ่งนัก หากข้าตำหนินาง นั่นเท่ากับทำให้เจ้าต้องรู้สึกเศร้าหมองไปด้วย”
ยกมือขึ้นลูบที่ปรอยผมของชินเหอเบาๆ
“ขอบคุณท่านพี่ ชินหยูนางอาจผิดพลาดไป แต่เราก็ไม่ควรจะรื้อฟื้นมันหากน้องต้องการเอ่ยถึงมันน้องก็จะเอ่ยมันออกมาเอง”จางอี้หลงถอนหายใจ
ก้มลงจุมพิตที่หน้าผากของชินเหอเบาๆ
“เจ้าพักผ่อนเสีย ข้าให้เสี่ยวตื้อต้มน้ำขิงมาให้ เจ้าเองก็เอาแต่กังวลเรื่องชินหยูจนร่างกายอ่อนล้าข้ากลัวว่าเจ้าจะป่วยไข้”
ก้าวเดินจากไป ในใจสับสนยิ่งนัก ชินหยูเข้ามาในจวนเแม่ทัพแต่กลับตั้งครรภ์ นางตั้งครรภ์ได้อย่างไรนั่นต่างหากที่ควรจะหาข้อเท็จจริงสาวเท้าไปยังเรือนพักของจางอี้หลาง
“ชินชิน”
ร่างสูงของ อี้หลางวิ่งพลวดเข้ามาในห้องยังไม่ทันที่เสี่ยวจูจะได้ตอบคำถามกับตัวเล็ก
“ข้าได้ยินว่าเจ้าตาย นี่เจ้าเป็นวิญญาณหรือไรจึง ยังนั่งได้เหมือนคน”
ก้าวเดินมาตะแคงหน้ามองซ้ายทีขวาที
คนปากร้ายแบบนี้ก็มีด้วยหรือ
“ดูดีกว่าที่คิด ยังยังไม่ตายเห็นๆ ”เดินวนรอบๆดวงตาสดใสแล้ว
ทรุดกายนั่งลงบนแท่นนั่งตรงหน้า ตัวเล็ก
ตัวเล็กจ้องมองสำรวจใบหน้าหล่อเหลา ขาวอมชมพูเหมือนคนที่มีสุขภาพผิวกายที่ดี แล้วยังอาภรณ์ที่สวมใส่บ่งบอกว่า ต้องเป็นคนสูงศักดิ์ใบหน้ามีส่วนคล้ายพี่เขย มนุษย์ผัวนั่นไม่น้อย ผิดแต่เจ้าหมอนี่หุ่นสะโอดสะองกว่าท่านพี่คนเมื่อสาย ที่คมเข้มและบึกบึนกว่าเห็นๆ หมอนี่คงจะเป็นน้องชาย
“อืม ข้าห่อเอาขนมมาฝากเจ้า นี่ขนมเปี๊ยะไส้ถั่วแดงที่เจ้าชอบกิน”
ชอบกินตอนไหน จะว่าไปดีกว่ากินข้าวต้มชืดๆ ของเสี่ยวจู
“เสี่ยวจูเจ้าออกไปก่อนข้ามีเรื่องจะคุยกับคุณหนูรองของเจ้า”
“เอ่อ เอ่อ”เสี่ยวจูยิ่งกำลังสงสัยอี้หลาง
“คุณหนูเจ้าข้าอย่ายอมนะเจ้าค่ะ เขาต้องรับผิดชอบเจ้าค่ะถ฿งจะไม่มีลุกในท้องแ้ลวเขาก้ต้องรับผิดชอบ”ป้องปากกระซิบที่ข้างหูเบาๆ
ตัวเล้กยิ้มเจื่อนๆ
“เสี่ยวจูเจ้าออกไปก่อนก็ได้นะข้าอยู่ได้..ข้าเอาอยู่”
ยิ้มกว้างให้กับเสี่ยวจู อี้หลางยิ้มมุมปาก
ลุกขึ้นนั่งขัดสมาธิ
“มะว่ามามีอะไรจะคุย”
“กินเสียก่อนเจ้าไม่กินข้าไม่วางใจ หลายวันมานี้เจ้ามักจะนิยมของหวาน เป็นข้าที่แอบห่อขนมหวานมาให้เจ้า”
กินขนมหวานแสดงว่านางท้องจริงๆ ตัวเล็กพยักหน้าขึ้นลงคนที่ชอบกินขนมหวานตอนกำลังท้อง ลูกมักจะออกมาเป็นผู้ชาย กินของเปรี้ยวมักจะเป็นผู้หญิง
หยิบขนมเปี๊ยไส้ถั่วใส่ปากทั้งชิ้น เคี้ยวจนแก้มป๋อง
“อ่อกๆๆๆ ”
อี้หลางรินชาใส่ในจอกยื่นส่งให้
“เบาๆ หน่อย ปกติเจ้าไม่ใช่คนที่กินมูมมามเพียงนี้ วันนี้คงหิวมาก”
ยกมือขึ้นลูบหลัง ตัวเล็กคว้าจอกชาแต่กลับกำเอามือเรียวของอี้หลางยกชาขึ้นดื่ม อี้หลางอมยิ้ม
“เจ้าเปลี่ยนไป ไม่เหมือนเคย”
“เหรอ”