บทที่ 12 ลากออกไปเฆี่ยนให้ตาย
“ใช่ วันนั้นข้าอยู่กับยู่ถิงตลอด พวกพ่อบ้านสามารถยืนยันได้ ข้าไม่ได้ออกไปนอกจวนเลย! นายท่านเชื่อข้านะเจ้าคะ!”ฮัวอี๋เหนียงร้องไห้พูดขึ้น
เสิ่นยู่ถิงเป็นลูกสาวที่ได้รับความโปรดปรานที่สุดในจวนเสิ่น และเป็นคนที่โหวหนานหยางทะนุถนอมมาก
พอได้ยินนางพูด โหวหนานหยางที่สีหน้าอึมครึมก็ผ่อนคลายลง
งานวันเกิดของท่านผู้อาวุโส แขกเหรื่ออยู่มากมาย จะสืบสาวเรื่องแบบนี้ต่อไปไม่ได้แล้ว!
พยายามไกล่เกลี่ยให้คู่กรณียุติข้อพิพาทซึ่งกันและกัน และกู้หน้าจวนโหวกลับมาถึงจะถูก
โหวหนานหยางพูดด้วยน้ำเสียงอึมครึมว่า“เสิ่นหว่าน รู้ความผิดของตัวเองหรือยัง?”
เซียวลิ่งเยว่ยิ้มเยาะพูดว่า“ข้าผิดอะไรหรือเจ้าคะ?”
โหวหนานหยางพูดอย่างจริงจังว่า“เจ้าเป็นรุ่นลูกรุ่นหลาน คิดไม่ถึงว่าจะให้คนนอกมาใส่ร้ายอี๋เหนียง! อีกทั้งยังจงใจมาทำลายที่งานวันเกิดของท่านอาวุโสอีก เอาความโชคร้ายมาให้ผู้อาวุโส ข้าว่าเจ้านี่ช่างนิสัยเสีย อกตัญญูมาก!”
ทันทีหลังจากนั้นเขาได้ตะโกนว่า“พ่อบ้าน! มาลากลูกอกตัญญูคนนี้ออกไป เอานางไปขังไว้ที่ห้องพระ ให้นางสำนึกผิด! แล้วไอ้โจรชั่วที่พูดปดคนนี้ ลากออกไปเฆี่ยนให้ตาย!”
แบบนี้คืออยากปกปิดความผิดให้ฮัวอี๋เหนียง ฆ่าคนปิดปากชัดๆ
ฮัวอี๋เหนียงใช้ผ้าเช็ดหน้าปิดหน้าไว้ครึ่งหนึ่ง แสยะยิ้มมุมปากด้วยความลำพองใจ
เสิ่นหว่าน นังชั้นต่ำ!
ต่อให้เจ้ามีชีวิตรอดกลับมาแล้วอย่างไร? ต่อให้มีหลักฐาน ก็อย่าได้คิดมาแตะต้องข้าแม้แต่นิดเดียว
รอเข้าไปในห้องพระ ตกอยู่ในกำมือข้า รอข้าจะ“ดูแล”เจ้าอย่างดีเลย!
พ่อบ้านที่รออยู่ด้านนอกนานแล้วได้พากลุ่มคนกระโจนเข้ามา
ข้ารับใช้ครึ่งหนึ่งเข้ามาลากโจรออกไป ส่วนอีกครึ่งหนึ่งก็มาจับเซียวลิ่งเยว่
ลูกพี่โจรด่าฮัวอี๋เหนียงว่า“นังผู้หญิงชั่ว กล้าขายข้า!เจ้ารอข้าก่อนเถอะ พี่น้องของข้าไม่มีทางปล่อยเจ้าไปแน่นอน! ข้าตายแล้วทั้งวงศ์ตระกูลของเจ้าก็ต้องตายด้วย……”
พ่อบ้านเห็นท่าไม่ดี จึงรีบเอาผ้ามาอุดปากของเขาไว้
ลูกพี่โจรดวงตาแดงก่ำ ร้องโหวกเหวกโวยวายเสียงดัง นัยน์ตาอำมหิตของเขาจ้องเขม็งใส่ฮัวอี๋เหนียงด้วยความอาฆาต
แววตาลำพองใจของฮัวอี๋เหนียงแปรเปลี่ยนเป็นลุกลี้ลุกลน
นางเกือบลืมไปเลยว่าเขาไม่ใช่โจรธรรมดามือสมัครเล่น แต่เป็นโจรมืออาชีพที่นางเฟ้นหามาโดยเฉพาะ!
รกรากอยู่บนภูเขา ฆ่าคนทุกรูปแบบโหดร้ายมาก
ถ้าเขาถูกนายท่านเฆี่ยนตายจริงๆ แบบนี้โจรคนอื่นก็ไม่ใช่ว่าจะต้องแค้นฝังหุ่นตระกูลเสิ่นหรือ? ถึงตอนนั้นเมื่อนางต้องออกไปข้างนอกก็ต้องอกสั่นขวัญแขวน จะได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขได้อย่างไร?
ฮัวอี๋เหนียงหวาดกลัว ต่อให้นางเหี้ยมโหดแค่ไหนก็ไม่กล้าสู้กับโจรหรอก!
“นายท่าน พวกเรา…..”นางพยายามจะเกลี้ยกล่อมโหวหนานหยาง แต่ยังไม่ทันได้พูดออกมา
“แย่แล้วนายท่าน!”บ่าวรับใช้วิ่งมาด้วยท่าทางตื่นตระหนก
“มีอะไรอีกหรือ?”โหวหนานหยางตกใจทันที
วันนี้มันวันอะไรกัน เรื่องเกิดขึ้นมาต่อกันเป็นระลอก จะจบสิ้นกันหรือไม่วันนี้?
ท่านโหวอาวุโสหนังตากระตุกอยู่เป็นนิจ แต่เขาไม่ได้เอ่ยพูดอะไร สีหน้ายิ่งอึมครึมมากขึ้นเรื่อยๆ
แขกเหรื่อที่อยู่ในห้องโถงต่างพากันสอดรู้สอดเห็น
บ่าวรับใช้ลุกลี้ลุกลนพูดว่า”จิงจ้าวฝู่มาจับคนแล้ว! เห็นบอกมีคนไปแจ้ง ว่าบนจวนมีโจรขอรับ!”
“ใครไปแจ้ง?”โหวหนานหยางสีหน้าเปลี่ยน
“ข้าเองเจ้าค่ะ”เซียวลิ่งเยว่ยิ้มเล็กน้อยพูดขึ้น
สายตาทุกคู่จับจ้องมาที่นาง
โหวหนานหยางอยากจะบีบคอลูกสาวคนนี้ให้ตายทั้งเป็นจริงๆ เขาตะคอกด้วยน้ำเสียงเดือดดาลว่า“เสิ่นหว่าน เจ้าคิดจะทำอะไรอีก? จวนโหวของพวกเราทำอะไรผิดต่อเจ้า เจ้าอยากจะทำลายงานวันเกิดของท่านโหวอาวุโสให้มันสิ้นซากพังไม่เป็นท่าใช่หรือไม่?”
“ท่านพ่อพูดตลกแล้ว ข้าไม่ได้มุ่งเป้ามาที่จวนโหว ระหว่างทางข้าเจอเข้ากับโจร ข้าไปแจ้งทางการก็ถูกแล้วไม่ใช่หรือเจ้าคะ?”
เซียวลิ่งเยว่ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่พูดว่า“ถึงแม้ข้าจะโตมาในชนบท แต่ก็รู้จักปฏิบัติตามกฎ การรู้แต่ไม่รายงาน เป็นการทำตามความรู้สึกตน แบบนี้ถือว่าผิดกฎ หรือท่านพ่ออยากจะให้ข้าถูกจับเข้าคุกเจ้าคะ?”
โหวหนานหยางหน้าหงิก“…….”
เขาคิดไม่ถึงว่า“เสิ่นหว่าน”ที่ถูกเลี้ยงในชนบทจะปากคอเราะร้ายขนาดนี้ นางไม่กลัวเขาเลย ซ้ำยังพูดถากถางเขาอีก
การรู้แต่ไม่รายงาน เป็นการทำตามความรู้สึกตน คำพูดนี้คือว่าเขาชัดๆ!
“แล้วก็!”เซียวลิ่งเยว่พูดอย่างคลุมเครือว่า“แน่นอนว่าจวนโหวไม่ได้ทำผิดอะไรต่อข้า! แต่ตั้งแต่เด็กบอกว่าข้าข่มพ่อข่มแม่ ดวงชะตาไม่ดี อายุเพียงสามขวบก็ถูกส่งไปชนบทแล้ว แถมยังถูกเลี้ยงเหมือนหมาตัวหนึ่ง
กินอาหารเหลือ อยู่ในห้องเก็บฟืน
ใช้ชีวิตมาอย่างยากลำบาก ไม่ได้ถูกทรมานจนตาย ข้าต้องบุกน้ำลุยไฟ หนีออกมาจากเงื้อมมือโจร ในที่สุดก็มีถึงธรณีประตูของจวนโหวผู้สูงส่งแล้ว
ข้าซาบซึ้งใจเหลือเกิน ข้าจะไปรู้สึกว่าจวนโหวทำผิดต่อข้าได้อย่างไรเจ้าคะ?”
โหวหยางหนาน ฮัวอี๋เหนียง“…….”
ท่านโหวอาวุโส“…….”
แขกเหรื่อทุกคน“…….”
“น้องสามพูดเกินไปแล้ว”
เสิ่นยู่ถิงพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า“เจ้าเกิดมาก็ดวงชะตาไม่ดี ข่มพ่อข่มแม่ เป็นสิ่งที่ฟ้ากำหนด ไม่ใช่ความผิดของท่านพ่อกับอี๋เหนียง!”
เซียวลิ่งเยว่พูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาว่า“เช่นนั้นท่านยังจำได้หรือไม่ เพราะเรื่องอะไรคนถึงพูดว่าข้าดวงชะตาไม่ดี?“
เสิ่นยู่ถิงพูดออกมาแบบไม่คิดว่า“จำได้สิ! เพราะแม่ของเจ้าป่วยตาย……”
“พี่รอง ท่านแม่ของข้าเป็นแม่ใหญ่ของท่าน! ท่านควรเคารพหน่อยใช่หรือไม่?”เซียวลิ่งเยว่พูดด้วยน้ำเสียงเตือน
เสิ่นยู่ถิงสะอึก“…….”
โหวหนานหยางพูดด้วยความหงุดหงิดว่า“เสิ่นหว่าน เจ้าอยากจะพูดอะไรกันแน่?”
เซียวลิ่งเยว่พูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า“ท่านพ่อผู้เรืองอำนาจช่างหลงลืมง่าย พอมีฮัวอี๋เหนียง แม้แต่ภรรยาเอกตายยังไงก็จำไม่ได้แล้ว อยากให้ข้าช่วยฟื้นความทรงจำของท่านหรือไม่เจ้าคะ?”
นางว่าเขาหลงใหลอนุจนลืมภรรยา!
โหวหยางหนานหน้าสั่นเลยทีเดียว
เขากำลังจะตะคอกตำหนิ
ฮัวอี๋เหนียงดึงแขนเขาไว้“นายท่าน ตอนนี้ไม่ใช่เวลาจะมาคุยเรื่องนี้เจ้าค่ะ! ใต้เท้าของจิงจ้าวฝู่ รออยู่ด้านนอกเจ้าค่ะ!”
“รีบเชิญเข้ามา”โหวหนานหยางรีบพูดขึ้น
พ่อบ้านรีบเดินออกไปทันที
ไม่นาน จิงจ้าวอิ่น ก็พาทหารเข้ามาด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
“ใต้เท้าจ้าว ”โหวหนานหยางรีบฉีกยิ้ม ทักทายและทำความเคารพ
ขุนนางที่มีชั้นยศไม่สูงมากก็รีบทยอยลุกขึ้น
ใต้เท้าจ้าวเดินมาคารวะท่านโหวอาวุโส“ท่านเสิ่น ข้าน้อยได้รับหน้าที่มา จึงไม่กล้าชักช้า และการมาครั้งนี้ทำให้รบกวนงานวันเกิดของท่าน ขอได้โปรดอภัยด้วย!”
ท่านโหวอาวุโสพูดด้วยความตกตะลึงขึ้นว่า“ใต้เท้าจ้าว หมายความว่ายังไงหรือ?”
ใต้เท้าจ้าวไม่ได้พูดอะไร เขามองพิจารณาด้านในห้องโถงที่ดูวุ่นวาย “คนที่แจ้งอยู่ที่ใด?”
“ข้าเป็นผู้แจ้งเจ้าค่ะ”เซียวลิ่งเยว่ยกมือแสดงตัว
ใต้เท้าจ้าวกวาดสายตามอง บ่าวรับใช้ของจวนโหวที่กำลังล้อมรอบเซียวลิ่งเยว่อยู่รีบหลบทาง เพื่อให้นางแสดงตัว
ใต้เท้าจ้าวจิงจ้าวอิ่งคนนี้เป็นคนเที่ยงธรรมไม่เห็นแก่หน้าใครทั้งสิ้น นิสัยดุดัน เป็นคนที่ฝ่าบาทไว้วางใจ ไม่ว่าคดีไหนก็ตกอยู่ในมือของเขา เจ้านายที่เป็นเชื้อพระวงศ์ก็อย่าหมายที่จะเอาเปรียบได้
โหวหนานหยางยิ้มพูดว่า“ใต้เท้าจ้าว ลูกสาวกับคนชั้นต่ำแค่เข้าใจผิดกัน ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร! เดี๋ยวข้าจัดการเองก็ได้ ไม่ต้องรบกวนจิงจ้าวฝู่แล้ว
“ไม่ใช่เรื่องใหญ่หรือ?”ใต้เท้าจ้าวเหลือบตามองเขา“ท่านโหวเสิ่น ท่านคงยังไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นใช่หรือไม่?”