ท่านแม่ทัพ
“คุณหนูรองเจ้าขานายท่านให้มาตามคุณหนูรองไปที่ ห้องรับรองแขก”
เสียงสาวใช้ นามอวิ้นจูที่เข้ามาในห้องด้วยความเร่งรีบ กลัวว่าจะทำให้นายท่านของบ้านหรือใต้เท้าลี่ไม่พอใจคุณหนูรองของนางที่รักใคร่กันดี ด้วยชินหยูมีน้ำใจไม่น้อย แต่เมื่อเหลือบตาพบว่าด้านหลังมีหยดเลือดเปรอะเปื้อนกระโปรงยาว อวิ้นจูกลับรีบพยุงคุณหนูรอง
“อย่าบอกใครเรื่องนี้ นะเสี่ยวจู”อวิ้นจูแม้จะขมวดคิ้วแต่ก็ พยักหน้าโดยดี
“รอบเดือนหรือเจ้าค่ะ”
พยักหน้า ขึ้นลงภายในใจรู้ดีว่าหาใช่ รอบเดือนอย่างที่อวิ้นจูคิดไม่
“นายท่านเร่งให้มาตามคุณหนูรองเจ้าค่ะ หากเป็นเช่นนี้ อวินจูจะเรียนนายท่านว่าคุณหนูไม่สบาย”
“น่าเกลียดยิ่งนัก ข้าออกไปเพียงครู่เจ้า เคี่ยวยาแก้ไข้ให้ข้าดีไหมข้ารีบไป รีบออกมา”อวิ้นจูพยักหน้า
ชินหยูก้าวขาออกจากห้องไป
รอยยิ้มสดใสบนหน้าหน้าของคู่บ่าวสาวคู่ใหม่ มือใหญ่กุมมือบางของชินเหอไว้ตลอดเวลา ชินหยูเลี้ยวเข้าไปในห้องสายตาคมเงยขึ้นสบกับใบหน้างดงามที่ปราศจากการแต่งแต้มแต่กลับงดงามยิ่งกว่าชินเหอด้วยซ้ำไป วันนี้จางอี้หลงกับ มีสายตาไว้มองผู้อื่นต่างจากวันนั้นที่เขามาสู่ขอชินเหอเขามีสายตาไว้มองชินเหอผู้เดียวจำไม่ได้ด้วยซ้ำไปว่ามีชินหยูในห้อง ชินเหอมองตามสายตาของจางอี้หลง
“ชินหยูเจ้ามาพอดี”
“ชินหยูคารวะพี่เขยแม่ทัพจางอี้หลง พี่สาวท่าน คงหลับสบายเมื่อคืน”
ถามไถ่ตามมารยาทแม้จะรู้สึกว่ามีบางอย่างรบกวนจิตใจ ร่างสูงใหญ่ที่ขย่มเขย่าร่างของชินหยูเมื่อคืนทำไมดวงหน้ากลับเป็นพี่เขยที่พบครั้งแรกก็อดชื่นชมไม่ได้คนนี้ รู้สึกเจ็บแปลบที่ใจและเกิดอาการคลื่นเหียน จะเป็นไปได้อย่างไร ในเมื่อคล้ายดังความจริงคล้ายดังความฝัน ครึ่งหลับครึ่งตื่น บางทีก็รับรู้ถึงความสุขสม บางทีก็รู้สึกว่าแค่เพียงล่องลอยคล้ายฝันไป
“เจ้าเล่าหลับสบายดีไหม”ไม่ตอบคำถามแต่เอ่ยปากถามชินหยูกลับมา
ชินหยูพยักหน้าไม่ช่างพูดเหมือนเคย จะบอกได้อย่างไรว่ามีบางอย่างแปลกไป
พี่เขยที่รูปร่างสูงใหญ่ใบหน้าหล่อเหลากลับเอียงคอมอง พี่สาวชินเหอ
“เจ้าสิเมื่อคืนไม่ได้พักเท่าไหร่วันนี้ ยกน้ำชาเสร็จแล้วพบน้องสาวของเจ้าแล้วเราก็ควรกลับเจ้าจะได้กลับไปพัก”
เอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน จนชินหยูสัมผัสได้ ชินเหอก้มหน้ายิ้มอายๆ
“ท่านแม่ทัพ ใส่ใจชินเหอยิ่งแล้วแบบนี้ข้าค่อยเบาใจ”
เสียงฮูหยินใหญ่เอ่ยขึ้นด้วยความปีติ ชินหยูเพียงย่อกายเดินหลบออกมาจากห้องเสีย
“ข้าอยากจะขอร้องท่านพ่อกับท่านแม่ ข้าอยากจะให้ชินหยูไปคอยดูแลข้าที่จวนแม่ทัพ”เหอหยินฮูหยินขมวดคิ้ว
“ชินเหอ เจ้าหมายความอย่างนั้นจริงๆ หรือเป็นเพราะเจ้าไม่เคย ออกจากบ้านไปไหนจึงอยากให้คนใกล้ชิดไปอยู่ใกล้ๆ ใช่ไหม”
“ท่านแม่ ข้ากับชินหยูสนิทชิดเชื้อข้า คิดถึงชินหยูเมื่อไม่มีนางคอยเจรจาพาที”
“เจ้าดูแลนางได้หรือไม่หากคิดว่าดูแลนางได้ก็รับนางไปแต่คงไปๆ กลับๆ เพราะที่นี่ก็มีหลายอย่างที่ต้องให้ ชินหยูจัดการ”
ใต้เท้าลี่เอ่ยปากตัดบทเพราะรู้ดีว่าหากเหอหยินไม่ยอม มักจะทำให้ทุกอย่างเลวร้ายและเสียเรื่อง
“เจ้าค่ะข้าอยากให้น้องไปอยู่ด้วย จวนแม่ทัพกว้างใหญ่ ข้าดูแลนางได้แน่นอน จริงไหมค่ะท่านพี่”
ประโยคสุดท้ายหันไปหาจางอี้หลงที่ยิ้มอ่อนโยน
“จวนแม่ทัพกว้างขวางข้าอยู่ที่นั่นกับอี้หลาง เพียงลำพังมานานปีบัดนี้มีฮูหยินแม่ทัพกับน้องสาวเข้าไปจึงนับว่าไม่เงียบเหงาท่านพ่อตาไม่ต้องห่วงใยข้าจางอี้หลงจะดูแลนางดังเช่นน้องสาวของข้าเช่นกัน”
รับปากมั่นเหมาะใต้เท้าลี่พยักหน้าขึ้นลง
ฮูหยินเหอหยิน ยิ้มเจื่อนๆ
“ข้าจะไปบอกข่าวดีกับน้องสาว ท่านพี่ท่านรอข้าที่เกี้ยว ข้าช่วยนางเตรียมสัมภาระนิดหน่อย”
น้ำเสียงตื่นเต้นดีใจ จางอี้หลงยิ้ม พยักหน้ามองชินเหอด้วยสายตารักใคร่ยิ่งนัก
ที่ห้องพักของชินหยู
“พี่สาว ข้าข้า”
“อย่าบอกนะว่าเจ้าไม่อยากไป น้องสาว เจ้าไม่อยากดูแลข้าหรือเราสองคนไม่เคยห่างกัน เจ้าดูแลข้ามาตลอดรู้ใจข้ายิ่งกว่าใคร จะสาวใช้กี่คนก็ไม่เท่าเจ้าที่รู้ใจข้ายิ่งนัก”
ชินหยูก้มหน้ามองมือตัวเอง
“ ข้าไม่ได้ให้เจ้าอาศัยที่นั่นตลอดไปเสียหน่อย ไว้เจ้าอยากกลับก็กลับได้ ข้าไม่หวงห้าม แต่ขอแค่เจ้าไปอยู่กับพี่สาวให้ข้าคุ้นเคยกับจวนแม่ทัพเสียก่อนถือว่าช่วยข้า”ดึงมือชินหยูให้ลุกขึ้น
“เสี่ยวจูไปเก็บสัมภาระของเจ้ากับคุณหนูรอง เรากำลังจะไปกันแล้ว”เสี่ยวจูหันไปสบตากับชินหยุที่มีสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออกไม่เข้าใจว่าทำไมชินหยูถึงไม่อยากไปปกติแล้วชินหยูนางรักพี่สาวนางกว่าใคร ตัวติดกันราวกับฝาแฝด
จวนแม่ทัพ
สายตาคมกริบของจางอี้หลงเขม่นมองร่างเล็กบอบบาง ใบหน้างดงามที่ย่อกายลงตรงหน้าเขาไม่เงยหน้ามองเขาดวงตากลมโตสดใสนางซ่อนมันไว้เสีย
“ชินหยูคารวะท่านแม่ทัพจาง”
“ท่านพี่ ชินหยูจะมาอยู่กับเรา ข้าหากขาดนางคงแย่”
หลายเรื่องที่ชินหยูจัดการแทนทั้งหมด ชินเหอแทบจะไม่ต้องลงแรงนางแค่เพียงวางตัวให้ สมฐานะก็พอ
“ดีแล้วมาอยู่เสียด้วยกัน เจ้าจะได้ไม่เหงาที่นี่มีสาวใช้มากมายแต่ก็คงไม่สนิทใจเท่ากับพี่น้อง”
น้ำเสียงเรียบเฉย มือไพล่หลัง หันหน้าไปทางอื่นเสีย ชินหยูย่อกายลงช้าๆ
“เจ้าค่ะ พี่เขย”
“เรียกข้าว่า ท่านแม่ทัพเหมือนเดิมดีแล้ว”
“เจ้าค่ะท่านแม่ทัพ”ตั้งใจเว้นระยะห่าง