บทที่ 7 ท่านเป็นท่านแม่ของข้าได้หรือไม่?
ถนนเส้นเล็กด้านหน้า มีท่อนไม้ขวางทางรถม้าของพวกนางไว้อยู่
ด้านหน้าท่อนไม้มีผู้ชายหน้าเหี้ยมโหดหกเจ็ดคนยืนอยู่ แต่ละคนหน้าตาอัปลักษณ์มาก ในมือถือมีดถือดาบกัน กลิ่นอายอำมหิตเหลือล้น
“พวกเจ้าเป็นโจรมาจากไหน คิดไม่ถึงว่าจะกล้ามาปล้นข้า?”หานหานไม่กลัวพวกเขาเลยสักนิดหนึ่ง เขาเอามือเท้าสะเอวจ้องเขม็งมองพวกเขา
ท่าทางกำเริบเสิบสานแบบนี้ เหมือนเอาโจรอยู่
เซียวลิ่งเยว่กุมขมับ“…….”
จ้านเป่ยหานเลี้ยงลูกมายังไง?
“เด็กน้อยปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมมาจากไหนกัน?”โจรร่างกำยำไม่ชายตามองหานหานเด็กอายุน้อยคนนี้เลย พวกเขามองไปที่เซียวลิ่งเยว่ที่กำลังลงจากรถม้า
ปานที่ใบหน้าของนาง บอกสถานะของนางชัดเจนแล้ว
“พี่ใหญ่ นางนั่นแหละ!”
“แม่งเอ๊ย นังขี้เหร่หนีเก่งจริงๆ ในที่สุดก็ถูกข้าจับได้แล้ว”
ลูกพี่ใหญ่ของกลุ่มโจรถุยน้ำลายลงพื้น จากนั้นโบกมือออกคำสั่งว่า“จัดการ ตัดศีรษะของนาง กลับไปจะได้รับรางวัลใหญ่!”
“ลูกพี่ เด็กนั่นล่ะ?”
“ฆ่าให้หมด!”
หานหานพูดด้วยความโมโหว่า“พวกเจ้าลองแตะต้องตัวข้าดู ข้าจะทำให้พวกเจ้าได้รับผลกรรมที่พวกเจ้าทำ!”
“ฮ่าๆๆๆๆ…..”เหล่าโจรต่างพากันหัวเราะ
เซียวลิ่งเยว่ดึงหานหานมาไว้ด้านหลัง และมองพวกโจรด้วยสายตาเย็นชา
มองจากท่าทางการแต่งตัวของพวกเขา พวกเขาไม่ใช่โจรสมัครเล่นทั่วไปแน่นอน แต่เป็นพวกโจรจริงๆ
ในมือเคยสัมผัสเลือดอะไรประมาณนั้น
ก่อนที่เสิ่นหว่านจะหนีไป นางได้เล่าสถานการณ์ของจวนโหวหนานหยางให้นางฟังแล้วโดยประมาณ คนที่หาโจรมาฆ่านางได้แบบนี้ ในจวนมีแค่คนเดียว
“ฮัวอี๋เหนียงส่งพวกเจ้ามาใช่หรือไม่? นางให้พวกเจ้าเท่าไหร่?”เซียวลิ่งเยว่ถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา
“โอ้โห นังขี้เหร่นี่ฉลาดจริงๆ”ลูกพี่ใหญ่ของกลุ่มโจรยิ้มอย่างเยือกเย็น“ในเมื่อรู้ว่าพวกเรามาเพราะรางวัล คนในตระกูลของเจ้าอยากให้เจ้าตาย เช่นนั้นเจ้าก็ยอมให้พวกข้าตัดหัวอย่างว่าง่ายจะดีกว่านะ ทุกคนจะได้หมดความยุ่งยาก!”
“ความคิดไม่เลว เช่นนั้นพวกเจ้ามาเอาหัวข้าเองจะดีกว่า ข้าเองก็จะได้ไม่ต้องยุ่งยาก?”เซียวลิ่งเยว่พูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
ลูกพี่ใหญ่พวกโจรพูดด้วยความเดือดดาลว่า“ไม่รู้จักผิดชอบชั่วดี ฆ่าพวกเขาซะ!”
โจรเจ็ดแปดคนตะโกนแล้วกระโจนเข้าหา แสงดาบแสงมีดวิบวับ ฟาดฟันมาทางทั้งสองคน
“ท่านแม่ระวัง!”เป่ยเป่ยยื่นหัวออกมาจากหน้าต่างตะโกนขึ้น
คนขับรถม้าตกใจจนขาอ่อนแรงไปหมดแล้วตอนนี้
หานหานหน้าตึงเครียด คิดไม่ถึงว่าเมืองหลวงที่อยู่ใต้ฝ่าพระบาทของฝ่าบาท พวกเขาก็จะกล้าลงมือสังหารคน
ในเมื่อเป็นแบบนี้ เช่นนั้นอย่าหาว่าเขาไม่เกรงใจละกัน!
หานหานก้มหน้าจะดึงสิ่งที่อยู่ในคอออกมา เขาออกมาจากเรือนโดยมีการเตรียมพร้อม
“กลับไปที่รถม้า!”เขายังไม่ทันได้ดึงออกมา เซียวลิ่งเยว่ก็ดึงคอเสื้อของเขา และโยนเขาเข้าไปในรถม้าเพื่อให้หลบพวกโจรเหล่านั้น
“ไอ๋หยา! ท่าน…..”
หานหานรีบคลานลุกขึ้น เงยหน้าขึ้นมาก็เห็นเซียวลิ่งเยว่ถีบเท้าไปทางโจรแล้ว จากนั้นแย่งมีดยาวมาจากมือของเขา พร้อมกับพลิกมือกรีดไปที่คอของโจรอีกคนหนึ่ง
“อา……”โจรคนนั้นร้องโอดครวญล้มลงบนพื้น และสลบลงไปทันที!
เซียวลิ่งเยว่ถือมีดยาวไว้ในมือ ทักษะทางการของนางคล่องแคล่ว นางฟาดมีดใส่โจรทีละคน ราวกับว่ากำลังเดินเล่นในสวนอย่างสบายใจ
“ฆ่านาง! รีบฆ่านาง!”ลูกพี่ของกลุ่มโจรโมโหมาก
ทำไมลูกน้องของเขาแย่ขนาดนี้ กระโจนเข้าไปคนหนึ่งก็ล้มลงคนหนึ่ง
ชั่วพริบตาเดียวก็กลายเป็น“ศพ”นอนระเนระนาด
“นาง…..คิดไม่ถึงว่านางจะมีวรยุทธ์? เก่งมาก!”หานหานเบิกตาโพลงกว้างมองนางด้วยความตื่นตะลึง
เป่ยเป่ยพูดด้วยความพึงพอใจว่า“ท่านแม่เก่งที่สุด!”
เมื่อเห็นว่าลูกน้องแต่ละคนค่อยๆล้มลง บางคนสลบ บางคนร้องโอดครวญ
ลูกพี่โจรกลืนน้ำลายลงคอ ในที่สุดก็สัมผัสได้ว่าพวกเขาเจอของแข็งเข้าแล้ว
เขาถือโอกาสตอนที่เซียวลิ่งเยว่ยังไม่ตามมาชิงหลบหนีก่อน
เซียวลิ่งเยว่ไม่ทันได้สังเกต ทว่าหานหานกับเป่ยเป่ยที่อยู่บนรถสังเกตเห็น
“เขาจะหนีแล้ว!”เป่ยเป่ยสีหน้าตึงเครียด“ท่านแม่บอกว่าถ้าปล่อยศัตรูไป มันจะกลับมาทำร้ายเรา!”
“วางใจ เขาหนีไปไม่ได้หรอก!”
หานหานควักที่ผิวปากออกมา จากนั้นพูดว่า“ข้าจะต้องให้เขาชดใช้!”
เขาออกแรงผิวปาก“ปี้ด ——”
เสียงแหลมดังไปทั่วสารทิศ
เซียวลิ่งเยว่จัดการโจรคนสุดท้ายเสร็จ พอได้ยินเสียงนี้ก็เงยหน้าขึ้นมองด้วยความตกตะลึงทันที
เงาร่างดำขลับแฉลบออกมาจากต้นไม้และลอยลงมา จากนั้นใช้เท้าถีบที่แผงอกของโจรคนนั้น!
ลูกพี่โจรที่คิดจะหลบหนีโดนถีบจนลอยกระเด็น จนมาหล่นอยู่ข้างฝ่าเท้าของเซียวลิ่งเยว่
เซียวลิ่งเยว่ขมวดคิ้วเป็นปม
พี่ใหญ่ของกลุ่มโจรไม่ทันได้พูดอะไร เขาก็สลบไปแล้ว
เงาร่างดำลอยมา เขาแต่งตัวเหมือนผู้พิทักษ์ลับ ใบหน้ามีหน้ากากสีดำ
เขาคุกเข่าลงข้างหนึ่ง พูดด้วยความเคารพว่า“ซื่อจื่อ”
หานหานกระโดดลงมาจากรถม้า แล้ววิ่งไปหาผู้พิทักษ์ลับ จากนั้นพูดชื่นชมว่า“เย่ชี ทำดีมาก! สุดยอด!”
เย่ชีพูดด้วยสีหน้าราบเรียบว่า“ซื่อจื่อชมเกินไปแล้วขอรับ”
เซียวลิ่งเยว่เหมือนจะยิ้มก็ไม่ยิ้มมองหานหาน“เจ้าบอกว่าหนีออกจากเรือนคนเดียวไม่ใช่หรือ?”
ที่แท้เอาผู้พิทักษ์ลับมาด้วย มิน่าล่ะถึงได้กล้ายั่วยุพวกโจรขนาดนี้
“ข้าไม่ได้บอกว่าข้าออกมาคนเดียวเลยนะ”หานหานปลิ้นปล้อนพูดยิ้มๆ จากนั้นตบที่บ่าของเย่ชี“เขาชื่อเย่ชี เป็นพี่น้องข้าตั้งแต่เล็กจนโต เย่ชี นางเป็นท่านแม่และน้องชายของข้าที่ข้าเพิ่งจะยอมรับ ชื่อ…….”
เขายังไม่รู้ว่าเซียวลิ่งเยว่ชื่ออะไร ด้วยเหตุนี้จึงกระพริบตาปริบๆมองนาง
เซียวลิ่งเยว่“ข้าแซ่เสิ่น”
“แม่นางเสิ่น”เย่ชีพยักหน้าอย่างราบเรียบ
“ท่านแม่”เป่ยเป่ยลงมาจากรถม้า วิ่งมาหาเซียวลิ่งเยว่หมายจะกอด
เซียวลิ่งเยว่เอื้อมมือไปอุ้มกอดเขา เป่ยเป่ยถามนางว่า“ท่านแม่ไม่ได้รับบาดเจ็บใช่หรือไม่ขอรับ?”
“ข้าไม่เป็นไร”เซียวลิ่งเยว่ส่ายหน้าไปมา
หานหานมองพวกเขา พูดพึมพำว่า“ข้าก็อยากให้กอด…..”
เย่ชีรีบเอื้อมมือออกไป พูดว่า“ข้าน้อยกอดซื่อจื่อได้ขอรับ”
“ข้าไม่ได้อยากกอดเจ้า”หานหานกระทืบเท้าวิ่งไปหาเซียวลิ่งเยว่ เขาเอื้อมมือไปโอบเอวของนาง เงยหน้ามองตาปริบๆพูดว่า“ท่านเก่งมากเลย?เก่งกว่าผู้หญิงทุกคนที่ข้าเคยเจอมา ท่านเป็นท่านแม่ของข้าได้หรือไม่?”
“ซื่อจื่อ คำนี้จะพูดซี้ซั้วไม่ได้นะขอรับ!”
เย่ชีสีหน้าเปลี่ยน นัยน์ตาคมกริบจ้องมองเซียวลิ่งเยว่ เหมือนจะเป็นการเตือนนาง
“ข้าไม่ได้พูดซี้ซั้ว ข้าก็อยากมีแม่ที่เก่งมากๆ!”
หานหานเม้มปากเล็กน้อย ไม่นานก็ยิ้มแป้น ไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่ ดูเหมือนมีความสุขคล้ายกับหนูแฮมสเตอร์แอบขโมยขนมอย่างไรอย่างนั้น
เซียวลิ่งเยว่มองเขาด้วยความตกตะลึง นางรู้สึกอบอุ่นใจ นางโค้งเอวลงไปลูบศีรษะของเขาและพูดว่า“ขอบใจที่เจ้าชอบข้า”
“เช่นนั้นท่านเป็นท่านแม่ของข้าได้หรือไม่?”หานหานเงยหน้ามองนาง“ข้าจะดูแลเป่ยเป่ยเหมือนเป็นน้องชายแท้ๆเลย”
หนุ่มน้อยมองนางด้วยความคาดหวัง มองจนเซียวลิ่งเยว่เกือบใจอ่อน
เขาเป็นน้องชายแท้ๆของเจ้าตั้งแต่แรกอยู่แล้ว…..
ทว่าเป่ยเป่ยสีหน้าเคร่งขรึม เอื้อมมือกอดคอของนาง พูดปฏิเสธด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“ไม่ได้!”
“ทำไมล่ะ?”หานหานไม่เข้าใจ“ข้าแบ่งท่านพ่อให้เจ้าครึ่งหนึ่งก็ได้”
“ข้าไม่ต้องการ!”
เป่ยเป่ยมองเขาด้วยความไม่พอใจ พูดว่า“ข้าไม่ได้อยากได้ท่านพ่อของเจ้า เจ้าก็อย่าได้คิดมาแย่งท่านแม่ของข้า!”