ตอนที่ 1
ณ เรือนจำของประเทศแห่งหนึ่งบนโลกใบนี้
ภายในห้องเล็กๆ ที่จัดไว้ให้ญาติกับผู้ต้องหาได้คุยกันผ่านช่องเล็กๆ ของบานกระจก
“พี่นพ… พี่ต้องสู้นะคะ ฉันกับทนายจะหาทางช่วยทุกทาง”
พิกุลกล่าวกับ ‘มานพ’ สามีของหล่อนที่ตอนนี้กำลังต้องโทษคุมขังอยู่ในคุก มือเรียวเอื้อมมาสัมผัสผ่านบานกระจกที่มีเพียงช่องน้อยๆ ให้เสียงสนทนาได้ลอดผ่าน
“โถ… ก็พี่โดนโทษหนักถึงขนาดนี้… เอ็งเลิกพยายามเพื่อพี่เถอะพิกุล”
มานพผู้เป็นสามี กล่าวอย่างสิ้นหวังกับอนาคต แววตาปลดปลงต่อโชคชะตา ด้วยตระหนักดีว่าโทษสำหรับผู้ค้ายาเสพติดนั้นหนักกว่าโทษของการเป็นผู้เสพ
“ทนายเอกพลสัญญาว่าจะช่วยเหลือเราอย่างเต็มที่… พี่นพอย่าเพิ่งหมดหวังนะ”
พิกุลเอ่ยถึงทนายชื่อ ‘เอกพล’ ที่อาสายื่นมือเข้ามาช่วยเหลือในเรื่องคดี โดยการแนะนำของเพื่อนบ้านคนหนึ่งที่สงสารครอบครัวของหล่อน
“เชื่อพี่… เอ็งอย่าดิ้นรนให้มันเสียเงินเสียทองไปเลย… คดีพี่สิ้นสุดแล้ว… โทษของพี่คือจำคุกตลอดชีวิต มันชัดเจนแล้ว… พี่ทำใจเอาไว้แล้วว่าจะต้องแก่ตายในคุก”
คนที่รู้ตัวดีว่าจากนี้ไปจะต้องใช้เวลาในชีวิตที่เหลืออยู่ในคุก กล่าวเสียงเศร้ากับภรรยา
แม้ว่ามานพจะทำใจเอาไว้แล้ว ว่าจะยอมรับชะตากรรมในสิ่งที่ก่อ ครั้งนี้มันเหมือนเป็นการ ‘ชดใช้กรรม’ เพราะว่าการ ‘ขายยาบ้า’ ไม่ได้สร้างปัญหาเฉพาะตัวคนเสพเท่านั้น หากมันยังหมายถึงพิษภัยต่อชีวิตของผู้คนในสังคมรอบข้างที่โดนมอมเมา ไม่งั้นคงไม่มีข่าวคนเมายาคลั่ง คว้ามีดมาปาดคอประชาชนผู้บริสุทธิ์
“จะยังไงก็แล้วแต่… แม้จะอุทธรณ์ไม่ได้แต่เราก็จะไม่หมดหวัง”
พิกุลยังแอบหวังอยู่ลึกๆ ถึงการขอลดหย่อนโทษ ลดระยะเวลาที่สามีของหล่อนจะต้องติดอยู่ในคุก
“พี่นพต้องสู้นะ”
พิกุลให้กำลังใจสามี น้ำตาของหล่อนไหลพรากลงมาอาบแก้มนวล หลังจากรู้ว่าสามีถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิต
วันต่อมา
ตอนบ่าย พิกุลแวะมาหาทนายเอกพลตามที่เขานัดหมายเอาไว้
“สวัสดีค่ะ… ”
พิกุลยกมือไหว้ทนายหนุ่มใหญ่ หน้าตาคมเข้มจัดว่าหล่อเหลา ผิวก็เข้ม รูปร่างสูงใหญ่เหมือนฝรั่ง ที่ริมฝีปากของเขามีแพหนวดสีดำหนาปรกเอาไว้ ดวงตาคมกริบ ใบหน้าเขาดูดุมากถ้าไม่ยิ้ม
“เชิญนั่งก่อนครับ”
ทนายที่ตอนนั้นกำลังนังเอนหลังพิงเก้าอี้อยู่ที่โต๊ะทำงาน ส่งยิ้มพร้อมกับผายมือเชื้อเชิญให้พิกุลทรุดร่างลงนั่งบนเก้าอี้อีกตัวที่ยังว่างอยู่ตรงหน้า
“ขอบคุณค่ะ”
สะโพกกลมกลึงที่ทนายเอกพลจ้องมองตาเป็นมัน หย่อนลงนั่งบนเก้าอี้ มองสะโพกยังไม่พอ หากสายตาของเอกพลจับจ้องมองทรวงอกอวบใหญ่ของพิกุลไม่วางตา ด้วยหล่อนเป็นผู้หญิงสวยมาก
พิกุลนมใหญ่ ใบหน้ารูปไข่ ผิวพรรณขาวผ่องมีน้ำมีนวล ผมสีดำยาวสลวย เอวคอดรับกับสะโพกที่มองดูคล้ายรูปทรงของนาฬิกาทราย หล่อนมีทรวดทรงองค์เอวที่สะดุดตาชาย เชื่อว่าใครได้เห็นเป็นอันต้องมองเหลียวหลังกันทั้งนั้น
พิกุลกับทนายเอกพลไม่ใช่เพิ่งรู้จักกัน เพราะว่าเมื่อเดือนก่อนเขาก็เพิ่งช่วยเหลือ ‘อานนท์’ ลูกชายของหล่อนที่โดนตำรวจจับในข้อหาเล่น ‘แว๊น’ และแอบเล่นยากับแก๊งมอเตอร์ไซค์กลุ่มหนึ่งที่อยู่ในซอยเดียวกัน
ถ้าวันนั้นทนายเอกพลไม่ยื่นมือเข้าช่วย อานนท์ลูกชายหล่อนคงต้องโดนโทษถึงคุก ฐานขับรถด้วยความประมาท เอารถมอเตอร์ไซค์ออกไปแว๊นจนก่อให้เกิดอันตรายแก่บุคคลและทรัพย์สินรวมถึงความปลอดภัยของผู้อื่น
พิกุลย้อนระลึกไปถึงวันนั้น หล่อนยกมือไหว้ทนาย เส้นสายในทางมืดของเขาทำให้ลูกชายหล่อนไม่โดนสั่งริบรถของกลางที่ยังต้องผ่อนส่งกับไฟแนนซ์อีกหลายงวด
‘ขอบคุณค่ะคุณทนาย… สำหรับเรื่องลูกชายฉัน’
พิกุลย้อนระลึกไปถึงเหตุการณ์เมื่อวันนั้น หล่อนยกมือไหว้ มองหน้าทนายรูปหล่อ ใบหน้าของเอกพลคมเข้มเพราะเป็นลูกครึ่งแขก
‘ไม่เป็นไรครับ’
เอกพลกล่าวยิ้มๆ
‘ถ้าวันนั้นคุณทนายไม่ช่วย… ลูกชายฉันต้องเดือดร้อนแน่ๆ’
‘ฉันช่วยเพราะสงสารเธอ… ฉันไม่ต้องการเงินทองอะไรจากเธอทั้งนั้น’
ทนายเอกพลกล่าวกับพิกุลราวกับว่าเขาเป็นพ่อพระผู้ใจบุญ พิกุลหารู้ไม่ว่าเบื้องหลัง ‘หน้ากากคนดี’ ยังมี ‘ซาตานร้าย’ แฝงตัวอยู่ในร่างเดียวกัน รอวันที่จะเผยความชั่วร้ายออกมา
วันนี้ทนายเอกพลนัดให้พิกุลมาพบที่สำนักงานกฎหมายของเขา เพื่อพูดคุยถึงแนวทางที่จะช่วยเหลือสามีของหล่อนให้ได้รับการลดหย่อนโทษ
ทว่าเมื่อหล่อนมาที่สำนักงานของเขา ด้วยความสะสวยของพิกุลที่เขาได้เห็นใกล้ๆ ชัดๆ ทำให้แผนชั่วผุดวาบเข้ามาในใจของทนายหื่น จึงออกอุบายว่าตอนนี้เขามีธุระด่วน แต่ค่ำๆ จะแวะไปคุยธุระกับหล่อนที่บ้าน
ในเวลาต่อมา
ตอนค่ำ ที่บ้านของพิกุล ตอนนั้นเป็นเวลาเกือบห้าทุ่ม ภายหลังเสร็จจากอาบน้ำ อานนท์ล้มกายลงนอนกระสับกระส่ายอยู่บนเตียงพักใหญ่ๆ
ทว่าไม่ทันที่จะข่มตาหลับ ในหูก็พลันได้ยินเสียงรถกระบะแล่นมาจอดที่หน้าบ้านของตน
ชายหนุ่มผุดลุกขึ้นจากเตียง ก้าวมาที่หน้าต่าง ชะโงกใบหน้ามองลงมาที่หน้าบ้าน เห็นนางพิกุลมารดาของหล่อนที่นอนอยู่ชั้นล่าง เดินออกมาเปิดประตูรับผู้มาเยือนในยามวิกาล
แสงไฟดวงโคมที่เสาไฟฟ้าสว่างพอให้มองเห็นว่าคนที่มาหามารดาของตนในยามวิกาลนั้นก็คือทนายเอกพล ที่อานนท์จำหน้าได้ก็เพราะว่าเคยเจอกันเมื่อคราวที่โดนตำรวจจับเพราะออกไปแว๊น
“คุณทนาย”
ท่าทางพิกุลไม่ได้ตกใจนัก ที่เห็นร่างสูงใหญ่ของทนายหนุ่มใหญ่ลูกครึ่งแขกก้าวลงมาจากรถ ที่ไม่ตกใจก็เพราะหล่อนรู้ล่วงหน้าว่าเขาจะมาหา หากจะประหลาดใจก็ตรงที่เหตุใดเขาจึงมาดึกป่านนี้
“อยู่คนเดียวหรือจ๊ะพิกุล”
ทนายถามเสียงหวาน
“อยู่กับเจ้านนท์ลูกชายจ้ะ… เข้าห้องนอนไปนานแล้ว ป่านนี้คงหลับแล้ว”
“ไหนๆ ผมก็อุตส่าห์มาถึงบ้าน... ขอโทษที่มาดึกไปนิด จะเป็นไรไหมถ้าผมจะขอเข้าไปคุยกับคุณในบ้าน”
ทนายกล่าว พิกุลได้กลิ่นเหล้า หล่อนจ้องหน้าเขาด้วยอาการสองจิตสองใจ หากสุดท้ายพิกุลก็จำต้องเปิดประตูรับ ยอมให้เขาเข้ามาในบ้าน
อานนท์เคยนึกนึกสงสัยว่าทนายคนนี้น่าจะแอบชอบมารดาของตนซึ่งเป็นคนสวย
อานนท์ไม่อยากคาดเดาความสัมพันธ์ของมารดากับทนายเอกพลคนนี้ไปในทางร้าย เพราะเมื่อ