มาแล้วจะกลับงัย
“นั่นสินะข้าก็เห็นว่าเจ้าเชื่อฟังทุกอย่างที่นางพูดมาแต่ไหนแต่ไร แต่คิดอย่างไรก็คิดไม่ออกว่านางไม่ชอบเจ้าแล้วจะเอาเจ้ามาไว้ใกล้ๆ ทำไมแล้วไหนจะสายตาที่นางคอยจับผิดพี่ใหญ่ ยามที่มองเจ้า หากข้าไม่เห็นว่านางอ่อนหวานน่ารักน่าเอ็นดูอย่างที่หลายๆ คนพูดกันข้าคงคิดว่านางเสียสติ ทั้งๆที่เจ้าไม่เคยจะมีท่าทีว่าอยากเข้าใกล้พี่ใหญ่ แต่นางกลับมีท่าทีหึงหวง”
ชินหยูยิ้มหมดเปลือกหมดเปลือกเลยทีเดียว
“ข้าอยากออกไปเดินเล่น”
ความจริงอยากไปหาเบาะแสต่างหาก
“ข้าพยุงเจ้าไป”ตัวเล็กโบกมือ
“ไม่ต้อง ไม่ต้องข้าเดินเองได้”
กระโดดลงจากแท่นนอน ไม่เหมือนคนที่เพิ่งสูญเสียลูกไป เสี่ยวจูขมวดคิ้ว
“ปะไปกันเถอะ”ก้าวเดินนำคนทั้งสอง
จางอี้หลงในอาภรณ์สีฟ้าคราม หล่อเหลาบึกบึน เดินเอามือไพล่หลัง ก้าวขายังห้องอาหารที่ชินเหอกำลังให้คนของนางจัดเตรียมอาหารเช้าอย่างเร่งรีบ
“ท่านพี่ท่านมาแล้ววันนี้มีของชอบของท่านหลายอย่างทีเดียว”
“อืม เจ้า สบายดีแล้วหรือ”
“ชินเหอแวะไปหาน้องแต่เช้า บอกกล่าวกับนางเรื่องที่จะส่งนางกลับไปแต่งงานที่ตระกูลลี่ นางรับปากมั่นเหมาะชินเหอจึงสบายใจขึ้นมาบ้าง”
อี้หลง พยักหน้าขึ้นลง
“ส่งนางกลับไปก็ดีเหมือนกันหากเกิดอะไรขึ้นที่นี่ เกรงว่าเราสองคนจะมองหน้า ท่านลี่ไม่ติด”
“พี่สาว พี่เขยยยยยยย”ส่งเสียงเจื้อยแจ้ว
ชินหยูวิ่งเข้ามา ในห้องอาหาร อี้หลงกำลังจะย่อกายลงบนเก้าอี้มือบางคว้าท่อนแขนกอดไว้แน่น อี้หลงขมวดคิ้วกับท่าทีของชินหยูที่แปลกไป ชินเหออ้าปากค้าง อี้หลางก้าวตามเข้ามา
อี้หลงไม่แกะมือเล็กออกทว่าจ้องมองมือเล็กที่เกาะแขนเขาราวกับลูกลิง
“ชินหยู เจ้ามาพอดีมานั่งนี่กินข้าวกับพี่จะดีกว่า” ชินเหอเองก็ทำเป็นว่าไม่ถือสา
ชินหยูส่ายหน้ายิ้มหวานหยด
“ข้าอยากนั่งตรงนี้”เบียดอี้หลงไว้แน่น
ดึงแขนอี้หลงที่ขืนตัวไว้ แต่กลับถูกตัวเล็กดึงให้นั่งลงข้างๆ จนได้ อี้หลางขยิบตา
“ข้าส่งอาหารไปที่ห้องของเจ้า เจ้าไม่ค่อยสบายยังออกมาได้อีกหรือ”ชินเหอเอ่ย
ตัวเล็กยิ้มหวาน
“คือคุณชายรองบอกข้าว่า อาหารนั่น…”มีพิษ
“ชินชิน ข้านั่งข้างเจ้าดีกว่า”
อี้หลางแทรกกายลงตรงกลางระหว่างอี้หลงกับตัวเล็กในทันที
“อาหารนั่นเย็นหมดแล้วอีกอย่างข้าอยากจะมาขอบคุณพี่เขยแสนดี…ที่เมื่อวาน ส่งต่อลมหายใจช่วยชีวิตข้าไว้ ทั้งๆ ที่พี่เขยไม่ต้องทำแบบนั้นก็ได้”ลืมตาขึ้นมาก็เห็นพี่เขยที่แสนดีกำลังผายปอดแบบเมาส์ทูเมาส์
“แค่กๆๆ ”
อี้หลงที่กำลังยกจอกชาขึ้นดื่มสำลักชาในมือ ตัวเล็กซ่อนยิ้มในหน้า
"เจ้าไม่มีสิทธิ์มาพูดเรื่องนี้ในเวลานี้"
เสียงเรียบเฉยแต่ทรงพลังหากเป็นชินหยูนางคงน้ำตาปริ่มขอบตา แต่นี่คือตัวเล็ก ยิ้มรับด้วยดวงตาสดใส
"พี่เขย จะคิดมากไปทำไมกัน พี่สาวยังไม่เคยคิดมากเรื่องนี้ ส่วนข้าเองนะหรือแค่เพียงส่งต่อลมหายใจไม่ได้จูบกันเสียหน่อย"
แสงสว่างวาบในหัว
ตัวเล็กตัวชาเมื่อจู่ๆ กับมีภาพหมุนวนเข้ามาในหัว ภาพสวยงามของคนสองคนที่กำลังจุมพิตกันบนแท่นนอนหนา มืออุ่นของร่างบึกบึนลูบไล้ไปทั่วร่างเปลือยเปล่าจูบผะแผ่วจากริมฝีปากร้อน ร่างเล็กสะดุ้งเบาๆ อีกคนกลับกอดรัดไว้แน่นดังกับรักหนักหนา
"ฮ่าๆๆๆๆ เรื่องนี้จะว่าไป ถ้าเป็นข้าก็คงจะส่งต่อลมหายใจให้เจ้าเช่นกัน"
อี้หลางเอ่ยปากยิ้มๆ ตัดบทเหมือนกลัวว่าจะมาร้าว
"หากเป็นเจ้าก็จะ ปล่อยให้ข้าตาย"ตัวเล็กพูดทีเล่นทีจริง
"ใครๆ ก็อยากจะให้เจ้าตายแต่ไม่ใช่ข้า"
ตัวเล็กขยับตัวมาใกล้จางอี้หลางกอดแขนไว้แน่น
"ข้ารู้ว่าใจจริงของอี้หลางดีกับข้าที่สุด แม้ข้าจะถูกบังคับให้กลับไปที่บ้านก็ตาม ข้ายังหวังว่าอี้หลางจะคิดถึงข้าบ้าง"ซุกหน้าลงบนท่อนแขน
อี้หลางยิ้มเจื่อนๆ
"บังคับ"จางอี้หลงทวนคำคิ้วขมวดเข้าหากัน
"น้องพี่หากเจ้าไม่อยากกลับไป ใครกันจะบังคับเจ้าได้"ชินเหอร้อนตัว
"ชินหยูเพียงแค่คิดว่า ยังไม่อยากไปไหน มีเรื่องมากมายอยากจะทำ..ที่นี่"
จางอี้หลงยกตะเกียบคีบอาหารใส่ในปากเคี่ยว ทำทีไม่สนใจฟัง แต่ภายในใจกลับรู้สึกว่าร้อนรุ่ม ชินเหอยิ้มมุมปากแค่ชินหยูไม่ข้องแวะกับพี่เขยเปลี่ยนเป้าหมายเสียก็ดีแค่ไหนแล้ว หากนางจะอยู่ที่นี่นางก็คงต้องอาศัยในฐานะคู่รักของอี้หลาง
ค่ำคืนมืดมิด ตัวเล็กสวมอาภรณ์สีดำสนิท แอบย่องยังห้องของชินเหอและจางอี้หลง สอดแนมว่าคนสองคนจะพูดคุยเรื่องอะไรกันบ้าง
บางทีคนพวกนี้อาจพูดถึงชินหยูในด้านต่างๆ นั่นล่ะคือเบาะแสสำคัญ ไฟในห้องยังสว่างไสว จางอี้หลงเพิ่งจะกลับจากวังหลวงสาวเท้ายาวๆ ด้วยความมึนเมา ตงเฟิงประคองมาพอถึงห้องนอนกลับโบกมือให้ปล่อย ตัวเล็กเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดทำไมต้องดื่มให้เมามายมีเรื่องอะไรที่ต้องคิดมาก