บท
ตั้งค่า

บทที่ 8 ลูกชายเผ่นไปกับผู้หญิงแปลกหน้าแล้ว

เซียวลิ่งเยว่“……”

เย่ชี“…….”

หานหานรีบอธิบายว่า“ข้าไม่ได้แย่งท่านแม่ไปจากเจ้าสักหน่อย!”

เป่ยเป่ยกอดท่านแม่ด้วยความระมัดระวัง เหมือนสุนัขจิ้งจอกแกว่งหางไปมา พร้อมที่จะฟาดกรงเล็บอยู่ตลอดเวลา“ข้าไม่มีทางเอาท่านแม่ให้เจ้า เจ้าหลบไป!”

“เจ้าไม่ต้องหลบให้ข้า เจ้าแบ่งให้ข้าครึ่งหนึ่ง ข้าก็แบ่งท่านพ่อให้เจ้าครึ่งหนึ่ง แบบนี้พวกเราก็จะมีพ่อแม่กันทั้งคู่ แล้วเจ้าก็จะมีพี่ชายเพิ่มมาด้วย ข้าจะดูแลเจ้าอย่างดีแน่นอน!”หานหานตบที่อกน้อยๆเพื่อรับประกัน

เขาคิดได้อย่างหลักแหลมมาก เซียวลิ่งเยว่อดขำไม่ได้

เย่ชีเหงื่อไหลไม่หยุด พูดว่า“ซื่อจื่อ ท่านพูดแบบนี้ไม่ได้…..”

ท่านอ๋องรู้จะต้องโมโหมากแน่นอน!

“ใครอยากจะให้เจ้าปกป้องกัน? ข้ามีท่านแม่ก็เพียงพอแล้ว”

เป่ยเป่ยกอดเซียวลิ่งเยว่แน่นขึ้น เหมือนกลัวจะถูกแย่งนางไป“ท่านแม่ พวกเราไปกันเถอะ? อย่าสนใจเขา”

“ข้าจะไปด้วย”หานหานรีบพูดทันที

“ซื่อจื่อ ท่านจะไปไหนขอรับ?”เย่ชีรีบถามขึ้น “ท่านไปไกลจากเมืองหลวงไม่ได้ ท่านอ๋องจะเป็นห่วงขอรับ”

“ข้ารู้ ข้าก็จะกลับเมืองหลวงกับท่านแม่กับน้องชายอยู่นี่ไง เจ้าไม่ต้องเป็นห่วงแล้ว!”

เย่ชี“……”ไม่ เขาเป็นห่วงยิ่งกว่าเดิมแล้ว

เรียกว่าท่านแม่เร็วขนาดนี้เลย

เป่ยเป่ยโมโหมาก พูดว่า“เจ้าห้ามเรียกท่านแม่ของข้า!”

“ข้าเรียกแล้วหรือ”หานหานไม่ยอมรับ

“เจ้าเรียกแล้ว!”

“อย่าใจแคบได้ไหมเล่า ถึงยังไงไม่ช้าก็เร็วก็เป็นท่านแม่ของพวกเราแล้ว เหมือนกันนั่นแหละ~”

“เจ้า…..”

เป่ยเป่ยโมโหเขาจะบ้าอยู่แล้ว ทำไมถึงได้หน้าหนาขนาดนี้นะ?

เซียวลิ่งเยว่กอดเป่ยเป่ย ส่วนมือหนึ่งจูงหานหาน นางได้ยินเด็กทั้งสองคนทะเลาะกัน นางทั้งรู้สึกตลกและอบอุ่นใจ

ปกติเป่ยเป่ยไม่ชอบพูดคุย แต่ตั้งแต่เขาเจอกันกับหานหาน เขาก็ดูเปลี่ยนเป็น“คึกคักร่าเริง”

อืม ดีมากเลย

เด็กน้อยก็ควรที่จะพูดคุยหรือมีทะเลาะกันบ้าง

เมื่อได้ยินซื่อจื่อของตัวเองพูดแบบนี้ เย่ชีถึงกับเหงื่อแตกเต็มหน้า เขาจูงมือกันกับเซียวลิ่งเยว่อย่างว่าง่าย เมื่อเทียบกับตอนอยู่กับท่านอ๋องแล้วถือว่าหานหานน่ารักว่านอนสอนง่ายหลายเท่า

ตอนนี้ซื่อจื่อที่เย่อหยิ่ง ไม่กลัวอะไรทั้งนั้นของเขาเหมือนเปลี่ยนไปเป็นคนละคน แม้จะถูกเด็กอีกคนถีบเขาก็ไม่โกรธ แถมยังยิ้มต่อรองกันกับเป่ยเป่ยอีก…….

ถ้าเขาไม่ติดตามอยู่ตลอด คงคิดว่าซื่อจื่อถูกคนแอบอ้างแล้ว!

“เอ่อ….ซื่อจื่อ โจรเหล่านั้นจะจัดการอย่างไรขอรับ?”เมื่อเห็นว่าซื่อจื่อน้อยไม่สนใจตัวเองแล้ว เย่ชีเลยจำใจต้องถามขึ้น

หานหานหันกลับมา เขาคิดอยู่สักพักหนึ่งแล้วพูดว่า“ส่งไปที่จิงจ้าวฝู่ สั่งให้คนไต่สวนหาคนที่อยู่เบื้องหลังพวกเขา”

“ขอรับ”เย่ชีรีบตอบรับ

“เจ้าไม่ต้องตามข้าแล้ว รอคนจากจิงจ้าวฝู่มาเถอะ เดี๋ยวข้าจะกลับเมืองหลวงพร้อมท่านแม่เลย”หานหานโบกมือพูดขึ้น

“ซื่อจื่อ ไม่เหมาะขอรับ ข้าน้อยมีหน้าที่คอยปกป้องซื่อจื่อตลอดเวลาขอรับ!”

“ข้าไปกับท่านแม่มีอะไรที่ไม่เหมาะสมหรือ? ที่นี่ห่างจากเมืองหลวงไม่ไกล ถึงตอนนั้นเจ้ามาหาข้าที่จวนเสิ่นก็จบ”

หานหานไม่ยอมให้เขาตอบโต้

ถึงแม้เขาจะอายุน้อย อยู่ต่อหน้าเซียวลิ่งเยว่กับเป่ยเป่ยเขาดูปลิ้นปล้อนและฉลาดเป็นอย่างมาก เหมือนเด็กผู้ชายที่ดื้อซนทั่วไป

และถึงอย่างไรเขาก็เป็นซื่อจื่อเพียงคนเดียวของจวนอ๋องอี้ ฐานะไม่ธรรมดา

ตอนที่ออกคำสั่ง ท่าทางโอหังและความเหนือกว่าที่มีมาตั้งแต่เด็กของเขาก็ถูกเปิดเผยออกมาอย่างธรรมชาติ

เหมือนท่านพ่อของเขามาก

เย่ชีไม่กล้าปฏิเสธ ทำได้เพียงมองไปทางเซียวลิ่งเยว่

สำหรับฐานะของเซียวลิ่งเยว่ เย่ชีไม่ได้มีความไว้วางใจเลย แต่เซียวลิ่งเยว่ก็มีความมั่นใจ นางพูดออกมาตรงๆว่า“ข้าคือคนของจวนโหวหนานหยาง ตอนเย็นเจ้าไปรับเขาที่จวนโหวละกัน”

อยู่ที่เมืองหลวงจวนโหวหนานหยางไม่ได้ถือว่าสูงศักดิ์มาก แต่ก็เป็นจวนโหวระดับขั้นที่หนึ่ง

ตอนนี้เสิ่นจื้อเจียง โหวหนานหยางไม่ได้มีความสามารถอะไร อยู่ในราชสำนักก็ไม่ได้มีปากเสียง เขาอาศัยอำนาจของบรรพบุรุษถึงได้ตำแหน่งโหว และตอนนี้ทั้งจวนก็อาศัยอำนาจของท่านโหวอาวุโส จวนนี้ข้างนอกสุกใสข้างในเป็นโพรงนานแล้ว

พอรู้ฐานะของนาง เย่ชีก็วางใจไม่น้อย คนของตระกูลเสิ่นไม่กล้าทำอะไรซื่อจื่อหรอก

“เช่นนั้นก็รบกวนแม่นางแล้ว”เย่ชีพูดด้วยสีหน้าเคร่งขรึม

“ข้าเองก็มีเรื่องอยากรบกวนเจ้า เอาลูกพี่ใหญ่ของโจรให้ข้ายืมก่อนได้หรือไม่ เสร็จเรื่องแล้วข้าจะคืนให้?”เซียวลิ่งเยว่ยิ้มเล็กน้อยพูดขึ้น

“คือ……”เย่ชีไม่กล้าตัดสินใจ เลยมองไปทางหานหาน

หานหานใจกว้างโบกมือพูดว่า“ท่านแม่อยากได้ก็เอาไปได้เลย ไม่ต้องเกรงใจข้าหรอกขอรับ!”

เซียวลิ่งเยว่เผลอยิ้มออกมา“ขอบใจเจ้ามากนะ”

“ไม่ต้องเกรงใจหรอกขอรับ”หานหานยิ้มพูดขึ้น

เป่ยเป่ย“………”

เซียวลิ่งเยว่อุ้มเป่ยเป่ยที่กำลังโมโหขึ้นรถม้า จากนั้นก็รับหานหานไปภายใต้ความช่วยเหลือของเย่ชี คนขับรถม้าที่แขนขาอ่อนแรงคนนั้นรีบใช้เชือกมัดลูกพี่ใหญ่โจร เสร็จเรียบร้อยแล้วจึงพาขึ้นรถม้า

ต้นไม้ที่ขวางทางถูกย้ายออกแล้ว รถม้าออกเดินทางเข้าเมืองหลวงอีกครั้ง

เย่ชีถูกทิ้งให้เฝ้าโจรเหล่านั้นที่สลบอยู่ที่เดิม และรออย่างจนปัญญา

ผ่านไปสักพักหนึ่ง

บนถนนที่สับหลีกมาจากเมืองหลวง มีเสียงฝีเท้าม้าดังมาอย่างรีบร้อน

ม้าดำขลับทะยานวิ่งมาอย่างรวดเร็ว

“ท่านอ๋อง!”เย่ชีดวงตาเปล่งประกาย รีบไปต้อนรับ

“ยู่ว์ ——”

จ้านเป่ยหานดึงบังเหียน ม้าดำจึงหยุดนิ่ง

เขานั่งอยู่บนหลังม้า สายตาอันเฉียบแหลมกวาดมองที่พื้น สีหน้าของเขาตึงเครียด ริมฝีปากบางเฉียบราวกับมีด พูดว่า“เกิดอะไรขึ้น?ซื่อจื่อล่ะ?”

เย่ชีเล่าเรื่องให้จ้านเป่ยหานฟังโดยไม่ปิดบังเลยแม้แต่น้อย

ทันใดนั้นใบหน้าหล่อเหลาของท่านอ๋องอี้ก็เย็นชมขึ้นมา เขากัดฟันกรอดพูดว่า“เจ้าจะบอกว่า…..เจ้าเด็กน้อยนั่นเรียกคนอื่นว่าแม่ แล้วยังหนีไปกับแปลกหน้าอีกนะหรือ? !”

เด็กฟันไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม!

“เอ่อ ก็ไม่เชิงว่าแปลกหน้า……นางแซ่เสิ่น เป็นคนของจวนโหวหนานหยาง”เย่ชีเหงื่อไหลพลั่ก

“แล้วเรื่องที่เขาเรียกผู้หญิงคนนั้นว่าแม่ เรื่องราวเป็นมายังไง?”อ๋องอี้เตี้ยนเซี่ยถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา

“ตอนที่ซื่อจื่อเจออันตราย แม่นางเสิ่นเป็นคนช่วยชีวิตไว้ อาจจะเป็นความประทับใจ ซื่อจื่อเลย…..”เย่ชีอ้ำๆอึ้งๆพูด

“ไม่ได้เรื่อง!”อ๋องอี้เตี้ยนเซี่ยสบถออกมา

เย่ชีไม่กล้าตอบโต้

“พวกเขาไปทางไหน?”อ๋องอี้ถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา

“เลียบเส้นทางนี้ไปเมืองหลวงพ่ะย่ะค่ะ”

จ้านเป่ยหานมองไป พบว่าเส้นทางนี้สับเลี่ยงกับถนนหลัก มิน่าล่ะเขามาจากทางเมืองหลวงเลยไม่เจอพวกเขา

“เอาคนเหล่านี้ไปส่งที่กรมยุติธรรม ไต่สวนให้ดี! ข้าอยากจะรู้นักว่าใครมันกล้ามาแตะต้องลูกชายของข้า!”อ๋องอี้เตี้ยนเซี่ยสั่งด้วยน้ำเสียงเย็นชา จากนั้นก็เฆี่ยนม้า ทะยานกลับไปที่เมืองหลวง

“พ่ะย่ะค่ะ!”เย่ชีรับคำสั่ง

ม้าเหงื่อโลหิตวิ่งอย่างรวดเร็ว แต่ถึงอย่างไรก็ถือว่าช้าไปเยอะอยู่

จ้านเป่ยหานมาถึงเมืองหลวง รถม้าของเซียวลิ่งเยว่แม่ลูกได้เข้าเมืองไปแล้ว

คนในเมืองหลวงจอแจ รถม้าเบียดเสียดมากมาย

ต่อให้ม้าเหงื่อโลหิตจะเก่งแค่ไหน เมื่อเจอสถานการณ์แบบนี้ความเร็วย่อมจะช้าลง

“อ้าว นั่นไม่ใช่น้องสามหรือ? บังเอิญจัง เจ้าก็ไปอวยพรวันเกิดที่จวนโหวหนานหยางหรือ?”ข้างหน้ามีเสียงกระหยิ่มยิ้มย่องดังมา

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel